ที่เที่ยวจันทบุรี : อะโลฮ่า...ชวนกินปู ดูหิ่งห้อย นอนโฮมสเตย์ชิลๆ ที่จันทบุรีจ้า!!

ถ้าถามชาวกรุงว่ามีที่ไหนไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่สามารถเที่ยวแบบชิลๆ ได้ลิ้มรสอาหารทะเลสดอร่อยๆแบบไม่อั้น แถมได้สัมผัสวิถีชีวิตง่ายๆสบายๆแล้ว อยากจะบอกแก่ทุกคนว่าตอนนี้ฉันได้สถานที่ สเปคตามที่ว่านั้นเพิ่มมาอีกหนึ่งที่ในดวงใจแล้ว นั่นคือ อะโลฮ่า โฮมสเตย์  ไม่ใกล้ไม่ไกล ที่จังหวัดจันทบุรี น่ะเองงงง.... จากอดีตที่ใช้พื้นที่ทำนากุ้ง จนตอนนี้หันมาจับงานทางด้านธุรกิจท่องเที่ยว เปลี่ยนจากฟาร์มเป็นโฮมสเตยที่โด่งดัง ทำให้ที่นี่มีชีวิตชีวามากขึ้น

การเดินทางเข้าไปพักที่โฮมสเตย์นั้น เราจะต้องนั่งเรือเข้าไปค่ะ สภาพสองข้างทางตอนนี้ร่มรื่นไปด้วยป่าชายเลน

นั่งเรือไม่นาน เราก็เข้ามาถึงแล้ว.... อ่ะโลฮ่า... มาถึงเวลาใกล้เที่ยงๆแบบนี้ เค้าก็ต้อนรับเราด้วยน้ำเก็กฮวยหวานๆ ให้หายเหนื่อย ก่อนจะพาเราเดินสำรวจบริเวณรอบๆ และพาเราไปสู่บ้านพัก
 

อันนี้คือหน้าตาบ้านพักของเรา บ้านทั้งหมดแต่ละหลังจะมีชานกว้างๆ ติดกับแม่น้ำน้ำ สำหรับไว้ทำกิจกรรม จะนั่งคุย นอนเปล สังสรรค์ยังไงก็ได้ แถมมีคาราโอเกะให้ร้องกันตลอด 24 ชั่วโมงด้วย (แต่จะปิดตอนเที่ยงคืนนะจ๊ะ จะได้ไม่รบกวนคนนอนหลับพักผ่อน)

และแล้วก็ได้เวลาอาหารเที่ยง บุฟเฟ่ต์ค่ะ อันประกอบไปด้วย น้ำพริกปลาทู ผัดผักกูด แกงส้ม ขอบอกว่า... ผักกูดที่นี่สด กรอบอร่อยมากจร้า....

อิ่มหนำกันเราก็พากันไปดูวิวและธรรมชาติรอบโฮมสเตย์แห่งนี้กัน ได้บรรยากาศธรรมชาติมากๆ มีชาวบ้านกำลังแล่นเรือหางยาวออกไปจับปูกันด้วย

หน้าตาบ้านแต่ละหลัง จะอยู่ติดริมแม่น้ำ ตรงนี้เค้าเรียกว่า เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำปากแม่น้ำ............. รอบๆบ้านจึงเต็มไปด้วยต้นโกงกางและแม่น้ำเสียเป็นส่วนใหญ่

บรรยากาศเย็นย่ำ กิจกรรมที่นี่มีบริการคือ นั่งเรือหางยาว พาไปดูวิธีการจับปู หรือใครอยากจะลองพายเรือเล่นดูก็ได้ ชิวๆ แต่เราเลือกจะลองไปดูเค้าจับปูกัน อุปกรณ์ดักจับปูก็จะเป็นลักษณ์คล้ายกระชัง เอาแช่ทิ้งไว้ในน้ำ เป็นระยะๆ เอาเศษอาหารทิ้งไว้ด้านใน ถ้ามีปูตัวไหนใจง่ายหลุดเดินดุ๊ปๆเข้าไป ก็จะติดอยู่ในนั้น ออกมาไม่ได้ พี่คนขับเรือพาเรานั่งเรือออกไปยังจุดที่วางกระชังทิ้งเอาไว้ แล้วยกกระชังขึ้นดู ได้ปูบ้าง ไม่ได้บ้าง ได้ตัวเล็กบ้างตัวใหญ่บ้าง ก็ว่ากันไป....

เสร็จสิ้นวิธีการจับปู เค้าก็จะนำขึ้นมาบนฝั่งแล้วสาธิตวิธีการมัดปู และวิธีการจับปูที่ถูกวิธีโดยไม่ให้ปูหนีบ...\(^^)/ ปูแต่ละตัวที่จับขึ้นมา เป็นปูทะเลกล้ามใหญ่ๆ ตัวเบิ้มๆ ทั้งนั้นเลยแหละ รูปนี้ คือวิธีจับปูที่ถูกต้อง (ปูหนีบไม่ได้)
 

ส่วนรูปนี้ คือปูที่ถูกมัดอย่างถูกวิธีแล้วจ้า...
 

คุณพี่เจ้าของโฮมสเตย์ถึงกะมาสาธิตด้วยตัวเองเชียวนา.... เห็นปูมั้ย ตัวเบิ้มมากกกก... เย็นนี้จะได้กินตัวนี้มั้ยนะ
 

ระหว่างรอเวลาอาหารเย็นมื้อหย่าย เราก็ดื่มด่ำไปกับความสวยงามของธรรมชาติยามพระอาทิตย์กำลังจะลาลับท้องฟ้าไป
 

และแล้ว ก็ได้เวลาของอาหารมื้อค่ำจัดหนักกันแล้ว ทั้งปูเบิ้ม กุ้งอื้อ หอยนางรมหย่าย ปลาทอดตัวใหญ่มาก เขายกมาเสิร์ฟพร้อมให้เรากินได้ไม่อั้น ...ลองดูภาพสิ นี่คืออาหารบางเมนูที่เค้าจัดมาให้เราทาน สำหรับ 4 คนเองนะ !!!
 

อิ่มหนำจนพุงกางกันแล้ว เสียงเรียกจากทางโฮมสเตย์แว่วมาไกลๆว่า “ใครที่ต้องการจะนั่งเรือไปชมหิ่งห้อย เชิญทางด้านนี้เลยครับ” เรานั่งเรือหางยาวออกไปลำละประมาณ 5 คน พร้อมกับคนขับเรือ 2 คน พาเราลัดเลาะไปตามสุมทุมพุ่มไม้โกงกาง ตามหาเจ้าสิ่งมีชีวิตเล็กๆเรืองแสงสีเขียวที่ปล่อยแสงอันน่าพิศวงเป็นจังหวะ กระพริบ กระพริบ... เสียดายที่เราไม่สามารถเก็บภาพความงดงามอันนั้นเอาไว้ได้ แต่เรามีภาพบรรยากาศยามค่ำคืนหลังจากที่เรากลับมาจากการนั่งเรือไปชมหิ่งห้อยกันแล้ว เป็นภาพแสงสีตรงหน้าบ้านพักของเรา ถ่ายภาพเพลิดเพลินกันไปคั่นรายการคาราโอเกะเป็นพักๆ
 

อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ หลังจากนอนหลับเต็มอิ่ม เราถูกบังคับให้ตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะเสียงตามสายประกาศมาว่าจะมีการทำบุญใส่บาตรอาหารแห้ง ที่ลานตรงหน้าโรงอาหาร ใครใคร่ทำบุญก็เเล้วเเต่ตามจิตศรัทธา หลังจากนั้นก็จะเป็นเวลานั่งนอน ชิว ชมบรรยากาศยามเช้า ทานมื้อเช้ามื้อสุดท้ายกันก่อนกลับออกจากโฮมสเตย์
 

นั่งเรือออกมาจากโฮมสเตย์ อำลาความสงบเงียบไว้เบื้องหลัง ก่อนที่จะเดินทางกลับเข้ากรุงนั้น มันต้องเเวะเที่ยวสักที่ซะหน่อย เราตกลงเห็นพ้องต้องกันว่า อยากจะไปเยี่ยมเยือน ถ่ายรูปโบสถ์คริสต์สวยๆ แห่งหนึ่ง นั่นก็คือ “วัดพระแม่ปฏิสนธินิรมล” ด้วยความที่ฉันคิดอยากจะมาเเต่พลาดไปหลายครา บวกกับท้องฟ้าสีฟ้าสดสวยจับใจ เลยจัดกระหน่ำชัตเตอร์ไปไม่ยั้งกันเลยทีเดียว

แม้ว่าเเดดจะเเรงมากเเต่ก็ไม่ละทิ้งโอกาสอันดีในยามที่ท้องฟ้าสีสวยขนาดนี้มาบันทึกในเมมโมรี่การ์ด
 

เดินดูภายในโบสถ์ก็สวยอร่ามไม่เเพ้กันเลย (เรื่องของเรื่องคือหลบเเดดจัดที่ด้านนนอกนั่น 555) ภายในโดดเด่นด้วยความอลังการและหวานด้วยโทนสีโอลโรส
 

สุดท้ายก็คงต้องบอกลาจันทบุรีเพียงเท่านี้ ถ้าใครมีโอกาส อย่าลืมลองมาชิมอาหารทะเลสดๆ บรรยากาศสบายๆ แถมอร่อยเต็มอิ่ม ที่จันทบุรีกันดูนะคะ


เรื่องโดย : This road is mine

Tags: จันทบุรี

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้