calendar_month 27 พ.ค. 2020 / stylus Admin Chillpainai / visibility 42,993 / ทริปตัวอย่าง
ช่วงนี้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกประปรายสลับกับอากาศร้อนมาให้ชุ่มฉ่ำกันบ้าง ใครที่กำลังมองหาโลเคชันพักผ่อนอยู่ล่ะก็เราอยากแนะนำเมืองเล็กๆ แสนน่ารักอย่างเชียงคาน ที่เราชวนเพื่อนสนิทไปใช้ชีวิตช้าๆ ริมฝั่งโขง 2 วัน 1 คืน บอกเลยว่าไม่ได้มีแค่ถนนคนเดิน แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้ได้พักผ่อนเสพความสุขด้วยการทำตัวสบายๆ กินง่าย อยู่ง่าย ฟังเสียงนกและสัมผัสวัฒนธรรมความเป็นอยู่ริมฝั่งโขงแบบไม่เร่งรีบ
Day 1 กรุงเทพฯ - เชียงคาน
เราออกเดินทางกันแต่เช้าวันเสาร์ด้วยสายการบิน Low Cost ที่จองไว้เนิ่นนานช่วงโปรโมชันในราคา 590 บาท ต่อคน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็มาถึงสนามบินเลยประมาณ 11 โมงเช้า จากนั้นก็ต่อรถตู้ไปยังเชียงคานโดยจุดจำหน่ายตั๋วรถตู้จะอยู่หน้าทางออกของสนามบินมีทั้งบริการรถตู้ส่งถึงที่ต่างๆ รวมถึงมีให้เช่ามอเตอร์ไซค์และรถยนต์ด้วยค่ะ ราคารถตู้คนละ 250 บาท นั่งเพลินๆ 1 ชั่วโมงก็มาถึงเชียงคานแล้วค่ะ โดยรถจะส่งตรงถึงหน้าที่พักตามที่เราแจ้งเลย
ที่พักที่เราจองมาก็คือ มุ้ยฟัง เกสเฮ้าส์ เชียงคาน เป็นที่พักสไตล์บูติกอาคารไม้สองคูหา 2 ชั้น ที่ถูกรีโนเวทให้เป็นที่พักสุดน่ารักด้วยรูปแบบการก่อสร้างแบบโบราณของบ้านไม้จึงทำให้ที่นี่เติมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของความคลาสสิกในแบบที่ไม่เหมือนใคร แถมทำเลที่ตั้งยังสะดวกสบายอยู่ชิดริมโขงและถนนคนเดินง่ายต่อการเดินทางไปเที่ยวยังจุดต่างๆ นอกจากนี้ที่พักยังมีจักรยานให้ยืมใช้ปั่นเล่นชมวิวแม่น้ำโขงอีกด้วย
ด้วยบรรยากาศสบายๆ บวกกับความคลาสสิกแบบเก่า จึงไม่แปลกที่เกสเฮ้าส์แห่งนี้จะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเข้าพักอยู่เสมอ เพราะเป็นที่พักที่ชวนให้นึกไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนในยุคสมัยก่อนหรือชวนนึกย้อนไปถึงความทรงจำในวัยเด็กของใครหลายคน ผ่านของเก่าที่ทางที่พักนำมาประดับตกแต่งไว้ตามจุดต่างๆ เช่น ทีวี จักรยาน พัดลม กระเป๋า ซึ่งพื้นที่ชั้นล่างแบ่งออกเป็นมุมนั่งเล่น เคาน์เตอร์เช็คอิน และมุมรับประทานอาหารยามเช้า
ตอนที่เรามาถึงที่พักก็ช่วงเที่ยงพอดี โชคดีที่ห้องเราเรียบร้อยแล้วทางที่พักเลยใจดีให้เช็คอินและเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บที่ห้องได้ก่อน ซึ่งที่นี่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวทีเดียวค่ะ มีห้องพักทั้งหมด 7 ห้อง และตั้งชื่อห้องเป็นดอกไม้ทั้งหมด ห้องที่เราจองคือ ห้องโบตั๋น ขนาด 30 ตารางเมตร ราคา 1,800 บาท (รวมอาหารเช้า) จุดเด่นของห้องนี้คือมองเห็นวิวแม่น้ำโขงชัดเจน มีระเบียงส่วนตัว ภายในห้องจัดวางเตียงคิงไซส์ไว้ตรงกลาง ตกแต่งอย่างเรียบง่าย เลือกใช้โทนสีขาวสบายตา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบค่ะ ทั้งตู้เย็น แอร์ โทรทัศน์ ซึ่งห้องนี้มีความเก๋ตรงที่ห้องน้ำสามารถเปิดหน้าต่างกระจกระหว่างอาบน้ำเพื่อชมวิวแม่น้ำได้ด้วยล่ะ
มุ้ยฟัง เกสเฮ้าส์ เชียงคาน
ที่ตั้ง : 93/3 ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย
โทรศัพท์ : 042821077 หรือ 0818713556
ราคาเริ่มต้น : 1,200 - 2,200 บาท
GPS : https://goo.gl/maps/MLYYssJviCtYAfxD6
หลังจากสำรวจห้องพักและเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาไปเติมพลังกันแล้วค่ะ ยามบ่ายนี้เรายืมจักรยานทางที่พักปั่นไปฝากท้องกันที่ร้าน จุ่มนัว ยายพัด ซอยศรีเชียงคาน 10 เปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00 - 15.00 น. เป็นของดีเมืองเชียงคานที่ขายมายาวนานกว่า 70 ปี ซึ่งจุ่มนัวจะมีรูปแบบเหมือนสุกี้เลยค่ะ แต่จะมีความพิเศษตรงที่น้ำราดจะผสมถั่วลิสงและเข้มข้นกว่า หมูหมักนุ่มอร่อย มีให้เลือกทั้งเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ และวุ้นเส้น สนนมื้อนี้เราจ่ายไป 105 บาทเท่านั้น
จุ่มนัว ยายพัด
ที่ตั้ง : ซอยศรีเชียงคาน 10 ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย
เวลา-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00 - 15.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/McLdjjdm3nn6qAsU9
อิ่มท้องแล้วเราก็เหมารถสกายแลปเพื่อไปชมความงดงามของเจดีย์พระพุทธบาทภูควายเงินที่ วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน โบราณสถานเก่าแก่ทางพระพุทธศาสนาในอำเภอเชียงคาน ยืนต่อค่ารถกันอยู่นานสรุปจบลงที่ค่ารถไปกลับ 150 บาท โดยใช้เส้นทางสายเชียงคาน-ปากชม ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ทางไปวัดจะขึ้นเขาเป็นทางลูกรังอยู่ช่วงนึงก็ถึงตัววัดแล้วค่ะ
อย่างที่บอกว่าวัดพระพุทธบาทภูควายเงินเป็นโบราณสถานอันเก่าแก่ที่เป็นสถานที่เคารพสักการะที่สำคัญอีกที่หนึ่งของจังหวัดเลย ซึ่งเป็นที่ตั้งของรอยพระพุทธบาทยาวประมาณ 120 เซนติเมตร กว้าง 65 เซนติเมตร ที่ประดิษฐานอยู่บนหินลับมีด ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนิยมขึ้นมาสักการะเพื่อความเป็นมงคลของชีวิต โดยมีค่าดอกไม้ธูปเทียนชุดละ 20 บาทนะคะ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระเจ้าใหญ่พุทธฉัพพรรณรังสี พระพุทธรูปปั้นสีขาวองค์ใหญ่ที่ประดับด้วยกระจกเงาชิ้นเล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะและชมความสวยงามไปพร้อมๆ กัน ที่สำคัญยังมีรูปปั้นควายเงินให้เราอธิษฐานขอสิ่งดีๆ ให้สำเร็จสมประสงค์ตามคำขอด้วยนะ
วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน
ที่ตั้ง : ต.บุฮม อ.เชียงคาน จ.เลย
เวลา-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 07.00 - 18.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/CnuB81t6oqarX9ki9
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวเชียงคานแล้ว เราก็นั่งสกายแลปกลับไปยังที่พัก กลับมาถึงช่วงเย็นพอดีเราเลยรีบคว้าจักรยานออกไปปั่นเล่นเลียบริมโขงเพราะบรรยากาศช่วงแดดร่มลมตกเป็นอะไรที่ชิลมากๆ ปั่นเลียบถนนไปมองเห็นวิวแม่น้ำโขงและวิวเมืองเชียงคานได้ชัดแจ๋ว
ปั่นจักรยานชมวิวจนหนำใจแล้วก็ได้เวลาไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันแล้ว มื้อเย็นนี้พวกเราฝากท้องกันที่ เฮือนฝ้ายคำ ร้านอาหารริมโขงบรรยากาศดีตั้งอยู่ซอย 14 ตกแต่งได้สวยงามร่วมสมัยใช้ไม้เป็นวัสดุหลักตามแบบฉบับของอาคารบ้านเรือนของเชียงคาน ตัวร้านแบ่งออกเป็น 2 ชั้น มีที่นั่งให้เลือกหลายมุม สามารถนั่งทานข้าวพร้อมกับชมวิวแม่น้ำโขงไปพร้อมๆ กันได้
เมนูอาหารส่วนใหญ่ล้วนเป็นเมนูอาหารไทยและอีสานต้นตำรับสูตรเด็ด จานแรกเราสั่ง ตำหลวงพระบาง เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านที่ใส่กะปิแทนการใส่ปลาร้า รสชาติจัดจ้านและให้ความหอมยั่วจนน้ำลายสอทันทีที่มาเสิร์ฟเลยล่ะ
มีส้มตำแล้วก็ต้องมีของทอด! แนะนำให้สั่ง ปีกไก่ทอด อาหารทานเล่นที่ทางร้านคัดสรรไก่คุณภาพดีทอดออกมาจนเหลืองกรอบน่าทาน ทานพร้อมน้ำจิ้มหวานกลมกล่อมจนอยากสั่งเพิ่มอีกจานเลยทีเดียว
เมนูสุดท้ายคือ ต้มยำปลาคังน้ำใส รสชาติเข้มข้นที่เอาใจคนชอบความจัดจ้าน กลิ่นสมุนไพรหอมกรุ่นกับรสชาติที่เผ็ดร้อนสไตล์ไทยๆ เครื่องแน่นๆ ทั้งเนื้อปลาสดหวานชิ้นโต เห็ดฟางและหัวหอมแดงที่ช่วยเสริมรสชาติของน้ำซุปให้กลมกล่อม สนนมื้อนี้ค่าเสียหาย 390 บาทเท่านั้นเอง
ร้านอาหารเฮือนฝ้ายคำ
ที่ตั้ง : 176/1 ม.2 ซ.14 ถ.ชายโขง ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 10.00-22.00 น.
โทร : 042810359
GPS : https://goo.gl/maps/d3ZEKCGoUxbn27348
Facebook : www.facebook.com/heuanfaaikam
อิ่มท้องแล้วเราก็ขอเดินเล่นต่อที่ ถนนคนเดินเชียงคาน จุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวหลายๆ คน เสน่ห์ของที่นี่ก็คือบ้านเรือนไม้เก่าที่คนท้องถิ่นยังคงอนุรักษ์กันไว้ บ้างก็แปรเปลี่ยนมาเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝากหรือของที่ระลึก ซึ่งช่วงเย็นๆ จะมีร้านรวงต่างๆ มาตั้งโต๊ะขายของริมฝั่งถนนทั้งสองข้างยาวจนสุดลูกหูลูกตาให้เราได้เดินทอดน่องตามหาของอร่อยรสเด็ดที่เป็นของดีเชียงคานทานกันยามกลางคืน
ถนนคนเดินเชียงคาน
ที่ตั้ง : ถ.ชายโขง ต.เชียงคาน อ.ชียงคาน จ.เลย
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 17.00-22.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/UR4fYG1FUm4xseKM7
เช้าวันใหม่เรารีบตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมาตักบาตรข้าวเหนียวบริเวณหน้าที่พักโดยทางที่พักจะมีชุดตักบาตรบริการ ชุดละ 100 บาท ซึ่งจะมีพระมาบิณฑบาตรตั้งแต่เช้ามืดเลยค่ะ แนะนำว่าถ้ามาเชียงคานห้ามพลาดกิจกรรมนี้เด็ดขาดเพราะจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวเชียงคานที่มีความเรียบง่าย ไม่ยึดติดกับวัตถุอย่างแท้จริง แถมยามเช้าอากาศยังเย็นสบายด้วยนะ
หลังจากใส่บาตรเสร็จแล้วเรากับเพื่อนก็ขึ้นไปนอนต่อสักงีบ สายๆ ก็ตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว เก็บกระเป๋าแล้วลงมาทานข้าวเช้าเพราะทางที่พักจะบริการไข่กระทะ ชา กาแฟ และขนมปังปิ้งยามเช้า แม้จะเป็นอาหารเช้าแบบง่ายๆ แต่ก็อร่อยอิ่มท้องไปถึงมื้อเที่ยงเลยนะ
อิ่มท้องมีพลังแล้วเราก็ทำการเช็คเอ้าท์และฝากกระเป๋าไว้ทางที่พักก่อน จากนั้นก็ใช้บริการรถสกายแลป (ค่ารถเหมาไปกลับ 300 บาท) มุ่งหน้าไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เชียงคาน เริ่มที่ แก่งคุดคู้ จุดเช็คอินยอดฮิตในยามหน้าแล้งเพราะน้ำโขงจะลดลงทำให้เหมือนมีหาดทรายขนาดใหญ่ ซึ่งเราสามารถเดินลงไปถ่ายรูป สัมผัสโขดหิน ดูชาวบ้านจับปลา หรือจะล่องเรือชมความสวยงามของแม่น้ำโขงก็ได้เพราะมีคนพื้นถิ่นคอยให้บริการเรืออยู่ ขอบอกว่าบรรยากาศดีงามมาก
แก่งคุดคู้
ที่ตั้ง : ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย
GPS : https://goo.gl/maps/zKgiNQpawYABNNDn9
จากแก่งคุดคู้ เราก็มุ่งหน้าไปเที่ยวกันต่อที่ พิพิธภัณฑ์บ้านไทดำ หมู่บ้านเล็กๆ ของพี่น้องเชื้อสายไทดำในภาคอีสานแห่งเดียวที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมเอาไว้ให้คงอยู่สู่รุ่นลูกรุ่นหลาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รวบรวมประวัติความเป็นมาของชาวไทดำ รวมถึงยังคงเก็บรักษาอุปกรณ์เครื่องใช้ไว้ให้เยี่ยมชม จุดเด่นของที่นี่ก็คือตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจีมีฉากหลังเป็นภูเขาสวยงาม แถมยังมีชุดไทดำให้นักท่องเที่ยวได้ใส่ไว้ถ่ายรูป และมีโชว์การละเล่นโบราณด้วยล่ะ
พิพิธภัณฑ์บ้านไทดำ
ที่ตั้ง : 170 ม.4 ต.เขาแก้ว อ.เชียงคาน จ.เลย
โทรศัพท์ : 0833322828
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07.30-18.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/T9HQF37Yuu1mDNA37
เที่ยวรอบๆ เชียงคานกันจนจุใจแล้ว ประมาณบ่ายสองเรากับเพื่อนก็นั่งสกายแลปกลับมายังที่พักเพื่อรับกระเป๋าและรอรถตู้มารับไปยังสนามบิน ซึ่งเรานัดรถตู้ไว้ตั้งแต่ขามาแล้วค่ะ มีค่าใช้จ่ายเท่าเดิมคนละ 250 บาท ผล็อยหลับไปแปปเดียวก็มาถึงสนามบินเลยแล้วค่ะ เช็คอินเรียบร้อยก็หาของกินจุ๊บจิ๊บและเตรียมใจกลับกรุงเทพฯ ไปตั้งใจทำงานต่อ แต่บอกเลยว่าการมาเที่ยวเชียงคาน 2 วัน 1 คืน ครั้งนี้ แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่เรากลับรู้สึกได้รีชาร์จความสุขความสดชื่นอย่างเต็มที่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนกำลังมองหาโลเคชันสำหรับพักผ่อนอยู่ล่ะก็เราขอแนะนำเชียงคานเลยค่ะ เป็นเมืองที่เหมาะจะมาใช้ชีวิตช้าๆ อย่างไม่ต้องกังวลอะไร เป็นอีกหนึ่งพิกัดดีๆ ที่พร้อมเติมพลังความสุขและความสงบให้ทุกคนอย่างเต็มเปี่ยม
ค่าใช้จ่าย
- ค่าเครื่องบินไป-กลับ 2,360 บาท
- ค่ารถตู้ไปเชียงคานไป-กลับ 1,000 บาท
- ค่าที่พัก 1,800 บาท
- ค่ารถสกายแลป 450 บาท
- ค่าดอกไม้ธูปเทียน 40 บาท
- ค่าชุดตักบาตร 200 บาท
- ค่าอาหารและของกินจุกจิก 700 บาท
รวม 6,550 บาท (ไปกับเพื่อน 2 คน ตกคนละ 3,275 บาท)
บทความแนะนำ:
12 ที่พักเชียงคาน ติดริมน้ำโขง ใกล้ถนนคนเดิน : https://www.chillpainai.com/scoop/11946
20 สุดยอดที่เที่ยวภาคอีสาน สวย อะเมซิ่ง ต้องไปซักครั้งในชีวิต : https://www.chillpainai.com/scoop/11920
รวม 15 ที่พักเชียงคาน-เลย ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน! : https://www.chillpainai.com/scoop/11665
Tags: เลย เชียงคาน ที่เที่ยวเลย เที่ยวเชียงคาน ที่กินเชียงคาน ที่พักเชียงคาน ที่พักสวย ที่พักบรรยากาศดีถนนคนเดินเชียงคาน ใส่บาตรตลาดเช้าเชียงคาน แก่งคุดคู้ พระบาทภูควายเงิน มุ้ยฟังเกสเฮ้าส์เชียงคาน ทริปตัวอย่าง
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 414 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 360 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 883 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,199 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ต.ค. 2024 | 881 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน ทริปตัวอย่าง | 11 ก.ย. 2024 | 2,238 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 05 ส.ค. 2024 | 1,982 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 31 ก.ค. 2024 | 1,439 อ่าน
ทริปตัวอย่าง ที่เที่ยว | 25 ก.ค. 2024 | 1,324 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 23 ก.ค. 2024 | 2,115 อ่าน