calendar_month 16 ก.ย. 2020 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 42,126 / ทริปตัวอย่าง
เมื่ออยากลองใช้ชีวิตช้าๆ สัมผัสกับธรรมชาติรอบตัวคุณจะเลือกไปที่ไหน... บางคนอาจจะตอบว่าก็ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดไกลๆ สิ... แต่สำหรับเราแค่ขับรถออกนอกเมืองมาใกล้ๆ อย่างจังหวัดนครปฐม ก็มีสถานที่ที่ให้คุณได้สัมผัสชีวิตช้าๆ อยู่กับธรรมชาติแบบไม่ทำร้ายซึ่งกันละกัน...
Machill Home คือที่พักแนวฟาร์มสเตย์ในนครปฐมที่เราลองใช้เวลาพักผ่อนในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และที่นี่ยังเป็นที่พักสไตล์อีโครเฟรนด์ลี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดใช้พลาสติก เน้นใช้สินค้าออร์แกนิก ทริปนครปฐมๆ สั้นๆ 2 วัน 1 คืน ของเรากับเพื่อนสาว 2 คนจึงเริ่มขึ้นมา พร้อมกันนั้นเราจะพาไปเช็คอินคาเฟ่ที่กำลังมาแรงในนครปฐม รับรองว่าทริปนี้เที่ยวได้จริง แถมยังใช้งบแค่คนละ 2,000 บาทเท่านั้นค่ะ พร้อมแล้วก็มาออกเดินทางไปกันเลย
8.00 น. : เช้านี้เราขับรถออกจากบ้านกันตั้งแต่แปดโมงเช้าค่ะ
โดยปักหมุดไว้ที่ร้าน Whispering Cafe สามพราน นครปฐม ซึ่งเป็นร้านเปิดใหม่กำลังมาแรงโดยเจ้าของที่นี่คือคุณศิริลักษณ์ ริ้วบำรุง พี่สาวของ ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง นักจัดสวนชื่อดังของเมืองไทยและเป็นเจ้าของร้าน Little Tree ร้านสวยเลื่องชื่อที่ตั้งอยู่ใกล้กัน สำหรับร้าน Whispering Cafe มีมุมถ่ายรูปมากมายเลยค่ะ ซึ่งร้านนี้จะเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น และดีกรีความฮอตฮิตติดลมบนของร้านนี้ทำให้มีลูกค้ามากมาย เราเลยเลือกไปตั้งแต่เช้าๆ จะได้มีเวลาถ่ายรูปสวยๆ ในบรรยากาศที่คนยังไม่เยอะเท่าไร
9.00 น. : ประมาณ 1 ชั่วโมงเราก็เดินทางมาถึงร้าน Whispering Cafe ร้านคาเฟ่สวยที่กำลังมาแรงในนครปฐมแล้วค่ะ
พอใกล้จะถึงร้านเราจะเจอสามแยกที่มีป้ายบอกทาง ถ้าเลี้ยวไปทางซ้ายจะเจอร้าน Little Tree เลี้ยวขวาจะไปที่ร้าน Whispering Cafe ครั้งที่แล้วเราเคยไปที่ Little Tree กันแล้ว คราวนี้เลยเลี้ยวขวาโล้ดดดด
มีที่จอดรถบริเวณด้านข้างร้าน มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวค่ะ คะเนด้วยสายตาน่าจะจอดได้ประมาณ 20 คันกันเลยทีเดียว จอดรถปุ๊บก็รีบตรงรี่เข้าร้านเลยค่ะ
ด้านหน้าร้านตกแต่งด้วยต้นไม้มากมาย ตัวร้านทำเป็นอาคารสไตล์มินิมอลสีขาว พอเปิดประตูเข้าไปก็ประทับใจกับบรรยากาศของร้านที่เหมือนเดินเข้าไปในบ้านของนักจัดสวน มีการจัดมุมนั่งเล่นตกแต่งด้วยเตียงสีขาว โซฟา และเหล่าบรรดาต้นไม้ฟอกอากาศ
เพื่อนสาวเห็นดังนั้นเลยรีบสาวเท้าไปยืนเป็นญาญ่าถ่ายรูปกับเหล่าบรรดาต้นไม้
ส่วนตรงกลางร้านเขาวางโต๊ะขนาดใหญ่ที่เรียงรายด้วยขนมมากมาย หน้ากินทุกเมนูเลยค่ะ โดยเราต้องมาออเดอร์อาหารและเครื่องดื่มที่บริเวณด้านในร้านจากนั้นจะได้เลขคิวเพื่อนำไปวางไว้บนโต๊ะ
แม้ตัวอาคารหลักของร้านพื้นที่ไม่มาก แต่สวนรอบๆ ร้านนั้นกว้างมากๆ มีมุมที่นั่ง พร้อมมุมถ่ายรูปมากมาย
มีโซนบ่อน้ำพร้อมเกาะเล็กๆ ที่มีครอบครัวน้องห่านอาศัยอยู่ และยังมีเรือให้พายถ่ายรูปด้วยค่ะ เสียดายว่าตอนที่เราไปมีกรุ๊ปก่อนหน้าทำเรือคว่ำก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปเรือซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปสุดฮิตของร้านกันเลย มีโซนกลาสเฮาส์ สวนตะบองเพชร หรือแม้แต่บริเวณห้องน้ำก็ยังมีไม้เลื้อยที่ขึ้นปกคลุมเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปสุดฮิตของเหล่า Instagrammable
เมนูที่เราสั่งมาประกอบไปด้วย Rose Lamonade(120 บาท) เครื่องดื่มอิตาเลียนโซดารสเปรี้ยวหวานสีชมพูสดใส ส่วนเพื่อนเราสั่ง Lamonade with sugar cane(120 บาท) แก้วนี้เน้นเปรี้ยวซ่า ส่วนขนมเราสั่ง Dark Beer (150 บาท) เค้กช็อกโกแลตสุดเข้มขนผสมเบียร์ดำมีครีมชีสด้านบนรสนุ่มนวลอร่อยมากๆ
แม้ราคาอาหารและเครื่องดื่มค่อนข้างจะสูงไปนิด แต่แลกกับวิวและภาพสวยๆ ก็ถือว่าคุ้มค่ะ แนะนำว่ามาแต่เช้านะคะคนไม่เยอะ ถ้ามาสายอาจจะต้องแย่งมุมถ่ายรูปกับคนอื่นอย่างแน่นอน
รายละเอียด Whispering Cafe
ที่ตั้ง : 43/3 หมู่5 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอสามพราน นครปฐม
เปิดบริการ : วันเสาร์ - วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00น.-18.00น.
เบอร์ติดต่อ : 092 429 4229
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/4oBAXdvGptYCphr7A
11.00 น. : ได้รูปสวยๆ กันเต็มมือถือแล้วเราก็เดินทางต่อไปยังวัดสามพรานอีกหนึ่งวัดสวยที่ห้ามพลาดในจังหวัดนครปฐม
จากตัวร้านขับรถไปประมาณ 20 นาที จุดเด่นของวัดนี้คือมีกุฏิพญามังกรตะกายฟ้า ที่มีลักษณะเป็นอาคารทรงกลมสีชมพูสูง 80 เมตรมีทั้งหมด 17 ชั้น รอบอาคารจะมีพญามังกรพันหลักจากด้านล่างสู่ด้านบนสุด เปรียบเหมือนมนุษย์เราตั้งแต่เยาว์วัยจนเติบใหญ่ ซึ่งต่างก็ดิ้นรนขวนขวายหาเลี้ยงชีพหรือหนีจากที่ต่ำไปยังที่สูง เหมือนกับพญามังกรตะกายฟ้า
สารภาพตอนแรกเห็นความสูงแล้วเกิดอาการขาสั่น ลังเลว่าจะขึ้นดีไหม แต่พอเราไปเจอแม่ชี แม่ชีบอกเราว่าเดินแป๊บเดียว 10 นาทีก็ถึงแล้ว ใจเราก็เลยฮึดสู้ค่ะ มาแล้วก็ลองเดินดูกันสักครั้ง โดยเราจะต้องนำดอกไม้เพื่อไปสักการะพระพุทธรูปด้านบน และนำผ้าแดงเขียนคำอธิษฐานไปผูกไว้ที่พญามังกรด้านบนค่ะ
เมื่อขาก้าวเข้าตัวอาคารก็บอกตัวเองว่าจะไม่เดินกลับหลังถ้ายังไม่ได้ดี...ซึ่งทางเดินนั้นเราจะเดินไปตามท้องของพญามังกรโดยมีลักษณะเป็นอุโมงค์ลาดขึ้นวนตัวอาคารไปเรื่อยๆ ไม่มีหน้าต่าง เวลาเดินจึงเหมือนไปสู่เส้นทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด เดินทีไรก็ไม่เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์สักที เดินมาสักครั้งก็เริ่มเหนื่อยจะหยุดก็ไม่ได้ค่ะเพราะทางจะเป็นทางลาดชัน เหมือนเป็นการบังคับให้เราเดิน แล้วก็เดินไปในอุโมงค์เรื่อยๆ ตอนแรกใจมันจับจ่อที่แสงที่ปลายอุโมงค์ แต่พอไม่เจอแสงสักทีใจเราก็เลยไปอยู่ที่เท้าทีเราก้าวเดิน ทีละก้าว กลายเป็นการฝึกสมาธิไปในตัว
สุดท้ายเราก็เห็นแสงแล้วค่ะ ตอนนั้นดีใจมากๆ หลุดพ้นอุโมงค์มาได้ แต่ยังไม่จบเท่านั้นยังมีมันไดอีกไม่กี่ขั้นให้เราได้พิชิต สุดท้ายก็เดินขึ้นมาถึงบริเวณลานด้านบนสุดซึ่งเป็นหัวมังกรที่เราจะต้องนำผ้าแดงขึ้นมาผูกเอาไว้ที่หัวมังกรด้านบนพร้อมชมวิวแบบ 360 องศา
ภายในวัดสามพรานยังมีประติมากรรมมากมายให้ได้สักการะบูชา ทั้ง พระพุทธรูปหลวงพ่อพุทธภาวนา เต่ายักษ์ พญานาค เจ้าแม่กวนอิม และอีกมากมาย ใครมาสามพรานก็ลองแวะมากันนะคะ
รายละเอียดวัดสามพราน
ที่ตั้ง : 92/8 หมู่7 ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน นครปฐม
เปิด : ทุกวัน เวลา 6.00-18.00 น.
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/dX3JZMgCSiyjKPge7
12.00 น. จากนั้นเดินทางไปทานอาหารมื้อเที่ยงที่ร้านยีญวน กลิ่นสวนไอดิน ร้านอาหารในร่องสวนบรรยากาศสุดชิล
ซึ่งจากวัดสามพรานขับรถไปประมาณ 13 นาทีก็ถึงร้านแล้วค่ะ บรรยากาศร้านจะตั้งอยู่ในสวนมะพร้าว มีที่นั่งที่ทำเป็นศาลานั่งทานข้าวหลังคามุงจากตั้งอยู่ในร่องสวน ความแปลกของร้านนี้คือน้ำในร่องสวนจะเป็นสีฟ้าเหมือนน้ำทะเลเลยค่ะ
เมนูอาหารในร้านมีทั้งเมนูกุ้งแม่น้ำเผา เมนูซีฟู้ด เมนูอาหารทานเล่น ส้มตำ ยำ อาหารจานเดียว ขนมหวาน เครื่องดื่มให้เลือกทานมากมายเลยค่ะ
เราสั่งกุ้งแม่น้ำเผา (ครึ่งกิโลราคา 350 บาท) ต่อด้วยส้มตำปูปลาร้า(ราคา 50 บาท) ผัดหมี่กระเฉดยีญวน(ราคา 85 บาท) ส่วนเครื่องดื่มเราสั่งน้ำมะพร้าวสดลูกโตเพราะมาสามพรานก็ต้องมาทานมะพร้าวนี่ล่ะค่ะ
หลังจากอิ่มแล้วก็เดินถ่ายรูปสวยๆ รอบร้าน ซึ่งบริเวณร้านยังจัดมุมถ่ายรูปทั้งมุมหาดทรายเล็กๆ พร้อมเบาะที่นั่งบีนแบ็ค ที่ถ่ายรูปพร้อมสวยดอกไม้ด้านหน้าและยังมีโซนฟาร์มเล็กๆ ที่มีน้องกระต่าย น้องแพะ น้องห่านให้ได้อาหารด้วยค่ะ
รายละเอียดร้านยีญวน กลิ่นสวนไอดิน
ที่ตั้ง : 18 ต.บางช้าง อำเภอสามพราน นครปฐม
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 10.00-22.30 น.
เบอร์ติดต่อ : 097 949 2992
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/BJ65Cv1bj9XX1wLZA
14.00 น. แวะทานขนมที่ร้าน Way Coffee
จากนั้นขับรถมุ่งหน้าตรงไปยังตัวเมืองนครปฐมซึ่งเป็นที่ตั้งของที่พักของเราคืนนี้ค่ะ แต่ก่อนจะเข้าที่พักเราแวะมาทานบิงซูที่ร้าน Way Coffee ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งร้านนี้เป็นเหมือนจุดรวมตัวของเหล่าน้องๆ นักศึกษาที่จะมานั่งอ่านหนังสือทานขนมอร่อยกัน ตัวร้านจะทำเป็นรูปตัว U เว้นที่ตรงกลางไว้เป็นสวนเล็กๆ เอาท์ดอร์เหมาะกับการถ่ายรูป ส่วนภายในร้านตกแต่งสไตล์ล็อฟต์สุดเท่
เมนูของร้านมีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ขนมหวานทั้งโทสต์ แพนเค้ก บิงซูราคาไม่แพงค่ะ เราสั่งบิงซูชาเขียว ราคา 180 บาท ได้บิงซูถ้วยใหญ่ พร้อมไอศกรีมช็อกโกแลต ท็อปด้วยวิปครีม เสิร์ฟมาพร้อมถั่วแดง รสชาติจะไม่หวานเท่าไรค่ะ ใครไม่ชอบหวานอย่างเราน่าจะปลื้ม ส่วนใครทานหวานก็มีนมข้นหวานแยกใส่ถ้วยมาให้เติมได้ด้วยค่ะ
รายละเอียดร้าน Way Coffee
ที่ตั้ง : ตำบลสนามจันทร์อำเภอเมืองนครปฐม นครปฐม
เปิดบริการ : ทุกวัน 11.00 - 23.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 086 603 1976
พิกัด GPS : https://g.page/way-coffee-446?share
15.00 น. : เดินทางไปยังที่พักของเราคืนนี้ค่ะที่ Machill Home ที่พักสไตล์ฟาร์มสเตย์สุดน่ารักในจังหวัดนครปฐม
การเดินทางจากร้าน Way Coffee ใช้ถนนมาลัยแมน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 3011 โดยเส้นทางที่ไปจะไม่เหมือนอยู่ในนครปฐมเลยค่ะ ทั้งสองทางจะเต็มไปด้วยไร่ข้าวโพด ขับมาไม่นานเราก็พบกับประตูทางเข้าบ้านซึ่งการเข้าพักของที่นี่จะมีกฎระเบียบที่ชัดเจน คือเราจะต้องเช็คอินตอน 15.30 - 18.00 น. เท่านั้น แล้วก่อนจะถึง 30 นาทีต้องส่งข้อความบอกทางที่พักเพื่อให้ที่พักเตรียมตัวเปิดประตูทางเข้า (ประตูอัตโนมัติให้กับเราค่ะ) ซึ่งบ้านพักของ Machill Home มีเพียง 3 หลัง คือบ้านนก(Bird House),บ้านดิน(Mud House) และบ้านพักใจ(The Rest House) ส่วนบ้านที่เราจองมาชื่อว่าบ้านพักใจเป็นบ้านหลังเล็กตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าสามารถนำรถจอดบริเวณหน้าบ้านได้เลยค่ะ โดยพอขับรถเข้ามาเราก็จะต้องไปคุยเรื่องเงื่อนไขในการเข้าพักกับคุณเกล้าแม่บ้านของที่นี่ ซึ่งข้อปฏิบัติต่างๆ เป็นสิ่งที่เราจะได้รับก่อนเข้าพัก ซึ่งตอนแรกสารภาพว่าแอบตกใจว่าเงื่อนไขต่างๆ ทำไมเยอะแบบนี้ แต่พอได้ฟังเรื่องราวของที่นี่และความตั้งใจของคุณเกล้าและคุณกุ้ง ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นแม่บ้าน และพ่อบ้าน ก็เข้าใจกับแนวคิด Zero Waste Farmstay คือการลดขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เพราะเนื่องจากที่นี่ไม่มีรถขยะมาเก็บ ทุกคนที่มาที่นี่จะต้องรับผิดชอบกับขยะที่เรานำมา ซึ่งตอนเช็คเอาท์จะต้องไปแยกขยะและจัดการให้ถูกวิธี โดยเขาจะมีค่ามัดจำขยะ 500 บาท ถ้าไม่มีขยะตอนเช็คเอาท์ทางที่พักก็จะโอนเงินค่าขยะคืนกลับมาให้เรา
คุณเกล้าให้แก้วน้ำแบบเก็บความเย็นเรามา 2 ใบเพื่อเอาไว้ใช้ภายในรีสอร์ท และแจ้งว่าภายในห้องไม่มีตู้เย็น แต่มีกระติกน้ำแข็ง น้ำแข็ง พร้อมน้ำดื่มเอาไว้ให้ ถ้าน้ำหมดสามารถมาเติมฟรีได้
ห้องพักของเราคืนนี้ค่ะ บ้านพักใจ(The Rest House) ห้องนี้ราคา 1,750 บาท พร้อมอาหารเช้า (เป็นโปรโมชันเฉพาะเดือนกันยายนนะคะ) ใครจะไปเดือนไหนสามารถสอบถามโดยตรงกับทางเพจของที่พักได้เลยค่ะ แต่ละช่วงก็จะมีโปรไม่เหมือนกัน
ภายในห้องพักตกแต่งได้น่ารักน่านอนมากๆ ตกแต่งสไตล์มินิมอล ที่ปลื้มสุดๆ คือมีโหลกล้วยฉาบให้เราได้ทานด้วยค่ะ ทานกันเพลินมากเกือบหมดโหลกันเลยทีเดียว สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในห้องก็มีเหมือนที่พักทั่วไป มีไดร์เป่าผม มีผ้าขนหนูให้ไม่ต้องนำมานะคะ ไม่มีมีทีวีกับตู้เย็นเท่านั้น ซึ่งปกติเราสองคนก็จะไม่ได้ดูทีวีอยู่แล้ว ทางที่พักมีไวไฟฟรีนะคะ เร็วและแรงใช้ได้เลยคะ
ในห้องน้ำจะมียาสีฟันแบบเม็ดที่ให้เราได้ลองใช้ด้วยค่ะ วิธีใช้คือหักครึ่งนึงแล้วเคี้ยวจนกว่าจะมีฟอง พอมีฟองก็แปรงได้เลย พร้อมกับมีไหมขัดฟันในหลอดแก้วที่สามารถรีฟีลได้ ลดการใช้พลาสติกจากกล่องไหมขัดฟันที่ไม่จำเป็น คอตตอนบัดก้านไม้ไผ้ลดการใช้พลาสติก สำลีจากฝ้าย 100% ลดการใช้ใยสังเคราะห์ โดยเหล่านี้ทางที่พักจะมีบริการฟรีให้เราค่ะ ใครใช้แล้วติดใจสามารถติดต่อซื้อได้เฟ้สบุ้คที่ระบุไว้บนกล่องได้เลย มีน้ำอุ่น สบู่เหลว แชมพู ภายในห้องน้ำจะมีถังขยะสองใบค่ะ สำหรับใส่ผ้าขยหนูที่ใช้แล้ว และอีกใบสำหรับใส่ขยะที่ต้องนำไปแยก ซึ่งในห้องน้ำจะไม่มีกระดาษชำระมาให้ค่ะ ถ้าใครมาแนะนำว่าควรพกมาเองแล้วนำถุงขยะมาใใส่ทิชชู่หรือผ้าอนามัยกลับไปด้วย เพราะทางที่พักจะไม่รับผ้าอนามัยหรือถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว
หลังจากเก็บของเข้าที่พักแล้วก็ออกไปถ่ายรูปเล่นด้านนอกกันค่ะ บริเวณที่พักมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปมากมายมายเลยค่ะ ทั้งมุมบ้านแบบโรงนาสีขาวที่ล้อมร้อบด้วยเหล่าดอกหญ้าสีขาว ยิ่งในตอนเย็นแสงอาทิตย์จะทอแสงให้เหล้าต้นหย้าเป็นสีเหลืองทองสวยงามมากๆ เลยค่ะ
ฟาร์มของทางที่พักที่ปลูกพืชผักและดอกไม้เอาไว้
โซนกรีนสเตชั่นที่เราต้องมาแยกขยะหลังจากเช็คเอาท์ค่ะ ซึ่งถ้าไม่มีขยะก็สามารถกลับบ้านได้เลย
วิธีจัดการขยะของทางที่พักเขาจะมีป้ายที่เขียนบอกรายละเอียด มีกล่องสำหรับใส่ขยะที่ล้าง ตาก แล้วแยกเอาไว้แล้ว เป็นแนวคิดดีๆ ที่เราสามารถเอากลับไปใช้ที่บ้านได้ด้วย
น้องไก่สมาชิกใหม่ของบ้าน
ส่วนใครอยากทำกิจกรรมอื่นๆ ทางที่พักก็มีกิจกรรมทั้ง การทำโฮมเมดพิซซ่า กิจกรรมการทำโยเกิร์ต(สามารถสอบถามค่าใช้จ่ายกับทางที่พัก) หรือใครอยากทานดินเนอร์ทางที่พักสามารถจัดเซ็ตดินเนอร์ในบรรยากาศโรแมนติกให้ในราคาคนละ 399 บาท/คน
ส่วนเราสองคนเนื่องจากทานอาหารก่อนเข้ามากันแล้วก็เลยใช้เวลาในการเดินเล่นถ่ายรูปภายในที่พัก นั่งชิลชมวิวริมน้ำในบรรยากาศยามเย็นปล่อยเวลาให้เดินช้า และนอนพักในบ้านพักสุดน่ารักอบอุ่น ชาร์จแบตชีวิตกันอย่างเต็มที่
เช้านี้เราตื่นมาด้วยเสียงนกร้องที่ส่งเสียงเจื้อยแจ้วปลุกพวกเรากันตั้งแต่เช้า เมื่อคืนคุณเกล้าส่งข้อความมาถามถึงอาหารเช้าที่เราต้องการว่าต้องการกาแฟ หรือชา เราสองคนเลือกชาค่ะ เช้านี้หลังจากอาบน้ำเสร็จก็มาทานอาหารบริเวณที่ทานอาหารริมน้ำ มีโต๊ะอยู่สามตัวโดยจะมีอาหารวางรอเอาไว้พร้อมมีฝาชีปิดเรียบร้อย แต่ละโต๊ะก็จะมีป้ายชื่อบ้านบอกเอาไว้ อาหารของเราวันนี้เป็นขนมปังโฮมเมดหอมอร่อยมากๆ ทานกับซอส พร้อมไข่ดาว และชาอัญชันหอมๆ
ก่อนจะโบกมือลาบ้านมาชิวแห่งนี้เราสองคนก็นำขยะที่นำมาเก็บกลับบ้านไปด้วยค่ะ เลยไม่ต้องมาเคลียร์ขยะ สามารถเช็คเอาท์กลับได้เลย เวลาเช็คเอาท์ของที่นี่คือ 10 โมงเช้า เตรียมพร้อมเดินทางกลับบ้านกันแล้ว
รายละเอียด Machill Home
ที่ตั้ง : ตำบลบ้านยาง อำเภอเมืองนครปฐม นครปฐม
ราคา : 1,750 - 4,500 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
ติดต่อ : https://www.facebook.com/machillhome/
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/dDnCtbB5BUeprsDNA
10.00 น. ออกจากที่พักแล้วขับรถกลับบ้านแต่ก่อนกลับเราแวะกินขนมเค้กและกาแฟสุดอร่อยที่ร้านคาเปเดี้ยม ร้านคาเฟ่เล็กๆ สุดน่ารักที่ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์
พอมาถึงก็พบกับร้านเล็กๆ สีขาวสไตล์ร้านคาเฟ่ในญี่ปุ่นค่ะ ตัวอาคารหลังเล็กด้านหน้าฉาบปูสีขาว ส่วนด้านข้างจะตกแต่งด้วยฝาไม้ พร้อมมีไม้เลื้อยขึ้นปกคลุม แค่เห็นด้านหน้าก็เท่จนอยากจะเปิดประตูเข้าไปแล้ว
ด้านในยังใช้ต้นไม้ฟอกอากาศนำมาตกแต่งเพิ่มความสดชื่นค่ะ ให้ฟีลเจแปนนีสคาเฟ่ กลิ่นหอมกรุ่นของขนมผสมกลิ่นหอมของกาแฟคั่วทำให้เรารีบเดินไปเปิดเมนูและส่องเค้กที่ตู็เค้ก บอกเลยว่าน่ารัก นากิน ทุกเมนู แถมราคายังไม่แพงอีกด้วยค่ะ เครื่องดื่มเริ่มต้นที่ 45-60 บาท ส่วนเค้กชิ้นละประมาณ 55-85 บาทเท่านั้น
เริ่มต้นสั่งเครื่องดื่มกันก่อนกับเมนู Orange Genmaicha(60 บาท) น้ำส้มสดที่ท้อปด้านบนด้วยชาเขียวมัทฉะ เป็นเมนูที่สดชื่นสำหรับคนที่รักชาเขียวและน้ำผลไม้ที่ช่วยรีเฟรชร่างกายได้อย่างดี อีกเมนูคือ Forest Yoghurt Milk(60 บาท) ความๆ ตัดเปรี้ยวอร่อยมากๆ ค่ะ ระหว่างถ่ายก็ได้น้องแมวมาเป็นแบบพรีเซ็นต์เครื่องดื่มให้เราด้วย
ส่วนเบเกอรี่ เราสั่งสตรอว์เบอร์รีชอร์ตเค้ก(80 บาท) เค้กเนื้อนุ่มมากๆ หวานน้อยปลื้มสุดๆ เลยค่ะ
เลม่อนชีสพาย(85 บาท) รสเปรี้ยวอมหวานเข้มข้นด้วยครีมชีส อร่อยสุดๆ
นอกจากนี้ยังมีเมนูอร่อยอีกมากมาย ใครอยากหาเค้กอร่อยราคาเบาๆ ก็มาร้านนี้เลย หน้าร้านมีที่จอดได้ประมาณ 5-6 คันค่ะ หรือจอดบริเวณริมถนนก็ได้ค่ะ
รายละเอียดร้านคาเปเดี้ยม
ที่ตั้ง : 46/1 ถนนจันทรคามพิทักษ์ ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
เปิดบริการ : วันจันทร์-อาทิตย์ 9.00–19.00 น. ปิดวันพุธ
เบอร์ติดต่อ : 0836158435
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/noGWpZHExSkyCGuaA
12.00 น. : ทานอาหารและเมล่อนสุดอร่อยที่ร้านแสงตะวันฟาร์ม เมล่อนสาย4
ร้านตั้งอยู่บริเวณพุทธมณฑลสาย 4 ค่ะ เรามาถึงร้านช่วงตอนเที่ยงๆ พอดี คนค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวที่จอดรถของร้านมีจำกัด ดังนั้นจะต้องหาเองบริเวณริมถนน ส่วนด้านในร้านรอคิวไม่นานค่ะ มีที่นั่งทั้งในห้องแอร์และบริเวณด้านนอกที่ตกแต่งได้ร่มรื่นมีทั้งบ่อปลาคาร์พ น้ำตก พร้อมเครื่องพ่นไอน้ำที่จะปล่อยไอหมอกจางๆ มาตลอดเวลา
ซึ่งที่นี่เขาจะมีฟาร์มปลูกเมล่อนด้วยค่ะ มีเมนูเมล่อนสด น้ำเมล่อน สลัดเมล่อนให้เลือกทานมาย รวมไปถึงเมนูส้มตำ สเต๊ก สปาเก็ตตี้ อาหารจานเดียว และขนมหวานจากเมล่อนให้เลือกทานมากมาย วันนี้เราสั่งตำถาด (150 บาท) ตำปูปลาร้ารสจัดจ้าน พร้อมเครื่องเคียงอย่างหมูยอ ปูอัด ไข่ต้ม แคปหมู
หมูยอทอดจิ้ม (75 บาท)
ปิดท้ายด้วยบิงซูเมล่อนไซส์ L (199 บาท) บิงซูรสนมผสมเมล่อนหวานเย็นชื่นใจ ท็อปปิ้งด้วยเมล่อนสดลูกโต เสิร์ฟมาพร้อมนมข้นหวาน สตรอว์เบอร์รี่ซอส และไอศกรีมช็อกโกแลต
พออิ่มแปล้แล้วก็ไปถ่ายรูปสวยๆ ในมุมต่างๆ ของร้านค่ะ ถ้ามาช่วงเสาร์ อาทิตย์คนค่อนข้างเยอะ มุมต่างๆ อาจจะต้องรอถ่ายนานเช่นมุมน้ำตกเป็นมุมที่จะเต็มไปด้วยผู้คนรอคิวถ่ายรูปกันตลอด
ฟาร์มเมล่อนบริเวณด้านหลังร้านสามารถไปเดินถ่ายรูปได้ค่ะ
โหววว นึกว่าอยู่เวียดนามกับโซนสะพานพร้อมประติมากรรมมือยักษ์ จำลองมาจาก Golden Bridge ที่หุบเขาบานาฮิลล์ (Ba Na Hills) เมืองดานังประเทศเวียดนาม
ด้านบนทำเป็นสะพานสีรุ้งพร้อมมุมถ่ายรูปเก๋ๆ
รายละเอียดแสงตะวันฟาร์ม เมล่อนสาย4
ที่ตั้ง : สินพัฒนาธานี 10 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
เปิดบริการ : 09.00 - 19.00 น.ปิดทุกวันพุธ
เบอร์ติดต่อ : 0866203228,0854846684
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/zXiYQ2nUZ1txLeFh7
สรุปค่าใช้จ่ายต่อคน (ทริปสำหรับ 2 คน โดยรถส่วนตัว)
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ Whispering Cafe คนละ 195 บาท
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านยีญวน กลิ่นสวนไอดิน คนละ 280 บาท
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ร้าน Way Coffee คนละ 200 บาท
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านคาเปเดี้ยมคนละ 100 บาท
บทความแนะนำ:
30 คาเฟ่ร้านอาหารสามพราน ใกล้วัดไร่ขิง ตลาดน้ำดอนหวาย นครปฐม
20 จุดเช็คอิน กิน เที่ยว ในจังหวัดนครปฐม
Tags: นครปฐม ทริปตัวอย่าง เที่ยวนครปฐม ร้านนครปฐม ที่กินนครปฐม ร้านอาหารนครปฐม คาเฟ่นครปฐม วัดนครปฐม ไหว้พระนครปฐม ที่พักนครปฐม Whispering Cafe วัดสามพราน ยีญวน กลิ่นสวนไอดิน Way Coffee Machill Home คาเปเดี้ยม ร้านแสงตะวันฟาร์ม เมล่อนสาย4
ทริปตัวอย่าง | 18 ธ.ค. 2024 | 104 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 12 ธ.ค. 2024 | 297 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ธ.ค. 2024 | 386 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 27 พ.ย. 2024 | 511 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 26 พ.ย. 2024 | 727 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 1,041 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 01 ธ.ค. 2024 | 479 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 908 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 28 ต.ค. 2024 | 1,242 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,401 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,762 อ่าน