0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

เยือนถิ่นอีสานตามรอยพญานาคที่อุดรธานี-หนองคาย 4 วัน 2 คืน

calendar_month 27 ก.พ. 2020 / stylus Admin Chillpainai / visibility 28,234 / ทริปตัวอย่าง

เริ่มต้นปีใหม่ทั้งที เราขอไปสะสมแต้มบุญ เสริมสิริมงคลด้วยการไปเที่ยวเมืองรองภาคอีสานในทริปเยือนถิ่นอีสานตามรอยพญานาคที่อุดรธานี-หนองคาย 4 วัน 2 คืน กันสักหน่อย เพราะว่าทริปนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ได้ไปทั้งคำชะโนด “ดินแดนแห่งนาคา” ตลาดผ้านาข่า  ชมวิถีชุมชน ชมวัดป่าภูก้อน วัดผาตากเสื้อพร้อมเดินทางเดินกระจก Sky Walk ชมเกล็ดพญานาคริมโขง สักการะพระใส แวะศาลาแก้วกู่ และซื้อของฝากที่ตลาดท่าเสด็จ โอ๊ยยย...อะไรมันจะคุ้ม จะได้ไปเที่ยวเยอะขนาดนี้ 

เยือนถิ่นอีสานตามรอยพญานาคที่อุดรธานี-หนองคาย 4 วัน 2 คืน


  • เพื่อนๆ สามารถจองทริปนี้ได้ที่นี่เลย https://bit.ly/2T2ZFzr
  • ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID : @tangmotour
  • มีส่วนลด 500 บาท เพียงเซฟรูปด้านล่างสกู๊ปใช้เป็นส่วนลดก่อนจอง หรือใส่โค้ด golocalchill ก่อนชำระเงินผ่านระบบ


ลดไปเลย 500 บาท แค่เซฟภาพนี้ใช้เป็นส่วนลดก่อนจอง

fcd770c0af1d2ffb82cfa28714687ebe559c6fd6.jpg

Navy01.jpg


20.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดอุดรธานี 

ทริปนี้เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตอนกลางคืนด้วยรถตู้ปรับอากาศ 9 ที่นั่ง โดยจะใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมงก่อนจะถึงจังหวัดอุดรธานีในตอนเช้า สำหรับใครที่ยังไม่ได้ทานอาหารเย็นมาก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะว่าบนรถมีแจกอาหารกล่อง ขนมปัง และน้ำผลไม้ 


Navy02.jpg

06.00 น. ถึงจุดหมาปลายทางจังหวัดอุดรธานี 

รุ่งเช้าหลังจากนอนกันจนเต็มอิ่ม ก่อนที่เราจะไปทำบูญ ก็ขอเข้าไปเก็บกระเป๋าเดินทาง ล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนชุด พร้อมทานอาหารเช้ากันที่โรงแรมเพรสซิเดนท์ โรงแรมใจกลางเมืองอุดร ที่อยู่ห่างจากสนามบินอุดรเพียงแค่ 10 นาที ที่นี่เป็นโรงแรมสไตล์ไทยๆ  ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในห้องและนอกห้องครบครันเลยค่ะ แถมยังมีสระว่ายน้ำด้วยนะ 

f82f5320105934ba1e3a372470d99925c0a7c547.jpg

6db2844281f1fa183616c7b8dea2064fa1bc6656.jpg

เครดิตภาพจาก  : booking.com



08.00 น. สักการะศาลหลักเมืองอุดรธานี

พอทำธุระส่วนตัว ทานข้าวเช้ากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาออกไปเอาฤกษ์เอาชัยกันที่ศาลหลักเมืองอุดรธานีหรือที่เรียกกันว่าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอุดรธานี ซึ่งที่นี่เนี่ยถือเป็นศูนย์รวมความเคารพและความศรัทธาของชาวอุดรเลยก็ว่าได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญภายในศาลได้แก่ หลวงพ่อพระพุทธโพธิ์ทอง และท้าวเวสสุวรรณ มาแล้วอย่าพลาด กราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลกันเลยจ้า แอบบอกว่าหลายคนนิยมมาสักการะศาลหลักเมืองเพื่อขอพรให้ชีวิตมั่นคง ราบรื่นทั้งการงานและการเงิน โดยมีเคล็ดความเชื่อว่าหากเข้าประตูใดให้ออกประตูนั้น จะทำให้ได้อานิสงส์มากยิ่งขึ้นอีกด้วยนะ 

ศาลหลักเมืองอุดรธานี

เครดิตภาพจาก : thailandtourismdirectory


08.30 น. ศาลเจ้าปู่ – ย่า ศาลเจ้าจีนของชาวอุดร

ไหว้ศาลหลักเมืองเอาฤกษ์เอาชัยกันเสร็จแล้ว เราก็ไปต่อกันที่ศาลเจ้าปู่ – ย่า ศาลเจ้าของชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดอุดรธานีที่ใหญ่โตและสวยงาม มีสวนหย่อมริมหนองบัว บริเวณโดยรอบมีศาลากลางน้ำ 2 หลัง บรรยากาศร่มรื่น และในศาลเจ้าปู่-ย่า แห่งนี้ยังเป็นที่เก็บรักษามังกรทองยาวถึง 99 เมตร ซึ่งใช้แสดงในงานทุ่งศรีเมืองในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี เรียกได้ว่าสะสมแต้มบุญกันตั้งแต่เช้าเพื่อจะได้เป็นสิริมงคลกับเราไปตลอดทั้งวันเลย

ศาลเจ้าปู่ – ย่า

ศาลเจ้าปู่ – ย่า

หลังจากได้บุญกันมาเต็มกระเป๋าก็ไปต่อกันที่ศูนย์วัฒนธรรมไทย – จีน จังหวัดอุดรธานี เพื่อไปแวะชมพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวของคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดอุดรธานี และเรื่องราวของขงจื๊อ นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ อีกทั้งภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีสวนที่ตกแต่งแบบจีนเพื่อไว้ให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย

ศาลเจ้าปู่ – ย่า

เครดิตภาพจาก : thailandtourismdirectory


11.00 น. วัดโพธิ์สมภรณ์ 

เดินทางกันต่อไปยัง วัดโพธิ์สมภรณ์ หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า วัดใหม่ ซึ่งวัดนี้เป็นวัดที่สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ปลายรัชกาลที่ 5 โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ได้ทรงประทานนามชื่อวัดโพธิ์สมภรณ์ให้เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร

เมื่อเข้ามาภายในวัดเราก็จะได้เจอกับ 5 ปูชนียวัตถุที่สำคัญภายในวัดโพธิสมภรณ์ คือพระพุทธรัศมี พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย อายุประมาณ 600 ปี, พระพุทธรูปศิลาแลง ปางประธานพร สมัยลพบุรี อายุประมาณ 1,300 ปี,  ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ปลูกไว้ด้านทิศเหนือพระอุโบสถ, รอยพระพุทธบาทจำลอง  สร้างด้วยศิลาแลง มีอายุ 200  ปีเศษ และพระบรมธาตุธรรมเจดีย์ เจดีย์พิพิธภัณฑ์ 3 ชั้น บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูป พระไตรปิฎก คติธรรมคำสอน อัฐิธาตุพระอรหันต์สาวก และรูปเหมือนพระบูรพาจารย์ เรียกได้ว่าเป็นวัดที่ต้องมาเมื่อมาเที่ยวอุดรธานี 

ae0675b10e930fe486a410673cccb136c4f03a25.jpg

เครดิตภาพจาก : thailandtourismdirectory 


13.00 น. ตลาดผ้านาข่า

หลังจากไปไหว้พระที่วัดโพธิ์สมภรณ์ เราก็มาแวะรับประทานอาหารกลางวันเพื่อเติมท้องให้อิ่มกันก่อน ก่อนจะเดินทางเข้าตัวเมืองไปยัง ตลาดผ้านาข่า ตลาดผ้านาข่าเนี่ยถือเป็นแหล่งหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของอุดรธานีเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่เค้ามีผ้าไหมให้ทุกคนได้เลือกช้อปกันเพลินๆ จนตาลายเลย ไม่ว่าจะเป็นผ้าหมี่ขิด ผ้าย้อมคราม หรือผ้าชนิดอื่นๆ อีกมากมาย จะซื้อไปตัดเป็นชุดสวยของตัวเองหรือจะซื้อไปเป็นของฝากก็ได้เหมือนกันค่า บอกเลยว่าใส่แล้วสวยทุกคนแน่นอน ! 


14.00 น. สักการะพ่อปู่ศรีสุทโธที่คำชะโนด

มาถึงอีกหนึ่งสถานที่ไฮไลท์ของทริปนี้นั่นก็คือ คำชะโนด หรือ วังนาคินทร์คำชะโนด สถานที่ที่ปรากฏในตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับพญานาคและสิ่งลี้ลับต่างๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่เชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นดินแดนของพญานาคประตูเชื่อมสู่เมืองบาดาล ความขลังและความศักดิ์สิทธิ์เลื่องลือมายาวนาน  เมื่อเรามาถึงแล้วก็อย่าลืมไปกราบสักการะพ่อปู่ศรีสุทโธขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลด้วยนะ 

คำชะโนด

คำชะโนด


19.30 น. เดินเล่นแห่งช็อปปิ้ง UD Town 

ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมเราขอพาทุกคนมาเดินช้อปชิมชิลกันต่อที่ ถนนคนเดินหรือ UD Town แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของจังหวัดอุดรธานี เลือกซื้อของกันได้ตามใจชอบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเสื้อผ้า ของฝาก หรือจะของทานเล่นไปจนถึงมื้อหลักก็ย่อมหาได้ที่นี่เหมือนกัน 


Navy03.jpg


10.00 น. ไปชมวัดป่าภูก้อน Unseen Thailand ในจังหวัดอุดรธานี  

เช้าวันที่สาม ตื่นมาทานอาหารเช้าและเตรียมตัวเดินทางมุ่งสู่ อ.นายูง เพื่อไป วัดป่าภูก้อน พุทธอุทยานที่สำคัญของอีสาน  เรียกได้ว่าเป็น Unseen Thailland กันเลยล่ะค่ะ มาที่นี่จะได้ชมวิหารสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์  ภายในถูกตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา แฝงไปด้วยเรื่องราวคำสอนของพระพุทธเจ้าที่สวยงาม รวมถึงภายในวิหารยังประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุณี ความยาว 20 เมตร สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ที่นำมาเรียงซ้อนกันถึง 42 ก้อน งดงามและน่าเลื่อมใสมากๆ 

วัดป่าภูก้อน

วัดป่าภูก้อน


13.30 น. วัดผาตากเสื้อ 

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็มุ่งหน้าไปที่ อ.สังคม จ.หนองคาย เพื่อไปสักการะพระสารีริกธาตุที่ วัดผาตากเสื้อ วัดที่มีบรรยากาศทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถเดินเลาะตามหน้าผาเพื่อชมธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงามได้ รวมถึงที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งถ้ามองจากหน้าผาลงมาก็จะมองเห็นชุมชนของชาวไทย-ลาว มองเห็นแม่น้ำฝั่งประเทศลาวไหลมาบรรจบแม่น้ำโขงเกิดเป็นสันดอนที่สวยงาม 

วัดผาตากเสื้อ

อีกทั้งที่นี่ยังมี Sky walk ทางเดินพื้นกระจกใสแห่งแรกของเมืองไทย เรียกได้ว่าได้เห็นวิวสวยๆ ของแม่น้ำโขงจนจุใจเลยทีเดียวเชียวค่ะ แต่ถ้ามาในช่วงหน้าแล้งอาจจะได้เห็นชายหาดริมแม่น้ำโขงเป็นรูปเกล็ดพญานาคด้วยนะ

วัดผาตากเสื้อ


16.00น. เดินทางเข้าจังหวัดหนองคายไปยังศาลาแก้วกู่ 

สถานที่ต่อมาที่เราเดินทางมาถึงก็คือ ศาลาแก้วกู่ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อวัดแขก ที่นี่เป็นอุทยานเทวาลัยแห่งความศรัทธา มีพื้นที่ 42 ไร่ ภายในสวนจะเต็มไปด้วยประติมากรรมปูนปั้นเทวาลัยต่างๆ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากพ่อปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ ที่เชื่อว่าหลักคำสอนของทุกๆ ศาสนาสามารถนำมาผสมผสานกันได้ เมื่อเดินไปรอบๆ ก็รู้สึกว่าเราเดินอยู่ในสวนยักษ์เลยล่ะค่ะ เพราะว่าประติมากรรมปูนปั้นมีขนาดใหญ่จนทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนตัวเล็กลง และเมื่อมองดีๆ บริเวณฐานของเทวาลัยจะมีคำอธิบายที่บอกเล่าถึงเรื่องราวของชิ้นงานนั้นๆ อีกด้วย 

ศาลาแก้วกู่

เครดิตภาพจาก : thailandtourismdirectory

17.00 น. ช้อปกันที่ตลาดท่าเสด็จริมแม่น้ำโขง

หลังจากเที่ยวชมศาลาแก้วกู่เสร็จก็เย็นพอดี เราเลยแวะ ตลาดท่าเสด็จริมแม่น้ำโขง หรือตลาดท่าเรือ ตลาดอินโดจีนขนาดใหญ่ริมแม่น้ำโขง ที่มีจุดชมวิวแม่น้ำโขงและประเทศลาว รวมถึงมีแลนด์มาร์คเป็นจุดถ่ายรูปบริเวณป้ายพญานาค "ตลาดน้ำท่าเสด็จ สุดเขตแดนที่หนองคาย" ไว้ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้ถ่ายรูปเช็คอินกันด้วยค่ะ พอได้รูปจนหนำใจก็เดินมาเลือกซื้อของกันต่อที่ตลาดท่าเรือ ตลาดที่จำหน่ายสินค้าทั่วไป สินค้าพื้นเมือง และอื่นๆ อีกมากมาย 

ตลาดท่าเสด็จริมแม่น้ำโขง

ตลาดท่าเสด็จริมแม่น้ำโขง

เครดิตภาพจาก : thailandtourismdirectory


19.30 น. เข้าที่พัก หนองคายไวท์โฮเต็ล 

หลังจากที่เหนื่อยล้ากับการเดินช้อปปิ้งเราก็มาพักผ่อนกันที่ หนองคายไวท์โฮเต็ล โรงแรมเรียบง่ายเข้าถึงธรรมชาติ บรรยากาศสงบ ร่มรื่น ที่นี่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพไทยลาว 1.9 กิโลเมตร และห่างจากตลาดท่าเสด็จเพียงแค่ 2.2 กิโลเมตรเท่านั้น คืนนี้ก็พักผ่อนกันให้เต็มที่เก็บแรงไว้รอเช้าวันใหม่กันดีกว่าค่า

หนองคายไวท์โฮเต็ล

หนองคายไวท์โฮเต็ล

หนองคายไวท์โฮเต็ล

เครดิตภาพจาก : Booking.com 


Navy04.jpg


08.00 น. แวะสักการะหลวงพ่อใสที่วัดโพธิ์ชัย

เช้าวันสุดท้าย ตื่นขึ้นมาเตรียมตัว ทานอาหารเช้ากันที่โรงแรม ก่อนจะเดินทางออกไปยัง วัดโพธิ์ชัย วัดอารามหลวงที่มีความสำคัญแห่งจังหวัดหนองคาย เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองทั้งของชาวหนองคายและชาวลาว ที่เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก ใครที่มาจังหวัดหนองคายก็อย่าลืมมาสักการะเพื่อความรุ่งเรื่องและเป็นสิริมงคลกันด้วยนะคะ 

วัดโพธิ์ชัย หนองคาย

เครดิตภาพจาก : แตงโมทัวร์ 


09.00 น. อำลาทริปอุดรธานี-หนองคาย 

หลังจากที่เที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จนอิ่มบุญอิ่มใจแล้ว ก็ขึ้นรถเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ โดยมื้อเที่ยงเราแวะรับประทานอาหารกันที่อุดรธานี และมื้อเย็นเราแวะรับประทานอาหารกันที่อำเภอปากช่อง ก่อนจะนั่งรถกลับกรุงเทพฯ ยาวๆ โดยสวัสดิภาพ ถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 23.00 น. 


ทริปสุดคุ้มไปเที่ยวเยอะขนาดนี้ไม่ไปไม่ได้แล้วค่ะ สำหรับใครที่อยากไปเช็คอินตามเราก็สามารถวางแพลน วางวันแล้วเดินทางไปได้เลย 


จองทริปนี้กับทาง แตงโมทัวร์ได้ที่นี่  https://bit.ly/2T2ZFzr

ลดไปเลย 500 บาท แค่เซฟภาพนี้ใช้เป็นส่วนลดก่อนจอง

bfcfeccd01e668e27f9c7519e2b843d751d0126f.jpg


ราคาทัวร์และวันเดินทาง 

c392fa12cfd4f0e77173d6a4d1a80337d8cd5c5b.jpg

 

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID : @tangmotour



d0147436f9c18f0ffdd57e5cf8cd9deccf578e9d.png



จองทริปนี้ได้ที่นี่ https://bit.ly/2T2ZFzr 


เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai