calendar_month 14 ก.ค. 2020 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 39,409 / ทริปตัวอย่าง
เมื่อร่างกายต้องการทะเล เราก็ไม่รอช้ารีบหยิบบิกินี่ตัวเก่งเก็บใส่กระเป๋า แล้วชวนคุณแฟนขับรถไปเที่ยวพัทยา - สัตหีบ ทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน แต่ดีกรีความฟินทะลุติดเพดานกันเลยค่ะ ซึ่งทริปนี้เราวางแพลนไว้ว่าจะไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ล่องเรือใบกลางทะเล ดำน้ำชมปะการัง และไปเช็คอินที่พักน่ารักชมวิวทะเล ปิดท้ายกับการตะลุยเช็คอินคาเฟ่สุดฮิปในสัตหีบ – พัทยา
จากกรุงเทพฯ เราขับรถออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ค่ะ เพราะเช้านี้เรามีทริปล่องเรือใบกับทางสัตหีบเซลลิ่งคลับ ซึ่งกำหนดการทริปคือเวลา 9 โมงเช้า ตั้ง GPS ใน Google Maps ไว้ว่าเรือใบ สอรฝ https://goo.gl/maps/DK1BUTT4xwDEh6SK8 แต่มีทริคสำหรับการเดินทางค่ะ เนื่องจาก GPS ที่เราให้ไว้จะไม่สามารถคลิกนำทางแบบรถยนต์ได้ ให้ใช้วิธีปักหมุดที่ กองช่างโยธา ฐานทัพเรือ สัตหีบ ไว้ก่อน https://goo.gl/maps/NWhBmbkH8vUvgUzJ8 พอขับไปถึงแล้วก็เปลี่ยนจุดหมายให้เป็นเรือใบ สอรฝ แล้วเลือกเป็นเดินก็สามารถเดินทางไปถึงจุดขึ้นเรือได้แล้วค่ะ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเราก็ถึง เรือใบ สอรฝ ซึ่งตั้งอยู่ภายในกรมอู่ทหารเรือแล้วค่ะ วันนี้ฟ้าสดใสมีเรือใบสีขาวมากมายลอยลำอยู่ในทะเล เป็นครั้งแรกที่เราจะได้ลองนั่งเรือใบแล่นไปในทะเลกันเลย
ซึ่งเรือใบที่เรานั่งเป็นแบบโฮบี้ นั่งได้ 4 คน ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ ใช้หลักการลม และการดูกระแสน้ำ เพื่อให้เรือใบเคลื่อนที่ เรือใบแต่ละลำจะมีครูดีกรีทีมชาติไทยเดินทางไปด้วย เพราะสัตหีบเซลลิ่งคลับทีมงานทั้งหมดล้วนเป็นนักกีฬาดีกรีทีมชาติไทย เหมือนเป็นครอบครัวคนรักเรือใบที่อยากส่งต่อความรักในกีฬาเรือใบให้คนทั่วไปได้สัมผัส เลยมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและยังได้ความรู้เรื่องเรือใบอีกด้วย ใครที่อยากลองเล่นเรือใบทางครูก็เปิดโอกาสให้เราได้ลองบังคับเองด้วยค่ะ บอกเลยว่าสนุกและตื่นเต้นมากๆ
ลำของเรามีน้องนัท ซึ่งเป็นนักกีฬาเรือใบเป็นกัปตันที่คอยเอ็นเตอร์เท็นเราตลอดเวลา ทำให้ทริปนี้ทีแต่เสียงหัวเราะสนุกสนาน เรานั่งชมวิวที่รอบตัวเราคือน้ำทะเลสีครามเข้ม ลมทะเลพัดพาเอาความสดใสมาปะทะใบหน้า มีบางจังหวะที่น้องนัทให้เราลองขับเรือใบเองด้วยค่ะ ตื่นเต้นมากๆ เพราะมีเพียงกระแสลม และกระแสน้ำที่ทำให้เรือใบลำน้อยแล่นฉิวโดยไม่ได้ใช่เครื่องยนต์ใดๆ เลย
ในทะเลแห่งนี้ยังมีเพื่อนร่วมทางเรือใบอีกหลายลำที่มาล่องชมวิวทะเล ซึ่งส่วนมากก็เป็นน้องๆ นักกีฬาเรือใบเยาวชน รวมทั้งบุคคลทั่วไปที่สนใจในกีฬาเรือใบ ใครที่อยากมาลองเรียนจริงจังทางสัตหีบเซลลิ่งคลับเขาก็มีคลาสสอนแบบตัวต่อตัวตั้งแต่เวลา 9.30 - 16.30 น. ในราคา 2,190 บาท/คน ซึ่งทางสัตหีบเซลลิ่งคลับรับประกันว่าใช้เวลา 2 ชั่วโมงก็เล่นเป็นแล้วค่ะ
แล่นมาประมาณ 45 นาทีเราก็ถึงเกาะแห่งความลับกลางทะเลสัตหีบแล้วค่ะ ซึ่งเรือเราจะมาหยุดพักที่เกาะนี้เพื่อทานอาหารกลางวันที่ทางทัวร์จัดไว้แล้วให้เราดำน้ำชมปะการังกันจนฉ่ำปอดกันเลยค่ะ
น้ำใส หาดทรายสีขาว เราไม่รอช้ารีบหยิบสน็อกเกิลที่ทางทัวร์เตรียมไว้ให้ลงแหวกว่ายชมปะการังกันทันที
โลกใต้ท้องทะเลสัตหีบนั้นเต็มไปด้วยเหล่าปลานีโม่ ปะการังโขด หอยมือเสือ ดอกไม้ทะเล ที่เราสามารถดำน้ำตื้นชมควมสวยงามได้บริเวณชายหาดเลยค่ะ ไม่ต้องว่ายไปไกลเราก็สามารถชมความสวยงามตระการตาที่ไม่เคยคิดเลยว่าจากกรุงเทพฯ แค่สองชั่วโมงครึ่งก็จะได้พบปะการังสวยๆ แบบนี้
เหล่าปะการังโขดมากมายที่มีเยอะมาก เรียกว่าเป็นดงปะการังเลยค่ะ ว่ายไปปะการังก็แทบจะติดหน้าอกกันเลยทีเดียว แนะนำว่าค่อยๆ ลอยตัวชมกันนะคะ เพราะเท้าเราอาจจะไปเตะโดนแะการังหักเสียหายได้ง่ายๆ
ว่ายน้ำกันจนเหนื่อย พอขึ้นมาบนฝั่งทางน้องนัทก็จัดข้าวกล่อง พร้อมมะม่วงน้ำปลาหวานให้เราได้ทานกันเลยค่ะ ซึ่งเมนูอาหารก่อนเราจองทริปสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นเมนูอร่อย โดยจะเป็นเมนูตามสั่งง่ายๆ แต่ความอร่อยไม่ธรรมดาเลย
หลังจากทานอาหารเสร็จก็นั่งเรือใบกลับฝั่งค่ะ คราวนี้น้องนัทให้เราลองขับจากเกาะตรงยาวมาถึงฝั่งกันเลย ซึ่งขากลับเราแล่นตามกระแสน้ำ ทำให้ใช้เวลาเร็วกว่าขาไป โดยใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น โบกมือลาน้องๆ นักกีฬาของสัตหีบเซลลิ่งคลับ พร้อมคำสัญญาว่าคราวหน้าจะต้องลองมาเรียนเรือใบจริงจังให้ได้สักครั้ง
รายละเอียดทริป SATTAHIP Sailing Club Hobies 1 DAY TRIP
เที่ยวส่วนตัวแบบเหมาลำ 2 ท่าน ท่านละ 1,990 บาท พิเศษท่านที่ 3 เพิ่ม 790 บาท
เริ่มตั้งแต่เวลา 9.30 - 15.30 น. (เวลาสามารถยืดหยุ่นได้)
รวมบริการ : เสื้อกันยูวีแขนยาว รองเท้ากันลื่น กระเป๋ากันน้ำ เสื้อชูชีพ อุปกรณ์ดำน้ำตื้น อาหาร ของว่าง ผลไม้ เครื่องดื่ม
จองทริปได้ที่ : 0968976989
FB : https://www.facebook.com/SattahipSailingClub/
หลังจากล่องเรือใบชมวิวทะเลกันจนเหนื่อยแล้วก็เดินทางไปทานอาหารกลางวันที่ร้าน De Beach House ร้านอาหารริมทะเลใกล้กับหาดดงตาล มีเมนูทั้งอาหารไทยรสเด็ด สเต๊ก สปาเก็ตตี้ สลัด ของหวาน เครื่องดื่มให้เลือกมากมาย รับประกันเลยว่าร้านนี้รสชาติอร่อย อาหารจานใหญ่ แถมราคาไม่แพง
De Beach House เปิดมาเป็นปีที่ 4 แล้วค่ะ ด้วยรสชาติและความสดของวัตถุดิบ ทำให้ร้านนี้มีลูกค้าแน่นอยู่ตลอดเวลา ตัวร้านขนาดจะไม่ใหญ่มากค่ะ แต่บรรยากาศสไตล์คาเฟ่มากกว่าร้านอาหาร นั่งสบาย กรุกระจกเป็นหน้าต่างขนาดยาวที่สามารถนั่งชมวิวทะเลจากด้านในร้านได้อย่างเต็มตา
มีมุมเคาน์เตอร์บาร์ชิลๆ สำหรับสายคาเฟ่อยากมานั่งจิบกาแฟ ทานขนม ชมวิวทะเลก็จัดมุมนี้ไปได้เลย
มาดูเมนูอาหารที่เราสั่งมาไม่ยั้งค่ะ เพราะไปออกกำลังกายมาท้องเลยหิวกันเต็มที่ เราขอให้คุณนิ่มเจ้าของร้านแนะนำเมนูเด็ดของร้านให้ คุณนิ่มก็เลยจัดมาให้เต็มที่ เริ่มต้นด้วยเมนูแรกก็ร้องว้าวกันแล้วกับเนื้อปูก้อนผัดพริกเหลือง(350 บาท) ที่เขาให้เนื้อปูมาเยอะมากๆ ค่ะ ตักตรงไหนก็เจอแต่เนื้อปู โดยเขาใช้ปูจากช่องแสมสารส่งมาแบบวันต่อวันซึ่งพอได้เนื้อปูมาปุ๊บทางร้านก็นำเข้าฟรีชปั๊บ พอจะทำห็นำมาเข้าไมโครเวฟเพื่อทำละลายน้ำแข็ง ข้อดีคือเนื้อปูยังคงสภาพเดิมเหมือนตอนเข้าตู้แช่ ไม่แห้ง เนื้อแน่นปั้ก นำมาผัดพริกเหลือง รสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ดมากด้วยค่ะ คนไม่ทานเผ็ดสามารถทานได้นะ
ต่อด้วยคอหมูย่าง(100 บาท) ตัวหมูเนื้อนุ่มจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเฉพาะของทางร้าน พร้อมกันนั้นมีน้ำจิ้มซีฟู็ดเสิร์ฟมาให้ด้วยค่ะ ใครชอบแซ่บๆ ก็จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดโล้ด
อยู่ริมทะเลแบบนี้ก็ต้องสั่งเมนูยำปูม้า(170 บาท) มาทานเคล้ากับเสียงคลื่นกันหน่อย โดยตัวยำใส่มะม่วงรสจัดจ้าน ส่วนปูม้าเขาใช้คัดไซส์ 10-12 ตัว/กิโลกรัม เนื้อหวาน สด ไม่มีกลิ่นคาวเลยค่ะ
จานนี้ก็เด็ดแกรรรร กับ กุ้งทอดซอสมะขาม(180 บาท) โดยใช้กุ้งแชบ๊วย เนื้อแน่น ตัวโต ขนาด 20-25 ตัว/กิโลกรัม ตัวน้ำซอสมะขาม เปรี้ยวๆ หวานๆ กินกับหมี่กรอบด้านล่างพร้อมกับหอมเจียวด้านบนฟินมากๆ
สั่งปลาปลากะพงทอดน้ำปลาราดด้วยยำมะม่วง(350 บาท) ไปแล้วแอบตกใจกับขนาดปลาทำไมมันจานใหญ่อย่างนี้ทอดออกมากด้านนอกเหลืองกรอบ ด้านในเนื้อปลาขาวนุ่ม ความพิเศษของเมนูนี้คือเขาทำตัวซอสน้ำปลาให้กลิ่นน้ำปลาไม่โดดโดยใช้ความหอมของใบเตยมากดกลิ่นเอาไว้ ทำให้ไม่มีกลิ่นน้ำปลาแรงเกินไป ตัดกับตัวยำมะม่วงเปรี้ยวๆ อร่อยมากๆ
สำหรับสายเนื้อต้องสั่งเมนูนี้เลยค่ะ ต้มแซ่บเนื้อน่องลาย(190 บาท) เนื้อชิ้นโต แทรกเอ็นกรุบๆ โดยใช้เวลาตุ๋น 3-4 ชั่วโมงกันเลยค่ะ เนื้อนุ่มไม่เหนียว น้ำซุปรสแซ่บซี้ดโดนใจ เสิร์ฟมาในหม้อไฟใหญ่และคุ้มมากๆ
และแกงส้มไข่เจียว ชะอมกุ้ง(199 บาท) รสจัดจ้านน้ำข้นคลั่กจากเนื้อปลา ใส่กุ้งแชบ๊วยตัวโต พร้อมกับไข่ทอดชะอมนุ่มๆ คลุกกับข้าวสวยฟินมากๆ
เครื่องดื่มของทางร้านถ้าเป็นเมนูร้อนเขาจะวาดลวดลายลงบนฟองนมทุกแก้วเลยค่ะ ทั้งลาเต้ร้อน(55 บาท) มัทฉะร้อน (70 บาท) คาปูชิโน่ร้อน(55 บาท) ตัวกาแฟรสนุ่มอร่อย ส่วนชาเขียวมัทฉะขอกดหัวใจรัวๆ เพราะเขาใช้ผงมัทฉะแท้จากญี่ปุ่น เข้ม หอม อร่อย
ส่วนเครื่องดื่มเย็นๆ ก็มีให้เลือกมากมาย สายโซดา แนะนำ 2 เมนูนี้จ้ากับแพชชั่นฟรุ๊ตโซดา(55 บาท) และ เดอบีชเฮาส์โซดา(55 บาท) เปรี้ยวหวานซ่าชื่นใจ
ขนมก็มีให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งบิงซู เครป โทส จานใหญ่น่ากินมากๆ ค่ะ เราสั่งฟรุ๊ตเครป (159 บาท) เครปเย็นที่ตัววิปครีมอร่อยไม่เลี่ยน เสิร์ฟพร้อมผลไม้สดมากมาย ทั้ง กีวี สตรอว์เบอร์รี แก้วมังกร กินคู่กับไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีท้อปด้านบนด้วยวิปครีม สายของหวานอย่างเราได้กินก็ยิ้มจนตาหยีเลยทีเดียว
ปิดท้าย ท้ายสุดจริงๆ กับฮันนี่โทส (149 บาท) จานยักษ์มากๆ ขนมปังชิ้นใหญ่จุใจด้านนอกทาด้วยน้ำผึ้งหวานหอม เนื้อด้านนอกเหลืองกรอบ ด้านในนุ่ม เสิร์ฟมาพร้อมกับผลไม้สด ทั้ง แก้วมังกร แตงโม กีวี ส้ม กินคู่กับไอศกรีมวินิลลาและช็อกโกแลตหวานเย็น เรารับประกันว่าอร่อยไม่แพ้ร้านขนมเจ้าดังกันเลยค่ะ ใครมาร้านนี้รับรองว่าทั้งคาวก็อร่อย หวานก็ดี ขอยกให้เป็นร้านในดวงใจกันเลย
ที่ตั้ง : De Beach House ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 8.00-20.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 096 293 5563
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/FxGcnXFLVYnZqE4a7
คืนนี้เราพักที่ Sattahiptale Boutique Guesthouse & Hostel ที่พักสุดฮิปที่ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านชาวประมงสัตหีบค่ะ โดยการตกแต่งที่พักเป็นธีมทหารเรือและหมู่บ้านชาวประมง มีห้องพักทั้งแบบห้องเดี่ยวมีห้องน้ำส่วนตัว ห้องเดี่ยวพร้อมห้องน้ำรวม และโฮสเทลห้องรวมให้บริการ
ซึ่งสาเหตุที่ตกแต่งด้วยธีมทหารเรือเนื่องจากคุณพ่อของเจ้าของที่พักเป็นทหารเรือ ภายในที่พักจึงมีรูปคุณพ่อของเจ้าของที่พักติดอยู่มากมายเลยค่ะ ส่วนการผสมผสานกับความเป็นหมู่บ้านชาวประมงเนื่องจากสถานที่ตั้งของที่พักแวดล้อมไปด้วยหมู่บ้านชาวประมง มีการนำไม้จากเรือประมงมาทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์ ส่วนห้องพักก็จะตั้งชื่อตามตำแหน่งของทหารเรือในเรือที่ทำหน้าที่ในเรือ
ตัวที่พักมีทั้งหมด 4 ชั้น โดยไม่มีลิฟต์นะคะ ไม่แนะนำสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุค่ะ แต่สำหรับกลุ่มเพื่อนหรือคู่รักที่ต้องการพักในที่พักชิคๆ มุมถ่ายรูปเพียบก็ต้องมาที่นี่เลย เพราะแต่ละมุมนั้นเขาจัดได้น่านั่งถ่ายรูปมากๆ ซึ่งถ้าจากชั้นล่างสุดซึ่งเป็นล็อบบี้ เดินขึ้นมาชั้น 2 ก็จะพบกับมุมนั่งเล่น มีตู้เย็นส่วนกลางพร้อมห้องน้ำส่วนกลาง แบ่งเป็นห้องสุขา 3 ห้อง และห้องอาบน้ำ 3 ห้อง สำหรับห้องโฮสเทลให้บริการ ซึ่งภายในห้องน้ำจะมีสบู่เหลว แชมพู ไดร์เป่าผมให้บริการพร้อมเลยค่ะ
ห้องที่เราพักคืนนี้ซึ่งห้องพักที่เราพักกันในวันนี้เป็นห้องพักที่วิวดีที่สุดของที่พักกันเลยค่ะ ชื่อห้องผู้การ ตั้งอยู่ชั้น 4 ห้องพักกว้างขวาง ตกแต่งด้วยโทนสีขาวตัดด้วยสีเอิร์ธโทนของไม้ สามารถชมวิวทะเลสัตหีบ และหมู่บ้านชาวประมง ได้จากเตียงเลยค่ะ ราคาห้องนี้ 2,500 บาท/คืน สามารถเข้าพักได้ 2-3 คน (ราคาไม่รวมอาหารเช้า) เสริมได้ 1 คนราคา 350 บาท
บรรยากาศตอนกลางคืนก็สวยไม่แพ้กลางวันเลยค่ะเมื่อพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าแสงไฟจากเรือประมงจะแต่งแต้มให้ทะเลสีน้ำเงินระยิบระยับราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าเลยค่ะ ส่วนห้องนอนของเรายามค่ำคืนเมื่อแสงไฟสีส้มภายในห้องส่องสะท้อนห้องนอนก็ทำให้ห้องนอนบรรยากาศอบอุ่นน่านอนมากๆ
ด้านหลังเตียงจะเป็นโซนนั่งเล่นมีโซฟาเบ้ดที่สามารถปรับเป็นเตียงได้ มีทีวีแอลซีดีจอใหญ่ ตู้เย็น น้ำเปล่า ไดร์เป่าผม กาต้มนเำ ชากาแฟ ซอง และสัญญาณอินเตอร์เน็ตไวไฟ
ความพิเศษของห้องนี้คือเป็นห้องเดียวที่มีอ่างอาบน้ำให้ได้นอนแช่ตัวผ่อนคลายอีกด้วยค่ะ
อีกห้องหนึ่งที่เราจะพาไปชมชื่อห้องต้นกลค่ะ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 เป็นอีกหนึ่งห้องที่วิวดีสามารถชมวิวทะเลได้เช่นกัน แต่จะไม่เห็นชัดเท่าห้องผู้การค่ะ บรรยากาศน่ารักเหมือนกัน ตกแต่งด้วยธีมสีขาวเหมือนกัน ห้องนี้ราคา 1,500 บาท/คืน พักได้ 2 ท่านไม่สามารถเสริมเตียงได้(ราคาไม่รวมอาหารเช้า)
ห้องน้ำจะเป็นแบบชาวเวอร์พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น สบู่เหลว และแชมพูสระผม
บนชั้นดาดฟ้าของที่พักทำเป็นบาร์แบบเอาท์ดอร์ให้จิบเครื่องดื่มชมวิวทะเล โดยบริเวณบาร์จะให้บริการเครื่องดื่มทั้งค็อกเทล และม็อกเทล จะไม่มีอาหารให้บริการ
บรรยากาศยามเย็นสวยงามประทับใจมากๆ ค่ะ
ที่ตั้ง : Sattahiptale Boutique Guesthouse 132 ตำบล สัตหีบ อำเภอสัตหีบ ชลบุรี
ราคา : 350-2500 บาท
เบอร์ติดต่อ : 0909945496
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/H2EMzmG9yeHnyYv37
เนื่องจากตอนบ่ายเราจัดหนักที่ร้าน De Beach House กันเต็มที่ค่ำนี้เราเลยขอทานอะไรง่ายๆ สบายๆ ที่ตลาดโต้รุ่ง ถนนสายเก่าสัตหีบ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหลังที่พักเราเลยค่ะ สามารถเดินไปได้ มีร้านข้าวต้ม ร้านผัดไทย หอยทอด ออส่วน โรตี ของกินเล่นให้เดินกิน นั่งกินมากมายเลยค่ะ
ที่ตั้ง : ตลาดโต้รุ่ง ถนนสายเก่าสัตหีบ ซอยเทศบาล 4 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/zUoouxKH76ntYYNWA
เช้าวันต่อมาเราตื่นแต่เช้ามาเดินหาของกินอร่อยๆ กันที่ตลาดเช้าสัตหีบ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนเทศบาล 3 ใกล้กับที่พักของเราค่ะ ขับรถไม่ถึง 5 นาที ยามเช้าคนเยอะมากๆ และมีมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าตลาดอย่างเข้มข้น
ในตลาดมีทั้งของสด ซีฟู้ดขายมากมายเลยค่ะ รวมทั้งโจ๊ก ต้มเลือดหมู กาแฟโบราณ ข้าวเหนียวไก่ทอด เติมพลังยามเช้ากันจนเต็มที่พร้อมจะเดินทางไปเที่ยวที่ต่อไป
ที่ตั้ง : ตลาดเช้าสัตหีบ ซอยเทศบาล 3 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/Lo6m7F6AJWsbC9Ab6
หลังจากทานอาหารเช้ากันจนอิ่มตื้อ หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนเลยขอเรียกความสดชื่นยามเช้าที่ร้าน Café Amezon สาขาฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งเป็นคาเฟ่อเมซอนริมทะเลที่แรกของเมืองไทย ขอบอกเลยว่าวิวดีสุดๆ ค่ะ
ไฮไลท์คือป้ายคาเฟ่อเมซอนสีขาวริมทะเล เป็นจุดยอดฮิตสำหรับการถ่ายรูปเช็คอิน
ร้านจะเป็นอาคารสีขาว มีสองชั้นกรุกระจกใสรอบตัวร้านสามารถชมวิวทะเลสัตหีบได้แบบพาโนราม่า เราเลือกที่นั่งริมกระจกบนชั้น 2 ค่ะ ที่สามารถชมวิวทะเลได้อย่างสวยงาม ระหว่างชมวิวไปก็จิบลาเต้เย็นๆ ชมวิวทะเลไปด้วย โอ๊ยยยดีต่อใจมากๆ ค่ะ
ที่ตั้ง : ร้าน Cafe Amazon ริมถนนเลียบชายหาด ฐานทัพเรือสัตหีบ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดบริการทุกวัน 6.00 - 20.00 น.
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/VLpxy34N4cwGaFuF9
แวะเล่นน้ำที่หาดเตยงาม หรืออ่าวนาวิกโยธิน ภายในมีร้านขายอาหาร มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำบริการ พร้อมบริการเสื่อ เตียงผ้าใบ ซึ่งตอนนี้เขาจำกัดนักท่องเที่ยวให้เพียงวันละ 300 คนเท่านั้น ใครจะไปเที่ยวช่วงวันหยุดแนะนำว่าควรไปแต่เช้าตรู่ก่อน 8 โมงค่ะ เพราะถ้าคนเต็มทางหาดจะปิดรับนักท่องเที่ยวทันที
ที่ตั้ง :อ่าวนาวิกโยธิน หาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 9.00-18.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/jbNyvvAwocbhMma36
ก่อนกลับบ้านเราเดินทางไปทานอาหารอร่อย พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลพัทยาที่ร้านปาป้า บีช พัทยา (Papa Beach Pattaya) บีชบาร์สไตล์บาหลีชมวิวทะเลพัทยาที่กำลังมาแรงสุดๆ
ตัวร้านตั้งอยู่มุมสูงปลายสุดของหาดบ้านอำเภอ สามารถชมวิวหาดบ้านอำเภอมุมโค้งที่สวยงาม เรามาถึงร้านประมาณ 4 โมงเย็นค่ะ จึงเก็บภาพตั้งแต่พระอาทิตย์กำลังคล้อยต่ำ และเฝ้ารอพระอาทิตย์โบกมือลาไปนอนหลับที่ปลายขอบฟ้า
ทุกมุมของร้านเหมือนจัดมาให้เราได้ถ่ายภาพไปลงนิตยสาร เพราะมันดีส์ๆๆๆๆ ทุกมุมเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์บาร์ เปลตาข่าย มุมสระว่ายน้ำ เรียกว่าใครเป็นสายแฟ จัดเสื้อผ้ามาได้เลยไม่ต้องยั้งเพราะถ่ายสวยทุกมุม
มุมสระว่ายน้ำสีฟ้าแจ๋วยอดฮิตของร้าน ตัดด้วยร่มและหมอนสีเหลือง เป็นอีกหนึ่งมุมฮอตฮิตที่จะถ่ายมุมไหนก็ชิคเก๋โดนใจ
มุมเก้าอี้ชายหาดบรรยากาศสุดชิลพร้อมชมวิวทะเลแบบเต็มๆ ตา
จากนั้นเราจะพาไปชมจุดถ่ายรูปที่ฮิตที่สุดของร้านนั่นก็คือจุดถ่ายรูปรังนก ซึ่งจะต้องเดินลงไปด้านล่างค่ะ และจะอนุญาตให้ลูกค้าที่มีใบเสร็จค่าอาหารและเครื่องดื่มจั้นต่ำ 1 ท่าน/1 เมนูจะเป็นเมนู เครื่องดื่ม อาหาร หรือขนมหวานก็ได้ค่ะ จุดถ่ายรูปรังนกมี 2 จุดค่ะ โดยจุดแรกคนจะค่อนข้างเยอะแนะนำว่าให้ไปถ่ายจุดที่สองก็สวยไม่แพ้กันเลยค่ะ
มุมรังนกด้านในที่คนจะไม่เยอะเท่าจุดแรกใครไม่อยากรอก็สามารถมาถ่ายมุมนี้ได้เลยสวยไม่แพ้กัน
มีเปลตาข่ายและเทอร์เรซให้นั่งชิลถ่ายรูปพร้อมวิวทะเลปังๆ
มาดูเมนูอาหารที่เราสั่งมาทานในวันนี้กันค่ะ เริ่มต้นด้วยไส้กรอกรมควัน (380 บาท) เสิร์ฟมาพร้อมเฟรนช์ฟรายส์ ซอสมัสตาร์ด และซอสมะเขือเทศ
ส่วนขนมเขาสั่ง Papa Crisps(220 บาท) มาทานเล่นกันค่ะ เป็นแผ้นแป้งกรอบโรยน้ำตาลไอซ์ซิ่ง เสิร์ฟมาพร้อมครีมดิป แนะนำว่าทานคู่กับไอศกรีมก็เริ่ด
Papa Ice Cream(280 บาท) ที่สามารถเลือกได้ 3 รสชาติเสิร์ฟมาในลูกมะพร้าว ท็อปด้วยวิปครีมและหางนางเงือกสีพาสเทลทั้งน่ารักและน่ากิน เป็นเมนูที่ใครมาก็ต้องสั่งถ่ายรูปเกร๋ๆ
ส่วนเครื่องดื่มเราสั่ง Papa Punch (180 บาท) ม็อคเทลรสพันช์สีฟ้า และ Pink Paradise(180 บาท) ม็อคเทลรสสตรอว์เบอร์รีสีชมพู มาจิบพร้อมชมวิวทะเลฟินมากๆ
บรรยากาศตอนกลางคืนก็สวยไม่แพ้ตอนกลางวันค่ะ ทุกมุมก็จุดถ่ายรูป แม้กระทั่งบริเวณหน้าห้องน้ำก็เป็นจุดถ่ายรูปสวยอีกหนึ่งที่ค่ะ ภายในห้องน้ำผู้หญิงเขาจะทำเป็นหน้าต่างทรงโค้งที่สามารถชมวิวทะเลสีฟ้าได้จากห้องน้ำกันเลย
ที่ตั้ง : ปาป้า บีช 47, 41, หมู่3 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ ชลบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 9.30-19.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 063 949 4635
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/FFGT2BUSrngKDvuj8
สรุปค่าใช้จ่ายทริป
- ค่าทริปเรือใบคนละ 995 บาท/คน
- ค่าอาหาร De Beach House (ทานกัน 4 คนมีเพื่อนมาช่วยแชร์)ตกคนละ 400 บาท/คน
- ค่าที่พักที่ Sattahiptale Boutique Guesthouse & Hostel 1,250 บาท/คน
- ค่าอาหารค่ำที่ตลาดโต้รุ่งคนละ 200 บาท
- ค่าอาหารเช้าที่ตลอดเช้าสุตหีบคนละ 100 บาท
- ค่ากาแฟอเมซอนค่าเฟ่ 70 บาท
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านปาป้า บีช 430
- ค่าน้ำมันคนละ 500 บาท
- อื่นๆ 300 บาท
รวม 4,245 บาท
บทความแนะนำ:
10 ที่พักสัตหีบริมทะเล นอนมองทะเลได้จากเตียง อัพเดตใหม่ 2020>>https://www.chillpainai.com/scoop/11931
10 ทริปดำน้ำแสมสาร สัตหีบ ชลบุรี อัพเดตใหม่ 2020>>https://www.chillpainai.com/scoop/11724
10 หาดสวยสัตหีบ เที่ยวได้แบบ One Day Trip>>https://www.chillpainai.com/scoop/11460
Tags: ชลบุรี ทริปตัวอย่าง สัตหีบ พัทยา เที่ยวชลบุรี เที่ยวพัทยา ที่เที่ยวชลบุรี เที่ยวสัตหีบ ที่เที่ยวพัทยา ที่เที่ยวสัตหีบ ร้านอาหารชลบุรี ร้านอาหารพัทยา ร้านอาหารสัตหีบ คาเฟ่พัทยา คาเฟ่สัตหีบ คาเฟ่ชลบุรี ที่กินพัทยา ที่กินชลบุรี ที่กินสัตหีบ ล่องเรือใบ SATTAHIP Sailing Club De Beach House Sattahiptale Boutique Guesthouse ตลาดโต้รุ่ง ถนนสายเก่าสัตหีบ ตลาดเช้าสัตหีบ Café Amezon สาขาฐานทัพเรือสัตหีบ หาดเตยงาม Papa Beach Pattaya ดำน้ำ
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 411 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 355 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 878 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,191 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ต.ค. 2024 | 876 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน ทริปตัวอย่าง | 11 ก.ย. 2024 | 2,232 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 05 ส.ค. 2024 | 1,975 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 31 ก.ค. 2024 | 1,433 อ่าน
ทริปตัวอย่าง ที่เที่ยว | 25 ก.ค. 2024 | 1,323 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 23 ก.ค. 2024 | 2,111 อ่าน