หนึ่งวันชิลๆ ขับรถเที่ยวบางขุนเทียน-บ้านสาขลา ไม่ต้องไปไกลก็ฟินได้!

ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวเพื่อชาร์จแบตหลายคนคงนึกถึงการไปเที่ยวต่างจังหวัดเพื่อไปสัมผัสธรรมชาติ เช็คอินสถานที่สวยๆ แต่จะบอกว่าอันที่จริงแล้วการไปเที่ยวชาร์จแบตเติมพลังให้ชีวิตนั้นไม่จำเป็นต้องไปถึงต่างจังหวัดเลย เพราะในกรุงเทพฯ เอง ก็มีพิกัดท่องเที่ยวให้ไปแบบเช้า-เย็นกลับได้เยอะมาก อย่างสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณแฟนชวนเราไปเที่ยวบางขุนเทียน-บ้านสาขลาแบบ One Day Trip ขอบอกว่าที่นี่นอกจากจะเป็นเมืองชายทะเล และเป็นที่สูดอากาศบริสุทธิ์อีกหนึ่งแห่งของคนเมืองแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้ได้พักผ่อนเสพความสุขชิลๆ และสัมผัสวัฒนธรรมความเป็นอยู่ริมคลองแบบไม่เร่งรีบ ซึ่งพวกเราแฮปปี้กับทริปนี้มากจนต้องเอามาแนะนำ เผื่อจะมีชาวชิลคนไหนกำลังมองหาที่เที่ยวพักผ่อนในวันหยุดนี้แบบ One Day Trip เหมือนกันไงล่ะ

แน่นอนว่าทริปตะลุยเที่ยววันเดียวของเรานั้นจะขาดเพื่อนซี้คนสำคัญอย่าง ISUZU MU-X THE NEW ONYX ไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะเป็นรถที่คุ้มค่า ฟังก์ชันครบ ใช้ได้อเนกประสงค์เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งขับไปทำงานและเที่ยวก็ครบจบที่คันเดียว แถมยังขับง่าย คล่องตัว เน้นความประหยัดน้ำมัน นอกจากเครื่องยนต์ที่แรงและห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย เก็บของได้เยอะแล้ว ความประทับใจของเรากับรถคันนี้ก็คือตัวรถภายนอกที่ดูเท่ ดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ทันสมัยด้วยชุดแต่งลายเส้นเฉียบคม The Absolute ONYX Edition ใหม่รอบคัน เสริมลุคดูเข้มและหรูหรามากขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานของเราที่เน้นไลฟ์สไตล์และคุณแฟนที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่สุด

ส่วนการออกแบบดีไซน์ภายในก็ดูโดดเด่นมีมิติจาก Ambient light บริเวณแผงข้างประตู อีกทั้งยังใช้ชุดตกแต่ง Piano Black บริเวณคอนโซลกลางและคอนโซลเกียร์ เติมเต็มความเข้มคูลและดูหรูแบบมีระดับสมกับคอนเซ็ปต์ ‘สัมผัสที่ใช่...ของการใช้ชีวิต’ จริงๆ 

ก่อนออกเดินทางพวกเราเลยวางแผนกันก่อนว่าจะไปช้อปปิ้งต้นไม้มาแต่งบ้านกันที่ตลาดธนบุรี (สนามหลวง 2) ก่อนจะแวะไปเติมความสดชื่นกันที่ Natura Garden Cafe คาเฟ่เก๋ในสวนลิ้นจี่ จากนั้นก็จะไปทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน ธารทะเลซีฟู้ด และไปสักการะหลวงพ่อโตที่วัดสาขลาเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะไปนั่งชิลๆ ปิดท้ายทริปกันที่ร้านที่รฤก คาเฟ่ เป็นอันจบแพลนค่ะ

ตลาดธนบุรี (สนามหลวง 2) 

สำหรับตลาดธนบุรีหรือที่นิยมเรียกติดปากกันว่าสนามหลวง 2 นั้น ตั้งอยู่แถวถนนคลองเลียบคลองทวีวัฒนาค่ะ เป็นตลาดย่านฝั่งธนที่รวมร้านขายไม้ประดับ ของตกแต่งบ้าน สัตว์เลี้ยง และขายสินค้าเบ็ดเตล็ดทั่วไปและอุปกรณ์เดินป่าเอาไว้ ซึ่งที่นี่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายชนิดแบ่งออกเป็น 11 โซน มีที่จอดรถสะดวกสบาย เดินง่าย เรียกว่าเป็นจุดนัดพบของคนชอบช้อปปิ้งเลยก็ว่าได้ค่ะ 

ด้วยความที่เรากับแฟนตั้งใจจะมาเดินเลือกซื้อต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มุมต่างๆ ในบ้านกันที่นี่ พอจอดรถเสร็จเราสองคนก็มุ่งตรงไปยังโซน 1-2 ที่ขายต้นไม้และอุปกรณ์ปลูกต้นไม้รวมไปถึงสินค้าของตกแต่งบ้านก่อนเลย โดยที่นี่จะแบ่งออกเป็นซอยคล้ายกับตลาดนัดสวนจตุจักรเลยค่ะ มีต้นไม้ให้เลือกเยอะมากกก ทั้งแคคตัสและไม้อวบน้ำ ไม้มงคล ไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้จัดสวนถาด สวนจิ๋ว ไม้กระถางเล็ก กล้วยไม้ พืชผักสวนครัว กระถางต้นไม้ ไปจนถึงปุ๋ย ดิน อิฐ หิน และอุปกรณ์ทำสวนให้เลือกซื้อกัน 

ตลาดธนบุรีเป็นตลาดต้นไม้ที่เดินเพลินมากเลยค่ะ มีต้นไม้ทุกต้นที่หนุ่มๆ สาวๆ กำลังนิยมแต่งบ้านในตอนนี้เลย เรากับแฟนจัดมาทั้งหมด 5 ต้น ทั้งแก้วสารพัดนึกไม้มงคลยอดนิยม เอื้องหมายนาด่าง เศรษฐีวิลสันด่างไม้ประดับหายาก และไม้ฟอกอากาศมาแรงอย่างไทรใบสักและยางอินเดียที่สามารถปลูกประดับในบ้านได้ เลี้ยงง่าย โตช้า วิธีการดูแลทางร้านแนะนำว่าสองต้นนี้ชอบแสงรำไร หมั่นรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นสัปดาห์ละ1-2 ครั้ง เท่านั้นเอง

เมื่อได้ต้นไม้ กระถาง และปุ๋ยครบแล้ว ก็ได้เวลาขนขึ้นรถเตรียมมูฟออนแล้วค่ะ โชคดีนะที่ ISUZU MU-X THE NEW ONYX ห้องโดยสารกว้างกว่ารถทั่วไป สามารถพับเบาะตอน 3 เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในรถให้วางของขนาดใหญ่ได้ ทำให้พวกเราขนต้นไม้ทั้งต้นเล็กต้นใหญ่เหล่านี้ได้แบบชิลๆ แถมยังเหลือพื้นที่สำหรับวางของเพิ่มด้วยล่ะ 

และอีกหนึ่งสิ่งที่เรากับคุณแฟนเลิฟมากในรถรุ่นนี้ก็คือเบาะ Cool Max นวัตกรรมใหม่ ที่ผลิตจากวัสดุพิเศษลดการสะสมความร้อนได้มากกว่าเมื่อเทียบกับเบาะทั่วไป เพราะก่อนที่จะไปเดินตลาดต้นไม้พวกเราจอดรถไว้กลางแดด พอขนต้นไม้ขึ้นรถและกลับขึ้นมานั่งบนรถเบาะก็ยังให้ความรู้สึกเย็นสบายพร้อมมุ่งสู่จุดหมายต่อไปอย่างไร้ความหงุดหงิด

ตลาดธนบุรี (สนามหลวง 2) 

ที่ตั้ง : ถนนทวีวัฒนา แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพ

วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 024214524

GPS : https://goo.gl/maps/KmdgHHGPg1a4LFW28 

Natura Garden Cafe

มาต่อที่ Natura Garden Cafe คาเฟ่ไม้ไผ่ในสวนลิ้นจี่ร้อยปีอย่างภูมิใจการ์เด้นที่ซ่อนตัวอยู่ริมคลองบางขุนเทียน คุณแฟนเราบอกว่าที่นี่นอกจากจะเป็นคาเฟ่บรรยากาศดีทุกอณูรายล้อมไปด้วยธรรมชาติเขียวขจีแล้ว พื้นที่กว่า 7 ไร่ ผืนนี้ยังเป็นมรดกจากบรรพบุรุษที่เจ้าของร้านตั้งใจดูแลรักษาไว้อย่างภูมิใจ ด้วยการเปิดพื้นที่ให้คนอื่นๆ ได้เข้ามาเรียนรู้วิถีชีวิตริมคลองพาเที่ยวในสวนเรียกว่าการ์เด้นทัวร์ที่มีเงื่อนไขว่าต้องจองล่วงหน้า อีกทั้งยังแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้สำหรับคาเฟ่ซึ่งมาในคอนเซ็ปต์ public space ให้ผู้คนได้เข้ามารีชาร์จความสุขระหว่างวัน เดินเล่นพักผ่อนกันในสวนนั่นเอง

เราว่าที่นี่เป็นคาเฟ่ที่เชื่อมต่อความเป็นธรรมชาติและไลฟ์สไตล์คนเมืองเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวทีเดียวค่ะ เพราะแค่ก้าวเข้ามาในบริเวณร้าน เรากับแฟนสัมผัสถึงการพักผ่อนอย่างเพลิดเพลินด้วยโครงสร้างไม้ไผ่ที่ตัดกับพื้นที่สีเขียวเต็มสวน เคราฤาษีมากมายที่แขวนอยู่บนต้นลิ้นจี่ รวมไปจนถึงคลองท้องร่องตรงกลางที่แสดงตัวตนถึงวิถีริมคลองบางขุนเทียน เรียกได้ว่ามาที่นี่ทุกคนจะได้หลีกหนีความวุ่นวาย ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างแท้จริง

คาเฟ่แห่งนี้เน้นเสิร์ฟความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูเครื่องดื่ม เบเกอรีโฮมเมด และอาหารเมนูโบราณที่สื่อสารวิถีชีวิตของผู้คนโดยรอบคลองบางขุนเทียนด้วยสูตรเฉพาะและความตั้งใจของทางร้านซึ่งได้คัดสรรวัตถุดิบในสวนที่ถูกมองข้ามอย่างตะลิงปิง ใบชะพลู มาประกอบอาหารและเครื่องดื่ม เสียดายที่วันนี้เราสองคนแพลนจะไปทานอาหารทะเลกันไว้แล้ว คุณแฟนเลยสั่งขนมมา 2 อย่าง คือ Mocha Mousse Cake มูสมอคค่าผสมช็อกโกแลตเนื้อเนียนนุ่ม ที่เสิร์ฟความหอมกรุ่นมาพร้อมคิทแคทด้านบน โดยมีความพิเศษอยู่ที่รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม ละมุนลิ้นสุด และอีกหนึ่งเมนูคือ New York Cheesecake ชีสเค้กที่ผสมผสานความอร่อยเข้ากันได้ดีกับ Cracker ด้านล่าง ให้รสชาติกลมกล่อม พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของครีมชีส 

ส่วนเครื่องดื่มเราสั่ง Butterfly Pea Flower Latte เครื่องดื่มรสชาติเข้มข้นที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของอัญชัน อีกสองแก้วของคุณแฟนคือ Latte ลาเต้ร้อนรสชาติดีที่ทางร้านใช้นมในการวาดลวดลายลงบนกาแฟให้เป็นลาเต้อาร์ท ก่อนจะตบท้ายด้วยเครื่องดื่มเรียกความสดชื่นอย่าง Thai Tea Passion fruit เครื่องดื่มสุดพิเศษที่ครีเอทออกมาเป็นเมนูชาไทยโดยผสมผสานความหอมหวานด้วยน้ำเสาวรส และเพิ่มความสดชื่นด้วยผลเสาวรสสดที่ท็อปมาด้านบนอีกที สำหรับแก้วนี้ดื่มแล้วจะสัมผัสได้ถึงความสดชื่นไปพร้อมกับรสเปรี้ยวอมหวานของผลไม้แบบพอดิบพอดี

Natura Garden Cafe

ที่ตั้ง : 9, 3 หมู่ 6 ถนนจอมทอง แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กรุงเทพ

วันและเวลาเปิด - ปิด : 10.00 - 17.00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)

เบอร์โทรศัพท์ : 0851231386

GPS : https://goo.gl/maps/rRaM94ECTmz57qUm8 

ธารทะเลซีฟู้ด

ทานขนมรองท้องไปพลางๆ กับถ่ายรูปเล่นกันสักพักเราสองคนก็สตาร์ทรถไปต่อยังธารทะเลซีฟู้ด ร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังบรรยากาศดีในย่านบางขุนเทียนชายทะเล เขตเดียวของกรุงเทพฯ ที่มีพื้นที่ติดกับทะเลอ่าวไทย วิธีการเดินทางมายังร้านที่สะดวกที่สุดคือใช้ทางด่วนลงถนนพระราม 2 ขับไปประมาณ 5 กม.ให้ชิดซ้ายออกทางคู่ขนาน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ขับไปอีก 7 กม. ก็จะเจอร้านตั้งโดดเด่นอยู่ริมถนนทางซ้ายมือ บริเวณหน้าร้านมีที่จอดรถกว้างขวางจอดได้หลายสิบคันสบายๆ เลยค่ะ

ตัวร้านล้อมรอบด้วยนากุ้งและลำคลองที่ไหลเชื่อมต่อลงสู่ทะเลอ่าวไทย มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปอยู่หลายมุม ส่วนภายในร้านก็มีให้เลือกนั่งถึง 7 โซนด้วยกัน อาทิ โต๊ะนั่งทานอาหารด้านในอาคาร ลานดนตรีสด และโซนเอาท์ดอร์ที่เป็นระเบียงริมน้ำ พื้นปูด้วยหญ้าเทียมสีเขียวสบายตา พร้อมโต๊ะญี่ปุ่นให้เรานั่งบนเบาะริมน้ำ หรือใครอยากไปนอนเล่นบนเปลตาข่ายชิลๆ ก็สามารถเลือกจองโต๊ะในซุ้มศาลาส่วนตัวริมน้ำได้เลย

สำหรับมื้อนี้พวกเราจัดหนักจัดเต็มสุดๆ เริ่มต้นความอร่อยกันที่ปูนึ่งจานโตที่ทางร้านแกะเนื้อปูมาให้เสร็จสรรพ เราไม่ต้องแกะทานเองให้เสียเวลา รสชาติหวานโดยธรรมชาติ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มสุดจี๊ด ตามมาด้วยปูดองสดใหม่พร้อมไข่ทานกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าอร่อยถูกใจ ต่อด้วยยำหอยนางรมสดที่ท็อปด้วยไข่แดงเค็มปรุงรสด้วยน้ำมะนาว พริกขี้หนูสีสดและกระเทียมที่ขนมาเพิ่มความเเซ่บทั้งสวน ลองแล้วช่วยเรียกน้ำย่อยให้อยากทานเมนูต่อไปในทันที หรือใครชอบห่อหมกต้องสั่งห่อหมกกุ้งเน้นๆ จานนี้ได้สัมผัสกับรสชาติของกุ้งแม่น้ำตัวโต เนื้อเต็มๆ คำ อีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ของที่นี่คือต้มยำปลาคัง ต้มยำน้ำข้นแบบไทยๆ หอมกลิ่นสมุนไพรหลากชนิด รสชาติกลมกล่อมเข้มข้น เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อปลาหวานสด ถูกใจคนรักความจัดจ้านแน่นอน ก่อนจะปิดท้ายด้วยข้าวผัดทะเลจานใหญ่ เมนูนี้ใช้ข้าวสวยผัดเคล้ากับเครื่องปรุงจนได้รสกลมกล่อม ท็อปด้านบนด้วยเนื้อปูก้อน กุ้งลวก และหมึก ช่วยเติมเต็มให้มื้อนี้คอมพลีสมากยิ่งขึ้น

ธารทะเลซีฟู้ด

ที่ตั้ง : 1025/3 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ

วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 0628199333

GPS : https://goo.gl/maps/ozhunn8rBTZJH7pp6 

อิ่มท้องแล้วก่อนจะเคลื่อนตัวไปสักการะหลวงพ่อโต เราอยากบอกว่าทริปเที่ยวของพวกเราวันนี้จัดว่าเซฟค่าน้ำมันมากๆ เพราะ ISUZU MU-X THE NEW ONYX เน้นประหยัดน้ำมัน มีฟังก์ชันเพื่อแสดงและคำนวณอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้แบบ Real Time เรียกว่าประหยัดน้ำมันชนิดที่ขับเที่ยวมา 3 ที่น้ำมันลดไปเพียงแค่ขีดเดียว ส่วนใครที่ชอบเปิดดูทีวีระหว่างนั่งรถไปกับแฟนหรือใครมีเด็กเล็กในครอบครัวคันนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์สุดๆ เพราะมีจอภาพบนเพดานแบบ Built-in ขนาด 10.5 นิ้ว สามารถดูทีวีดิจิตอลได้สบายเลยล่ะ 

วัดสาขลา

จากธารทะเลซีฟู้ดเรากับแฟนก็ออกเดินทางต่อตามแพลน เปิด GPS มุ่งตรงไปยังวัดสาขลา เราเดินทางกันสะดวกมากๆ ไม่ต้องพะวงคอยดูทางในสมาร์ทโฟน แถมคุณแฟนยังมองเห็นทางชัดเจนโดยที่เราไม่ต้องบอกเพราะหน้าจอสัมผัสมีขนาดใหญ่ถึง 8 นิ้ว ในส่วนของตัววัดนั้นซ่อนตัวอยู่ในชุมชนโบราณที่ตั้งอยู่ริมปากแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีคลองสรรพสามิตไหลผ่านกลางหมู่บ้าน มีประวัติเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาว่ากันว่าพื้นที่แห่งนี้ผู้ชายในหมู่บ้านยกทัพไปช่วยสู้รบในพระนครกันหมด เหล่าผู้หญิงในหมู่บ้านลุกขึ้นจับดาบลุกขึ้นสู้กับพม่าจนได้รับชัยชนะ จึงเป็นที่มาให้เรียกหมู่บ้านนี้ว่าหมู่บ้านสาวกล้าและเพี้ยนมาเป็นหมู่บ้านสาขลาจนถึงทุกวันนี้

ขับตาม GPS มาเรื่อยๆ เราก็มาถึงวัดแล้วค่ะ โดยวัดสาขลานั้นเป็นวัดประจำหมู่บ้านที่เป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านทุกคน ภายในมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอย่างหลวงพ่อโตองค์ใหญ่เป็นพระประธานประดิษฐานอยู่ด้านในโบสถ์ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่นิยมมาลอดโบสถ์ ลอดวิหารใต้ฐานหลวงพ่อโตเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ภายในวัดยังมีเรือนไทยที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองอยู่ด้านบน รวมถึงบ่อปลาคาร์ปกว่าร้อยตัวให้เราได้ร่วมให้อาหารทำทานด้วยนะ

และอีกไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนที่นี่ก็คือพระปรางค์เอียงสมัยอยุธยา โดยในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยถูกน้ำท่วมขัง พื้นดินจึงทรุดตัวทำให้พระปรางค์เอียง แต่ผ่านไปร้อยกว่าปีแล้วปัจจุบันก็ไม่ได้โค่นล้มแต่อย่างใด

พวกเราสักการะพระปรางค์และขึ้นไปไหว้พระทำบุญภายในโบสถ์เรียบร้อย ก็เตรียมเดินทางต่อไปยังร้านที่รฤกเพื่อนั่งชิลๆ อินบรรยากาศยามเย็น ซึ่งตอนขากลับภายในวัดรถค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะ ISUZU MU-X THE NEW ONYX คู่ซี้คันนี้ขับง่าย คล่องตัว แม้ปกติเราจะขับแต่รถเล็กๆ ไม่เคยขับรถประเภทนี้มาก่อน แต่ยังรู้สึกว่าน่าใช้ รัศมีวงเลี้ยวแคบกลับรถหรือถอยจอดได้ง่าย ที่สำคัญคือมีกล้องมองหลังตอนถอยจอด สะดวกสุดๆ

วัดสาขลา

ที่ตั้ง : 19 หมู่3 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 05.00 - 19.00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/bj8cBdqMZKN9s2QF6 

ร้านที่รฤก

พวกเราตั้งใจว่าจะมาจบวันกันที่ร้านที่รฤก พิกัดอยู่ไม่ไกลจากวัดสาขลาเท่าไหร่ ระหว่างเดินทางก็เพลิดเพลินมากๆ ฟังเพลงได้ตลอดทาง เพราะตัวรถมีระบบความบันเทิงครบครันด้วย ISUZU iConnect รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Smart Phone สามารถเชื่อมต่อ USB รองรับทั้ง Smart Phone เครื่องเล่น MP3 และ Flash Drive แถมยังมีช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสสลับ 220 โวลต์ ด้านหลังคอนโซลกลางและแน่นอนว่ามาพร้อมจุดเชื่อมต่อ USB ชาร์จไฟทั้งด้านหน้าและด้านหลังเลยจ้ะ เหมาะสำหรับคู่รักที่ไม่ค่อยพกแบตสำรองแบบเรามากๆ 

สำหรับร้านที่รฤกนั้นเป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอย่างแท้จริง ตัวร้านโดดเด่นด้วยการตกแต่งจากไม้เก่าที่เจ้าของร้านรื้อมาจากบ้านเดิม ภายในร้านมีมุมที่นั่งหลายสไตล์ แต่ละมุมตกแต่งด้วยข้าวของวินเทจ เช่น ถังน้ำมันที่ถูกทำเป็นเก้าอี้ ประตูบ้านที่มาทำเป็นโต๊ะ และยังมีเก้าอี้โรงภาพยนตร์สมัยก่อน ทั้งหมดอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์นากุ้งที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ลมพัดเย็นสบาย ยิ่งหากมาร้านยามพระอาทิตย์ใกล้ลับฟ้าคงเป็นอะไรที่ดีต่อใจจริงๆ เพราะมีดาดฟ้าให้นั่งใกล้ธรรมชาติมากขึ้นด้วย

ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มทางร้านจะเน้นเมนูทานเล่นง่ายๆ ประเภททอด ยำ ไข่กระทะ และเครื่องดื่มมากมายรวมถึงค็อกเทลให้เลือกสรร เรากับแฟนเลยสั่งค็อกเทลมาจิบชิลๆ เคล้าบรรยากาศยามโพล้เพล้กันคนละแก้ว ก่อนจะสั่งไส้กรอกทอดมาทานเล่นคู่กัน ขอบอกว่าเป็นอะไรที่ชิลสุดๆ 

ร้านที่รฤก

ที่ตั้ง : ถนนสุขสวัสดิ์-วัดสาขลา ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ

วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00 - 20.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 0845399544

GPS : https://goo.gl/maps/5baQx1JRXdauhYQx6 

แม้จะเป็นทริปสั้นๆ เพียงวันเดียว แต่พวกเราก็รีชาร์จความสุขกันแบบเต็มเปี่ยม จากจุดหมายสุดท้ายเราก็เดินทางกลับถึงบ้านกันโดยสวัสดิภาพ ทั้งนี้ต้องชื่นชมรถที่คุ้มค่าอย่าง ISUZU MU-X THE NEW ONYX คันโปรดของคุณแฟนจริงๆ เพราะตอบโจทย์การเดินทางทั้งไปเที่ยวและทำงานเลย แถมฟังก์ชันยังครบทั้งระบบ Entertainment และ Safety ที่เลิฟสุดคือความประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ก็ถือว่าจัดสมรรถนะมาเต็มเปี่ยม เรียกว่าเป็นรถอเนกประสงค์ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนไปลอง ‘สัมผัสที่ใช่...ของการใช้ชีวิต’ จริงๆ 

Tags: กรุงเทพ บางขุนเทียน บ้านสาขลา ทริปวันเดียว เที่ยวกรุงเทพ ที่เที่ยวกรุงเทพ ที่กินกรุงเทพ ตลาดธนบุรีสนามหลวง2 ตลาดต้นไม้ NaturaGardenCafe ธารทะเลซีฟู้ด วัดสาขลา ที่รฤกคาเฟ่ ISUZU ISUZUMUX IsuzuMUXTheNewONYX

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้