calendar_month 29 เม.ย. 2020 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 132,563 / ทริปตัวอย่าง
พัทลุง จังหวัดภาคใต้ที่ไม่ได้มีพื้นที่ติดทะเล แต่กลับกลายเป็นจังหวัดที่มากไปด้วยเสน่ห์ เพราะพัทลุงมีวัฒนธรรม ผู้คน สถานที่ท่องเที่ยว และอาหารการกินที่ดึงดูดให้เราชวนเพื่อนสาวนั่งรถไฟขบวนใหม่ไปเที่ยวพัทลุงแบบสั้นๆ 3 วัน 2 คืน ลองออกเดินทางนั่งฟังเสียงรถไฟฉึก-ฉัก ไปพัทลุงพร้อมกับเรา แล้วคุณจะรู้ว่าเมืองไม่ติดทะเลแห่งนี้ทำไมดีกรีความน่ารักล้นเหลือ
เราออกเดินทางด้วยขบวนรถไฟสายทักษิณารัถย์ หรือขบวนที่ 31 เป็นรถไฟขบวนใหม่ที่เปิดให้บริการมาสักพักใหญ่แล้วค่ะ แต่สำหรับเราเป็นครั้งแรกที่จะได้ขึ้นรถไฟขบวนนี้ เห็นน้องๆ พี่ๆ ที่เคยไป มารีวิวว่าดีนักดีหนา ครั้งนี้เลยขอมาสัมผัสด้วยตัวเองว่าจะน่านั่งขนาดไหน เรานั่งจากสถานีสามเสนค่ะ รถออกเวลา 14.45 น. เราจองแบบ Lady Car เป็นรถปรับอากาศชั้น 2 ค่ารถเตียงบน 978 บาท เตียงล่าง 1,078 บาท กำหนดการถึงสถานีพัทลุงเวลาประมาณตี 5 สามารถเช็ครอบเวลาและจองได้ที่ http://www.railway.co.th/Home/Index หรือ www.thairailwayticket.com ซึ่งสามารถจองได้ล่วงหน้าประมาณ 90 วันก่อนเดินทาง
ตอนแรกเรากะว่าจะจองออนไลน์ผ่าน www.thairailwayticket.com แต่กดจองเท่าไรก็ไม่มีตั๋วในวันที่ไปเลย ระบบขึ้นว่าเต็มตลอด เลยตัดสินใจโทรไปจองที่เบอร์ 1690 ซึ่งสามารถจองได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง พนักงานน่ารักมากๆ ค่ะ ให้ข้อมูลดีมากๆ และบอกว่าวันที่เราไปมีที่นั่งว่างอยู่ (แอบงงว่าทำไมกดจองออนไลน์ขึ้นเต็มล่ะ) โดยตอนจองต้องเตรียมบัตรประชาชนผู้ที่เดินทางทุกคนไว้ด้วย เพราะเขาจะถามชื่อและเลขบัตรประชาชน จากนั้นพนักงานก็จะให้รหัสจองมาให้เราไปชำระเงินและรับตั๋วที่สถานีรถไฟที่ไหนก็ได้ โดยจะต้องไปรับตั๋วภายในไม่เกิน 22.00 น.ของวันรุ่งขึ้น
พอวันเดินทางเรามารอที่สถานีรถไฟสามเสนล่วงหน้าประมาณครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นก็ซื้อขนมขบเคี้ยว และน้ำดื่มบ้างพอกรุบกริบกะว่าจะไปนั่งสวยๆ กินบนห้องเสบียง รถมาตรงเวลาเกือบเป๊ะค่ะ อ๊ะ ก่อนขึ้นต้องดูตู้ขบวนที่เรานั่งไว้ให้ดี แล้วถามกับพนักงานที่สถานีว่าตู้เราตอนจอดจะอยู่แถวๆ ไหน อย่าให้เป็นแบบเราที่ลืมถามพี่พนักงาน พอรถไฟมาถึงพี่เขาชี้ว่าตู้น้อง อยู่โน่นนนนเลย ข้างหลังเดือบสุดโน่น เพราะรถไฟขบวนทักษิณารัถย์นั้นยาวมากๆ ค่ะ ยืนผิดตู้ชีวิตเปลี่ยนทันที สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือใส่ตีนหมาวิ่งสิคะพี่จะรออะไร หอบกระเป๋าพะรุงพะรังไปที่ตู้ขบวนเรา ซึ่งรถไฟเขาจะจอดรับคนไม่นานค่ะ ไปถึงตู้ขบวนก็เจอพี่พนักงานผู้หญิงยืนต้อนรับอยู่ก็เป็นสัญญาณว่าเรามาถึงตู้เลดี้คาร์แล้ว
โอยยยย พอขึ้นมาลบภาพรถไฟไทยที่เราเคยนั่งไปเลยค่ะ ซึ่งเราก็เคยนั่งรถไฟแบบปรับอากาศชั้น 2 ของสายใต้มาหลายครั้งล่ะ แต่ครั้งนี้มันหะรูหะรามากเลยแกรรร ตั้งแต่ประตูเปิดที่เป็นระบบสัมผัส แค่แตะเบาๆ ประตูก็เลื่อนปรื๊ด พร้อมแอร์เย็นฉ่ำ เบาะเป็นสีแดงหรูหรา ได้อารมณ์เหมือนกำลังนั่งรถไฟไปไซบีเรีย หน้าต่างกระจกกว๊างกว้าง พร้อมม่านสีเหลืองทองปิดกั้นแสงแดด มีโต๊ะตรงกลางสำหรับวางอาหาร พร้อมน้ำเปล่าฟรีคนละขวด ใครมีกระเป๋าใบใหญ่ก็สอดไว้ใต้เบาะที่นั่งได้ค่ะ มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ที่นั่งของเราจะมีปลั๊กไฟให้ค่ะ แต่สำหรับด้านล่างจะมีอยู่เต้าเสียบอันเดียว และมีด้านบนอีกหนึ่งเต้าเสียบ หลายคนถามว่าแล้วเวลาจะนอนทำอย่างไร ก็ถ้าจะนอนเราก็ไปเรียกพนักงานที่ดูแลตู้เราให้มาปูเตียงให้ค่ะ (เดี๋ยวมีภาพให้ดูตอนที่เขาปูเสร็จแล้ว)
มาดูห้องน้ำกันบ้าง เซอร์ไพรส์มากๆ เพราะห้องน้ำบนรถไฟสะอาดมากๆ มีสบู่เหลวล้างมือ พร้อมสายชำระและกระดาษชำระ มีพนักงานมาทำความสะอาดตลอด บอกเลยว่าสะอาดกว่าห้องน้ำในสถานีรถไฟบางสถานีอีก ถึงขนาดเรายอมกลั้นไม่เข้าในสถานีเพื่อมาเข้าบนรถไฟกันเลย ห้องน้ำขบวนนึงจะมี 2 ห้อง พนักงานจะแจ้งว่าห้องน้ำตู้เราอยู่ฝั่งไหน ซึ่งตอนแรกเราไปเข้าผิดฝั่ง ไปเข้าของตู้รวมที่สามารถเดินถึงกันได้ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยค่ะ เพราะพนักงานแจ้งว่าหลัง 4 ทุ่มแต่ละตู้จะล็อคประตูตู้ของตัวเองไม่ให้คนจากตู้อื่นเดินมาตู้เราได้ ซึ่งในเรื่องความของรถไฟขบวนใหม่นี้เราให้คะแนน 9 เต็ม 10ไปเลย ถ้าเป็นผู้หญิงคนเดียวก็สามารถนั่งได้ค่ะ
หลังจากเก็บของเข้าที่นั่งกันแล้ว ก็ไปเดินสำรวจขบวนรถไฟขบวนนี้กัน ความตั้งใจคืออยากไปนั่งทานอาหารสวยๆ ในตู้ขบวน มีเคาน์เตอร์ขายของอยู่ด้านหน้าแบบรถไฟญี่ปุ่น มีเครื่องดื่มขนมขบเคี้ยว ของใช้พวกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าอนามัยขายด้วย ส่วนอาหารที่เขาขายจะเป็นเมนูง่ายๆ พวกข้าวกล่อง และอาหารชุดซึ่งราคาแอบแรงไปนิสสสสนุงค่ะ ข้าวกล่องธรรมดาประมาณ 60 บาท แกงจืดถ้วยนึงประมาณ 130 บาท ส่วนอาหารชุดที่มีข้าว ผลไม้ ขนม เครื่องดื่มตกชุดละ 150 - 200 บาท เราเลยตัดสินใจว่าเดี๋ยวรอทานอาหารระหว่างที่รถไฟแวะตามสถานีต่างๆ ดีกว่าเพราะไปอ่านรีวิวมาว่าจะมีอาหารขึ้นมาขายด้วย เลยตัดสินใจโบกมือลาตู้เสบียงเดินกลับไปตู้เรา แต่ถ้าใครจะมาทานก็มาได้เลยค่ะ ตู้เสบียงเปิดให้บริการเวลา 5.00-22.00 น. หรือจะสั่งที่ตู้เราก็ได้ เพราะจะมีพนักงานจากตู้เสบียงคอยเดินเอาเมนูไปให้เราเลือกสั่ง
หลังจากเดินกลับมานั่งตู้ตัวเอง รถไฟก็เข้ากำลังเข้าเทียบสถานีราชบุรี พี่พนักงานประจำตู้เราก็เดินมาบอกกับทุกคนว่า เดี๋ยวจะถึงสถานีราชบุรีให้เราเตรียมไปรอที่หน้าประตูได้เลยค่ะ เพราะจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารอขายอาหาร เรานี่รีบหยิบเงินตรงรี่ไปที่ประตู พอประตูเปิดปุ๊บก็มีพ่อค้าหิ้วถือถาดใส่ชามก๋วยเตี๋ยวมารอที่หน้าประตูเลย ชามละ 10 บาทเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีหมูปิ้ง และอาหารอีกมากมายที่รอขาย แต่ต้องรีบกันนิดนึงนะคะ เพราะรถจอดแป๊บเดียว
หน้าตาก๋วยเตี๋ยวราชบุรี ปริมาณไม่เยอะ สมราคาค่ะ ใครกินจุแนะนำว่าชามเดียวไม่พอ รสชาติจะออกไปทางหวานนำ ไม่มีเครื่องปรุงมาให้นะคะ เพราะเขาปรุงมาแล้ว ถือว่าพอกินได้แต่ถ้าเพิ่มเปรี้ยวไปอีกนิดน่าจะกำลังพอดี
กินข้าวเมาท์มอยหอยสังข์กับเพื่อนจนฟ้าข้างนอกมืดก็ถึงเวลาไปเรียกพี่พนักงานให้มาช่วยปูเตียงค่ะ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที พี่เขาก็เนรมิตรที่นอนแบบเตียง 2 ชั้น บนล่าง น่านอนมาให้เราค่ะ
ชั้นบนต้องออกแรงปีนนิดนึงค่ะ มีไฟหัวเตียงให้ พร้อมปลั๊กไฟ แนะนำว่าโหลดหนัง โหลดเน็ตฟลิกซ์มาให้พร้อม ส่วนใครที่ขี้หนาวควรเตรียมเสื้อกันหนาว กางเกงขายาว ถุงเท้ามาด้วย เพราะเตียงบนจะใกล้แอร์กว่าเตียงล่างค่ะ
ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ประมาณตี 4 เตรียมล้างหน้าแปรงฟัน ประมาณตี 5 นิดๆ เลทเวลาถึงไปนิดหน่อย รถไฟก็มาจอดเทียบชานชาลาที่สถานีพัทลุงค่ะ จากนั้นก็เดินไปยังที่พักที่เราจองเอาไว้ ชื่อโรงแรมเมอร์เดอลอง เป็นที่พักใจกลางเมือง ใกล้กับสถานีรถไฟพัทลุงค่ะ เดินประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ค่าที่พักเราจองผ่านทาง Agoda เป็นห้องเตี่ยงทวินมีห้องน้ำในตัวราคาคืนละ 667 บาท ถูกมากๆ เรามาถึงแต่เช้ามืดยังเข้าห้องไม่ได้เลยต้องฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้ พักเหนื่อยกันสักนิดรอจนฟ้าสางก็ออกตะลุยเที่ยวในพัทลุงกันเลย
ขอบคุณภาพจาก โรงแรมเมอร์เดอลอง
โรงแรมเมอร์เดอลอง
ที่ตั้ง : 42 ถนน ประชาบาล ตำบล คูหาสวรรค์ อำเภอ เมือง พัทลุง
ราคา : 650 - 2600 บาท
เบอร์โทรศัพท์ : 074615888
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/vBCphfkHHSGvh5Pe9
จองที่พักออนไลน์ที่นี่
สำหรับการเที่ยวในพัทลุงเราเช่ารถขับ โดยใช้บริการเพจ พัทลุงรถเช่า Phatthalung Bike & Car Rental ค่าเช่า 890 บาท/วันเท่านั้นค่ะ มีค่ามัดจำ 2,000 บาท ซึ่งเขาเอารถมาจอดไว้ที่หน้าโรงแรมและฝากกุญแจกับทางโรงแรมไว้ รถค่อนข้างใหม่เลยค่ะ น้ำมันเต็มถึง เวลาคืนก็เติมกลับให้เขา ราคาค่าเช่าไม่แพงด้วย ใครไปเที่ยวพัทลุงก็ลองไปใช้บริการที่นี่ได้เลย
จุดหมายแรกของเราในวันนี้คือไปรับความชุ่มฉ่ำที่แก่งน้ำหูแร่ ที่เที่ยว ที่พักผ่อนของคนพัทลุง ตั้งอยู่ในอำเภอบางแก้วค่ะ จากที่พักใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ บรรยากาศร่มรื่น น้ำใสเย็นสบายพร้อมมีศาลาริมน้ำซึ่งเป็นศาลาของร้านอาหารให้นั่งชิลทานอาหารอร่อยได้ด้วย
ถือเป็นมื้อเช้ามื้อแรกที่เราได้ทานกันเลยค่ะ ทั้งส้มตำ ยำ รสแซ่บโดนใจ ทานไปพร้อมกับชมบรรยากาศชิลๆ ของแก่งน้ำหูแร่ ค่าเสียหายมื้อนี้ประมาณคนละ 150 บาทเท่านั้น (เรามากัน 4 คนค่ะ) ใครที่มาทานอาหารโปรดรักษาความสะอาดกันด้วยนะคะ ไม่ควรทิ้งเศษอาหาร หรือเศษขยะลงน้ำกันนะคะ
ที่ตั้ง : แก่งหูแร่ ตำบล ท่ามะเดื่อ อำเภอ บางแก้ว พัทลุง
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/vNdEqdHWmrpyCRA98
จุดหมายต่อไปคือไปแช่น้ำร้อนที่บ่อน้ำร้อนเขาชัยสน จากแก่งน้ำหูแร่ขับรถประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ โดยเขาจะมีบ่อน้ำร้อนอุณหภูมิประมาณ 60 องศาให้ได้แช่เท้า พร้อมกันนั้นยังมีห้องอาบน้ำร้อน ห้องนวด ธารน้ำเย็น ท่ามกลางการโอบล้อมของภูเขาหินปูนบรรยากาศร่มรื่นมากๆ
บ่อน้ำร้อนเขาชัยสน
ที่ตั้ง : ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน พัทลุง
เบอร์โทรศัพท์ : 074691590
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/QeugSJdNy1R75eS4A
จากนั้นเดินทางไปเช็คอินกับแลนด์มาร์คสุดฮอตในพัทลุงนั่นก็คือสำเภาไทยค่ะ แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของพัทลุง ท่ามกลางทุ่งนาสีเขียวขจี มีสะพานไม้ทอดยาวไปในทุ่งนาพร้อมไฮไลท์คือเรือสำเภาขนาดใหญ่ที่ตั้งโดดเด่นกลางทุ่งนา และมีหุ่นคิงคองยักษ์ที่ทำจากฟางกำลังลากเรือสำเภาอยู่ นอกจากนี้ยังมีหุ่นฟางพี่ควาย น้องควาย และจุดถ่ายรูปอีกเพียบ
มีร้านอาหารและที่พักให้บริการด้วยนะคะ โดยอาหารจะเป็นเมนูส้มตำ และเครื่องดื่ม กาแฟ น้ำผลไม้เย็นๆ ชื่นใจนั่งทานไปชมวิวทุ่งนาไปค่ะ
เราสั่งน้ำผลไม้ปั่นเย็นๆ มาทานคู่กับส้มตำไข่เค็ม แนะนำน้ำมะม่วงเบาปั่นค่ะ หวานๆ เปรี้ยวเย็นชื่นใจ มื้อนี้ค่าเสียหายหมดไปคนละ 80 บาทเท่านั้น
ที่ตั้ง : บ้านท่าสำเภาใต้ ม.4 ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
เปิดบริการ : 8.00-18.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 081 904 5260
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/wy4FwTzL5yLDhNpu9
จากนั้นไปขับรถชมวิวยามเย็นที่ถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถนนสวยที่เชื่อมจังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลาเข้าด้วยกัน มีความยาวถึง 14.130 กิโลเมตร และอยู่ระหว่างทะเลน้อยและทะเลสาบสงขลาค่ะ
จุดยอดฮิตที่มาถ่ายรูปกันคือบ้านร้างหลังน้อยที่อยู่ฝั่งทะเลสาบสงขลาพร้อมกับชมน้องควายน้ำตัวอ้วนปั้กที่ลอยคอ เล็มหญ้าอย่างสบายใจ
ที่ตั้ง : ถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จากอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ทอดยาวไปจนถึงอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/wdzcqKcNXRRonhcZ8
มื้อเย็นวันนี้เราฝากท้องไว้ที่ร้านวิวยอ ร้านอาหารซีฟู้ดวิวดีที่ตั้งอยู่ภายใน Sripakpra Boutique Resort ริมทะเลสาบสงขลา พร้อมกับวิวยอยักษ์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวบ้านปากประ ให้ชมด้วยค่ะ
ร้านบรรยากาศเปิดโล่ง พร้อมมีดนตรีสดบรรเลงเพลงเพราะๆ ให้เราได้ฟัง
จัดเต็มอาหารมื้อเย็นทั้ง ปลาช่อนหลงพรุ หรือปลาช่อนลุยสวนปลาดุกร้า แกงกะทิหอยขมใบชะพลู แกงส้มปลากดเขาคัน ปลาหมอคั่วเกลือ และกุ้งแม่น้ำ บอกเลยว่าอร่อยทุกเมนู โดยเฉพาะปลาดุกร้า อาหารประจำจังหวัดพัทลุงที่เราติดใจมากๆ รสชาติเหมือนปลาอินทรีย์เค็มค่ะ เวลาทานจะทานกับหัวหอม พริก บีบมะนาวไปหน่อยคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมากๆ มื้อนี้ค่าเสียหายคนละประมาณ 300 กว่าบาทเท่านั้น
ที่ตั้ง : ร้านวิวยอ ภายใน Sripakpra Boutique Resort ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 10.00-22.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 062-232-5201
GPS : https://goo.gl/maps/iCXwqW3oGwSDJFA9A
สายๆ เช็คเอาท์ออกจากที่พักแล้วเราก็ขับรถไปเที่ยวกันต่อที่ตลาดป่าไผ่สร้างสุขใช้เวลาขับรถไปประมาณครึ่งชั่วโมง ที่นี่เป็นตลาดชาวบ้านขายของกิน ของฝากพื้นบ้าน พืชผลเกษตรกรรมท่ามกลางป่าไผ่สุดร่มรื่น โดยจะเปิดตลาดเฉพาะวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น.
ของคาว ของหวานละลานตามากๆ ค่ะ ซึ่งที่นี่เป็นตลาดรักษ์โลกที่เน้นใช้วัสดุจากธรรมชาติมาทำเป็นภาชนะใส่อาหาร
ราคาก็ไม่แพงค่ะ ของกินที่นี่ราคาเริ่มต้นประมาณ 10 บาทเท่านั้น
หนอนดักแด้ก็มีตัวอ้วนกลม ทอดร้อนๆ เหยาะซอสหน่อยๆ โรยพริกไทยนิดๆ พร้อมทาน
สาคูต้น ขนมพื้นถิ่นของชาวพัทลุงที่ทำมาจากต้นสาคูแท้ๆ หอม หวาน เวลาทานจะราดหัวกะทิเค็มๆ มันๆ อร่อยมากๆ ใครอยากซื้อกลับบ้านก็มีเป็นแป้งสาคูที่สามารถนำไปต้มทานที่บ้านได้เลย
ขนมที่เด็กใต้เท่านั้นจะรู้จัก หัวครกหราน้ำผึ้ง หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์เคลือบน้ำตาล หอม หวาน ติดฟันสนุกแท้
การแสดงมโนราห์ของน้องนุ้ยคนงามแห่งเมืองลุง น่ารักมากๆ ค่ะ
เมื่อวานไปทานปลาดุกร้าที่ร้านวิวยอและติดใจ วันนี้เลยมาซื้อปลาดุกร้าร้านนี้กลับไปทอดที่บ้าน คอนเฟิร์มความอร่อยของปลาดุกร้าร้านนี้ค่ะ เค็มกำลังพอดี มีรสหวานนิดๆ ร่อยจังฮู้
ที่ตั้ง : ตลาดป่าไผ่สร้างสุข (สวนไผ่ขวัญใจ) ตำบลควนขนุน อำเภอควนขนุน พัทลุง
เปิดบริการ : วันเสาร์เวลา 9.00-17.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 074231055
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/8eHc8t9VjeXo6w8y8
เรื่องอาหารของเราในทริปนี้จังไม่จบ เขาบอกว่ามาพัทลุงต้องมาทานขนมหวานร้านป้ากี้ จากป่าไผ่สร้างสุขใช้เวลาขับรถประมาณ 10 นาทีค่ะ ก็ถึงร้านแล้วค่ะ เป็นร้านขนมเล็กๆ มีที่นั่งไม่เยอะ เปิดขายมากว่า 50 ปี เจ้าของร้านนี้คือคุณป้าเยาวนีย์ ตันชีววงศ์ หรือป้ากี้อายุ 70 กว่าปีแล้วค่ะ ตำนานความอร่อย แต่วันนี้เสียดายไม่เจอป้ากี้ค่ะ
เมนูเด็ดของขนมหวานร้านป้ากี้ก็คือสาคูต้นนี่แหละค่ะ เมื่อกี้ไปกินที่ป่าไผ่สร้างสุขก็ว่าอร่อยแล้ว เลยลองมาลิ้มรสสาคูต้นของร้านนี้ โอ๊ยยยย อร่อยยิ่งขึ้นไปอีก สาคู หอม หวานมากๆ
นอกจากนี้ยังมีขนมหวานอื่นๆ อีกมากมายค่ะ ทั้งกล้วยเชื่อม เต้าส่วน สาคูเปียก ข้าวโพดเปียก ลูกเดือยต้มกะทิ รวมมิตร และอีกมากมาย ราคาถ้วยละ 10 บาทเท่านั้น ถูกเหลือเชื่อ!!
ที่ตั้ง : ร้านขนมหวานป้ากี้ ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน พัทลุง
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 10.00 น. – 15.00 น.
เบอรโทรศัพท์ : 086 971 9774
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/xuK5EAYXgQo9kVXR7
จากนั้นก็เดินทางมายังสถานีรถไฟพัทลุง เพื่อนำรถยนต์มาคืนค่ะ ค่ารถ 2 วัน รวมเป็น 1,780 บาท พร้อมน้ำมันอีก 500 บาท แล้วก็เตรียมโบกมือลาพัทลุงนั่งรถไฟขบวน 32 ออกจากพัทลุง 20.19 น. กลับกรุงเทพฯ ค่ะ ตามกำหนดการต้องถึงสถานีรถไฟสามเสนประมาณ 10.15 น. ค่ะ แต่เพราะมีการทำรางรถไฟระหว่างทางทำให้เรามาถึงสามเสนประมาณบ่ายโมงค่ะ ซึ่งถ้าตัดเรื่องเลทขากลับไป เราว่ารถไฟไทยปรับปรุงเรื่องการบริการ ขบวนรถ ความสะอาด ความปลอดภัยได้ดีเลยค่ะ หวังว่าสักวันระบบรางของไทยจะเรียกความเชื่อมั่นในเรื่องเวลาการเดินทางให้คนรักรถไฟอย่างเราได้มั่นใจกันมากขึ้น ส่วนความประทับใจในจังหวัดพัทลุงของเราทริปนี้เอาใจไปล้านดวงกันเลย...
สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่ารถไฟไป-กลับ = 2056
- ค่าที่พัก 1 คืน = คนละ 333 บาท
- ค่าอาหารรวม 3 วัน =1,000 บาท / คน
- ค่าของฝาก = 300 บาท
- ค่าเช่ารถ + น้ำมันสำหรับ 2 วัน (เดินทาง 4 คน) = คนละ 457 บาท
รวม 4,146 บาท
Tags: พัทลุง ทริปตัวอย่าง เที่ยวพัทลุง รถไฟใหม่ รถไฟขบวนใหม่สายทักษิณารัถย์ นั่งรถไฟไปพัทลุง ที่เที่ยวพัทลุง ร้านอาหารพัทลุง ที่กินพัทลุง ที่พักพัทลุง โรงแรมพัทลุง โรงแรมเมอร์เดอลอง แก่งน้ำหูแร่ บ่อน้ำร้อนเขาชัยสน สำเภาไทย ถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สะพานเอกชัย ทะเลน้อย ทะเลสาบสงขลา วิวยอ ตลาดป่าไผ่สร้างสุข สวนไผ่ขวัญใจ ขนมหวานป้ากี้
ทริปตัวอย่าง | 18 ธ.ค. 2024 | 106 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 12 ธ.ค. 2024 | 298 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ธ.ค. 2024 | 390 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 27 พ.ย. 2024 | 513 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 26 พ.ย. 2024 | 732 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 1,045 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 01 ธ.ค. 2024 | 482 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 911 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 28 ต.ค. 2024 | 1,243 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,404 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,765 อ่าน