calendar_month 11 พ.ค. 2020 / stylus Admin Chillpainai / visibility 64,182 / ทริปตัวอย่าง
ว่ากันว่าการออกไปเที่ยวก็เหมือนเป็นการเติมพลังชีวิต สำหรับใครที่มีเวลาน้อยนิดไม่อยากลางานและกำลังมองหาจุดหมายปลายทางที่จะมาเติมเต็มช่วงเวลาดีๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่ล่ะก็..ลองแพ็กกระเป๋ามาชิลที่จันทบุรี จังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ดูสิ เพราะเมืองจันท์ขับรถแค่ 4 ชั่วโมง ก็มีที่เที่ยวที่กินให้เลือกเพียบทั้งจุดชมวิว ทะเล ภูเขา ย่านชุมชนเก่าแก่ ร้านอาหารและคาเฟ่ ซึ่งทริปนี้เราไปกับเพื่อนๆ รวมกัน 3 คน ตั้งงบไว้คนละไม่เกิน 2,500 บาท เดินทางโดยขับรถส่วนตัวมาเอง เช็คอินทั้งร้านอาหารและที่พักสุดชิคที่สามารถแต่งตัวเก๋ๆ มาเฉิดฉายพร้อมเก็บภาพกันได้อย่างจุใจ จะมีที่ไหนบ้างลองตามไปดูกันได้เลย!
DAY 1
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าทริปนี้เป็นทริปสั้นๆ ที่เติมพลังชีวิตในวันหยุด เราเลยปักหมุดไปเที่ยวกันที่จังหวัดจันทบุรี 2 วัน 1 คืน จุดหมายแรกคือเช็คอิน Sky View Cafe At เกาะเปริด จันทบุรี แลนด์มาร์คใหม่ของเมืองจันท์ คาเฟ่ริมหน้าผาวิวหลักล้านอยู่ข้างๆ จุดชมวิวผาสุขนิรันดร์ที่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะมาถ่ายรูปริมทะเล มีลักษณะเป็นหน้าผาหินและมีบันไดทางเดินทอดยาวกับทะเล มองเห็นวิวแบบกว้างๆ อารมณ์เหมือนบาหลีเลยล่ะ
เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ แต่เช้า วิ่งมาตามถนนสุขุมวิทเส้นทางบางนา-ตราด ระยะทางประมาณ 259 กิโลเมตร ผ่านทางเข้าน้ำตกพลิ้วประมาณ 300 เมตร จะถึงทางเข้าอำเภอแหลมสิงห์ จากนั้นก็เลี้ยวขวามาตามเส้นทางที่จะไปอำเภอแหลมสิงห์ ประมาณ 8 กิโลเมตร จะถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายผ่านตำบลหนองซิ่ม ขับมาเรื่อยๆ ประมาณ 6 กิโลเมตร จะถึงตำบลเกาะเปริด ถ้าขับรถมาเองต้องไปจอดรถที่วัดเกาะเปริดนะคะ มีค่าใช้จ่ายคันละ 20 บาท จอดรถแล้วเดินขึ้นไปจุดชมวิวซันซายน์เพียง 200 เมตรก็ถึงคาเฟ่บรรยากาศดีที่เหมาะแก่การมาฝากท้องมื้อเที่ยงและถ่ายรูปลงโซเชียลเป็นที่สุด
ตัวคาเฟ่ออกแบบมาในสไตล์ลอฟท์เท่ๆ ตั้งอยู่บนหน้าผา มีที่นั่งให้เลือกหลายหลายโซนทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ ทุกโซนมองเห็นทะเลหมด ไม่ว่าจะเป็นบาร์ด้านนอก หรือที่นั่งบนระเบียงเปิดโล่งแบบเบาะบีนแบ็กชิคๆ ก็สามารถนั่งทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับชมวิวทะเลและวิวภูเขา รวมถึงในโซนนี้ยังมีเปลตาข่ายจุดไฮไลท์ที่ใครมาแล้วจะต้องมาถ่ายอีกด้วยนะ ขอบอกเลยว่ามุมนี้รูปสวยแน่นอน
ในส่วนของเมนูอาหารของที่นี่จะมีทั้งอาหารทะเล อาหารจานเดียว อาหารทานเล่น เบเกอรี่ และเครื่องดื่มค่ะ แค่เริ่มเมนูก็หิวกันแล้วใช่มั้ยล่ะ งั้นก็อย่ารอช้าไปกินกันเลยดีกว่า สำหรับอาหารมื้อนี้พวกเราสั่งอาหารจานเดียวแบบง่ายๆ มาทานกันคนละจานค่ะ เราสั่งข้าวหน้าปลาอินทรีย์ทอดที่เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด (150 บาท) ปลาอินทรีย์ที่ให้มาชิ้นใหญ่ ทอดมาอย่างดี ยิ่งทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดของทางร้านยิ่งอร่อย
อีกจานนึงเพื่อนเราสั่งข้าวทอดกระเทียมกุ้งแชบ๊วย + หมูนุ่มหมัก (140 บาท) จานนี้ก็ดีไม่แพ้จานแรกเลยค่ะ กุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่ สด ทอดกระเทียมหอมๆ มาพร้อมกับหมูนุ่มที่ทางร้านหมักพิเศษเลย ใครที่ชอบเมนูทอดกระเทียมต้องลองจริงๆ ค่ะ
ถัดมาจานที่สามเป็นข้าวกะเพราหมู+กุ้ง (120 บาท) โปะไข่ดาวรสชาติจัดจ้าน บอกได้คำเดียวว่าอร่อยจนเพื่อนเรายกนิ้วให้เลยค่ะ
ส่วนเครื่องดื่มคุณเพื่อนทั้งสองสั่งสแปลชคว่ำขวด (59 บาท) น้ำส้มสแปลชที่เสิร์ฟมาในแก้วไวน์ถูกครีเอทการรูปแบบการเสิร์ฟมาแบบคว่ำขวด ดื่มแล้วเย็นชื่นใจ
มาต่อกันที่แก้วของเรา เมนูซิกเนเจอร์ ซันซายน์ (70 บาท) เมนูนี้เรียกว่าเอาใจคนชอบผลไม้ด้วยน้ำแข็งผลไม้รวม ตอนจะดื่มก็เทบลูฮาวายลงไป สดชื่นดีจริงๆ
อิ่มอร่อยกับมื้อเที่ยงแล้ว ก็มีแรงเดินออกไปถ่ายรูปต่อแล้วล่ะค่ะ เพราะที่นี่นอกจากจะมีอาหาร เบเกอรี่ที่อร่อยแล้ว ด้านหลังร้านยังมีมุมถ่ายรูปสุดชิคอย่างรังนกสไตล์บาหลีไว้บริการด้วย แต่ก่อนจะไปถ่ายรูปขอเคลียร์ค่าเสียหายก่อน สรุปมื้อนี้ 598 บาท ก็ถือว่าคุ้มค่ากับความอร่อยและวิวสวยๆ
Sky View Cafe At เกาะเปริด จันทบุรี
ที่ตั้ง : ต.เกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี
โทร : 0915541552 และ 0915541553
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตั้งแต่ 08.00 - 20.00 น.
Facebook : Sky View cafe AT เกาะเปริด
GPS : https://goo.gl/maps/jQTp9CnuBS6LoTyx7
หลังจากถ่ายรูปจนหนำใจแล้วก็ได้เวลาเข้าที่พักแล้วค่ะ ซึ่งโอมสเตย์ที่เราจองตั้งอยู่ใน ต.หนองชิ่ม อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ไม่ไกลจากคาเฟ่เลย รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์ ที่พักน้องใหม่มาแรงแซงทางโค้งด้วยการออกแบบโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านนา อีกทั้งยังล้อมรอบด้วยน้ำมีสะพานไม้เป็นทางเดินทอดไปสู่จุดต่างๆ เสมือนเป็นเมืองกลางน้ำเลยค่ะ
จอดรถเรียบร้อยก็ได้เวลาเข้าไปด้านในแล้วค่ะ ที่นี่จะเริ่มเช็คอินตั้งแต่ 13.00 น. เป็นต้นไปนะคะ นอกจากจะได้กุญแจห้องพักแล้ว พนักงานก็จะให้คูปองกาแฟตามจำนวนผู้เข้าพักสำหรับแลกซื้อเครื่องดื่มที่คาเฟ่รัตนะบุรีด้านหน้าที่พักด้วยล่ะ แถมเขายังเพิ่มความปลอดภัยให้แขกผู้เข้าพักด้วยสายรัดข้อมือที่ใช้เข้าออกไปยังโซนพักผ่อน ซึ่งถ้าใครไม่มีสายรัดข้อมือทางที่พักจะไม่อนุญาตให้เข้าไปยังพื้นที่ด้านในนะคะ
เช็คอินเรียบร้อยแล้วก่อนจะไปชมบรรยากาศห้องพัก ขอแวะไปจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ร้านกาแฟรัตนะบุรีก่อน ซึ่งเราสามารถใช้คูปองกาแฟของทางที่พักไปแลกเครื่องดื่มได้ฟรีๆ เลยค่ะ ตัวร้านกาแฟจะอยู่ติดที่จอดรถหรือตรงข้ามกับอาคาร Reception ด้านหน้าเลยค่ะ ใครที่ไม่ได้เข้าพักก็สามารถแวะมาซื้อเครื่องดื่มนั่งชิลๆ ได้ ท่ามกลางบรรยากาศแบบล้านนา
ด้านในมีโซนนั่งเล่นหลากหลายมุมให้แขกผู้เข้าพักหรือนักท่องเที่ยวแวะเวียนมานั่งทานขนมและเครื่องดื่ม ท่ามกลางการตกแต่งร้านสไตล์ล้านนา ที่มีตุงหลากสีสันให้ได้กรุ่นกลิ่นบรรยากาศเมืองเหนือ รวมถึงการเปิดเพลงบรรเลงคลอเคล้าให้ได้เพลิดเพลินระหว่างจิบเครื่องดื่มแสนอร่อยที่นี่
เราใช้คูปองแลกเครื่องดื่มมา 2 แก้ว เริ่มที่อเมริกาโน่เย็น กาแฟดำรสเข้มขมถูกใจเพื่อนเรามากๆ ส่วนเราขอสั่งเมนูอิตาเลี่ยนโซดาอย่างน้ำผึ้งมะนาวโซดา หอมหวานน้ำผึ้งแท้ สดชื่นซาบซ่าสุดใจ ส่วนอีกสาวงดน้ำหวานอยู่เลยยังไม่ใช้สิทธิ์จ้า
จิบเครื่องดื่มพอสดชื่นแล้วก็ได้เวลาไปชมห้องพักกันแล้วค่ะ สำหรับห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 67 ห้อง แบ่งเป็นหลังๆ เน้นการพักรวมกันแบบโฮมสเตย์ทั่วไปซึ่งเราสามารถจองเป็นหลังเพื่อพักเป็นส่วนตัวได้นะคะ เริ่มต้นตั้งแต่ 3,4,5,6 ไปจนถึง 11 ท่าน ราคาเดียวคือคนละ 1,700 บาท ราคานี้รวมอาหาร 2 มื้อ คือบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าและอาหารเย็นที่เน้นอาหารทะเลแบบเติมไม่อั้นทุกเมนู เรามากันสามคนเลยลงตัวมากๆ
ไม่รอช้า มาดูห้องพักกันดีกว่าค่ะ ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีฟูกนิ่มๆ พร้อมหมอน ผ้าห่ม โต๊ะวางของ ปลั๊กไฟ ทีวี เครื่องปรับอากาศ น้ำดื่ม ทิชชู่ รวมถึงมีห้องน้ำในตัวซึ่งก็มาพร้อมกับเครื่องทำน้ำอุ่นไม่ต้องกลัวว่าจะต้องอาบน้ำเย็นๆ เลยค่ะ
เก็บกระเป๋า+นั่งพักได้ไม่นานก็ได้เวลากิจกรรมของทางรัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์ แล้วค่ะ โดยเวลาบ่ายสามโมงของทุกวันทางที่พักจะมีกิจกรรมพาเราไปล่องแพเปียกค่ะ ซึ่งจุดลงแพจะอยู่ติดที่พักเลย มีคลองที่จะไปเชื่อมต่อกับปากน้ำเวฬุที่นำไปสู่อ่าวไทยได้ด้วยค่ะ สะดวกสุดๆ โดยเส้นทางในการล่องของเราครั้งนี้จะเป็นการชมป่าโกงกางอันอุดมสมบูรณ์ ชมเหยี่ยวแดง และวิถีชาวบ้าน ซึ่งใช้เวลาล่องไป-กลับประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ใครที่กลัวอันตรายก็ขอให้มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้เลยเพราะทางที่พักมีเสื้อชูชีพให้บริการสำหรับทุกคน ระหว่างล่องไปทางสต๊าฟก็เปิดเพลงแดนซ์มันส์ๆ ให้เราฟังไปด้วย ใครหิวน้ำก็มีน้ำดื่มบริการค่ะ
ใครอยากลงเล่นน้ำก็จะมีจุดให้จอดแพและเล่นน้ำกันได้อย่างสนุกสนาน ในแพมีทั้งลูกค้าที่มาเป็นครอบครัว บางคนมาเป็นแก๊งค์เพื่อน รับรองว่ามาแฮปปี้กันทุกคนแน่นอน
เล่นน้ำกันจนตัวเปื่อยก็ถึงเวลากลับมายังที่พักช่วงเย็นๆ ตอนแรกกะว่าจะไปอาบน้ำแต่งตัวแต่พอมาเห็นบรรยากาศยามเย็นของที่พักแล้ว รีบเติมหน้า ชวนเพื่อนๆ ถ่ายรูปเล่นทันทีเลยค่ะ
ตะวันลับฟ้าก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ มื้อเย็นที่นี่จะเริ่มตั้งแต่ 18.00 - 22.00 น. ไฮไลท์ของการมาพักโฮมสเตย์ที่จันทบุรีก็คืออาหารทะเลเติมไม่อั้น!! มื้อนี้ประกอบไปด้วยอาหาร 7 อย่าง จัดมาแบบจุกๆ
อย่างที่บอกว่าเมนูอาหารคือจัดเต็มมาก เราเลยขอพูดถึงเมนูไฮไลท์ล่ะกัน เริ่มที่หมูชะมวง อาหารพื้นบ้านในจังหวัดจันทบุรีเป็นแกงที่ไม่ใส่กะทิ รสชาติกลมกล่อมเข้มข้นโดยจะผัดหมูสามชั้นกับเครื่องแกง เติมน้ำแล้วต้มให้เปื่อยนุ่ม ปรุงรสเปรี้ยวด้วยใบชะมวง ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งเข้ากันได้ดีทีเดียว
ถัดมาเป็นเมนูกุ้งที่ทางที่พักคัดเลือกมาเฉพาะกุ้งตัวโตๆ เผาจนได้เนื้อกุ้งที่นุ่มชุ่มฉ่ำและสุกกำลังดี ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บสูตรเฉพาะของทางที่พัก พร้อมมันกุ้งสีทองไหลเยิ้มๆ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าอร่อยถูกใจ
ปิดท้ายกันที่เมนูตัวชูโรงของที่นี่กับปูทะเลไซส์บิ๊กนึ่งมาร้อนๆ รอให้เราได้บรรจงแกะก้ามปูเพื่อลิ้มรสปูเนื้อแน่น ยั่วน้ำลายด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆ บอกเลยว่าเด็ด! แถมยังเติมได้ไม่อั้นด้วยนะ
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยแตงโมฉ่ำๆ หวานอร่อยมาก
DAY 2
นอนสบาย ตื่นมาอาบน้ำ เก็บของพร้อมปิดท้ายด้วยมื้อเช้าที่จัดเต็มเช่นเคยกับเมนูบุฟเฟ่ต์ที่มีทั้งข้าวต้มกุ้งรสชาติดีไม่ต้องปรุงก็อร่อย และแน่นอนว่ามาจันทบุรีทั้งทีก็ต้องกินเส้นจันท์ผัดปูรสกลมกล่อมหวานนิดๆ เผ็ดหน่อยๆ เส้นเหนียวหนึบหนับ นอกจากนี้ยังมีขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ แบบบริการตัวเองให้บริการในยามเช้าอีกด้วยค่ะ
รัตนะบุรี จันทบุรี โฮมสเตย์
ที่ตั้ง : 16/16 ม.10 ต.หนองซิ่ม อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี
ราคา : 1,700 บาท (ต่อคน) พร้อมแพ็กเกจกิน เที่ยว ภายใต้บรรยากาศเมือง
โทรศัพท์ : 0646282891
GPS : https://goo.gl/maps/3ahP38wxKqDfU3X27
Facebook : https://www.facebook.com/Rattanaburi.Chanthaburi/
เช็คเอาท์เรียบร้อยก็เปิด GPS มุ่งหน้าสู่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน ไปเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งที่นี่ไม่มีค่าเข้าชมนะคะ การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับทางไปหาดเจ้าหลาว ตรงไปยังทางแหลมเสด็จ ตั้งอยู่ตรงข้ามหาดแหลมเสด็จ ทางเข้าจะอยู่ด้านขวาตรงข้ามกับศูนย์ประมง จุดเด่นของที่นี่คือทางเดินบนสะพานไม้ที่ทอดยาวกว่า 1,700 เมตร ท่ามกลางป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งต้นแสมทะเล โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ โปรงแดง ลำพูทะเล ฯลฯ บรรยากาศร่มรื่นเป็นธรรมชาติมากๆ เลยค่ะ ไฮไลท์อีกอย่างคือ สะพานแขวนและหอดูนก ที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิวอ่าวคุ้งกระเบนจากมุมสูง แน่นอนว่าพวกเราก็ไม่พลาดขึ้นไปถ่ายรูปสวยๆ กัน
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน
ที่ตั้ง : 31 หมู่ที่ 4 ตำบล คลองขุด อำเภอ ท่าใหม่ จันทบุรี 22000
เปิดทุกวัน 08.00 - 18.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/zvFPb2Xg1J3uCyDA8
จากนั้นก็เปิด GPS ต่อ มุ่งหน้าสู่ ชุมชนริมน้ำจันทบูร ไปเดินถ่ายรูปกับบ้านเรือนเก่าๆ สไตล์วินเทจเพราะที่นี่เป็นชุมชนเก่าแก่กว่า 300 ปี เลยนะ เราใช้เวลาขับรถจากศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบนมาถึงชุมชนริมน้ำจันทบูรประมาณครึ่งชั่วโมง
เรามาถึงชุมชนริมน้ำจันทบูรก็เลยมื้อเที่ยงแล้ว ดังนั้นเราเลยหาร้านข้าวทานก่อนเลย ซึ่งที่นี่มีร้านก๋วยจั๊บ ก๋วยเตี๋ยว และข้าวให้เลือกเยอะมาก ใครชอบทานอะไรก็เลือกกันได้ตามสะดวกเลยค่ะ แต่อย่าทานจนเพลินพุงออกนะคะ เพราะที่นี่มีมุมอาร์ตๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมากเช่นกัน
เราสั่งก๋วยจั๊บ 2 และก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม น่าทานไหมคะ? สนนมื้อนี้ราคา 123 บาทเท่านั้น
อิ่มท้องแล้วก็มาเดินเล่นถ่ายรูปลงโซเชียลอวดเพื่อนๆ สักหน่อย
ชุมชนริมน้ำจันทบูร
ที่ตั้ง : ถนนสุขาภิบาล ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
GPS : https://goo.gl/maps/ENDsQG8VYK9r4F1f8
เราเดินถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ จนเมมเกือบเต็ม ก่อนจะขับรถกลับกรุงเทพเลยแวะเช็คอินที่ จุดชมวิวเนินนางพญา เพราะแฟนเราบอกว่าถ้าใครมาถึงจันทบุรีแล้วไม่มาเช็คอินที่นี่ก็คงเหมือนมาไม่ถึง คงเพราะจุดนี้ล่ะมั้งถึงได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวสุดสวยเลียบชายทะเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย หากขับรถลงจากอ่าวให้เลี้ยวไปทางซ้าย ก็จะได้พบกับถนนเลาะเลี้ยวไปกับฝั่งทะเลและชายเขา เมื่อขับไปถึงสุดทางจะมีจุดชมวิวซึ่งหากมองกลับมายังถนนที่เราเพิ่งขับผ่านไป ก็จะเห็นวิวสวยๆแบบนี้ นอกจากนี้ยังมีโซนให้คู่รักมาคล้องกุญแจเป็นสัญลักษณ์แทนความรักที่นี่กันอีกด้วย
จุดชมวิวเนินนางพญา
ที่ตั้ง : ตำบล สนามไชย อำเภอ นายายอาม จันทบุรี 22170
GPS : https://goo.gl/maps/ZU8Df9jatS9TkqF29
เช็คอินแลนด์มาร์คเมืองจันท์ไปหลายที่ก็ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพฯ เป็นอันจบทริปค่ะ จะบอกว่าการมาเที่ยวจันทบุรี 2 วัน 1 คืน ของเรากับเพื่อนๆ ครั้งนี้เป็นอะไรที่ดีต่อใจมากเลยนะ นอกจากจะได้ถ่ายรูปสวยๆ ดื่มด่ำธรรมชาติ พักโฮมสเตย์แสนสบาย กินซีฟู้ดจัดเต็มแล้ว ยังได้เติมพลังกายและใจให้พร้อมกลับไปลุยงานต่อแล้วล่ะ ถ้าใครอยากไปเที่ยวพักผ่อนแต่มีเวลาน้อยและกำลังมองหาที่เที่ยวไม่ไกลกรุงเทพฯ ในงบ 5,000 อยู่ล่ะก็ แนะนำให้จดลิสต์ที่เราแนะนะเลยจ้า รับรองแฮปปี้แน่นอน
สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่าที่จอดรถ 20 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน 598 บาท
- ค่าที่พัก 1,700 บาท/คน
- ค่าอาหารกลางวัน 123 บาท
- ค่าน้ำมัน 1,500 บาท
รวม 7,341 บาท
บทความแนะนำ:
10 ที่พักสุดชิลจันทบุรี มีทั้งโซนติดทะเล ริมน้ำ และตัวเมือง อัพเดทใหม่ 2020 : https://www.chillpainai.com/scoop/11955
15 จุดเช็คอินยอดฮิตจันทบุรี ที่ต้องลองไปสักครั้ง ! อัพเดทใหม่ 2020 : https://www.chillpainai.com/scoop/10799
15 โฮมสเตย์จันทบุรี กินปู ดูเหยี่ยว พร้อมราคาแพ็คเกจ อัพเดทใหม่ 2020! : https://www.chillpainai.com/scoop/11448
Tags: จันทบุรี ที่เที่ยวจันทบุรี ที่พักจันทบุรี ที่พักสวยจันทบุรี โฮมสเตย์จันทบุรี โฮมสเตย์บรรยากาศดี โฮมสเตย์กินปูดูเหยี่ยว คาเฟ่จันทบุรี ร้านอาหารจันทบุรี ร้านอร่อยจันทบุรี SkyViewCafeAtเกาะเปริด คาเฟ่เกาะเปริด เกาะเปริด คาเฟ่ริมทะเล คาเฟ่หน้าผา คาเฟ่ติดทะเล รัตนะบุรีจันทบุรีโฮมสเตย์ RattanaburiChanthaburi กินปูจันทบุรี ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน ชุมชนริมน้ำจันทบูร จุดชมวิวเนินนางพญา
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 328 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 247 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 773 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,105 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ต.ค. 2024 | 815 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน ทริปตัวอย่าง | 11 ก.ย. 2024 | 2,185 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 05 ส.ค. 2024 | 1,916 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 31 ก.ค. 2024 | 1,371 อ่าน
ทริปตัวอย่าง ที่เที่ยว | 25 ก.ค. 2024 | 1,282 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 23 ก.ค. 2024 | 2,032 อ่าน