0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

De Veranio Resort ที่พักหรูริมหาด มีพูลวิลล่าส่วนตัว บรรยากาศสุดฟิน

calendar_month 06 ธ.ค. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 52,377 / สถานที่ยอดนิยม

ได้เวลาเตรียมตัวพร้อมเพื่อออกไปชาร์จแบตชีวิต พักผ่อนชิลๆ ริมทะเล  หาสถานที่ท่องเที่ยวชิลๆ กันแล้ว หลังจากเตรียมตัวเช็คความเรียบร้อยของรถยนต์ เติมน้ำมันเต็มถังแล้ว แต่เหมือนยังขาดอะไรอยู่นะ?! อ๋อ ขาดที่พักนั่นเอง!! 

ก็แหม ไปเที่ยวทั้งทีก็ต้องหาเวลาว่างเพื่อจะได้พักผ่อนรับอากาศบริสุทธิ์แบบเต็มที่สัก 2 คืนจริงไหมคะ จะได้มีแรงกลับมาลุยงานกันต่อไปยาวๆ ยิ่งถ้าได้เจอที่พักสวย บรรยากาศดีเป็นส่วนตัว ราคาจับต้องได้สบายกระเป๋าแล้วก็ยิ่งฟิน จะบอกว่าเรากับเพื่อนตัวแสบเลือกที่พักกันอยู่นานมากกก จนสุดท้ายก็มาลงเอยที่ ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort) ที่พักน้องใหม่ดีไซน์สวยงาม ริมหาดบานชื่น จ.ตราด ที่เพื่อนตัวแสบเรากระซิบบอกว่าที่นี่เป็นส่วนตัวแบบสุดๆ แถมอาหารยังเลิศรสจนคุณหรีดต้องยกนิ้ว ที่สำคัญยังเป็นการเที่ยวตราดแบบไม่ต้องข้ามเกาะเหมาะกับชาวกรุงที่มีเวลาน้อย โอ๊ย พูดมาขนาดนี้ก็ต้องเก็บกระเป๋าไปลั๊นลากันแล้วล่ะ! 

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท บูทีครีสอร์ทสุดหรูตั้งอยู่บนชายหาดอันเงียบสงบอย่างหาดบานชื่น ต.บ้านไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด หาดสวยอันดับต้นๆ ของประเทศไทยที่มีเม็ดทรายขาวละเอียดที่สุด  ตัวที่พักอยู่ห่างจากตัวเมืองตราดเพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้นค่ะ แถมยังขับรถไปถึงไม่ต้องนั่งเรือข้ามเกาะเลยค่ะ จะบอกว่าทันทีที่รถจอดปุ๊บ แค่ก้าวเข้าในบริเวณพื้นที่ก็อดตื่นตาตื่นใจกับการออกแบบตกแต่งสไตล์โมเดิร์นที่เขาคิดมาเพื่อคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความชิค ความเก๋ และให้ความสำคัญกับการดีไซน์มากขึ้น ซึ่งจุดเด่นอีกอย่างของทางรีสอร์ทคือเหมาะแก่การพักผ่อนบนหาดส่วนตัวเพราะที่นี่ไม่มีถนนกั้น สามารถมองวิวแบบพาโนราม่าได้กว้างเต็มสายตาถึง 180 องศา อีกทั้งยังสามารถลงเล่นน้ำทะเลหน้าหาดได้เลย น้ำตื่นและใสม๊ากกก

สำหรับล็อบบี้จะอยู่บริเวณตรงกลางนะคะ เดินลากกระเป๋าเข้ามาก็จะเจอพนักงานยิ้มแย้มต้อนรับแบบอบอุ่นเลยค่ะ ซึ่งโซนล็อบบี้ที่นี่ก็ดูหรูหราโอ่อ่าด้วยการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นที่เรียบง่าย พร้อมแบ่งโซนรับรองแขกไว้หลากหลายมุม

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

เช็คอินเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาไปดูห้องพักกันแล้วค่ะ โดยห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 34 ห้อง มีให้เลือกด้วยกัน 6 รูปแบบคือ Deluxe (ราคาเริ่มต้น 2,400 บาท) Deluxe Seaview with Bacony Tub (ราคาเริ่มต้น 2,800 บาท) Villa Garden View (ราคาเริ่มต้น 3,000 บาท) Villa Beach Front (ราคาเริ่มต้น 3,500 บาท) Pool Villa Beach Front (ราคาเริ่มต้น 4,200 บาท) และแบบ One-Bedroom Beach Front with Private Pool (ราคาเริ่มต้น 5,500 บาท) โดยทุกห้องจะรวมอาหารเช้าแล้วค่ะ มาพร้อมฟรี Wifi และมินิบาร์สามารถทานขนมและเครื่องดื่มที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มเลยค่ะ 

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

มาค่ะ เราจะพาเพื่อนๆ ไปสำรวจห้องพัก 2 แบบกันค่ะ เริ่มต้นจาก Deluxe Seaview with Bacony Tub กันก่อนเลย ห้องนี้จะอยู่บนอาคาร 3 ชั้นนะคะ แม้จะเป็นห้องขนาดกลางของรีสอร์ทแต่ภายในกลับดูกว้างขวางมากๆ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งเตียงแบบควีนไซส์ มีทีวี โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ มุมนั่งเล่น และระเบียงในตัว สามารถเข้าพักได้ 2 คน ใครมากับแฟนบอกเลยว่าเหมาะมากเพราะนอกจากห้องสวยและเครื่องนอนสบายสุดๆ แล้ว ที่ระเบียงด้านนอกยังมองเห็นวิวทะเลชัดแจ๋ว แถมยังมีอ่างจากุซซี่ให้เรานอนแช่น้ำฟินๆ หรือใครจะถ่ายรูปลงโซเซียลมุมนี้ก็น่าจะเรียกยอดไลค์สุดๆ เลยล่ะ

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ห้องต่อมาที่เราจะพาเพื่อนๆ โฉบไปชมคือห้องที่เราพัก Pool Villa Beach Front วิลล่าบ้านริมชายหาดขนาดกว้างขวาง ตกแต่งสวยงามจนอยากกดชัตเตอร์ทุกมุม!! ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ล้อมรอบด้วยกระจกใส สามารถนอนชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากเตียงเลยค่ะ ห้องนี้เราว่าเหมาะแก่การมาพักกับเพื่อนสนิทหรือคนรักมากที่สุด เพราะเข้าพักได้ 2 คน ไฮไลท์ของห้องจะอยู่ที่สระว่ายน้ำส่วนตัวที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้เต็มสายตา แถมผนังฝั่งหนึ่งของห้องน้ำยังกรุกระจกใสให้มองเห็นบรรยากาศในห้องเพิ่มความเซ็กซี่เล็กๆ ขณะอาบน้ำได้ แต่ถ้าใครเขินอยากเป็นส่วนตัวก็สามารถรูดมูลี่ลงมาปิดได้ด้วยล่ะ

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

นอกจากการออกแบบตกแต่งที่ดูล้ำสมัย บรรยากาศดีเป็นส่วนตัวแล้ว ที่ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท ยังให้ความสำคัญในเรื่องของการพักผ่อนสุดๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมให้เราทำเยอะเลยค่ะ ทั้งจักรยานให้ปั่นไปชมวิวชุมชนบ้านไม้รูด สระว่ายน้ำอินฟินิตี้พูลขนาดใหญ่ที่ขนาบข้างไปกับชายหาดและท้องฟ้าสีคราม ห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ทันสมัย ห้องสัมมนาทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ซึ่งออกแบบมาอย่างดีรองรับแขกผู้เข้าพักได้ทุกวัยทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนของครอบครัว กลุ่มเพื่อน คู่รัก หรือการเจรจาติดต่อธุรกิจ ตลอดจนกรุ๊ปสัมมนาก็ครอบคลุมตอบโจทย์ได้อย่างครบครันในที่เดียว

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ส่วนเรื่องอาหารก็ฟินไม่แพ้กัน เพราะที่รีสอร์ทมีห้องอาหารนานาชาติสไตล์ฟิวชั่น พร้อมบาร์ Siesta Restaurant ที่คัดแต่วัตถุดิบคุณภาพดี เน้นเสิร์ฟอาหารหลากหลายสัญชาติให้เลือกทาน มื้อเย็นวันนี้เรากับเพื่อนเลือกทานปิ้งย่างซีฟู้ดค่ะ อร่อยมากกกกก ทางดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท เขาจัดเต็มทั้งกุ้ง หอย หมึก ปู ปลา แบบสดๆ และอีกหลายเมนูขอบอกเลยว่ารสชาติดีงามพระรามแปดจริงๆ ค่ะ แถมเรายังสามารถเลือกได้ด้วยนะคะว่าจะนั่งโซนเอ้าท์ดอร์กินลมชมบรรยากาศ หรืออินดอร์ชิลๆ ริมสระว่ายน้ำ

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

สำหรับเมนูเติมพลังในมื้อเช้า ทางรีสอร์ทเขาก็มาพร้อมเมนูบุฟเฟ่ต์นานาชาติแบบจัดหนักจัดเต็มทั้งไทย อเมริกัน หรือยุโรปให้เลือกสรรอย่างหลากหลายเลยค่ะ เรียกว่าละลานตาจนเราทานแทบไม่หวาดไม่ไหว! ที่สำคัญคืออร่อยถูกปากทุกเมนูด้วยฝีมือเชฟมากประสบการณ์ การันตีว่าอร่อยถูกปากทุกคนแน่นอน

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ยังจ้ายัง ความฟินของการมาพักที่ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท ยังไม่หมดเท่านี้ค่ะ! เพราะการมาพักที่นี่เราสามารถแวะไปเที่ยวชุมชนบ้านไม้รูดที่ชาวบ้านส่วนใหญ่มักประกอบอาชีพทำการประมง เป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเราสามารถแวะไปเดินเล่น ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ปั่นจักรยานน้ำ หรือตกหมึกยามค่ำคืนก็ได้นะคะ ที่สำคัญห้ามลืมแวะไปศาลเจ้าแม่ทับทิมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองด้วยนะ

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

นอกจากที่เที่ยวแล้วไม่ไกลจากที่พักยังมีคาเฟ่และร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกสรรเต็มไปเลยนะคะ ซึ่งร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ที่เรากับเพื่อนขอแนะนำก็คือ ร้านกาแฟภูเขาและร้านโฟล์คเวย์ ทั้งสองร้านนี้ตกแต่งในสไตล์ที่ต่างกัน แต่ในเรื่องของรสชาติอาหารนั้นอร่อยเด็ดไม่แพ้กัน มีเมนูให้เลือกอย่างหลากหลายและยังอร่อยถูกปากทุกเมนูเลยจ้า คอนเฟิร์ม!

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

เรียกได้ว่าดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท เป็นที่พักเหมาะสำหรับมาพักผ่อนใช้เวลาดีๆ ร่วมกับเพื่อน คนรู้ใจ หรือครอบครัวมากเลยค่ะ เพราะมีความดีงามและครบเครื่องสุดๆ ที่สำคัญยังสามารถเดินทางไปเที่ยวและเช็คอินร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ในที่ต่างๆ ได้ไม่ยาก แถมทางที่พักยังรับจัดงานแต่งงานริมทะเลสุดโรแมนติกในฝันของสาวๆ ด้วยนะ ใครอยากมีช่วงเวลาพิเศษหรือวันแห่งความประทับใจไม่รู้ลืมก็ต้องเก็บลิสต์ที่นี่ไว้ในดวงใจแล้วล่ะ 

อ่อ แล้วขอกระซิบทิ้งท้ายอีกนิดว่าถ้าใครมีโอกาสมาพักที่ ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ทขากลับอย่าลืมแวะฝากท้องชิมเมนูอร่อยโดยเชฟมากฝีมือที่ตราด มาร์เช่ ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ในเครือรีสอร์ทที่มีเมนูอาหารให้เลือกเยอะมากกกก ทีเด็ดของเขาคือเมนูกะเพราที่มีให้เลือกสรรกว่า 100 เมนู คัดแต่วัตถุดิบคุณภาพทั้งปลา หมู หมึก กุ้ง และอีกมากมายมาปรุงให้ทานกัน ส่วนรสชาตินั้นบอกได้คำเดียวว่าอร่อยจนลืมความอ้วนไปเลยค่ะ ที่สำคัญยังมีของหวานให้เลือกหลากหลาย จัดเต็มทั้งเค้ก ไอศกรีมเจลาโต้ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มผ่านฝีมือบาริสต้าผู้มีรางวัลการันตี บอกเลยว่ามาเที่ยวตราดต้องแวะทานข้าว ชิมขนม จิบเครื่องดื่มที่ตราด มาร์เช่ เท่านั้น! :D

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท (De Veranio Resort)

ดิ เวรานิโอ้ รีสอร์ท

ที่ตั้ง : 129 ถ.ร่วมใจอนุสรณ์ ม.5 ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

โทรศัพท์ : 098 246 9696

ราคา : เริ่มต้น 2,400 บาท (รวมอาหารเช้าและมินิบาร์)

GPS : https://her.is/2LccT8L 

Facebook : https://www.facebook.com/DeVeraNiOResort/ 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai