ทริปอยุธยา 2 วัน 1 คืน เที่ยวใกล้กรุงฯ แบบไม่ต้องลางาน สนุก นอนสบาย จ่ายไม่แพง!!

This is the vacation time

เวลานี้ช่างมีความหมาย

หยุดชีวิตช้าๆ และพักผ่อน

หยุดความจริงร้ายๆ ทิ้งเอาไว้ก่อน

This is the vacation time~

วันหนึ่งระหว่างเดินทางกลับบ้านอยู่ดีๆ เพลงนี้ก็แว้บขึ้นมาในหัว เลยนึกขึ้นได้ว่าช่วงที่ผ่านมาทำแต่งานไม่ค่อยได้ไปเที่ยวพักผ่อนเลย หยิบปฏิธินมาดูตารางชีวิตก็แน่นเอี๊ยด เลยลองมองหาที่เที่ยวใกล้กรุงฯ แบบไม่ต้องง้อวันหยุดชิลๆ สัก 2 วัน 1 คืน ชวนคุณแฟนและเพื่อนๆ ก็ดีลกันลงตัวมาจบที่อยุธยา จังหวัดที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และยังคงกลิ่นอายเสน่ห์ของเมืองเก่าไว้จนถึงปัจจุบัน แถมยังมีที่พักชิคๆ ร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ ให้เช็คอินเพียบ ส่วนจะมีที่ไหนบ้าง..ไปดูกัน

DAY 1

เช้าวันเสาร์หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ออกเริ่มออกเดินทางใช้เวลาเกือบๆ สองชั่วโมงก็มาถึงพิกัดแรก บ้านข้าวหนม คาเฟ่ที่หนึ่งในสมาชิกร่วมทริปรีเควสพร้อมบอกว่าถ้ามาอยุธยาต้องแวะมาเช็คอินให้ได้! โดยที่นี่เป็นคาเฟ่ขนมไทยโบราณจากก้นครัวของคนในครอบครัวและคนในท้องถิ่นกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเขาเพิ่งรีโนเวทร้านใหม่มาพร้อมกับดีไซต์การตกแต่งร้านน่ารักๆ มีมุมฮิปๆ ให้ได้ถ่ายภาพ ตัวร้านจะมีกลิ่นอายของความเป็นไทยแบบสมัยเก่าและความชิคแบบคาเฟ่สมัยใหม่ โดยจะเลือกซื้อขนมกลับบ้านหรือนั่งทานที่ร้านก็ได้ค่ะ

นอกจากขนมไทยอร่อยๆ แล้วที่นี่ยังเป็นเหมือนแกลอรี่ข้าวของเครื่องใช้แบบไทย ให้ผู้มาเยือนได้ชมและซึมซับบรรยากาศของอยุธยาแต่เก่าก่อนได้จากร้านนี้อีกด้วย 

เราสั่งเมนูแนะนำของทางร้านชุบชูใจ (85 บาท) เครื่องดื่มสูตรพิเศษเป็นนมเย็นที่แยกชั้นกับน้ำอัญชัน มาทานคู่กับไอติมหลงยุค (125 บาท) ไอศกรีมที่เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมไทยอย่างฝอยทองและทองม้วน เป็นเมนูที่อร่อยลงตัวมากๆ 

บ้านข้าวหนม

ที่ตั้ง : 2/10 ถ.อู่ทอง ต.หอรัตนไชย จ.พระนครศรีอยุธยา

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 8.00 – 19.00 น. 

โทรศัพท์ : 0979219465

GPS : https://goo.gl/maps/FecNN66myeSxFeuo7 

ชิมขนมไทยโบราณต้นตำรับของคนอยุธยากันไปแล้ว พวกเราก็แวะไปซึมซับเสน่ห์ของโบราณสถานที่ วัดกุฎีดาว วัดร้างที่อยู่บนถนนนอกเกาะเมืองอยุธยาทางทิศตะวันออก ติดกับทางเข้าวัดประดู่ทรงธรรม วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหารและวัดมเหยงคณ์เป็นวัดที่ไม่ปรากฎหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับประวัติการสร้าง แต่มีข้อความบันทึกลงในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาว่าได้รับการบูรณปฎิสังขรณ์ครั้งใหญ่เมื่อปี 2254 ในสมัยของสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ โดยสมเด็จพระเจ้าบรมโกศในขณะที่ดำรงพระยศเป็นพระมหาอุปราช จากการศึกษาทางโบราณคดีบอกไว้ว่า วัดนี้น่าจะสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้นและถูกทิ้งร้างไปเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 นั่นเองค่ะ

ตัววัดมีความงดงาม เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความงดงามทางประวัติศาสตร์และแหล่งโบราณคดีที่ทรงคุณค่า รวมไปจนถึงตำนานปู่โสมเฝ้าทรัพย์ที่เป็นที่เล่าขานกันมายาวนาน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องพิษสวาทด้วยนะคะ ใครที่อยากไปชมร่องรอยจิตรกรรม เศษซากโบราณสถานที่ยังคงหลงเหลืออยู่ หรือจะแวะไปสักการะปู่โสมก็สามาระแวะเวียนไปได้ทุกวันเลยค่ะ

วัดกุฎีดาว

ที่ตั้ง : 19 ซ.ป่าโทน 19 ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 8.00 – 18.00 น.  

GPS : https://goo.gl/maps/xGLNxTgtEFTwEmhK8b 

หลังจากเดินเล่นชมร่องรอยจิตรกรรมและซึมซับเสน่ห์ของโบราณสถานแล้ว ก่อนเข้าไปเช็คอินที่พักเราก็มุ่งตรงไปเติมพลังที่ ก๋วยเตี๋ยวเรือชามยักษ์ ห้อยขา ร้านก๋วยเตี๋ยวราคาหลักสิบวิวหลักแสนเจ้าแรกของอยุธยาที่มาพร้อมคาเฟ่ในตัว จุดเด่นนอกจากจะได้นั่งห้อยขาชิลๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีเรือแล่นผ่าน ลมพัดเย็นๆ พร้อมกับชื่นชมบรรยากาศสวยงามของเจดีย์วัดพุทไธศวรรย์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย ถ้าขับรถมาเองที่ร้านรองรับที่จอดรถได้ประมาณ 10 คันค่ะ 

ภายในแบ่งที่นั่งไว้หลากหลายมุมทีเดียวค่ะ แต่มุมยอดฮิตก็เห็นจะเป็นโซนใหม่ที่มีเปลตาข่ายให้ไปนั่งรับลมชมวิว ถ่ายรูปสวยๆ ด้วย

นอกจากบรรยากาศดีแล้วเมนูอาหาร ขนม และเครื่องดื่มก็จัดว่าเด็ดเหมือนกันนะคะ มีหลายเมนูให้เลือกสรรทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ และเมนูทานเล่น เช่น หมูสะเต๊ะ ผัดไทย นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และบิงซูน้ำแข็งไสสไตล์เกาหลีด้วย 

ไม่ใช่แค่ก๋วยเตี๋ยวรสชาติอร่อยแบบดั้งเดิมราคาเริ่มต้นเพียงชามละ 15 บาทเท่านั้น ที่ร้านยังมีเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือชามยักษ์ที่อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบมากมายทั้งตับ ลูกชิ้น หมู เนื้อ ไข่ต้มยางมะตูม เสิร์ฟมาในชามยักษ์ในราคาเพียง 450 บาท บอกเลยว่าคุ้มมากๆ เพราะแบ่งกันกินได้หลายคนเลยล่ะ

ก๋วยเตี๋ยวเรือชามยักษ์ ห้อยขา

ที่ตั้ง : 21/4 ถ.อู่ทอง ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 8.30 – 18.00 น.  

โทรศัพท์ : 0927432200

GPS : https://goo.gl/maps/KVzy5txkrc8aCYMF8 

Facebook : https://www.facebook.com/hoykaa/ 

อิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาไปเช็คอินเข้าที่พักกันแล้วค่ะ สำหรับคืนนี้เราจองโรงแรมสุดเก๋ในอยุธยาที่มาพร้อมร้านอาหารกุ้งเผาในตัวอย่าง บ้านป้อมเพชร (Baan Pomphet) ขอบอกว่าทั้งโลเคชั่นและบรรยากาศดีมากค่ะ เพราะตั้งอยู่ย่านเกาะกรุงเก่าติดกับสวนสาธารณะที่ชาวอยุธยาเรียกกันว่าป้อมเพชร อดีตป้อมปืนใหญ่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเมืองอันเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำ 3 สาย ทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสักและแม่น้ำลพบุรี ทำให้สามารถทอดสายตามองเรือที่แล่นผ่านไปมา อีกทั้งยังรู้สึกเย็นสบายจากลมที่พัดผ่านเข้ามาตลอดทั้งวัน 

เมื่อจอดรถและเดินเข้ามาด้านในเราก็ได้กลิ่นหอมของกุ้งเผาโชยมาแตะจมูกแต่ไกลเลยค่ะ ซึ่งบริเวณด้านหน้าถัดจากที่จอดรถถูกออกแบบให้เป็นเรือนย่างกุ้ง ส่วนสถาปัตยกรรมด้านในก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ตัวอาคารใช้ก้อนอิฐดินเผาจากจังหวัดอ่างทองกว่าสองแสนก้อนมาตกแต่งผสมผสานกับงานไม้ ทำให้สีสันของอาคารกลมกลืนเข้ากับบรรยากาศพื้นถิ่นสะท้อนถึงเอกลักษณ์และจุดขายของอยุธยาผ่านสัมผัสของรูปและกลิ่นได้เป็นอย่างดี

ภายในแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของร้านอาหารที่เชื่อมต่อไปยังแม่น้ำ รวมถึงมี rooftop bar ด้านบน ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นที่พักโดยแบ่งสเปซทางเดินไว้ตรงกลางซึ่งมองเห็นวิวแม่น้ำชัดเจน ในขณะเดียวกันก็สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับโซนพักผ่อนได้ดีทีเดียวนะคะ เพราะมีบานประตูไม้กั้นพื้นที่อยู่ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

เช็คอินเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเข้าไปเอนกายพักผ่อนกันแล้วค่ะ สำหรับบ้านป้อมเพชรมีห้องพักทั้งหมด 8 ห้อง 2 ชั้น แบ่งชั้นล่างออกเป็น 4 ห้องและชั้นบนอีก 4 ห้อง ห้องชั้นล่างจะคุมโทนด้วยสีเขียวใบชะพลู ส่วนห้องชั้นบนจะใช้โทนสีเหลืองขนุนเป็นหลัก จุดเด่นคือมีห้องอาบน้ำกลางแจ้งที่มาพร้อมโอ่งสั่งทำให้สีกลมกลืนไปกับตัวห้องสะท้อนบรรยากาศแบบไทย อีกทั้งบริเวณหน้าห้องพักจะมีชานเล็กๆ ไว้ให้เรานอนชมวิว มองร่มเงาของต้นโพธิ์อายุหลายสิบปีที่อยู่ในพื้นที่

นอกจากนี้พื้นที่ด้านหน้าอาคารที่อยู่ติดกับประตูไม้เชื่อมออกไปส่วนของร้านอาหารยังมีสระว่ายน้ำขนาดกะทัดรัดไว้ให้เราได้แช่น้ำคลายร้อนมองชมวิวแม่น้ำอีกด้วยนะ

พวกเราใช้เวลาเล่นน้ำ อาบน้ำ นอนพักกันสักงีบก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ สำหรับมื้อเย็นนี้พวกเราฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารของที่พัก ซึ่งทางร้านต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความอบอุ่นแบบเป็นกันเองท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ตกแต่งอย่างเรียบง่าย โดดเด่นด้วยโทนสีสบายตา รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และการครีเอทนำชนางเครื่องมือสานสำหรับจับกุ้งมาออกแบบเป็นโคมไฟภายในร้านอาหารทำให้เราสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นเหมือนการนั่งทานอาหารที่บ้าน ซึ่งมีที่นั่งให้เลือกหลายโซนทั้งด้านในและด้านนอกที่สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศริมน้ำได้อย่างใกล้ชิด

ทางร้านมีเมนูอร่อยให้เลือกหลากหลายเมนู แต่เมนูที่ขึ้นชื่อและเรคคอมเมนด์ที่สุดก็คือกุ้งแม่น้ำย่างถ่าน ราคา 4 ตัว กิโล 1,800 บาท แยกตัวละ 470 บาท โดยทางร้านจะเลือกกุ้งตัวโตมาเผาจนสุกกำลังดี ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนน้ำลายเวอร์ๆ จานนี้จะเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บกำลังดี  ไม่เผ็ดมาก ขอบอกว่าเนื้อกุ้งแน่น เด้ง ยิ่งทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ และเมนูแนะนำอื่นๆ ก็ยิ่งช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับการทานอาหารมื้อนี้ได้ดียิ่งขึ้น 

อิ่มท้องแล้วใครที่อยากจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ก็สามารถไปนั่งชิลต่อได้ที่ rooftop bar ด้านบนได้นะคะ บอกเลยว่าช่วงตะวันจะลับขอบฟ้าเป็นอะไรที่สวยงามมาก แถมพอพลบค่ำก็มองดวงดาวชัดแจ๋วเลยล่ะ

DAY 2

หลับสบายเต็มตื่นเราก็ลุกมาทานอาหารเช้ากันก่อน สำหรับอาหารเช้าของบ้านป้อมเพชรจะมีให้เลือก 2 แบบด้วยกันคือชุดอาหารเช้าแบบ American Breakfast ประกอบด้วยเครื่องดื่ม (ชา กาแฟ น้ำผลไม้ นมสด น้ำดื่ม) ผลไม้สด สลัดผัก ขนมปังทานกับแยม เนย ส่วนเนื้อสัตว์หลักๆ ก็จะมี แฮม เบคอน ไส้กรอก ไข่ก็จะมีให้เลือกหลายประเภททั้งไข่ดาว ไข่คนและออมเล็ต ใครอยากทานอะไรเบาๆ ก็สามารถสั่งชุดข้าวต้มทรงเครื่องได้ค่ะ

บ้านป้อมเพชร

ที่ตั้ง : 13/5 ถ.อู่ทอง ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 10.00 – 20.00 น. 

โทรศัพท์ : 0813414595

GPS : https://g.page/baanpomphet?share 

Facebook : https://www.facebook.com/baanpomphet/ 

ทานอาหารเช้าเสร็จเราก็กลับเข้าห้องเก็บของเตรียมเช็คเอ้าท์ แต่เพื่อนๆ ยังอยากเล่นน้ำอยู่งานนี้เลยออกจากที่พักเกือบเที่ยงเลยค่ะ ซึ่งพอออกมาจากที่พักพวกเราก็มุ่งตรงไปทานมื้อเที่ยงกันที่ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็ก ร้านก๋วยเตี๋ยวสูตรโบราณรสชาติกลมกล่อมชื่อดังของจังหวัด ตัวร้านอยู่ใกล้กับวัดมหาธาตุ ตั้งอยู่หน้าองค์การโทรศัพท์เลยจ้า มีที่จอดรถสะดวกสบาย ที่นั่งเยอะ ราคาหลักสิบมีให้เลือกทั้งเนื้อและหมูเลยนะ 

ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็ก

ที่ตั้ง : ถ.บางลาน ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น. 

โทรศัพท์ : 0894128213

GPS : https://goo.gl/maps/PXN2nUFXztFR7Z3u9 

จากนั้นเราก็เดินทางไปยัง วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดสำคัญซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยวัดพระศรีสรรเพชญ์นั้นเป็นอดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณ แม้จะผ่านกาลเวลามานานกว่า 500 ปี แต่ก็ได้รับการบูรณะให้เห็นร่องรอยของความงดงามยิ่งใหญ่ในอดีตกาล

วัดพระศรีสรรเพชญ์

ที่ตั้ง : ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 8.00 – 18.00 น.  

GPS : https://goo.gl/maps/vZYAc8ncMpgFhxsL9 

เที่ยวสนุก อิ่มบุญอิ่มใจกันแล้ว ก่อนเดินทางกลับบ้านเราก็แวะไปเติมความสดชื่นกันที่ PRANG VIEW (ปรางค์วิว) คาเฟ่สไตล์โมเดิร์นคุมโทนสีขาว รายล้อมด้วยกระจกใส โดยเบื้องหน้าเป็นวิวพระปรางค์วัดราชบูรณะมองเห็นยอดพระปรางค์ชัดแจ๋ว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้านนั่นเองค่ะ ภายในตกแต่งสวยโปร่งสบายตา มีที่นั่งหลากหลายโซน นอกจากจะมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้กดชัตเตอร์กันรัวๆ จนเมมโมรี่เกือบเต็มแล้ว ที่นี่เค้ายังมีบริการอาหารและเครื่องดื่มแสนอร่อยที่มีให้เลือกหลากหลายเมนูอีกด้วย

PRANG VIEW (ปรางค์วิว)

ที่ตั้ง : 22/13 ถ.นเรศวร ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 09.30 – 20.00 น. 

โทรศัพท์ : 0851599944

GPS : https://goo.gl/maps/tC3ctwgVC6f9nHVa9 

สุดท้ายนี้ขอบอกเลยว่าทริปอยุธยา 2 วัน 1 คืนนี้ ประทับใจเรากับเพื่อนสุดๆ นอกจากจะได้พักผ่อนแบบชิลๆ ไม่ต้องกังวลใจอะไรแล้ว ยังได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตะลุยคาเฟ่ เช็คอินที่พักสุดเก๋ ได้เล่นน้ำ ชมวิวสวย ถือเป็นทริปที่ดีต่อใจเรามากๆ เพราะแบตเตอรี่ชีวิตเต็มสุดขีดพอกลับมาทำงานก็กระปรี้กระเปร่าขึ้น จนแทบอยากจะไปเที่ยวทุกวันหยุดเลยล่ะ

ค่าใช้จ่าย

• ค่าน้ำมัน 1,000 บาท

• ค่าที่พัก 2 ห้อง 7,800 บาท

• ค่าอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม 3,000 บาท

• อื่นๆ 200 บาท

รวม 12,000 บาท 

(หาร 4 คน ตกคนละ 3,000 บาท) 

Tags: พระนครศรีอยุธยา อยุธยา ทริปตัวอย่าง ทริปตัวอย่างอยุธยา ที่เที่ยวอยุธยา ที่พักอยุธยา ร้านอาหารอยุธยา ร้านกุ้งเผาอยุธยา คาเฟ่อยุธยา วัดอยุธยา บ้านข้าวหนม วัดกุฎีดาว วัดพระศรีสรรเพชญ์ ก๋วยเตี๋ยวเรือชามยักษ์ห้อยขา ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็ก ร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา บ้านป้อมเพชร BaanPomphet PRANGVIEW ปรางค์วิว ปรางค์วิวคาเฟ่

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้