calendar_month 27 ม.ค. 2020 / stylus Admin Chillpainai / visibility 22,716 / รีวิวที่กิน
เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักหรือเคยเห็นภาพรังนกสวยๆ สไตล์บาหลีที่ร้าน U & ME Cafe' กาญจนบุรีกันมาแล้วบ้าง เพราะเขาถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คห้ามพลาดของจังหวัดที่ไม่ว่าใครจะมาเที่ยวเมืองกาญฯ ก็ต้องมาโพสท่าสวยๆ ถ่ายรูปกับเจ้ารังนกนี่ล่ะค่ะ แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางร้านเขาพึ่งปรับปรุงใหม่ใหญ่กว่าเดิม แถมยังมีมุมถ่ายรูปเยอะขึ้นอีก จะมีอะไรอัพเดทบ้างตามเราไปเช็คอินกันเลย
ย้ำกันอีกครั้งว่าร้านตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมัน PT ฝั่งขาเข้าเมืองกาญจนบุรี สังเกตง่าย เดินทางสะดวก แนะนำเลยว่าใครแพลนมาเที่ยวเมืองกาญฯ สามารถแวะได้ก่อนเป็นจุดแรกเลยล่ะค่ะ หรืออยากแวะขากลับก่อนเข้ากรุงเทพฯ ก็ไม่ว่ากันเพราะยังไงก็ผ่านแน่นอน ตัวร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือ อินดอร์ที่เป็นส่วนของร้านอาหารคาเฟ่ และโซนเอาท์ดอร์ด้านนอกที่ถูกจัดแต่งเป็นสวนสวยมีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ ซึ่งบอกเลยว่าปรับปรุงร้านใหม่รอบนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ แค่บริเวณหน้าร้านเราก็ได้รูปสวยๆ ไปเพียบแล้วล่ะจ้า
หากใครอยากได้รูปสวยๆ แนะนำให้มาช่วงเช้าๆ แดดไม่ร้อนมากหรือไม่ก็ช่วงเย็นประมาณ 5 โมงนะคะ วันนี้เราออกจากกรุงเทพฯ กันตั้งแต่เช้ามืดถึงร้านประมาณแปดโมงนิดๆ ช่วงร้านเปิดพอดี เข้าไปสั่งเครื่องดื่มสักแก้วสองแก้วและสั่งอาหารล่วงหน้าเอาไว้จากนั้นเข้าไปถ่ายรูปที่สวนด้านในจะได้ไม่เสียเวลา ที่สำคัญถ่ายรูปเสร็จต้องหิวมากๆ แน่นอน ฉะนั้นแนะนำให้สั่งไว้ก่อนเลยจ้า แต่ถ้าใครมีเวลาน้อยอยากเข้าไปถ่ายรูปอย่างเดียวล่ะก็สามารถซื้อคูปองในราคาเบาๆ 50 บาท เข้าไปเดินถ่ายรูปเล่นในสวนได้ไม่จำกัดเวลาเลยล่ะจ้า
เพิ่มความสดชื่นตอนเช้าด้วย แตงโมสดปั่น หรือ โยเกิร์ตฟรุตตี้สตอเบอรี่ กันหน่อย
แต่ถ้าใครติดชานมไข่มุกเหมือนกันแนะนำให้สั่งตัวนี้เลย นมสดลาวาไข่มุก หอม หวานกำลังดี ไข่มุกไม่เหนียวเกินไปบอกเลยว่าอร่อยไม่แพ้เจ้าดังในเมืองหลวงกันเลยเมื่อเข้ามาด้านในถึงกับต้องร้องว้าว~ เลยล่ะค่ะ ที่ร้านเขาปรับปรุงใหม่เนี้ยไม่ธรรมดาจริงๆ เลือกไม่ถูกเลยว่าจะไปถ่ายรูปมุมไหนก่อนดี ได้แต่บอกตัวเองว่าใจเย็นๆ เราค่อยๆ เก็บไปทีละมุมนะ ..เริ่มกันที่มุมแรกตั้งแต่เดินเข้ามาคือ ภาพวาดฝาผนังสุดน่ารักที่มีชื่อร้านอยู่ด้วย
จากนั้นเรารีบเดินเข้าไปในโซนริมน้ำด้านในเพื่อไปถ่ายรูปกันที่มุมไฮไลท์มุมใหม่ของร้านที่เราเชื่อว่าทุกคนต้องปลาบปลื้มมากๆ กับชิงช้าสไตล์บาหลีหรือ Bali Swing ที่หันออกไปยังฝั่งน้ำและท้องนา ที่สำคัญไปกว่านั้นเราไม่จำเป็นต่อคิวอัดแน่นกันอยู่ที่เดียวเพราะทางร้านจัดชิงช้าบาหลีมาให้เราถึงสองตัวใกล้ๆ กันด้วยล่ะค่า
ใกล้ๆ กับBali Swingก็มีรังนกอยู่ด้วยนะ รังนี้รายล้อมไปด้วยสีเขียวของต้นไม้และเถาวัลย์แค่ไปโพสท่านั่งสวยๆ ก็ดูฟีลกู๊ดมากๆ แล้วล่ะค่ะ
อีกรังใกล้ๆ กันจะได้แบ็คกราวด์เป็นพื้นน้ำและทุ่งนาสวยไม่แพ้กันเลย
จากนั้นเราเดินขึ้นสะพานไม้ไผ่กันต่อ มุมนี้ก็สวยขอหยุดแวะถ่ายรูปหน่อยน้า~
เดินต่อมานิดเดียวก็เจออีกรัง เข้าไปในรังนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นลูกนกจริงๆ เลย >.<
รีโนเวทใหม่ครั้งนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ เรียกได้ว่ามีรังนกสวยๆ มาให้เราถ่ายรูปกันทุกมุม อีกหนึ่งรังที่เป็นไฮไลท์สุดๆ รังนี้บอกเลยว่าแค่นั่งห้อยขาเฉยๆ ก็สวยแล้วจ้า
ถ่ายรูปกับรังนกมาหลายมุมแล้วก็ขอแวะไปชมบรรยากาศภาพมุมสูงของร้านกันที่ หอคอยฉันรักเธอ หอคอย 3 ชั้นที่เป็นจุดนั่งพักคลายร้อนชิลๆ มีมุมถ่ายรูปให้นอนสวยๆ บนเปลตาข่ายและยังสามารถชมวิวมุมสูงของร้านได้แบบ 360 องศาเลย
ลงจากหอคอยเดินต่อลงมาที่สะพานฉันรักเธอ ซึ่งมุมนี้เป็นอีกหนึ่งมุมที่อัพเดตใหม่แล้วสวยมุ้งมิ้งมากๆ ด้วยริบบิ้นโทนสีชมพูม่วงพริ้วไหวไปตามลมเหมือนเดินอยู่บนสะพานไม้ทางเหนือยังไงอย่างั้นเลยละเจ้า~
เดินมาได้ครึ่งทางก็ขอแวะลงไปถ่ายรูปกับรังนกอีกหนึ่งมุมสวยๆ รังนี้ค่อนข้างใหญ่กว่ารังอื่นๆ แถมมีป้ายชื่อร้านด้วยนะ รังนี้โพสท่านอนสวยๆ ไปเลย
เดินไปด้านหลังมีอีกรังหนึ่งรังนี้อยู่ริมน้ำด้านล่างเป็นโขดหินสีทรายตัดกับต้นไม้สีเขียวนี่แอบคิดไปไกลว่าเหมือนอยู่โอเอซิสกลางทะเลทรายเลยนะเนี้ย
รังนี้ต้องมี รังนี้ต้องมา~ เพราะมุมนี้อลังมาก!! แม้ว่าเจ้าตัวรังนกจะมีลักษณะคล้ายแบบเดิมแต่ว่าโลเคชั่นตรงนี้ถูกรายล้อมไปด้วยสีเขียว เถาวัลย์ และ ดอกหญ้าที่พลิ้วไหวไปตามลม บอกเลยว่ามุมนี้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
เมื่อได้รูปสวยๆ แล้วเดินต่อไปที่ปลายสะพานซึ่งตามทางเราก็แวะถ่ายรูปเป็นระยะๆ
แวะถ่ายรูปกับป้ายกันอีกหน่อยสีสันคัลเลอร์ฟูลมากๆ
เก็บด้านในกันหมดแล้วมาที่โซนด้านหน้ากันบ้าง จุดนี้ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ว่าใครจะแวะมาที่ร้านนี้ก็จะมาเขียนป้ายแขวนเช็คอินเก๋ๆ เป็นระลึกกันจ้า
อีกหนึ่งมุมมุ้งมิ้งน่ารักๆ กับนกฟลามิงโก้สีชมพูสดใส
มีมุมเต็นท์ด้วยนะ ที่สำคัญจัดพร็อพมาให้แล้วน่ารักมากๆ มุมนี้นึกว่ากางเต็นท์อยู่แถวเขาใหญ่เลย
อีกหนึ่งมุมไฮไลท์สุดๆ เห็นว่ารังนี้น่าจะเป็นรังนกที่ใหญ่ที่สุดเลยล่ะค่ะ รังนกรูปหัวใจ รังนี้ครีเอทท่าได้รูปได้หลายแบบเลยไม่ว่าจะท่านอนชิลๆ นั่งห้อยขาสวยๆ หรือจะยืนชะเง้อมองคนข้างๆ ก็ได้น้า
ปิดท้ายโซนด้านนอกกันค่ะ กับอีกหนึ่งสะพานไม้ไผ่ให้ฟีลเหมือนอยู่ภาคเหนือท่ามกลางทุ่งดอกหญ้าและเสียงกระบอกไม้ไผ่กระทบกันเป็นเสียงเพลง
นอกจากโซนด้านนอกจะมีมุมถ่ายรูปสวยๆ แล้วยังมีโซนใหม่ที่เป็นซุ้มนั่งทานอาหารแบบแบบเอาท์ดอร์ สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 60 คน ให้ได้นั่งทานอาหารท่ามกลางสวนสวย ด้านในยังถูกตกแต่งด้วยรังนกหลากหลายรูปแบบเพิ่มบรรยากาศความเป็นบาหลีมากขึ้นอีกด้วย
กดชัตเตอร์ โพสท่า สะบัดกระโปรง ในสวนแบบรัวๆ ไปแล้วขอตัวเข้ามานั่งพักทานอาหารในห้องแอร์เย็นๆ กันบ้าง ตัวคาเฟ่ด้านในตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟท์มีความผสมผสานระหว่างอิฐ ปูนเปลือย ตามผนังเพิ่มการตกแต่งด้วยดอกไม้และไฟนีออนฟีลเหมือนอยู่บาร์ในต่างประเทศจนอดไม่ได้ที่จะขอแชะภาพไปอีกหนึ่งรูป...
ที่นี่มีบริการทั้งอาหาร ของหวานและเครื่องดื่มในส่วนของเมนูอาหารจะเป็นอาหารไทยแบบฟิวชั่นเน้นอาหารทะเลเป็นหลักมีเมนูให้เลือกหลากหลายไม่แพ้มุมถ่ายรูปเลยล่ะค่ะ
สำหรับเมนูของเราในวันนี้มีด้วยกัน 6 อย่าง ที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูเด็ดของทางร้านเลยล่ะค่ะ เริ่มกันที่ สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล เครื่องจัดแน่นทั้งหอยแมลงภู่ กุ้ง ปลาหมึกที่คัดมาแบบไซต์ใหญ่จัดเต็ม รสชาติกลมกล่อมเผ็ดกำลังดี ต่อด้วย ปลาทับทิมสามรส ปลาทับทิมทอดกรอบตัวใหญ่ราสซอสสามรสที่ได้ทั้งรสเปรี้ยว หวาน เผ็ด ตามด้วย แกงป่าไก่บ้าน และ ต้มยำรวมมิตรทะเล ร้อนๆ รสชาติเข้มข้นแบบถึงเครื่อง หรือถ้าใครชอบทานผักกับน้ำพริกเราก็อยากให้สั่ง น้ำพริกกุ้งสด สูตรพิเศษของทางร้านที่ให้เนื้อกุ้งมาแบบเน้นๆ พร้อมผักสดนานาชนิด หากใครชอบทานรสจัดก็แนะนำให้ทานคู่กับพริกขี้หนูสดบอกเลยว่าอร่อยจัดจ้านถึงใจมากๆ ปิดท้ายกันด้วยเมนูที่เรายกให้เป็นที่หนึ่งในใจของวันนี้ โรตีแกงเขียวหวานทะเล แกงเขียวหวานรสชาติกลมกล่อม อัดแน่นด้วยซีฟู๊ดอย่าง หอยแมลงภู่ กุ้ง เสิร์ฟพร้อมกับโรตีแป้งบางกรอบที่เมื่อทานคู่กันแล้วอร่อยลงตัวมากๆ
แน่นอนว่าวันนี้เราใช้พลังงานในการโพสท่าสวยๆ กันไปเยอะทานแค่ของคาวอย่างเดียวคงไม่พอ ขอมาเติมความหวานเขาร่างกายกันหน่อยค่ะ ซึ่งแต่ละจานถูกตกแต่งมาอย่างสวยงามน่าทานมากๆ เริ่มด้วย เค้กแมคคาเดเมีย เนื้อนุ่มหอมซอสคาราเมล และ ชีสเค้กส้ม รสชาติหวานหอมอร่อย ทานง่าย กินเพลินๆ แบบรู้ตัวอีกทีก็หมดจานสะแล้วปิดท้ายจานใหญ่แบบจัดหนักที่เห็นสั่งกันทุกโต๊ะอย่าง ฮันนี่โทสต์ U&ME ที่ขนมปังกรอบนอกนุ่มในพร้อมอัดแน่นไปด้วยท็อปปิ้งผลไม้นานาชนิดกับไอศกรีมลูกโตถึงสองรสชาติ บอกเลยว่าทานแล้วฟินมากๆ เพราะนอกจากจะอร่อยแล้วยังได้ความสดชื่นจากผลไม้อีก ยิ่งถ้าได้สั่งน้ำ อัญชันมะนาว และ บลูฮาวายโซดา มากินด้วยกันก็ยิ่งเพิ่มความสดชื่นเข้าไปอีกด้วยล่ะจ้า
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับยู แอนด์มีโฉมใหม่เก๋ไก๋กว่าเดิม เรียกได้ว่านอกจากจะมีพื้นที่กว้างขึ้นแล้วมุมถ่ายรูปปังๆ ก็มีเยอะขึ้นจนเลือกไม่ถูก ยิ่งไฮไลท์อย่างรังนกสไตล์บาหลีก็ถูกจัดไว้ในแต่ละมุมอย่างสวยงามเพียงแค่เราเข้าไปโพสท่าเบาๆ นิดๆ หน่อยๆ รูปก็ออกมาสวยแล้ว สมเป็นแลนด์มาร์คประจำจังหวัดที่ไม่ควรพลาดจริงๆ เลยใช่ไหมล่ะค่ะ
U&ME Cafe' Kanchanaburi
ที่ตั้ง : อยู่ในปั๊มน้ำมัน PT ริมถนนหมายเลข 324 (อู่ทอง-กาญจนบุรี) ฝั่งขาเข้าเมืองกาญจนบุรี ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จ.กาญจนบุรรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30- 20.00 น.
โทรศัพท์ : 082-388-7711
FACEBOOK : U&ME Cafe’ Kanchanaburi
GPS : https://g.page/UandMECafeKanchanaburi?share
Tags: กาญจนบุรี คาเฟ่รังนกสไตล์บาหลี U&MECAFE คาเฟ่กาญจนบุรี ยูแอนมีคาเฟ่ คาเฟ่รังนก ที่เที่ยวกาญจนบุรี
รีวิวที่กิน | 07 ต.ค. 2024 | 904 อ่าน
รีวิวที่กิน | 01 ส.ค. 2024 | 837 อ่าน
รีวิวที่กิน | 10 ก.ค. 2024 | 1,927 อ่าน
รีวิวที่กิน | 30 เม.ย. 2024 | 6,549 อ่าน
รีวิวที่กิน | 30 เม.ย. 2024 | 5,103 อ่าน
รีวิวที่กิน ที่กิน | 02 เม.ย. 2024 | 3,197 อ่าน
รีวิวที่กิน | 26 ธ.ค. 2023 | 2,748 อ่าน
รีวิวที่กิน | 08 ธ.ค. 2023 | 10,009 อ่าน
รีวิวที่กิน | 21 มิ.ย. 2023 | 25,000 อ่าน
รีวิวที่กิน | 12 มิ.ย. 2023 | 43,779 อ่าน
รีวิวที่กิน | 24 พ.ค. 2023 | 11,882 อ่าน