calendar_month 10 ม.ค. 2020 / stylus Admin Chillpainai / visibility 28,987 / สถานที่ยอดนิยม
เราเชื่อว่าการพาตัวเองออกไปเที่ยวเป็นการเปิดประสบการณ์ให้กับชีวิตได้ดีที่สุด นอกจากจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รอบตัว ยังมีโอกาสได้แรงบันดาลใจผ่านการท่องเที่ยวกลับมาอีกด้วย แน่นอนว่าการท่องเที่ยวมีหลายรูปแบบ และประเทศไทยเองก็มีสถานที่สวยๆ มากมายที่รอให้เราไปสัมผัส โดยเฉพาะ ‘เมืองรอง’ 55 จังหวัดในเมืองไทยที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจทั้งในด้านศิลปะวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ รวมไปจนถึงชุมชนเก่าแก่ที่พร้อมต้อนรับให้เราได้เข้าไปทักทาย สำหรับใครที่กำลังแพลนทริปท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงนี้ ขอแนะนำ 5 ทริปเมืองรอง เดินทางสะดวก บินไป-กลับ ขับรถเช่า เที่ยวซึมซับธรรมชาติและประสบการณ์สุดสนุก ถ้าอยากรู้ว่ามีจังหวัดไหนบ้างนั้น ตามไปดูพร้อมๆ กันเลย
ประเดิมทริปแรกกันที่จังหวัดอุดรธานี อย่างที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าอุดรธานีเป็น ‘แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 3 ของประเทศไทย’ ซึ่งมีอุทยานประวัติศาสตร์สำคัญมากมายให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ได้ไปศึกษาวิถีชีวิต อารยธรรม ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษในยุคก่อนประวัติศาสตร์ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นจังหวัดที่เดินทางสะดวกเพราะมีสนามบินในตัวเมือง ใครที่มีเวลาน้อยแต่อยากมาเที่ยวก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินมาลงที่อุดรธานีและเช่ารถขับเที่ยวต่อได้ทันที
แน่นอนว่ามาถึงอุดรธานีถ้าไม่ได้เที่ยว ‘ทุ่งทะเลบัวแดง’ ก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะที่นี่มีบัวแดงอมชมพูระเรื่อบานไปทั่วบึงน้ำขนาดใหญ่ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวสุดอันซีนของประเทศไทย บึงหนองหานนั้น เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่สองหมื่นกว่าไร่ มีความหลากหลายทางชีวภาพ อุดมไปด้วยพืชน้ำ พันธุ์นก และสัตว์น้ำจืดหลากหลายชนิด พันธุ์พืชที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือบัวแดง โดยจะบานให้ชมตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี แต่เดือนที่บัวแดงบานสวยที่สุดคือในเดือนมกราคมนั่นเอง
สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมดอกบัวแดงคือตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปจนถึง 11 โมงเช้า โดยจะมีเรือให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้า มีเรือให้เลือก 2 แบบ คือเรือลำใหญ่นั่งได้ 6 คน ใช้เวลาเดินทางไปกลับประมาณชั่วโมงครึ่ง อีกแบบหนึ่งจะเป็นเรือหางยาวนั่งได้ 2 คน ใช้เวลาเดินทางไป-กลับ ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นก็จะได้ชมดอกบัวแดงอมชมพูแล้วล่ะ
อีกหนึ่งสถานที่ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ไปเที่ยวก็คือ ‘พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง’ อุดรธานี เพื่อไปเรียนรู้แหล่งอารยธรรมโบราณกับสถานที่ที่ค้นพบแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ย้อนไปได้ถึง 5,000 กว่าปี ซึ่งบ้านเชียงเป็นแหล่งก่อเกิดอารยธรรมบ้านเชียงที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะศิลปะการทำข้าวของเครื่องใช้ การทำเครื่องประดับ และการฝังศพ สิ่งเหล่านี้เราสามารถเรียนรู้ได้เมื่อก้าวเข้ามาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียงเท่านั้น
พื้นที่ภายในแบ่งเป็นอาคารต่างๆ ได้แก่ อาคารสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นส่วนบริการจำหน่ายบัตร หนังสือ และของที่ระลึกต่างๆ, อาคารกัลยานิวัฒนา ซึ่งเป็นส่วนจัดแสดงนิทรรศการถาวรและอาคารนิทรรศการไทพวน จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมา วิถีชีวิต เอกลักษณ์ และภูมิปัญญา ของชาวไทยพวนที่มาตั้งถิ่นฐานที่บ้านเชียงราว 200 ปี ส่วนจัดแสดงหลักๆ จะอยู่บริเวณอาคารกัลยานิวัฒนาซึ่งจะจัดเป็นส่วนให้เราได้เรียนรู้ ตั้งแต่วิธีการขุดค้นพบ การปฏิบัติงานทางโบราณคดี การจำลองวิถีชีวิตของมนุษย์ในวัฒนธรรมบ้านเชียงและการจัดแสดงโบราณวัตถุจากการขุดค้นทางโบราณคดี นับว่าเป็นสถานที่ที่ทำให้เรารับรู้ถึงความสำคัญในเรื่องการศึกษาทางโบราณคดีเพิ่มขึ้นมากมายเลยล่ะค่ะ
หลังจากชมแหล่งอารยธรรมโบราณกันจนเต็มอิ่ม เราก็มุ่งหน้าไปเที่ยวต่อที่ ‘คีรีวงกต’ หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางขุนเขาของอุดรธานี ตั้งอยู่ในอำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี จากตัวเมืองอุดรธานีขับรถมาที่นี่ระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แนะนำว่าควรปักหมุด GPS ไว้ว่ากลุ่มท่องเที่ยวคีรีวงกต กลุ่ม 1 ผู้ใหญ่นรินทร์ ซึ่งเป็นจุดบริการการท่องเที่ยวในหมู่บ้านคีรีวงกตโดยผู้ใหญ่นรินทร์ ส่วนกิจกรรมการท่องเที่ยวของที่นี่จะมีให้เลือกทั้งแบบวันเดย์ทริป และแบบ 2 วัน 1 คืน โดยเราเลือกแบบวันเดย์ทริปเริ่มตั้งแต่ 10 โมงเช้า ขึ้นรถอีแต๊กแล่นไปตามถนนเข้าสู่เรือกสวน ไร่นา ข้ามลำธาร แล้วไปจบที่น้ำตกห้วยช้างพรายเพื่อทานอาหารกลางป่า โดยใช้เวลาไป-กลับประมาณ 4-5 ชั่วโมง
ส่วนไฮไลท์ของที่นี่คือกินข้าวกลางป่า โดยพ่อครัวก็คือพี่คนขับรถนั่นเอง ซึ่งเขาจะเผาข้าวหลาม ปิ้งไก่ ตำส้มตำ เผาปลา แล้วเสิร์ฟมาให้เราทานจากกระบอกไม้ไผ่ ปูใบตอง และกินกลางป่ากันเลยล่ะ ขอบอกว่าฟินมาก แถมตรงบริเวณจุดกินข้าวจะอยู่ตรงน้ำตกห้วยช้างพราย ไปถ่ายรูปสวยๆ ได้ แต่ลงเล่นไม่ได้เพราะว่าน้ำลึกมาก แต่ถ่ายรูปสวยๆ ได้นะ บรรยากาศดีมากกก
ถ้ายังไม่จุใจสามารถขับรถเที่ยวสถานที่อื่นๆ ได้อีกนะ รับรองว่าถ้าทุกคนมาเยือนอุดรธานีต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน ด้วยเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เป็นหนึ่งจังหวัดในเมืองรองที่เรา Recommend จริงๆ
อีกหนึ่งเมืองรองที่เที่ยวได้ทุกฤดูอีกทั้งยังเดินทางสะดวก สามารถนั่งเครื่องบินมาลงในตัวเมืองและเช่ารถขับเที่ยวต่อได้ทันทีคือ ‘น่าน’ จังหวัดเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และแสนน่ารัก ไม่เพียงแค่มีธรรมชาติสวยงามอุดมสมบูรณ์ของขุนเขาและทุ่งนาเท่านั้น แต่น่านยังเป็น ‘เมืองล้านนาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิถีชีวิตและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า’ ที่เราอยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสด้วยตัวเองกันสักครั้ง
มาเที่ยวน่านทั้งทีเราขอแนะนำให้แวะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองประจำจังหวัดน่าน ‘พระธาตุแช่แห้ง’ ตั้งอยู่ที่อำเภอภูเพียง ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งที่นี่เป็นโบราณสถานล้ำค่าอีกแห่งหนึ่งของประเทศทั้งในด้านศิลปะกรรมและประวัติศาสตร์ ลักษณะเป็นพระอารามหลวง มีเจดีย์องค์ใหญ่สีทองเหลืองอร่ามตามแบบสถาปัตยกรรมล้านนา อีกทั้งยังเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรของคนปีเถาะหรือปีกระต่าย ที่ชาวล้านนามีความเชื่อว่าการได้มา ‘ชุธาตุ’ หรือสักการะพระธาตุประจำปีเกิดสักครั้ง จะได้รับอานิสงส์อย่างแรงกล้าเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสืบต่อไปนั่นเอง
นอกจากได้พระธาตุแช่แห้งที่ทุกคนควรแวะไปสักการะพระธาตุประจำปีเกิดแล้ว ที่จังหวัดน่านยังมีวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมด้วยนั่นก็คือ ‘วัดภูมินทร์’ ที่ผู้คนมักจะพากันมากระซิบรักให้โลกจดจำหน้าปู่ม่านย่าม่าน ภาพเขียนสีอันโด่งดังอายุหลายร้อยปี จนกลายมาเป็นแลนด์มาร์คสำคัญสำหรับคนที่มาเยือนที่นี่
ถ้ามาเที่ยวน่านและอยากซึมซับธรรมชาติแบบเต็มเปี่ยม เราขอแนะนำ ‘น้ำตกวังศิลาแลง’ แกรนด์แคนยอนเมืองน่าน แก่งหินมหัศจรรยซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของแกระแสน้ำและลมที่พัดพากินเวลาอย่างยาวนานจนเกิดเป็นซอกหินลวดลายสวยงาม มีธารน้ำใสเย็นชื่นใจไหลผ่าน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนของจังหวัดน่าน ซึ่งดูงดงามราวกับภาพวาดศิลปะที่มีจิตรกรเอกอย่างธรรมชาติเป็นผู้สรรค์สร้างขึ้นมา โดยด้านในมีวังน้ำมากถึง 7 วังบางช่วงจะเป็นแอ่งลึก-ตื้นเขินสลับกันไป ซึ่งฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสมคือฤดูแล้งเพราะน้ำจะใสจนสามารถมองเห็นความสวยงามของพื้นดินด้านล่างและโขดหินต่างๆ ได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ
นอกจากจุดเช็คอินไฮไลท์ที่เราเลือกมาแนะนำนั้น ‘จังหวัดน่าน’ ยังมีที่เที่ยว ที่กินและที่พักสวยๆ รอให้เราได้ตามไปเช็คอินอีกเพียบเลยนะ แถมแต่ละอำเภอก็ล้วนมีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป รับรองว่าการเที่ยวเมืองรองเล็กๆ ก็แฮปปี้เหมือนกัน
‘ระนอง’ จังหวัดเล็กๆ ทางภาคใต้ที่แอบแฝงไปด้วยเสียงของความเงียบสงบอย่างเป็นธรรมชาติ โอบล้อมด้วยทะเลสายลมและแสงแดด คลอเคล้าเสียงนกร้องยามเช้า เรียบง่าย แต่ไม่เร่งรีบ เป็นอีกหนึ่งเมืองรองที่นั่งเครื่องบินมาลงในตัวเมืองและเช่ารถขับเที่ยวต่อได้ อีกทั้งยังเป็นเมืองฝนแปดแดดสี่ที่มีแร่อยู่มากมาย เพราะในอดีตกาลมีเหมืองแร่ใหญ่หลายแห่ง แต่ปัจจุบันอาชีพหลักของคนในพื้นที่แปรเปลี่ยนมาทำการเกษตรปลูกสวนไม้ซะส่วนใหญ่ แต่ยังเป็น ‘เมืองที่มีเสน่ห์’ ที่ควรค่าแก่การมาสัมผัสที่สุด
นอกจากทะเลระนองที่ขึ้นชื่อแล้ว สำหรับทริปในครั้งนี้ลองเปลี่ยนมาเที่ยวจุดไฮไลท์ที่น่าสัมผัสไม่แพ้กันของระนอง เริ่มที่แรก คือ ‘ภูเขาหญ้า’ หรือเขาหัวล้าน กลุ่มภูเขาเหล่านี้เป็นเขาลูกเตี้ยๆ ถ้ามาในฤดูฝน จะมีหญ้าเขียวขจีปกคลุมทั่วแนวเขาให้ได้เดินเล่น กอดต้นหญ้า และสามารถเดินเล่นขึ้นไปชมวิวบนเขาได้ ระยะทางไม่ไกล ความชันนิดหน่อย แต่รับประกันความงดงามของธรรมชาติที่สวยงามจนต้องร้องว้าวเลยล่ะ
สถานที่เที่ยวไฮไลท์อีกหนึ่งที่ที่เราแนะนำให้ปักหมุดคือ ‘บ่อน้ำแร่พรรั้ง’ เพราะที่นี่ให้บริการบ่อน้ำแร่ร้อนจำนวน 3 บ่อ มีอุณหภูมิของน้ำแร่ร้อนอยู่ระหว่าง 45-54 องศาเซลเซียส มีทั้งบ่อน้ำร้อนแบบแช่เท้า แบบแช่ทั้งตัว ที่อาบน้ำกลางแจ้ง ห้องสุขา ศาลาพักผ่อน ที่จอดรถ ร้านอาหาร และบ้านพัก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ที่ต้องการมาอาบน้ำแร่แบบใกล้ชิดกับธรรมชาติทั้งแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือพักค้างคืน เพราะอยู่ห่างจากตัวเมืองระนองแค่ 10 กิโลเมตรเท่านั้นเอง
อีกหนึ่งใน To Do List ของการมาเที่ยวระนองคือ ‘น้ำตกปุญญบาล’ เป็นน้ำตกขนาดกลาง ที่มีน้ำไหลแรงตลอดปี ไฮไลท์ของที่นี่คือมีทิวทัศน์สวยงาม มีน้ำตกทั้งหมด 3 ชั้น โดยต้นน้ำจะไหลมาจากลำห้วยเล็กๆ ในเขตป่าละอุ่น ป่าราชกูด ซึ่งชั้นที่ 1 ปุญญบาลจะเป็นชั้นที่สวยที่สุด ลักษณะเป็นสายน้ำไหลตกลงมาตามเชิงชั้นสูง บริเวณโดยรอบร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำตื้นๆ น้ำตกชั้นที่ 2 เรียกว่าน้ำตกโตนไม้ไผ่ และน้ำตกชั้นที่ 3 เรียกว่าน้ำตกโตนต้นเฟิน จากชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 3 มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 300 เมตรเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมี ‘พระราชวังรัตนรังสรรค์’ พระราชวังจำลองซึ่งเป็นที่ประทับเก่าแก่ของพระมหากษัตริย์ถึง 3 รัชกาลด้วยกัน ซึ่งที่นี่สร้างขึ้นจากวังที่รัชกาลที่ 5 เสด็จมาประทับเมื่อครั้งมาเยี่ยมเมืองทางใต้ ดังนั้นจึงเปรียบเสมือนแลนด์มาร์คของชาวระนองนั่นเอง ไฮไลท์ของที่นี่จะเป็นตำหนักไม้ขนาดยาว ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์รูปคนร่อนแร่สัญลักษณ์ประจำเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องแร่ธาตุอันอุมสมบูรณ์ในอดีต ภายในมีห้องบรรทม ห้องทรงงาน และจุดบรรยายต่างๆ อีกทั้งบริเวณชั้นบนของพระราชวังยังสามารถมองเห็นวิวตัวเมืองระนองได้ด้วย ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวระนองจึงไม่ควรพลาดแลนด์มาร์คแห่งนี้เด็ดขาด
หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นว่าเมืองรองอย่าง ‘ชุมพร’ มีสนามบินด้วย อยากบอกว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เดินทางสะดวกมากๆ สามารถนั่งเครื่องมาลงและเช่ารถขับเที่ยวได้ตามใจ และเมืองเล็กๆ แห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่เพียงหมู่เกาะชุมพร แหล่งดำน้ำที่ใครหลายคนหมายมั่นอยากมาสักครั้ง แต่ ‘จังหวัดประตูสู่ภาคใต้’ แห่งนี้ยังมีอีกสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายให้เราได้มาสัมผัสกัน
เริ่มต้นที่ ‘น้ำตกเหวโหลม’ น้ำตกขนาดใหญ่ตระการตา การจะเข้าไปในน้ำตกเราต้องเดินเท้าประมาณ 500 เมตร แต่ทางเดินสะดวก ผ่านต้นน้ำคลองพะโต๊ะ สิ่งแวดล้อมโดยรอบเป็นป่าดงดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีพรรณไม้ป่าดงดิบรูปทรงใหญ่แปลกตาหลายชนิด เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลจากหน้าผาสูงประมาณ 80 เมตร โดยมีข้อห้ามปีนป่ายเพราะค่อนข้างสูงอาจเกิดอันตรายได้ แต่รับรองว่าสวยงาม สดชื่นมากๆ
นอกจากชุมพรจะมีน้ำตกที่สวยงามแล้ว ที่อำเภอพะโต๊ะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งที่ห้ามพลาดคือ ‘แพพะโต๊ะ’ เป็นการล่องแพตามแม่น้ำพะโต๊ะ ชมวิวธรรมชาติแบบใกล้ชิด ซึ่งแต่ก่อนชาวบ้านถ่อแพเพื่อไปตัดหวาย ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนาน ต่อมาเวลาเปลี่ยนชาวบ้านไม่นิยมถ่อแพไปตัดหวายกันแล้ว การถ่อแพจึงกลายเป็นกิจกรรมรองรับท่องเที่ยวเท่านั้น
ปิดท้ายกันที่สถานที่เที่ยวไฮไลท์ของชุมพรอย่าง ‘เกาะมาตรา’ เกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมไปดำน้ำกัน โดยบนเกาะจะมีห้องน้ำ เราสามารถขึ้นมาพักค้างคืนบนเกาะได้ด้วย ที่สำคัญใต้ท้องทะเลของที่นี่สมบูรณ์มากๆ นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ สามารถถืออุปกรณ์ดำน้ำลงไปดำดูบริเวณหน้าหาดได้เลย ขนาดหน้าหาดยังมีหอยมือเสือ ว่ายออกไปยังไม่ทันเหนื่อยก็เจอปะการังงามๆ แล้วล่ะ
บอกเลยว่า ‘ชุมพร’ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดเมืองรองที่ควรหาโอกาสมาเที่ยวสักครั้งจริงๆ เพราะที่นี่มีจุดเช็คอินมากมาย ไม่ใช่แค่จุดหมายการเดินทางของสายดำน้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นพิกัดใหม่ๆ ของสายเที่ยวทุกเพศทุกวัยอีกด้วย
ทริปสุดท้ายที่เราภูมิใจนำเสนอให้เพื่อนๆ ที่มีเวลาเที่ยวไม่มากนัก สามารถจองตั๋วเครื่องบินแล้วเช่ารถขับเที่ยวได้เลยก็คือ ‘พิษณุโลก’ อีกหนึ่งจังหวัดเมืองรองที่ครบเครื่องเรื่องเที่ยว ‘มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ที่กิน ที่พัก และวิถีชุมชน’ เป็นเมืองสองแควที่ไม่ควรแค่เป็นทางผ่าน แต่ควรตั้งใจเพื่อมาเยือนจริงๆ
มาถึงพิษณุโลกจุดเช็คอินแรกที่ไม่ควรพลาดคือ ‘วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร’ หรือที่คนพื้นที่เรียกกันว่าวัดใหญ่ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวพิษณุโลก อีกทั้งยังเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปหล่อด้วยสำริด ปางมารวิชัยที่ได้รับยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปที่สวยที่สุดในโลกประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารพระพุทธชินราช ตัวพระวิหารสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ภายในวัดยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมายเลยนะ ใครมาพิษณุโลกแนะนำว่าต้องแวะมากันให้ได้สักครั้ง
หรือถ้าใครชอบท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแนะนำให้ขับรถจากตัวเมืองพิษณุโลกไปประมาณ 2 ชั่วโมง มุ่งหน้าสู่ ‘อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า’ พื้นที่ครอบคลุมรอยต่อสองจังหวัดคืออำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพราะเคยเป็นฐานที่มั่นใหญ่ในการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ ในปี พ.ศ. 2511-2525 ในอุทยานมีพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ มีที่เที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ทั้งลานหินปุ่ม ลานหินแตก ผาชูธง โรงเรียนการเมืองการทหาร จุดชมวิวภูแผงม้า น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร น้ำตกหมันแดง และภูลมโล ใครที่มีเวลาไม่เยอะแต่อยากสัมผัสการเดินป่าระยะสั้นทางเจ้าหน้าที่จะแนะนำเส้นทางเดินชมธรรมชาติลานหินปุ่ม - ผาชูธง ใช้เวลาเดินทางไป กลับประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งตลอดระยะทางเราจะได้พบกับดอกไม้และหินรูปร่างแปลกตามากมาย รับรองว่าสวยงามจนลืมความเหนื่อยแน่นอน
ไฮไลท์สุดท้ายถ้ามาเยือนพิษณุโลกแนะนำให้ไปเที่ยว ‘เนินมะปราง’ อำเภอเล็กๆ ในจังหวัดพิษณุโลก เป็นชุมชนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ท่ามกลางการโอบล้อมของขุนเขาและทุ่งนาสีเขียวขจี กิจกรรมแนะนำคือนั่งรถอีแต๊กชมวิวทิวทัศน์และเที่ยวถ้ำ หรือถ้าขับรถไปทางเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร ก็จะพบกับบ้านสวนชมวิวรีสอร์ท ไฮไลท์ของที่นี่คือต้นไม้รูปหัวใจซึ่งเป็นจุดชมวิวที่เชื่อม 5 จังหวัดเข้าด้วยกันทั้งพิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์และอุตรดิตถ์ ที่สำคัญคือมีกิจกรรมสลิงชิงช้าที่ต้องสวมชุดอุปกรณ์เซฟตี้ตัวสลิงก็จะไหลจากจุดเริ่มต้นไปยังต้นไม้รูปหัวใจให้เรานั่งชมวิวสวยๆ เรียกได้ว่าเป็นจุดเช็คอินห้ามพลาดเลยนะ
‘พิษณุโลก’ ครบเครื่องเรื่องเที่ยวขนาดนี้ ใครอยากออกเดินทางมาสัมผัสความน่ารักของเมืองสองแควแห่งนี้ คงต้องเก็บกระเป๋าแล้วออกมาเที่ยวแล้วล่ะ
สุดท้ายนี้หวังว่า 5 ทริปเมืองรองที่เราหยิบยกมาเป็นทริปตัวอย่างให้เพื่อนๆ จะทำให้หลายคนรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอยากออกเดินทางท่องเที่ยวเมืองรองกันดูสักครั้ง ซึ่งจังหวัดที่เราคัดมานั้นล้วนแต่เหมาะแก่การจัดทริปวันหยุดสุดสัปดาห์ได้สบายๆ เดินทางสะดวก สามารถนั่งเครื่องบินไป-กลับ ขับรถเช่าเที่ยวสนุกได้ตามไลฟ์สไตล์ เพราะเมืองรองของไทย..ต้องไปให้รู้!
Tags: อุดรธานี น่าน ระนอง ชุมพร พิษณุโลก เมืองรอง เที่ยวเมืองรอง ที่เที่ยวอุดรธานี ทุ่งทะเลบัวแดง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ คีรีวงกต ที่เที่ยวน่าน พระธาตุแช่แห้ง วัดภูมินทร์ น้ำตกวังศิลาแลง ที่เที่ยวระนอง ภูเขาหญ้า บ่อน้ำแร่พรรั้ง น้ำตกปุญญบาล พระราชวังรัตนรังสรรค์ ที่เที่ยวชุมพร น้ำตกเหวโหลม แพพะโต๊ะ เกาะมาตรา ที่เที่ยวพิษณุโลก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เนินมะปราง ทริปตัวอย่าง ไทยเที่ยวไทย เมืองรองต้องไปให้รู้
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 17 ธ.ค. 2024 | 343 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 20 ธ.ค. 2024 | 302 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 11 ธ.ค. 2024 | 961 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 09 ธ.ค. 2024 | 3,105 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 07 ธ.ค. 2024 | 2,237 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 04 ธ.ค. 2024 | 2,375 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 05 ธ.ค. 2024 | 3,085 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 13 ธ.ค. 2024 | 431 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 04 ธ.ค. 2024 | 862 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 25 พ.ย. 2024 | 1,876 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 25 พ.ย. 2024 | 873 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 02 ธ.ค. 2024 | 964 อ่าน