calendar_month 23 มี.ค. 2020 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 143,648 / รีวิวที่เที่ยว
“ฉันคิดถึงชุมพรอ่ะแก ฉันอยากกลับไปชุมพร”
ยอมรับเลยค่ะว่าอาการนี้เขาเรียกว่าคนเพ้อ ซึ่งเราจะเป็นทุกครั้งที่กลับจากการเดินทางที่ประทับใจ ซึ่งครั้งนี้มันเกิดขึ้นหลังจากกลับจากเมืองชุมพร เมืองที่เปรียบเป็นประตูสู่ภาคใต้ ที่หลายคนอาจจะมองว่าเป็นทางผ่าน
สำหรับเราก็เคยมองว่าชุมพรเป็นแค่ทางผ่าน เพราะเราไม่รู้ว่าชุมพรนั้นมีอะไร เขาเที่ยวที่ไหนกันในชุมพร เรารู้จักชุมพรก็แค่ตอนที่นั่งรถไฟหรือรถทัวร์ลงใต้ แล้วรถจะไปแวะพักที่ชุมพร เป็นสัญญาณว่าเราเข้าสู่เขตปลายด้ามขวานของไทยแล้ว
แต่สำหรับครั้งนี้เราตั้งใจเดินทางไปเมืองชุมพร เพื่อค้นหาความงามที่ซ่อนอยู่ในประตูสู่ภาคใต้แห่งนี้
ก่อนจะไปทำความรู้จักปัจจุบันของชุมพร เราจะขอพาเพื่อนๆ ย้อนไปอดีตกันสักหิดหุ้ย (เล็กน้อย) ราวปีพุทธศักราช 1098 ได้ปรากฏชื่อเมือง "ชุมพร" ขึ้น ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีนั้น "ชุมพร" เป็นหนึ่งในเมืองสิบสองนักษัตรของอาณาจักรนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเมืองปีมะแม หรือปีแพะ และเป็นเมืองหน้าด่านฝ่ายเหนือ เพราะอยู่ตอนบนของภาคใต้
คำว่า "ชุมพร" มีการสันนิษฐานกันหลายตำราเลยค่ะ บ้างก็ว่ามาจากคำว่า "ชุมนมพล" เพราะเป็นเมืองหน้าด่าน เป็นจุดชุมนุมพลของเหล่าทัพต่างๆ ทั้งจากทางเหนือและทางใต้ บ้างก็ว่ามาจากคำว่า "ชุมนุมพร" เพราะด้วยความเป็นเมืองหน้าด่านอีกล่ะ เหล่าแม่ทัพนายกองต่างๆ ก่อนจะออกรบก็ต้องทำพิธีส่งทัพโดยการบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ได้รับชัยชนะในการสู้รบ เป็นการชุมนุมกันเพื่อรับพร เลยกลายเป็นคำว่าชุมนุมพร ซึ่งสุดท้ายเพี้ยนกลายมาเป็นคำว่าชุมพร
แต่บางตำราบ้างก็ว่าน่าจะมาจากชื่อพันธุ์ไม้ท้องถิ่น นั่นคือต้นมะเดื่อชุมพร ที่มักขึ้นอยู่บริเวณนี้ และต้นมะเดื่อชุมพรนั้นก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองชุมพรอีกด้วย
ฟังประวัติกันพอหอมปากหอมคอ ถึงเวลาไปตะลุยชุมพรกันให้เต็มที่แล้วค่ะ ลองมาดูกันว่าที่เที่ยว ที่กิน ที่พักในชุมพรที่ต้องไปลองแล้วจะรู้ว่าเมืองรองแห่งนี้นั้นมีอะไรดีกว่าที่คุณคิด จะมีที่ไหนบ้าง
ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
เริ่มจากตัวอำเภอเมืองชุมพรกันก่อนที่นี่มีที่เที่ยวมากมาย ไฮไลท์ที่สุดก็ต้องยกให้ที่นี่เลย "ตำบลหาดทรายรี" อยู่ห่างจากใจกลางเมืองชุมพรมาประมาณ 30 นาที เราก็จะได้พบกับหาดทรายสีขาวที่ทอดตัวยาวประมาณ 500 เมตร ใครที่มาเที่ยวที่นี่สิ่งแรกที่ต้องมาทำก็คือการสักการะเสด็จเตี่ย หรือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ "ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์" ตั้งอยู่บริเวณเวิ้งอ่าวสุดหาดทรายรี โดยเป็นศาลาสีขาวตั้งอยู่บนเนินเขา หันหน้าออกสู่ทะเล ก่อนถึงศาลเสด็จเตี่ยจะมีมณฑปของพระครูวิมลคุณากรหรือหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า พระอาจารย์ของกรมหลวงชุมพรให้เราได้สักการะบูชาอีกด้วย
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชโอรสพระองค์ที่ 31 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงเป็นผู้วางรากฐานการบริหารงานของกองทัพเรือ จนได้รับขนานนาม "องค์บิดาของทหารเรือไทย" ในชีวิตบั้นปลายของท่านได้มาประทับอยู่ที่ตำบลหาดทรายรี จังหวัดชุมพร จวบจนสิ้นพระชนม์ ณ สถานที่แห่งนี้
ด้านในศาลประดิษฐานรูปปั้นสัมฤทธิ์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พร้อมเครื่องสักการะบูชาซึ่งเป็นดอกกุหลาบสีแดงที่พระองค์ทรงโปรด หลายคนที่มาขอพรท่านส่วนมากก็จะขอพรในเรื่องที่ดิน การสอบ การเข้ารับราชการค่ะ และถ้าใครมาขอลูก ว่ากันว่าจะได้ลูกชายที่ในอนาคตจะได้เป็นทหารเรืออีกด้วยนะคะ ซึ่งถ้าสำเร็จก็จะมาแก้บนด้วยการจุดประทัดถวายท่าน มาที่นี่เราก็จะได้ยินเสียงโป้ง ปั้ง ของประทัดอยู่ตลอดเวลา ส่วนประทัดแก้บนสามารถหาซื้อได้ที่บริเวณหน้าศาลได้เลย
จุดชมวิวหาดทรายรีที่ทอดตัวยาวบริเวณหน้าศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ด้านล่างเป็นที่ตั้งของพระตำหนักศาลกรมหลวงชุมพร สถานที่พระองค์สิ้นพระชนม์ ณ เรือนมฤตกะ เมื่อวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 เวลา 11.40 น. ซึ่งด้านในประดิษฐานรูปปั้นเสด็จเตี่ยพร้อมดอกกุหลาบสีแดงและเครื่องสักการะ
ใกล้ๆ กับพระตำหนักมีเรือรบหลวงชุมพร ซึ่งเป็นเรือตอร์ปิโดของจริง ยาว 68 เมตร และกว้าง 6.55 เมตร ได้รับใช้ราชการมานาน 37 ปีและปลดระวางในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2518 หลังปลดระวางแล้ว จังหวัดชุมพรได้ขอเรือไปประดิษฐาน ณ บริเวณศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ด้วยการฝังครึ่งลำลงบนคอนกรีต หันหน้าออกสู่ทะเล ทำให้เหมือนว่าเรือลำนี้กำลังแล่นสู่ทะเลอ่าวไทยเลยล่ะค่ะ
ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ที่ตั้ง : ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร
เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-20.00 น.
การเดินทาง : จากตัวเมืองชุมพรขับรถมาประมาณ 30 นาที เลยหาดภราดรภาพ และเขามัทรีก็จะพบกับศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ที่ตั้งอยู่ต้นหาดทรายรีเลยค่ะ
พิกัด GPS :
https://goo.gl/maps/Kpia7ugu2P6srxSA9
หาดทรายรี
หลังจากไว้เสด็จเตี่ยกันแล้วก็ถึงเวลามาพักผ่อนเล่นน้ำ เดินเล่นริมชายหาดทรายรีกันค่ะ โดยตัวหาดทอดยาวไปประมาณ 500 เมตร ชายหาดที่นี่สะอาดและสงบมากๆ ตลอดแนวชายฝั่งจะมีทิวสนขึ้นให้ร่มเงา ใครอยากเล่นน้ำก็เปลี่ยนเสื้อผ้าลงเล่นน้ำได้เลย น้ำทะเลชุมพรสะอาดมากๆ ค่ะ
หาดทรายรีนั้นเที่ยวได้ทั้งปีค่ะ แต่จะมีช่วงหน้ามรสุม หรือลมว่าวคือเดือนตุลาคม - เดือนธันวาคม ซึ่งจะมีลมแรงเรือต่างๆ จะงดออกจากฝั่ง ใครที่มีแพลนไปดำน้ำตามเกาะต่างๆ ก็อาจะต้องงดช่วงนี้ค่ะ
บริเวณหาดทรายรียังมีที่พักและร้านอร่อยมากมาย ใครจะมาที่นี่สามารถมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับจากตัวเมืองชุมพรได้ หรือจะมาพักค้างคืนที่นี่สักคืนสองคืน แล้ววันรุ่งขึ้นอาจจะไปดำน้ำที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ทั้ง เกาะมัตตรา เกาะหลักแรด เกาะละวะ เกาะลังกาจิว เกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่ เกาะกะโหลก และเกาะทะลุ ได้เลยค่ะ โดยสามารถซื้อทัวร์ไปเที่ยวได้เลย มีให้บริการแบ่งเป็นวันคู่สี่เกาะ และวันคี่สี่เกาะ
หาดทรายรี
ที่ตั้ง : ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร
การเดินทาง : จากตัวเมืองชุมพรขับรถมาประมาณ 30 นาที
พิกัด GPS :
https://goo.gl/maps/XiRmwvQEDpRWYLb89
ที่พักและร้านอาหารแนะนำบริเวณหาดทรายรี
ที่พักแนะนำ เดอ ซี อัลมอนด์(De Sea Almond) บูทีคโฮเทลสุดน่ารักริมหาดทรายรี ชุมพร ห้องพักราคาเริ่มต้น 990 – 2,880 บาท เท่านั้นค่ะ ติดต่อสอบถามได้ที่ 081-5976042, 087-7095544
ส่วนร้านอร่อยแถวหาดทรายรีแนะนำร้านนี้เลย ผัดไทยถาดบ้านหมอแต๋ว ผัดไทยเครื่องทะเลแน่นๆ จุกๆ เสิร์ฟมาในถาด พร้อมกันนั้นยังมีเมนูทั้งอาหารทะเล อาหารใต้ และเครื่องดื่มให้เลือกมากมายเลยล่ะค่ะ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น. ติดต่อสอบถามได้ที่ 091-4595665, 0946519551
จุดชมวิวเขามัทรี
จากตำบลหาดทรายรี ขับรถมาเที่ยวต่อที่ตำบลปากน้ำ กับจุดชมวิวเขามัทรี ซึ่งต้องขับรถขึ้นเขาไปประมาณ 800 เมตรค่ะ ทางขึ้นชันมากๆ ใช้ความระมัดระวังกันด้วยนะคะ ด้านบนเขามีที่จอดรถสะดวกสบาย
จากจุดชมวิวเขามัทรี เราสามารถชมวิวสวยๆ ได้แบบ 360 องศากันเลย ทั้งภาพวิวทิวทัศน์ของชุมชนปากน้ำชุมพรซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เรียงรายอยู่ริมฝั่งคลองท่าตะเภาเชื่อมกับทะเลอ่าวไทย หาดภราดรภาพที่อยู่ใกล้กับปากน้ำชุมพร อีกฝั่งหนึ่งเราก็จะพบวิวสวยๆ ของหาดทรายรี ไปจนถึงเกาะต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เช่น เกาะมัตตรา และเกาะหลักแรด
บนจุดชมวิวมีมุมให้ถ่ายรูปมากมายเลยค่ะ ทั้งมุมชิงช้า หลักกิโล ตู้ไปรษณีย์ถ่ายกันจนเมมเต็มกันไปเลย สำหรับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการขึ้นมาชมวิวที่เขามัทรีคือช่วงเวลาเช้าตรู่ เพราะที่นี่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยสุดๆ ของชุมพร ส่วนในช่วงเย็นพระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าไปทางทิศตะวันตกหลังชุมชนปากน้ำชุมพร เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้ดื่มด่ำกับภาพควาวมสวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ
บนจุดชมวิวเขามัทรียังมีศาลเจ้าแม่กวนอิม (พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลา) ประทับท่านั่งหันไปทางทะเลให้เราได้สักการะกันอีกด้วย
จุดชมวิวเขามัทรี
ที่ตั้ง : ต.ปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร
การเดินทาง : จากตัวเมืองชุมพรใช้เวลาประมาณ 20 นาที
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/XnDfErXDgcSUT8nV6
ร้านอาหารแนะนำบริเวณจุดชมวิวเขามัทรี
บนจุดชมวิวเขามัทรีมีร้านกาแฟราคาหลักสิบวิวหลักล้านชื่อร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์ ให้บริการเครื่องดื่มร้อน - เย็น และเบเกอรี่ ไฮไลท์ของร้านนี้คือกาแฟโรบัสต้า ที่รสเข้ม หอม ไม่เปรี้ยว เหมาะกับการสั่งมาจิบเคล้าไปกับวิวสวยๆ ตรงหน้า ร้านเปิดให้บริการทุกวันค่ะ ตั้งแต่เวลา 7.00-19.00 น. สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 082-4802131
สะพานไม้เคี่ยม
เขยิบเข้ามาใกล้ตัวเมืองกับ สะพานไม้เคี่ยม สถานที่ท่องเที่ยววิวอลังการที่อยู่ใกล้ตัวเมืองชุมพรมากๆ ค่ะ เพียง 7 กิโลเมตรจากตัวเมืองใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีเท่านั้น คุณก็จะได้พบกับสะพานไม้ที่ทอดยาวไปในแก้มลิงขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับเกาะกลางน้ำเล็กๆ ที่มีน้องไก่รออาหารอยู่ โอบล้อมไปด้วยภูเขา ต้นไม้ ป่าพรุ บรรยากาศเงียบสงบมีเพียงเสียงนกร้อง เสียงไก่ขันที่สอดประสานไปกับสรรพเสียงของธรรมชาติรอบตัว
สะพานไม้เคี่ยม ตั้งอยู่ภายในโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นโครงการแก้มลิงธรรมชาติแห่งแรกในประเทศไทย ที่พระองค์ทรงออกแบบ ควบคุมการสร้างด้วยพระองค์เอง และที่สำคัญงบประมาณของโครงการนี้มาจากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดชุมพรเมื่อปี พ.ศ. 2540 และสามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ได้จนมาถึงปัจจุบัน โดยมีพื้นที่โคงการ 1,900 ไร่ จุน้ำได้ถึง 3 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับตัวสะพานไม้เคี่ยม สร้างจากไม้เคี่ยม ซึ่งเป็นไม้ที่ขึ้นมาในป่าดงดิบของภาคใต้ตั้งแต่ชุมพรลงไป โดยมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ความยาวของสะพานประมาณ 290 เมตรมีลักษณะคดโค้งเป็นรูปตัวเอส มีช่วงตรงกลางที่ทำเสาให้สูงเพื่อให้เรือลอดได้ การสร้างสะพานไม้เคี่ยมนั้นเต็มไปด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านมากมายเลยค่ะ ตั้งแต่การเลือกใช้ไม้เคี่ยมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 นิ้ว ทำเป็นเสาแล้วปักลงไปในน้ำ ไม่ได้ใช้เครื่องจักรใดๆ เลยใช้แรงงานคนแค่ 7 คน ใช้เวลาสร้างเพียง 45 วันเท่านั้น ต่อมาสะพานแห่งนี้ก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จนในปี พ.ศ. 2560 ทางจังหวัดชุมพรได้ทำการรื้อและก่อสร้างสะพานไม้เคี่ยมขึ้นมาใหม่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจจากชาวชุมพร ที่ทำให้การสร้างสะพานเสร็จภายในวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 สะพานแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวชุมพร
การมาเที่ยวที่นี่แนะนำมาตอนเย็นๆ นะคะ บรรยากาศดีมากๆ โดยบริเวณทางเข้าจะมีอาหารไก่ อาหารปลา ที่จะวางเอาไว้แล้วให้เราหยอดตังค์เอง ราคาถุงละ 10 บาทเท่านั้น ให้เราได้ซื้อไปให้เหล่าบรรดาน้องปลาในบึงทั้งปลาตะเพียน ปลายี่สกที่มีเยอะมากๆ พอเดินไปจนถึงสุดปลายสะพาน ที่เชื่อมกับเกาะเล็กๆ ก็จะมีน้องไก่ตัวอ้วนพีเดินมาต้อนรับเรากันเลยล่ะค่ะ น้องน่ารักมากๆ อยู่อาศัยบนเกาะแห่งนี้เกือบร้อยตัวกันเลย โดยอาหารจะเป็นข้าวเปลือกค่ะ ตอนที่ให้ก็จะมีการตบตีแย่งกันเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้มาทำร้ายเรานะคะ ตอนขากลับยังมีเดินมาส่งอีกด้วย
นอกจากจะได้ภาพสวยๆ กลับไปแล้วเรายังได้ความรู้กลับไปด้วยนะคะ เพราะที่นี่มีศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้ความรู้เรื่องการทำปุ๋ยอินทรีย์ การเลี้ยงไส้เดือน การเผาถ่านไร้ควัน การเรียนรู้ให้คนอยู่กับป่าเป็นต้น โดยจะมีปราชญ์ชาวบ้านมาสอนให้เรา ไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ มีเพียงค่าอุปรณ์เท่านั้น
สะพานไม้เคี่ยม
ที่ตั้ง : โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ตามพระราชดำริ ตําบลบางลึก อําเภอเมือง จังหวัดชุมพร
เปิดทำการ : ทุกวันตั้งแต่เวลา 6.00-18.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 083-6232359
การเดินทาง : จากตัวเมืองชุมพรใช้ถนนหมายเลข 1007 มายังตำบลบางลึกโดยใช้ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรเท่านั้น
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/MJyzdVStwaZ5AvKV9
สะพานชมกวาง
ใกล้ๆ กับสะพานไม้เคี่ยมเป็นที่ตั้งของสะพานชมกวาง สะพานน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดให้เที่ยวเมื่อปี พ.ศ. 2562 มีความยาว 45 เมตร โดยโครงสร้างทำจากปูน ส่วนพื้นสะพานทำจากไม้เคี่ยม ตอนเดินมีแอบแกว่งเล็กน้อย จากนั้นจะมีทางเดินต่อไปอีกประมาณ 120 เมตรค่ะไปศาลากลางน้ำซึ่งทำไว้เป็นสถานที่สำหรับให้อาหารกวาง โดยจะมีน้องกวางนับร้อยตัวออกมาโชว์ตัวให้เราชมในช่วงเย็นประมาณ 5 โมงเย็น
หลายคนอาจจะงงว่ากวางที่นี่มาจากไหน กวางที่นี่เป็นกวางพันธุ์รูซ่าค่ะ น้องมาอยู่ที่นี่กันตั้งแต่ปี 2553 โดยเกิดจากการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรเล็งเห็นว่าพื้นที่นี้เหมาะกับการอยู่อาศัยของน้องกวาง เลยประสานกับทางกรมปศุสัตว์เพื่อขอกวางมาเลี้ยงโดยเป็นกวางอายุ 3 ปีจำนวน 10 ตัว ตัวผู้ 6 ตัว และตัวเมีย 4 ตัวซึ่งปัจจุบันน้องๆ เหล่านี้ก็ออกลูกออกหลานมานับร้อยตัวเลยค่ะ
วันที่เราไปไม่มีน้องกวางมาโชว์ตัว เราเลยใช้บริการล่องแพแลกวางซึ่งเป็นแพของวิสหกิจชุมชนบ้านหนองใหญ่ที่พาเราล่องไปตามคลองหนองใหญ่ใช้เวลาล่องประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง - 3 ชั่วโมง ระยะทางไปกลับประมาณ 4-5 กิโลเมตร โดยจะผ่านโซนอเมซอนซึ่งเป็นป่าของชุมชนให้เราได้สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ โดยจุดขึ้นและลงแพต้องไปขึ้นที่ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์และป่าบ้านหนองใหญ่หมู่ 12 ค่ะ
ระหว่างที่ล่องแพก็ลุ้นว่าจะเจอน้องใหม่ แต่ล่องมาไม่นานเราก็เจอฝูงน้องกวางที่มารออาหาร บอกเลยว่าตื่นเต้นมากๆ ไม่เคยคิดว่าจะเจอฝูงกวางแบบนี้ในชุมพร เพราะบรรยากาศตอนนี้เหมือนกำลังอยู่ในป่าอเมซอนที่เราเคยดูในสารคดีสัตว์โลกเลยล่ะค่ะ น้องกวางพันธุ์รูซ่าที่มีทั้งตัวเล็ก ตัวโตเขาสวยงาม มารอกินกล้วยจากมือพวกเรา น้องน่ารักและเชื่องคนมากๆ ค่ะ แต่มีข้อห้ามสำหรับการให้อาหารคือห้ามเดินออกนอกตัวแพโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของเรา
ใครเป็นสายถ่ายรูปไม่อยากให้พลาดกิจกรรมนี้กันนะคะ หลายคนรู้จักชุมพรจากแพพะโต๊ะ แต่สำหรับที่หนองใหญ่แห่งนี้ก็มีที่เที่ยวสุดอันซีนให้เราได้มาสัมผัสอีกด้วย แถมยังเดินทางง่ายใกล้ตัวเมืองชุมพรอีกต่างหาก
กิจกรรมล่องแพแลกวาง
ราคา : ค่าแพ 1-20 คนราคา 1500 บาท ถ้าเกินคิดเพิ่มคนละ 100 บาท (แพสามารถรองรับได้ไม่เกิน 70 คน)
ติดต่อผู้ใหญ่น้อย : 0993564582
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/auD3pkaotNNPqTBJ6
ที่พักแนะนำใกล้สะพานไม้เคี่ยมและสะพานชมกวาง
ใครที่อยากมาเที่ยวสะพานไม้เคี่ยมและสะพานชมกวางแนะนำที่พักในตัวเมืองชุมพรเลยค่ะ มีที่พักให้เลือกมากมาย ใครอยากได้ที่พักแบบใจกลางเมืองหาของกินง่ายดีไซน์เก๋เราแนะนำ Retro Box Hotel ที่พักน่ารักสไตล์ตู้คอนเทนเนอร์สุดเท่ กลางเมืองชุมพร พร้อมสระว่ายน้ำ ในราคาเริ่มต้น 690-1,800 บาทเท่านั้น ติดต่อสอบถามได้ที่ 077-510-333,061-735-7333
ส่วนใครที่อยากได้ฟีลบ้านสวน สัมผัสความเป็นคนชุมพรแท้ๆ ต้องมาพักที่นี่เลย Thirty Tree Garden House บ้านพักเลขที่ 33 ท่ามกลางส่วนผลไม้ของเมืองชุมพร บ้านหลังสีขาวสไตล์โคโรเนียลบรรยากาศสุดอบอุ่น ราคา 680-900 บาทค่ะ ติดต่อสอบถามได้ที่ 0622294289
วัดพระบรมธาตุสวี
จากอำเภอเมืองชุมพรเราจะพาเพื่อนๆ เดินทางต่อไปยังอำเภอสวีซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณ 38 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที ซึ่งที่อำเภอสวีแห่งนี้มีที่เที่ยวชื่อดังอย่าง วัดพระบรมธาตุสวี เปรียบเหมือนศูนย์รวมใจชาวชุมพร ที่ใครมาเที่ยวชุมพรต้องหาโอกาสมาสักการะให้ได้สักครั้ง
พระบรมธาตุสวีนั้นมีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรตามพรลิงก์ (อาณาจักรนครศรีธรรมราช) ได้ยกทัพมาพักที่วัดร้างแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดพระบรมธาตุสวีในปัจจุบัน พระองค์ได้พบกาเผือกและกาฝูงหนึ่งเกาะอยู่บนกองอิฐ และได้กระพือปีกส่งเสียงร้อง พระองค์เลยให้ทหารรื้อกองอิฐเหล่านั้นออก จึงได้พบกับฐานเจดีย์ใหญ่และเมื่อขุดต่อไปก็พบผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงสั่งให้แม่ทัพนายกองและไพร่พลทั้งหลายช่วยกันสร้างพระเจดีย์ขึ้นมาใหม่ในที่เดิม เมื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแล้วจึงทรงให้จัดงานสมโภชพระเจดีย์ถึง 7 วัน 7 คืน และพระราชทานชื่อพระเจดีย์องค์นี้ว่า "พระบรมธาตุกาวีปีก" ที่มีความหมายว่ากระพือปีก เรียกสั้นๆ ว่าพระบรมธาตุกาวี และต่อมาได้เปลี่ยนเป็น "พระบรมธาตุสวี" ตามชื่ออำเภอ
ก่อนที่พระองค์จะเสด็จกลับทรงห่วงใยกลัวไม่มีผู้ใดมาดูแลรักษาองค์พระบรมธาตุ พระองค์จึงเรียกทหารที่กำลังหลับสนิทอยู่ชื่อนายเมือง และถามว่าต้องการจะอยู่ดูแลรักษาพระบรมธาตุไหม นายเมืองจึงรับอาสาดูแล พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชจึงให้ทหารตัดศีรษะนายเมืองเซ่นสรวงบูชาไว้ในศาลเพียงตา เพื่อให้เป็นผู้เฝ้าดูแลรักษาพระบรมธาตุ ศาลนี้ชื่อว่าศาลพระเสื้อเมืองมาจนถึงปัจจุบันโดยตัวศาลจะอยู่บริเวณหน้าทางเข้าพระธาตุเลยค่ะและเป็นที่เคารพสักการะบูชาโดยเฉพาะชาวจีนที่จะเดินทางมาสักการะไม่ขาดสาย
นี่เป็นเพียงตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาซึ่งในความเป็นจริงสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่ชัดเจน องค์พระบรมธาตุมีการบูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง ซึ่งในต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 องค์พระบรมธาตุสวีได้หักและพังลงมา จึงมีการปล่อยทิ้งเอาไว้ ต่อมาในปี พ.ศ.2459 หลวงพ่อทอง พุทธสุวรรณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดดอนสะท้อน และพระครูดำ จันทรัตโน อดีตเจ้าคณะอำเภอสวีได้บูรณะซ่อมแซมกำแพงรอบเจดีย์ และในปี พ.ศ.2539 กรมศิลปากรได้บูรณะพระบรมธาตุสวีครั้งยิ่งใหญ่ โดยยังคงรูปเดิมเอาไว้ จวบจนในวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2544 กรมศิลปากร ได้ประกาศขึ้นทะเบียนพระบรมธาตุสวี เป็นโบราณสถานของชาติตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งพระบรมธาตุองค์ปัจจุบันได้บูรณะซ่อมแซมล่าสุดในปี พ.ศ.2559
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของพระบรมธาตุสวีเป็นเจดีย์ทรงระฆังเลียนแบบพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เหนือขึ้นไปเป็นบัลลังก์ ปล้องไฉน ปลียอด และเม็ดน้ำค้าง องค์พระเจดีย์ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมสองชั้น ฐานชั้นบนมีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ ด้านละ 5 ซุ้ม ฐานด้านล่างประดับด้วยซุ้มรูปช้างโผล่ศีรษะและขาหน้า ด้านละ 3 ซุ้มสลับกับรูปยักษ์ถือกระบอง ที่มุมทั้งสี่ของฐานเจดีย์ มีเจดีย์จำลองประดับไว้ มีรูปแบบเลียนจากองค์พระเจดีย์หลัก พร้อมกันนั้นมีระเบียงคตที่มีศาลาคลุม ประดิษฐานพระพุทธรูปไว้โดยรอบ
ใกล้ๆ องค์พระบรมธาตุสวีเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์พระบรมธาตุสวีที่ให้ความรู้เรื่องตำนาน ประวัติของพระบรมธาตุ ยุคก่อนประวัติศาสตร์และยุคประวัติศาสตร์ของชุมพรและสวี ที่สำคัญภายในยังเก็บรักษา ยอดพระบรมธาตุและเม็ดน้ำค้างชิ้นเดิม ในคราวบูรณะพระบรมธาตุครั้งใหญ่ให้เราได้ชมอีกด้วย
วัดพระบรมธาตุสวี
ที่ตั้ง : 190/1 หมู่ที่ 7 ตำบลสวี อำเภอสวี ชุมพร
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 8.00- 16.30 น.
เบอร์ติดต่อ : 0810876539
การเดินทาง : จากตัวเมืองชุมพรใช้ทางหลวงสาย 41 มุ่งหน้าไปยังอำเภอสวี โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 35 นาที
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/c56Yjge7FWbJp3R87
หาดทุ่งวัวแล่น
จากสวี ขั้บรถขึ้นเหนือไปยังอำเภอปะทิว ที่มีที่เที่ยวไฮไลท์อย่างหาดทุ่งวัวแล่น ที่เราขอยกให้เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยงาม สงบที่สุดที่เราเคยไปมาเลยค่ะ หาดทุ่งวัวแล่นตั้งอยู่ในตำบลสะพลี เป็นหาดสีขาวที่ทอดยาวไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร ยาวต่อเนื่องไปจนถึงหาดสะพลี ตัวหาดจะค่อยๆ ลาดเอียงลงไปจึงเหมาะกับการเล่นน้ำ ริมหาดเต็มไปด้วยทิวสนและต้นมะพร้าวเรียงรายให้ร่มเงา ซึ่งที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามอีกแห่งหนึ่งในชุมพรกันเลยค่ะ
มีตำนานเล่าขานเรื่องชายหาดทุ่งวัวแล่นว่า สมัยก่อนที่หาดทุ่งวัวแล่นนั้นเป็นป่ารกชัฏ มีนายพรานมาล่าสัตว์ทำยังไงก็ไม่สามารถล้มวัวจ่าฝูงได้สักที อยู่มาวันหนึ่งนายพรานโชคดีล้มวัวจ่าฝูงได้ เลยดีใจให้ลูกหาบนำไปชำแหละทำเป็นอาหาร ระหว่างที่จะชำแหละนั้น ลูกหาบก็เลยพูดกับซากวัวว่า แหมทีนี้ไม่ลุกขึ้นมา "แล่น" ล่ะ แล่นภาษาใต้แปลว่าวิ่งค่ะ หลังจากพูดจบวัวจ่าฝูงตัวนั้นก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าป่าไป กลายเป็นตำนานชายหาดทุ่งวัวแล่น
จุดเช็คอินเมื่อมาหาดทุ่งวัวแล่นก็ต้องที่นี่เลยค่ะ รูปปั้นวัวร่างกำยำ กำลังยกขาหน้าขึ้นหนึ่งขา เหมือนกำลังเตรียมตัววิ่ง
บริเวณรอบๆ หาดยังเต็มไปด้วยร้านอาหารและที่พักมากมายให้บริการ เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเมื่อมาเที่ยวชุมพร
หาดทุ่งวัวแล่น
ที่ตั้ง : ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร
การเดินทาง : จากตัวเมืองชุมพรใช้ถนนหมายเลข 3180 มุ่งหน้าไปยังอำเภอปะทิว โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองไป
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/LPhR844LrsXF4iBe8
ที่พักแนะนำใกล้หาดทุ่งวัวแล่น
ใครที่กำลังหาที่พักใกล้หาดทุ่งวัวแล่นเราขอแนะนำนานาบีช รีสอร์ท ค่ะที่พักริมหาดทุ่งวัวแล่น ที่อยู่ตรงโค้งหาดพอดี พร้อมกันนั้นยังมีร้านอาหารริมทะเล ให้บริการอาหารอร่อย และเครื่องดื่มเย็นชื่นใจอีกด้วย ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 1,300 – 4,500 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ 077-622999, 077-622998
ดำน้ำตามหาฉลามวาฬเกาะร้านเป็ด - ร้านไก่
ปิดท้ายการเที่ยวชุมพรครั้งนี้ด้วยการไปดำน้ำตามหาฉลามวาฬที่เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่ หนึ่งในจุดดำน้ำตื้นที่ขึ้นชื่อในอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ซึ่งเราสามารถซื้อทัวร์ไปเที่ยวแบบวันเดย์ ไปดำน้ำพร้อมกับไปกินปูห้อยขาอีกหนึ่งกิจกรรมที่มาแรงของการเที่ยวดำน้ำในปะทิวกันเลยค่ะ
จุดขึ้นเรือไปทัวร์ดำน้ำของเราครั้งนี้จะขึ้นที่บริเวณบ้านเกาะเตียบ ในอำเภอปะทิว โดยทางไกด์บอกกับเราว่า วันนี้น้ำใส คลื่นลมสงบเหมาะกับการดำน้ำ แต่จะเจอฉลามวาฬไหมขึ้นอยู่กับดวงจริงๆ ค่ะ ใครที่อยากเจอยักษ์ใหญ่นิสัยน่ารักแห่งท้องทะเลต้องใช้ดวงอย่างสูง
เรือที่เรานั่งเป็นเรือไม้หางยาว พาเราออกจากฝั่งมาประมาณ 30 นาทีก็ถึงจุดดำน้ำจุดแรกนั่นก็คือเกาะร้านไก่ เกาะเล็กๆ ในทะเลชุมพรที่ไม่มีชายหาด เราไม่รอช้ารีบสวมชูชีพ ใส่สน็อกเกิลลงไปแหวกว่ายหาฉลามวาฬ
โชคดีในความโชคร้าย เราไม่พบฉลามวาฬเลยค่ะ แต่สิ่งที่โชคดีก็คือความงดงามใต้ท้องทะเลที่สวยงามตระการตามากๆ เลยค่ะ ด้านล่างเต็มไปด้วยดงดอกไม้ทะเลที่เราบอกเลยว่าไม่ได้มาเป็นหย่อมๆ เล็กๆ แต่มาเป็นทุ่งที่ดำไปทางไหนก็เจอความงดงามที่พลิ้วไหวไปตามสายน้ำพร้อมสีสันสวยงาม ราวกับเรากำลังวิ่งเล่นในทุ่งดอกไม้ของท้องทะเลกันเลย
จากนั้นนั่งเรือไปต่อที่เกาะร้านเป็ดค่ะ อยู่ใกล้ๆ กับเกาะร้านไก่ ซึ่งเป็นเกาะที่ไม่มีชายหาดเหมือนกันเราลองมาลุ้นกันว่าจะได้เจอพี่ฉลามวาฬใจดีไหม
จุดดำน้ำของเกาะร้านเป็ดจะดำง่ายกว่าเกาะร้านไก่ค่ะ เพราะคลื่นไม่ค่อยแรง ซึ่งความงาม ความอลังการของเกาะร้านเป็ดก็ไม่แพ้เกาะร้านไก่กันเลย ได้เจอปลาผีเสื้อตัวใหญ่มากๆ ว่ายอยู่ด้านล่าง เราดำรอฉลามวาฬกันสักพักก็ต้องถอดใจ เพราะพี่ใหญ่ไม่ออกมาปรากฎกายให้เราเห็นเลย ถึงแม้จะผิดหวังกับการรอคอยฉลามวาฬ แต่ความสวยงามของทะเลชุมพรก็เป็นเหมือนการเปิดประสบการณ์การดำน้ำของเรา และรู้เลยว่าโลกใต้ทะเลชุมพรนั้นสวยงามแค่ไหน
กินปูห้อยขาที่เกาะยอ
ดำน้ำกันจนเหนื่อยทางทัวร์ก็พาเรามาแวะทานปูห้อยขาที่ธนาคารปูบ้านเกาะเตียบ ซึ่งตั้งอยู่ที่เกาะยอ โดยทำเป็นขนำกลางน้ำมีกระชังเลี้ยงปลา และมีสะพานไม้ที่เชื่อมต่อธนาคารปูกับเกาะยอที่เราสามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปได้ด้วย พร้อมไฮไลท์คือที่นั่งทานข้าวแบบห้อยขาให้เราได้ชมน้ำทะเลสีเขียวมรกตที่มีเหล่าฝูงปลาแหวกว่ายอยู่ใต้เท้าของเรา
ที่นี่จะมีห้องน้ำให้เราล้างตัว อาบน้ำจืดหลังจากการดำน้ำกันด้วยค่ะ ระหว่างนั้นพี่ๆ เจ้าหน้าที่ทัวร์ก็จะไปจัดโต๊ะอาหาร บนโต๊ะมีทั้งปูดำ ปลากระพงทอดน้ำปลา กุ้ง ข้าวผัด และผลไม้ พร้อมเครื่องดื่มน้ำเปล่าน้ำอัดลม ทานอาหารไปชมน้องปลาแหวกว่ายไปด้วยโอ๊ยยยชิลมากๆ
"ชุมพร" แม้จะรู้จักเธอช้าไป แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะรักน้อยกว่าใคร การเดินทางครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่าทะเลชุมพร สวยงาม สงบ แค่ไหน ใต้ท้องทะเลชุมพรนั้นงดงามเพียงใด ความน่ารัก ความอบอุ่น ของชาวชุมพรที่มอบให้กับเราตลอดการเดินทางครั้งนี้ก็เป็นสิ่งที่เราบอกกับตัวเองว่า ต่อไปนี้ชุมพรไม่ใช่เพียงประตูสู่ภาคใต้ แต่ที่นี่คือจุดหมายที่เราจะต้องกลับมาเยือนอีกครั้งให้ได้แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไร
Tags: ชุมพร ยอดนิยม ที่เที่ยว เที่ยวชุมพร ที่เที่ยวชุมพร ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หาดทรายรี เดอ ซี อัลมอนด์ De Sea Almond ผัดไทยถาดบ้านหมอแต๋ว จุดชมวิวเขามัทรี ร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์ สะพานไม้เคี่ยม สะพานชมกวาง Retro Box Hotel Thirty Tree Garden House อำเภอสวี วัดพระบรมธาตุสวี อำเภอปะทิว หาดทุ่งวัวแล่น นานาบีช รีสอร์ท เกาะร้านเป็ด - ร้านไก่ เกาะยอ กินปูห้อยขาเกาะยอ เมืองชุมพร การเดินทางชุมพร ที่กินชุมพร ร้านอาหารชุมพร คาเฟ่ชุมพร GOLOCALTHAILAND ททท เที่ยวเมืองรอง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 03 ก.ค. 2024 | 2,305 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 28 เม.ย. 2024 | 2,936 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 08 มี.ค. 2024 | 2,937 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 06 ก.พ. 2024 | 4,086 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 29 ม.ค. 2024 | 4,899 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 24 ม.ค. 2024 | 3,902 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 22 ม.ค. 2024 | 7,033 อ่าน