calendar_month 27 ส.ค. 2020 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 56,885 / ทริปตัวอย่าง
ใครที่อยากหาที่เที่ยวใกล้ๆ ขับรถไม่ไกล แต่ได้ฟีลสัมผัสธรรมชาติป่าเขา เราขอแนะนำจังหวัดสุพรรณบุรีเลยค่ะ จังหวัดใกล้ๆ ที่มีที่เที่ยวมากมายทั้งสายรักธรรมชาติ สายไหว้พระ หรือจะสายคาเฟ่ฮ็อปปิ้งที่นี่ก็มีคาเฟ่หลากหลายสไตล์ให้เลือกนั่งชิลลมากมาย วันนี้ชิลไปไหนเลยขอจัดทริปสั้นๆ แบบ 2 วัน 1 คืน ไปนอนสัมผัสธรรมชาติริมเขื่อนลำตะเพินที่บ้านตาหรั่ง ที่พักสไตล์แคมป์ปิ้ง พระวัดป่าเลไลยก์ และสุดท้ายกับการตระเวนเช็คอินร้านคาเฟ่สุดชิค ใครกำลังทริปเที่ยวใกล้ๆ อยู่ตามไปดูกันเลย
ทริปนี้เราออกจากกรุงเทพฯ แต่เช้าค่ะ โดยจุดหมายแรกของเราคืออำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อแวะไหว้พระเป็นสิริมงคลที่วัดไผ่โรงวัว หรือชื่อเป็นทางการว่าวัดโพธาราม ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 3422 ถ้ามาจากกรุงเทพโดยถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี วัดจะอยู่ทางขวามือค่ะ ภายในวัดมีที่จอดรถเยอะมากๆ
วัดไผ่โรงวัวนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2496 ค่ะ ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธโคดม เป็นพระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และพระกกุสันโธ พระพุทธรูปูนปั้นขนาดใหญ่ปางมารวิชัยสีขาว สูง 28 วา 2 ศอก หน้าตักกว้าง 20 วา ตั้งโดดเด่นอยู่ภายในวัด ข้างๆ กันเป็นเจดีย์พุทธคยาจำลองมาจากประเทศอินเดีย นอกจากนี้ยังมีฆ้องยักษ์ที่มีป้ายเขียนว่าฆ้องใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่บริเวณเบื้องหน้าของพระกกุสันโธให้ได้ได้ถ่ายภาพกลับบ้านไปอีกด้วย
ซึ่งถ้าพูดถึงวัดไผ่โรงวัวแล้วหลายคนจะนึกถึงประติมากรรมที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนรกภูมิ และรูปปั้นเหล่าอสูรกายและผีเปรตมากมายเพื่อเป็นคติธรรรมสอนใจให้คนห่างไกลการกระทำชั่วและหมั่นทำแต่ความดี วันหยุดนี้ใครอยากทำบุญ ไหว้พระก็ลองแวะมาที่วัดไผ่โรงวัวได้เลยค่ะ และอย่าลืมซื้อของฝากกลับบ้านไปด้วยนะเพราะที่วัดไผ่โรงวัวเขาจะมีร้านขายของฝากให้บริการมากมาย โดยเฉพาะพวกปลา อย่างปลาสลิดแดดเดียว ปลาช่อน ที่นี่ก็มีให้เลือกซื้อหลายร้านเลยค่ะ แถมราคายังไม่แพงอีกด้วย
ที่ตั้ง : ทางหลวงหมายเลข 3422 ตำบลบางตาเถร อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/teY3grsy8KAroooZ6
จากวัดไผ่โรงวัวขับรถไปประมาณ 15 นาทีเพื่อไปทานอาหารและขนมอร่อยที่ ขจี คาเฟ่ แอนด์ โฮสเทล (Kajee café and Hostel) คาเฟ่พร้อมโฮสเทลบรรยากาศสุดชิล ตั้งอยู่บริเวณริมคลองสองพี่น้องสุพรรณบุรี
ตัวร้านเป็นอาคารสีขาวล้อมรอบด้วยสนามหญ้าอารมณ์เหมือนมาบ้านเพื่อนริมน้ำ ร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้มากมาย บริเวณริมน้ำทำเป็นเทอร์เรซกว้างที่สามารถนั่งชิลจิบเครื่องดื่มชมบรรยากาศริมน้ำ พร้อมต้นไทรใหญ่ที่ปกคลุมให้ความร่มรื่น
ส่วนด้านในร้านเป็นส่วนห้องแอร์จัดมุมได้น่ารักน่านั่ง พร้อมตู้เค้กหน้าตาน่าทานที่เราสามารถมาออเดอร์อาหารและเครื่องดื่มด้านในได้เลยค่ะ
ครั้งนี้เราสั่งสปาเก็ตตี้พริกกระเทียมเบค่อน (70 บาท) รสชาติเข้มข้น หอมกระเทียมและพริกแห้ง(70 บาท) อีกจานก็คือข้าวผัดปลาทูทรงเครื่อง ข้าวนุ่มๆ ผัดกับเนื้อปลาทู เวลาทานก็บีบมะนาว เหยาะน้ำปลาพริกไปหน่อยเริ่ดดดด ส่วนขนมเราสั่งแครอทเค้ก(75 บาท) หวานน้อย อัดแน่นไปด้วยเนื้อแครอท มีครีมชีสเค็มๆ หวานๆ มันๆ ด้านบนอร่อยมากๆ ค่ะ ส่วนเครื่องดื่มเราสั่งสับปะรด + แอ๊ปเปิ้ล + มินท์(75 บาท)เป็นเมนูน้ำผลไม้คั้นสดไม่เติมน้ำตาล สดชื่นมากๆ หรือถ้าใครอยากหาร้านคาเฟ่นั่งชิลอื่นๆ สามารถไปชมต่อได้เลยที่ 10 คาเฟ่สุพรรณบุรี ถ่ายรูปสวย อัพเดตใหม่ 2020
ที่ตั้ง : ขจี คาเฟ่ แอนด์ โฮสเทล (Kajee café and Hostel) 243/3 ราษฏร์อุทิศ ตำบลสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง สุพรรณบุรี
เปิดบริการ : วันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 9.00 - 18.00 น.
ที่จอดรถ : ภายในร้านให้บริการมากมาย
เบอร์ติดต่อ : 0955294948
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/DSQsrH7AwWBUPYaEA
อิ่มท้องกันแล้วเราก็มุ่งตรงไปยังอำเภอเดิมบางนางบวชเพื่อไปชมอควาเรียมสัมผัสโลกใต้น้ำที่สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งตั้งอยู่ภายในบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ อีกหนึ่งที่เที่ยวที่ขึ้นชื่อในจังหวัดสุพรรณบุรีค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ขับมาถึงบึงฉวากแล้วค่ะ
ก่อนจะไปชมความอลังการของสัตว์น้ำ ขอเล่าประวัติที่นี่ให้ฟังกันเล็กน้อยค่ะ ซึ่งบึงฉวากเฉลิมพระเกียรตินั้นเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติมีพื้นที่กว่า 2700 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเดิมบางนางบวชในจังหวัดสุพรรณบุรี และอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท โดยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีนกชนิดต่างๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้มีการเสนอต่อกรมป่าไม้ให้ได้มีการขึ้นทะเบียนบึงฉวากให้เป็นเขตห้ามล่าสุตว์ป่าเมื่อปี พ.ศ. 2526 ต่อมาปี พ.ศ. 2537 นายบรรหาร ศิลปอาชา จัดทำโครงการบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ ๕๐ ปี ในปี พ.ศ. 2539
ภายในบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติจะแบ่งเป็นโซนค่ะ อาทิ โซนสัตว์น้ำ โซนสวนสัตว์ ที่มีทั้งกรงนกขนาดใหญ่ที่มีนกกว่า 45 ชนิด กรงเสือ กรงสิงโต เกาะกระต่าย กรงไก่ กรงสัตว์หายาก อุทยานผักพื้นบ้านเฉลิมพระเกียรติ พร้อมกันนั้นยังมีบริการจักรยานน้ำให้ได้มาปั่นเพลินๆ ในบึงฉวากกันอีกด้วย
ซึ่งไฮไลท์ของบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติแห่งนี้ก็ต้องโซนสัตว์น้ำจะแบ่งเป็น 3 อาคารหลักๆ คืออาคารที่ 1 จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ส่วนอาคารที่ 2 จะมีตู้ปลาขนาดใหญ่ และอุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่งแรกของเมืองไทยที่จัดแสดงปลาน้ำจืดมากมาย มีการแสดงโชว์ให้อาหารปลาโดยจะมีเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ มี 4 รอบ ตั้งแต่เวลา 10.30 - 16.00 น.
โชว์กอดปลาของพี่ๆ เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำ โอ๊ยยยน่ารักมากๆ ค่า
ไปต่อที่อาคาร 3 ซึ่งจัดแสดงโลกใต้ท้องทะเล ไฮไลท์คืออุโมงค์ปลาแนวเฉียงที่ลึกที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเขาจะทำเป็นบันไดเลื่อนลงในในอุโมงค์ได้อารมณ์เหมือนกำลังมุดเข้าไปใต้ทะเล พอลงบันไดเลื่อนไปก็จะเป็นทางเลื่อนอัตโนมัติความยาว 75 เมตรตลอดทางเลื่อนเราก็จะได้พบกับน้องปลามากมาย พร้อมกันนั้นยังมีการแสดงโชว์ให้อาหารฉลามทุกวันเวลา 14.00 น. ใครอยากมาดูการแสดงให้อาหารปลาฉลามก็มาเวลานี้ได้เลยค่ะ
ค่าตั๋วเข้าโซนนี้ 150 บาทแต่บอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะ
พี่นักประดาน้ำกำลังให้อาหารน้องปลาอยู่ เท่มากๆ เลยค่ะ
เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาเรียนรู้ และเดินเล่นถ่ายรูปสวยๆ หรือจะมาเดทกับแฟนที่อควาเรียมแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบนะคะ
จากนั้นเดินไปชมบ่อจระเข้กันค่ะ มีพี่จระเข้นอนพกผ่อนอยู่ในบ่อกันอย่างสบายใจ เห็นพี่เขานอนอ้าปากแบบนี้ก็แอบหลอนเลยค่ะ 5555
นอกจากบึงฉวากแล้วในสุพรรณบุรียังมีที่เที่ยว ที่เช็คอินอื่นๆ อีกเพียบเลยนะคะ ตามไปชมได้เลยที่ สุพรรณจ๋าฉันม๋าแล้ว - 10 จุดเช็ค อิน พัก กิน เที่ยวสุพรรณบุรี
ที่ตั้ง : สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติฯ ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี
เปิดทำการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. / วันเสาร์ - วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 8.30-17.00 น.
ค่าบริการ : ค่าเข้าชมโซนปลาน้ำจืด อาคาร 1,2 และบ่อจระเข้ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท / โซนปลาทะเลและปลาฉลาม อาคาร 3 ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 50 บาท,ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 200 บาท เด็ก 100 บาท (ผู้สูงอายุนำบัตรประชาชนติดต่อเข้าชมฟรี)
เบอร์ติดต่อ : 035430043
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/mFgqthAoKorLykbN9
ออกจากบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เราก็มุ่งหน้าไปยังอ่าวเก็บน้ำลำตะเพิน อำเภอด่านช้าง สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่พักของเราคืนนี้ค่ะ นั่นก็คือ บ้านตาหรั่ง Camping ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง เรามาถึงที่นี่ประมาณเกือบ 5 โมงเย็นค่ะ
ซึ่งที่ บ้านตาหรั่ง Camping จะเป็นจุดแคมป์ปิ้ง มีบริการลานกางเต็นท์ ซึ่งต้องนำเต็นท์มาเองคิดค่าบริการ 100 บาท/ เด็ก 50 บาท พร้อมห้องน้ำรวมแยกชายหญิง มี ทั้งหมด 3 ห้อง ภายในห้องน้ำสามารถอาบน้ำได้ ส่วนใครอยากนอนบ้านที่นี่มีบริการบ้านพักหลังละ 1,000 บาท พักได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว เครื่องปรับอากาศ พัดลม เครื่องทำน้ำอุ่น พร้อมกับมีกาแฟและขนมตอนเช้าให้ค่ะ(ไม่มีอาหารเช้า) สำหรับบ้านพักสามารถเสริมได้ 1 คน/หลัง ค่าที่นอนเสริมผู้ใหญ่ราคา 200 บาท เด็ก 100 บาท เด็กเล็กอายุ 1-3 ขวบเข้าพักฟรี
ทริปนี้เราเลือกนอนแบบบ้านพัก โดยด้านในบ้านพักเขาใช้ผ้าใบคลุมผนังและเพดานเอาไว้ได้ฟีลเหมือนมานอนกางเต็นท์เช่นเดียวกัน
พร้อมผ้าขนหนู สบู่ แชมพูและห้องน้ำในตัวค่ะ สำหรับคนอยากสัมผัสธรรมชาติแต่ก็ยังคงความสะดวกสบายอยู่
บรรยากาศชิลๆ ยามเย็นลมพัดเย็นสบาย ไม่ร้อนเท่าไรค่ะ ทางที่พักบอกเราว่าคืนนี้ให้รอชมทางช้างเผือกได้เลย โชคดีเย็นนี้ฟ้าเปิด คืนนี้เราน่าจะได้ล่าช้างกัน
กิจกรรมภายในที่พักยังมีพายเรือ ปั่นจักรยานที่มีให้บริการฟรี ส่วนใครอยากมานั่งตกปลาสามารถนำเบ็ดมาตกปลาที่นี่ได้เลย
ส่วนอาหารเย็นสามารถซื้อของมาทำอาหารได้ค่ะ ที่พักมีบริการเตาบาร์บีคิวคิดค่าบริการ 50 บาทต่อกรุ๊ป ส่วนใครที่ไม่ได้ทำอาหารกินเอง สามารถมาสั่งอาหารตามสั่งทานได้ค่ะ รสชาติดีราคาไม่แพงด้วย ครัวเปิดให้บริการตั้งแต่ 8.00-20.00 น.
อาหารที่เราสั่งมาทานในวันนี้ทั้งไข่เจียว ปีกไก่ทอด ต้มยำ กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา และยำรวมมิตร มื้อนี้หมดไปแค่ 500 กว่าบาทเท่านั้น อิ่มอร่อยพร้อมนอนชมดาวกันแล้วค่ะ
เมื่อท้องฟ้ามืดลง แสงดาวบนฟ้าก็เปล่งประกาย รอบตัวเราแม้จะมืดมาก แต่บนท้องฟ้ากลับส่องสว่างด้วยแสงดาวมากมาย คืนนี้โชคดีเราพบทางช้างเผือกที่สามารถมองด้วยตาเปล่าได้ด้วยค่ะ ใครเป็นสายถ่ายภาพรับรองว่ามาที่นี่คุณจะได้เก็บภาพดาวสวยๆ ฟินๆ กลับบ้านอย่างแน่นอน
ที่ตั้ง : บ้านตาหรั่ง Camping อ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง สุพรรณบุรี
ราคา : ถ้าเอาเต็นท์มาเอง ผู้ใหญ่คนละ 100 บาท,เด็ก 50 บาท / ค่าเช่าเต็นท์หลังละ 350 บาท (2 คน) / บ้านพักหลังละ 1,000 บาท/2 คน
เบอร์ติดต่อ : 095-729-6158
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/JKNDpPGG9Ykmt7t86
เช้านี้เราตื่นมาชมความสดชื่นของอ่างเก็บน้ำลำตะเพินยามเช้า จิบกาแฟ ทานขนม และเตรียมเก็บกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านกันค่ะ ใครอยากหาที่พักสุพรรณบุรีที่อื่นก็ไปเลือกชมได้ที่ 5 ที่พักสุพรรณบุรี ที่อยากหนีกรุงไปนอนชิลในวันหยุด
ก่อนเดินทางกลับบ้านเราแวะมาเดินเล่น ซื้อของฝาก หาของกินอร่อยกัยที่ตลาดสามชุก ตลาดเก่าแก่อายุร้อยกว่าปีของจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งจากที่พักขับรถมาประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงตลาดสามชุกแล้วค่ะ แนะนำว่าควรมาแต่เช้าเพราะที่จอดรถที่นี่หายากมากๆ
ของกินและของฝากที่ที่นี่เยอะและละลานตาสุดๆ โดยร้านค้าจะตั้งอยู่ภายในห้องแถวไม้ที่เรียงรายอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนไปตลอดสองข้างทาง อาทิร้านข้าวห่อใบบัวที่กลิ่นหอมฉุยจนเราต้องเดินเข้าไปซื้อ พร้อมกับมีก๋วยเตี๋ยวรสจัดจ้านขายในร้านด้วย หรือจะเป็นร้านเป็ดย่างจ่าเฉิด ร้านกาแฟท่าเรือส่ง ร้านลูกชิ้นยักษ์ที่แค่ลูกเดียวก็อิ่มไปถึงเย็น ร้านขนม ร้านขายปลาสลิดให้ซื้อกลับไปทอดที่บ้าน
ลูกชิ้นยักษ์ร้านนี้เป็นสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาตลาดสามชุกค่ะ ลูกชิ้นไซส์ยักษ์ขนาดเท่าหน้าเวลาทานทางร้านเขาจะหั่นให้เรา พร้อมราดน้ำจิ้มรสเด็ด และยังมีก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นยักษ์ นอกจากนี้ยังมีไซส์เล็กให้ซื้อไปทานอีกด้วย ภายในตลาดมีร้านลูกชิ้นยักษ์มากมายสามารถเลือกซื้อทานได้เลย
ที่ตั้ง : ตลาดสามชุก ต.สามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 08.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/zN6jVePSJJgsb3SN6
ออกจากตลาดสามชุกก็มุ่งตรงมายังตัวเมืองสุพรรณบุรี เพื่อไปไหว้พระขอพรก่อนกลับบ้านที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อายุพันกว่าปีและมีชื่อเสียงของจังหวัดสุพรรณบุรีตั้งอยู่ริมถนนมาลัยแมน
ภายในวัดประดิษฐานหลวงพ่อโตพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ซึ่งเป็นศิลปะสมัยอู่ทอง สุพรรณภูมิ มีความสูงถึง 23.46 เมตรภายในวิหารหลวงพ่อโต ซึ่งว่ากันว่าเดิมเป็นปางประทานปฐมเทศนา เหมือนพระพุทธรูปศิลาขาว ที่พระปฐมเจดีย์ แต่เนื่องจากมีการบูรณะใหม่เลยทำเป็นปางป่าเลไลยก์จนมาถึงปัจจุบัน ภายในองค์พระพุทธรูปนี้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากพระมหาเถรไลยลาย จำนวน 36 องค์
ภายในวิหารหลวงพ่อโต ซึ่งเดิมมีเพียงกุฏิครอบเอาไว้ แต่ภายหลังได้ทำพระวิหารครอบองค์หลวงพ่อโตเอาไว้
พระวิหารล้อมรอบโดยระเบียงคตที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องขุนช้างขุนแผนให้เราได้เดินชมกันด้วยค่ะ
โบสถ์แห่งใหม่ตอนที่เราไปกำลังสร้างเลยค่ะ คาดว่าถ้าเสร็จคงจะงดงามมากๆ
ซึ่งวัดป่าเลไลยก์วรวิหารได้ปรากฏอยู่ในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผนเลยทำให้มีการสร้างเรือนขุนช้างให้ได้เข้าไปชมและถ่ายรูปกันด้วย ภายในยังประดิษฐานหลวงพ่อทันใจใครมาวัดป่าเลไลยก์วรวิหารก็อย่าลืมแวะมาเยี่ยมชมกันนะคะ
ที่ตั้ง : วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ถ.มาลัยแมน ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/grPiCsf8qUCkCJvj8
ก่อนขับรถกลับบ้านแนะนำว่าแวะมานั่งชิลจิบกาแฟและทานขนมอร่อยที่ร้านนี้กันก่อนค่ะ กับร้านเหน่อ คาเฟ่ (Ner cafe) คาเฟ่น่ารักบรรยากาศริมทุ่งนาใกล้วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร การเดินทางจากวัดป่าเลไลยก์สุพรรณบุรีใช้ถนนมาลัยแมน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนวงแหวนสุพรรณบุรี ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเราก็จะพบกับเหน่อ คาเฟ่ (Ner cafe) ตั้งโดดเด่นอยู่ริมทุ่งนาสีเขียว
ตัวร้านจะทำเป็นเหมือนตู้คอนเท็นเนอร์สีเข้มอยู่ริมทุ่งนาตัดด้วยสีเหลืองสดใสโลโก้ของร้าน ภายในกรุกระจกใสสามารถมองวิวท้องทุ่งนาสีเขียวได้จากตัวร้านเลยค่ะ
ในส่วนเมนูอาหารและเครื่องดื่มมีให้เลือกมากมายเลยค่ะ จุดเด่นคือเบเกอรี่ของร้านโฮมเมดทำแบบวันต่อวัน กาแฟใช้อาราบิก้า 100% จากภาคเหนือคั่วกลาง ได้กาแฟรสเข้ม หอม อร่อย
มีมุมให้นั่งชิลบริเวณด้านนอกสำหรันนั่งชิลชมวิวทุ่งนา ส่วนด้านล่างทำเป็นเพิงไม้พร้อมมีที่นั่ง และมีอาหารปลาสามารถซื้อไปให้น้องปลาในบึงได้เลยค่ะ
ที่ตั้ง : เหน่อ คาเฟ่ (Ner cafe) ถนนเลี่ยงเมืองสุพรรณฯ - กรุงเทพฯ - อู่ทอง - ดอนเจดีย์ (ทางไปวัดสามเหลี่ยม) ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามหมูเจ้ยุหมูอินเตอร์ ต.ดอนโพธิ์ทอง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
เปิดบริการ : วันธรรมดาเวลา 10.00-17.30 น., วันเสาร์ - วันอาทิตย์เวลา 9.00-18.30 น. (หยุดทุกวันพุธ)
ที่จอดรถ : ที่จอดรถของร้านรองรับได้ประมาณ 30 คัน และสามารถจอดริมถนนได้
เบอร์ติดต่อ : 0814860513, 0971289119
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/WF1oxn9DW43LRb6U8
สรุปค่าใช้จ่าย ทริปเที่ยวสุพรรณบุรี 2 วัน 1 คืน(สำหรับ 2 คน)
- ค่าน้ำมันรถประมาณ 1000 บาท (500 บาท/คน)
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านขจีคาเฟ่ 200 บาท/คน
- ค่าที่พักที่บ้านตาหรั่ง 500 บาท/คน
- ค่าอาหารที่บ้านตาหรั่ง 250 บาท/คน
- ค่าอาหารที่ตลาดสามชุก 200 บาท/คน
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ เหน่อ คาเฟ่ (Ner cafe) 200 บาท/คน
- อื่นๆ 500 บาท
รวม 2,350 บาท/คน
บทความแนะนำ:
- 10 คาเฟ่สุพรรณบุรี ถ่ายรูปสวย อัพเดตใหม่ 2020
Tags: สุพรรณบุรี ทริปตัวอย่าง ที่เที่ยวสุพรรณบุรี เที่ยวสุพรรณบุรี เที่ยวสุพรรณ สุพรรณ ที่เที่ยวสุพรรณ ที่พักสุพรรณบุรี ที่กินสุพรณณบุรี คาเฟ่สุพรรณบุรี ร้านอร่อยสุพรรณบุรี วัดไผ่โรงวัว ขจี คาเฟ่ แอนด์ โฮสเทล Kajee café and Hostel บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ บ้านตาหรั่ง Camping บึงฉวาก อ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ตลาดสามชุก วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เหน่อ คาเฟ่ Ner cafe
ทริปตัวอย่าง | 18 ธ.ค. 2024 | 98 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 12 ธ.ค. 2024 | 295 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ธ.ค. 2024 | 383 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 27 พ.ย. 2024 | 510 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 26 พ.ย. 2024 | 723 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 1,032 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 01 ธ.ค. 2024 | 473 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 906 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 28 ต.ค. 2024 | 1,238 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,397 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,759 อ่าน