เที่ยวกาญจน์หน้าฝน ลองแล้วจะตกหลุมรัก

หากมีคนถามว่าไปเที่ยวกาญจนบุรีฤดูไหนสวยที่สุด? เราขอยกให้ฤดูฝนเป็นอันดับหนึ่งในใจ นอกจากจะเป็นฤดูกรีนซีซั่นที่สดชื่นชุ่มฉ่ำ มองไปทางไหนก็เห็นต้นไม้สีเขียวสบายตา ฤดูฝนที่กาญจนบุรียังมาพร้อมกับความโรแมนติก ด้วยหมอกฝนสีขาวที่ไม่ต้องรอให้ถึงฤดูหนาว เราก็สามารถสัมผัสกับสายหมอกยามเช้าหลังฝนตกได้แบบนี้ เตรียมหัวใจของคุณไว้ให้พร้อม...แล้วตามไปตกหลุมรักเมืองกาญจน์หน้าฝนพร้อมกันกับเราเลยดีกว่า

ทริปนี้เราขับรถยนต์ไปเที่ยวกันเอง จากกรุงเทพฯ จุดแรกที่เราแวะกันคือที่ "มาตะกาญจน์" ร้านอาหารและคาเฟ่วิวทุ่งนาหลังวัดถ้ำเสือ ร้านเพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นานแต่กลายเป็นจุดเช็คอินและแลนด์มาร์คใหม่ของกาญจนบุรีที่กำลังมาแรงสุดๆ ในตอนนี้เลยค่ะ

พิกัดร้านหาไม่ยาก ตั้งอยู่ด้านหลังวัดถ้ำเสือ ปักหมุดแผนที่มาตาม Google Map มาตะกาญจน์ ก็จะเจอกับร้านดีไซน์เก๋ ตัวร้านออกแบบให้เป็น Barn House หรือโรงนา ครึ่งหนึ่งกรุด้วยสังกะสีเท่ๆ ดิบๆ สไตล์ลอฟท์ อีกครึ่งกรุกระจกใสสไตล์โมเดิร์น และยังมีรถเวสป้าจอดอยู่ด้านหน้าร้านเป็นจุดสังเกตอีกด้วยค่ะ

ภายในร้านมีที่นั่งทั้งโซนอินดอร์ด้านในร้านเป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ ตกแต่งเก๋ไก๋ มีดอกไม้แห้งห้อยประดับบนเพดาน พร้อมยังมีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ และโซนเอาท์ดอร์ด้านนอกซึ่งสามารถมองเห็นวิวทุ่งนาแบบชัดๆ บรรยากาศสดชื่นสบายตา

สำหรับเมนูที่นี่มีให้เลือกทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี่ และกาแฟสด เมนูแนะนำห้ามพลาดเลย ได้แก่ ยำพระอาทิตย์กุ้งสด (180 บาท) ยำรสแซ่บจัดจ้าน ต่อด้วยเมนูแกงคั่วหอยขม (120 บาท), หลนปูนาหลังวัด (180 บาท) เมนูพื้นบ้านที่นำปูนามาทำเป็นเมนูหลน เสิร์ฟพร้อมผักสดปลอดสาร, จ๊อปู ไส้กรอกฮ่องกง (230 บาท) จ๊อปูสอดไส้ด้วยไส้กรอก ทอดร้อนๆ ทานพร้อมน้ำจิ้มรสเปรี้ยวอมหวาน ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มอย่างกาแฟส้ม กาแฟผสมน้ำส้มสูตรพิเศษของทางร้าน และเค้กกาแฟแสนอร่อย รสชาติละมุนลิ้น

อิ่มแล้วไปเดินเล่นชมวิวด้านนอกร้านกันค่ะ ทางร้านมีสะพานเดินไม้ทอดยาวให้เราเดินเล่นชมวิวกลางทุ่งนา โดยมีวิวของวัดถ้ำเสือเป็นแบคกราวด์ด้านหลังสุดอลังการ เรียกว่าเป็นร้านกาแฟหลักสิบวิวหลักแสนเลยจริงๆ

ไฮไลท์ของร้านมาตะกาญจน์อยู่ที่บันไดสีขาว ที่เรียกว่าบันไดสวรรค์เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต พร้อมยังมีพร้อบเป็นหมวก, ร่ม  และปีกนางฟ้าสีขาวและดำ ให้ลูกค้าใส่ถ่ายรูปกันสวยๆ ไม่ต้องไปไกลถึงเวียดนามก็ได้ถ่ายรูปคู่กับแลนด์มาร์คเมืองกาญจน์สวยๆ แบบนี้ได้

มาตะกาญจน์

เปิด : 08.00-21.00 น.

ที่ตั้ง : หลังวัดถ้ำเสือ กจ.6067 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

โทร. 0949968464

พิกัด Google map: https://goo.gl/maps/iig9xGwU9JSb3vBfA

จากอำเภอท่าม่วง กาญจนบุรี เราขับรถไปเที่ยวกันต่อที่อำเภอเมืองกาญจนบุรีกันบ้าง เราตั้งใจไปถ่ายรูปคู่ "ต้นจามจุรียักษ์" อีกหนึ่งที่เที่ยวแลนด์มาร์คของจังหวัดกาญจนบุรี ที่ตอนนี้เค้าปรับโฉมใหม่ มีทางเดินสะพานไม้รอบต้นจามจุรีต้นยักษ์ อายุกว่าร้อยปีที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาร่มรื่น 

สำหรับต้นจามจุรีหรือต้นก้ามปูยักษ์อายุกว่าร้อยปีต้นนี้ ตั้งอยู่ภายในเขตพื้นที่ทหารของกรมการสัตว์ทหารบก จ.กาญจนบุรี เปิดให้เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และทางกรมการสัตว์ทหารบกยังได้ทำทางเดินปรับปรุงใหม่ เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวบังเอิญไปเดินเหยียบย่ำรากของต้นจามจุรีโดยไม่ตั้งใจ เนื่องจากต้นจามจุรีมีอายุเก่าแก่มากแล้ว ใครไปเที่ยวที่นี่ก็ขอความร่วมมือไม่ลงไปเดินเหยียบย่ำบนพื้นที่นอกเหนือจากสะพานทางเดินไม้ที่จัดไว้ให้โดยเฉพาะกันด้วยนะคะ

ต้นจามจุรียักษ์
ที่ตั้ง : บ้านกสิกรรม ต.เกาะสำโรง อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี (ตั้งอยู่ภายในกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 1 (กองผสมสัตว์) กรมการสัตว์ทหารบก จ.กาญจนบุรี)

เปิด : วัน จ.-ศ. 08.30-16.30 น. , เสาร์-อาทิตย์ 08.30-17.00 น.
พิกัด Google Map : https://goo.gl/maps/8NnTBX3sDKVmkWwTA

จากนั้นเราขับรถไปเช็คอินเข้าที่พักของเรากันที่ "หินตก ริเวอร์ แคมป์" ที่พักแนวบูติคแคมป์ปิ้ง (Tent Camp Resort) ริมแม่น้ำแควน้อย อ.ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี 

ห้องพักที่นี่เป็นห้องพักแบบเต็นท์ประเภทดีลักษ์ทั้งหมด โดยเป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ขนาด 29-32 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยสไตล์แอฟริกันซาฟารี ให้ความรู้สึกเหมือนได้มาตั้งแคมป์กลางป่า แต่ยังคงความสะดวกสบายเอาไว้ครบครัน

ภายในห้องพักหรูหราสะดวกสบายมากๆ เลยค่ะ มีทั้งแอร์, ตู้เย็น, มินิบาร์, กระติกน้ำร้อน ฯลฯ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้แท้ มีทั้งห้องพักแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ให้เลือก (สามารถเพิ่มเตียงเสริมได้ด้วย) ภายในเต็นท์ยังมีห้องน้ำส่วนตัว เครื่องทำน้ำอุ่น และระเบียงนั่งเล่นหน้าเต็นท์สุดชิล 

เราได้ห้องพักเบอร์ 115 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,600 บาท/หลัง หารกัน 3 คนตกอยู่ที่คนละ 866 บาท ราคานี้รวมอาหารเย็นและอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าคุ้มมากๆ 

พอเช็คอินเก็บของเข้าห้องพักเสร็จปุ๊บ ฝนก็โปรยปรายลงมาพอดี เลยขอนั่งเล่นนอนเล่นฟังเสียงฝนหน้าเต็นท์ชิลๆ ไปก่อน บรรยากาศน่านอนมากๆ

รอบๆ บริเวณรีสอร์ทยังมีมุมพักผ่อนชิลๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นซุ้มศาลาที่มีเปลชิงช้าให้นั่งเล่น หรือว่าจะเป็นบริเวณล็อบบี้ หากอยากได้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติก็มีโซนนั่งเล่นในสวนหรือริมน้ำให้พักผ่อนหย่อนใจกันด้วย

มุมระเบียงนั่งเล่นริมน้ำของรีสอร์ทตรงนี้ นับว่าเป็นมุมยอดฮิตของรีสอร์ทเลยก็ว่าได้ น่าเสียดายที่ฝนตกหนักเลยอดมานอนชมวิวนานๆ แต่ก็ได้เห็นหมอกฝนสวยๆ ชดเชยแทนแบบนี้

ไหนๆ มาพักผ่อนที่หินตก ริเวอร์ แคมป์ ทั้งที ต้องไม่พลาดไปนอนแช่น้ำชมวิวกันที่บ่อหินริมแม่น้ำแควน้อย สระน้ำธรรมชาติที่เราสามารถแช่ตัวได้แบบชิลๆ มองวิวธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและสายน้ำแควน้อย

แช่น้ำชมวิวแบบชุ่มฉ่ำกันไปแล้ว เราเปลี่ยนชุดแล้วไปทานมื้อเย็นกันที่ห้องอาหารของรีสอร์ท บอกเลยว่าบรรยากาศดีมากๆ เลยค่ะ

มื้อเย็นทางรีสอร์ทจะเสิร์ฟเซ็ทเมนูอาหารไทยเป็นหลัก มีทั้งแกงเผ็ด, ไก่ทอด, แกงจืด, ผัดผัก, ไก่ผัดพริกขิง พร้อมบาร์บีคิวที่พนักงานคอยปิ้งย่างให้เสร็จสรรพ ตบท้ายด้วยผลไม้ ถ้าไม่อิ่มก็สามารถเติมได้เรื่อยๆ ทุกเมนูเลยค่ะ

หลังจากพักผ่อนอย่างสดชื่นมาทั้งคืน เราก็ตื่นมารับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้ากัน ฟ้าหลังฝนเมื่อคืนนี้มาพร้อมกับสายหมอกยามเช้าสุดสดชื่น อากาศดีจนอยากเก็บใส่กระเป๋ากลับไปกรุงเทพฯ ด้วยเลยค่ะ

สำหรับมื้อเช้าทางรีสอร์ทมีให้เลือกทั้งข้าวต้มแบบไทยๆ และเมนูอเมริกันเบรคฟาสต์อย่างไข่ดาว, แฮม, ไส้กรอก,ไข่ลวก,ขนมปัง ฯลฯ พร้อมเครื่องดื่มอย่างนมสด, น้ำส้มคั้น, กาแฟ ฯลฯ อิ่มแปล้กันเลยทีเดียว

หินตก ริเวอร์ แคมป์

ที่ตั้ง : 109 หมู่ 9 บ้านวังเขมร ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี 

ราคา : เริ่มต้น 2,600 บาท

โทร. 0817543898 (ทุกวันเวลา 6.00 - 22.00 น.)

พิกัด : https://goo.gl/maps/E79AJNM68mf4BJBz7

จองที่พัก หินตก ริเวอร์ แคมป์ ได้ที่นี่

จากนั้นเราเก็บกระเป๋าเช็คเอาท์ ล้อหมุนไปเที่ยวในตัวอำเภอเมืองกาญจนบุรีกันต่อที่ The Attic คาเฟ่สุดมินิมอลที่เพิ่งเปิดใหม่มาแรงสุดๆ ในตอนนี้

ตัวร้านออกแบบในคอนเซ็ปต์เป็นห้องใต้หลังคา ตามชื่อร้าน Attic ที่แปลว่าห้องใต้หลังคานั่นเองค่ะ จุดเด่นอีกอย่างของร้านนี้คือ คนจากด้านนอกมองเข้ามาในร้านไม่ได้ ซึ่งเกิดจากไอเดียของเจ้าของร้านที่ต้องการให้ลูกค้าที่เข้ามาในร้านได้เข้ามาหลบมุมพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวนั่นเอง

ภายในร้านตกแต่งแบบคุมโทนโดยใช้สีขาวเป็นหลัก ดูเรียบเก๋สะอาดตา มีเคาน์เตอร์สำหรับสั่งเครื่องดื่มด้านหน้า และโต๊ะที่นั่งกระจายตามมุมต่างๆ ให้เลือกนั่งหลากหลายมุม

ถ้าใครมาคนเดียวอาจเลือกนั่งตรงเคาน์เตอร์ติดกระจกมุมนี้ สงบดี มองเห็นทั้งวิวภูเขาและถนนเส้นหลักที่คึกคักฝั่งตรงข้าม

ใครอยากชมวิวกว้างๆ แบบไม่มีอะไรมาบดบัง แนะนำเลือกโซนโต๊ะติดกระจกใกล้กับเคาน์เตอร์ด้านหน้า หรือจะออกไปสูดอากาศนั่งจิบกาแฟชิลๆ ที่โซนเอาท์ดอร์ด้านนอกก็ได้นะ เค้ามีโต๊ะให้นั่งตรงระเบียงเทอเรซอีกด้วย

วิวด้านหลังร้านมองเห็นภูเขาได้แบบพาโนรามา มีสนามหญ้าให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่นได้ด้วยค่ะ

ส่วนมุมถ่ายรูปสุดฮิต ต้องนี่เลย...นั่งห้อยขาจากช่องหน้าต่างที่ออกแบบเหมือนห้องใต้หลังคา ใครมาแล้วไม่ได้ถ่ายรูปมุมนี้ ถือว่ามาไม่ถึงร้านนี้กันเลยทีเดียว!

สำหรับเมนูขนมและเครื่องดื่มของที่ร้าน บอกเลยว่าจัดเต็มมากๆ ห้ามพลาดเลยกับ Lemon Cream Pie Cake (80 บาท) พายครีมมะนาว รสชาติเปรี้ยว หวาน มันลงตัว, Fudge Brownie (60 บาท) ฟัดจ์บราวนี่เนื้อหนึบ รสเข้มได้รสชาติช็อกโกแลตเต็มๆ คำ, RedVelvet Cake (85 บาท) เค้กเรดเวลเวทสีสวย รสชาติดี และบลูเบอร์รี่ชีสเค้ก (90 บาท)  ที่ท้อปปิ้งด้วยบลูเบอร์รี่สดลูกโตฉ่ำๆ หวานอมเปรี้ยวตัดกันกับตัวครีมชีสได้อย่างลงตัว

ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มแนะนำอย่าง Koi Matcha Espresso (75 บาท) ชาเขียวมัทฉะผสมกาแฟเอสเพรสโซ, Koi matcha (70 บาท) ชาเขียวมัทฉะแท้เข้มข้น 100 เปอร์เซ็นต์ และ Dark Chocolate (70 บาท) ช็อกโกแลตเย็นที่ทางร้านใช้ช็อกโกแลตแท้เข้มข้น รสชาติหวานมันกลมกล่อม คนรักช็อกโกแลตต้องลอง

ใครชอบน้ำส้มยูซุต้องลองสั่ง YUZU Americano (95 บาท) กาแฟอเมริกาโนผสมน้ำส้มยูซุ  แก้วนี้เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของรสชาติกาแฟ the attic medium roast และส้มยูซุเข้มข้น คอกาแฟห้ามพลาด!! หรือหากใครไม่ดื่มกาแฟแนะนำเมนูนี้เลยค่ะ กับ YUZU Fizz (75 บาท) น้ำส้มยูซุผสมโซดา รสเปรี้ยวซ่า ดื่มแล้วสดชื่นสุดๆ

ที่ตั้ง : 83/1 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เปิด : ทุกวัน 9.00 - 18.00 น

โทร. 0625608003

พิกัดแผนที่ Google Map : https://goo.gl/maps/kCr3LPdXvjUKmKHE8

จากนั้นเราขับรถไปทานมื้อเที่ยงกันที่ "Cafe ริมบัว" คาเฟ่และร้านอาหารกาญจนบุรีสุดชิล ท่ามกลางบึงบัวล้อมรอบสมชื่อร้าน และยังสามารถมองเห็นวิววัดถ้ำเสือได้อย่างชัดเจนอีกด้วยค่ะ

ตอนที่เราไปนั้นเป็นเวลาใกล้เที่ยง ดอกบัวสีชมพูเข้มกำลังบานสะพรั่งเต็มบึงสวยงามมากๆ มีสะพานไม้ทอดลงไปในบึงให้เดินเล่นชมบัวและปลาคราฟต์แบบใกล้ๆ โดยทางร้านมีอาหารปลาเตรียมไว้ให้ด้วยนะคะ ใครอยากให้อาหารปลาก็สามารถให้จากบนสะพานได้เลยค่ะ

ตัวร้านมีที่นั่งรับประทานอาหารหลายโซน มีทั้งโซนห้องกระจกติดแอร์, โซนที่นั่งริมน้ำ และซุ้มศาลาแบบส่วนตัว ถ้ามาช่วงกลางวันใกล้เที่ยงแบบนี้คนจะแน่นเป็นพิเศษ

มื้อเที่ยงเราจัดเต็มกับเมนูส้มตำกุ้งสด, ตำหลดสายบัว, ต้มแซ่บกระดูกอ่อน, กุ้งทอดซอสมะขาม และหมูแดดเดียวทอด บอกเลยว่าแซ่บทุกเมนูสมคำร่ำลือจริงๆ

อิ่มแล้วไปเดินเล่นถ่ายรูปกันค่ะ หากเดินไปจนสุดสะพานจะเจอหอคอยชมวิววัดถ้ำเสือ มีจุดชมวิวและมุมชิงช้าที่ทางร้านจัดไว้ให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปเช็คอินกับวัดถ้ำเสือ ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมากเลยมุมนี้ (อย่าลืมเอาหมวกพร้อพที่ทางร้านเตรียมไว้ให้มาถ่ายรูปด้วยนะ)

ที่ตั้ง : ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เปิด : ตั้งแต่ 9.00-19.00 น. (หยุดวันอังคาร)
โทร. 0803177104
พิกัดแผนที่ Google Maps : https://goo.gl/maps/VE2p8X8tXtcKnizAA

ก่อนกลับเราแวะไปไหว้พระที่วัดถ้ำเสือกันค่ะ เราตั้งใจปิดท้ายทริปนี้ด้วยการไหว้พระทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลกันซะหน่อย

สำหรับทางขึ้นวัดถ้ำเสือนั้นมีทั้งบันไดนาคขึ้นเขาจำนวน 157 ขั้น และหากใครเดินไม่ไหวก็มีรถรางพาขึ้นไปไหว้พระบนยอดเขาอีกด้วยค่ะ

เราไปกราบสักการะหลวงพ่อชินประทานพร พระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี มีขนาดสูง 9 วา 9 นิ้ว ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา และสักการะพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท ที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย แล้วไปชมวิวทุ่งนาเขียวขจีรอบๆ วัดถ้ำเสือจากมุมสูง 

เรียกว่าการมาเที่ยวกาญจน์หน้าฝนทริปนี้ เป็นทริปที่ทั้งสนุก อิ่มท้อง อิ่มบุญ อิ่มใจ ใครอยากมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ช่วงฤดูฝนที่เขียวสบายตาแบบนี้ เก็บกระเป๋ามาเที่ยวกาญจนบุรีกันเลยค่ะ

วัดถ้ำเสือ

ที่ตั้ง : หมู่ที่ 3 ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
เปิด : 9.00-18.00 น.
พิกัดแผนที่ Google Map : https://goo.gl/maps/bnj3hfEgSJJHC6Z6A

Tags: กาญจนบุรี เที่ยวกาญจนบุรี ทริป 2 วัน 1คืน ที่พักกาญจนบุรี หินตก ริเวอร์ แคมป์ ที่พักริมนำ้แคว ร้านอาหารกาญจนบุรี คาเฟ่กาญจนบุรี มาตะกาญจน์ Cafe& Restaurant The Attic ริมบัว คาเฟ่

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้