calendar_month 24 พ.ย. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 18,324 / สถานที่ยอดนิยม
ฤดูฝน...หลายคนอาจมองว่าเป็นหน้าโลว์ซีซั่นสำหรับการท่องเที่ยว แต่ความจริงแล้วหน้าฝนแบบนี้เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ดีในการออกเดินทางเหมือนกันนะ เราจะพาไปเที่ยวชุมพร-ระนอง สองเมืองรองสุดสวยหน้าฝนแห่งภาคใต้ ที่นอกจากทะเลแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ รอให้เราไปเยือนกันอีกมากมายหลายที่เลยทีเดียว พร้อมแล้วตามไปเที่ยวชุมพร-ระนองกันเลยค่ะ
“ชุมพร” เมืองรองติดทะเลฝั่งอ่าวไทยที่แสนงดงาม นอกจากทะเลสวยๆ แล้วชุมพรถือเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่เรียกได้ว่า "ครบเครื่อง" เพราะมีที่เที่ยวทั้งธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์ วิถีชุมชนท้องถิ่นที่น่าสนใจ และร้านอาหารอร่อยๆ อีกมากมายรอให้เราไปเยือน
เริ่มกันที่ "ดอยตาปัง" จุดชมวิวทะเลหมอกภาคใต้ที่สวยงามขึ้นชื่อของจังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสกับวิวภูเขาโอบล้อมแบบพาโนรามา ท่ามกลางทะเลหมอกในช่วงหน้าหนาวและหน้าร้อนของทุกปี แต่ถ้ามาช่วงหน้าฝนแบบนี้ เราจะได้มาสัมผัสกับความเขียวขจีของภูเขาสวยๆ แทน
สำหรับการเดินทางขึ้นมายังจุดชมวิวดอยตาปัง เราต้องนั่งรถกระบะ 4x4 แบบโฟร์วีลของทางชุมชนขึ้นไปเท่านั้น เนื่องจากถนนที่แคบและชันมาก ต้องอาศัยความชำนาญของชาวบ้านในพื้นที่ ค่ารถขึ้นลงจุดชมวิวเหมา 600 บาท สามารถนั่งได้ 6-8 คนเลยค่ะ
จุดเด่นของที่นี่คือ เราสามารถชมวิวของภูเขาที่ล้อมรอบได้แบบพาโนรามา โดยเฉพาะในช่วงปลายปีจนถึงเดือนเมษายนของทุกปี ที่จะมีทะเลหมอกให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความงามของธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าตอนที่เราไปจะเป็นช่วงหน้าฝนที่อากาศปิด ฟ้ามีก้อนเมฆมาบดบัง แต่ก็ได้ชมวิวสวยๆ แบบนี้แทน บอกเลยว่าคุ้มค่ากับการเดินทางขึ้นมาถึงที่นี่มากๆ
ใครเป็นสายดริปก็สามารถเตรียมอุปกรณ์ชงกาแฟขึ้นไปดริปกันได้ ได้มานั่งจิบกาแฟพร้อมกับชมวิวสวยๆ ไปด้วยแบบนี้ บอกเลยว่าฟินนนน...
ใช้เวลาถ่ายรูปชมวิวที่จุดชมวิวดอยตาปังสักพัก ฝนก็โปรยเม็ดลงมา...ไกด์ที่ขับรถพาเราขึ้นไปบอกว่าต้องรีบลงไปเพราะถ้าฝนตกถนนจะลื่นมากและอันตราย เราเลยต้องบ๊ายบายดอยตาปังกันเร็วกว่าที่คิด สัญญาว่าทริปหน้าจะมาแก้ตัวที่นี่ใหม่อีกแน่ๆ ถึงแม้ทริปนี้จะไม่เจอทะเลหมอก แต่ยังประทับใจขนาดนี้...ถ้ามีทะเลหมอกจะสวยขนาดไหน ต้องมาพิสูจน์ให้เห็นกับตาตัวเองกันอีกสักครั้ง
ดอยตาปัง
ที่ตั้ง : บ้านบนดอย ม.7 ต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร
ติดต่อท่องเที่ยวจุดชมวิวดอยตาปัง : โทร : 0-98821-9831
พิกัด : https://goo.gl/maps/hdXG4bPLoYocjbAF6
ใกล้ๆ กับดอยตาปังยังมีจุดชมวิวอีกแห่งอย่าง "ลานลมโชย" ที่แม้ความสูงจะไม่เท่ากับดอยตาปัง แต่เราก็สามารถมานั่งชมวิวของเทือกเขาสีเขียวที่ทอดตัวยาวล้อมรอบได้แบบพาโนรามา นอกจากนี้ ลานลมโชยยังเป็นจุดกางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาแคมป์ปิ้งค้างแรม ตื่นมาชมทะเลหมอกที่ดอยตาปังได้สะดวก ตัวลานกว้างขวาง มีร้านค้าและห้องน้ำสะดวกสบาย และยังมีจุดถ่ายรูปอย่างบันไดสวรรค์ให้เราได้ถ่ายรูปเช็คอินกันอีกด้วย
จากอำเภอสวี เราขับรถมาเที่ยวกันต่อที่ตัวเมืองชุมพร จุดหมายปลายทางของเราคือที่นี่ "ชมรมอนุรักษ์พันธุ์ปูปากน้ำชุมพร" ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนชาวประมงเก่าแก่แห่งปากน้ำชุมพร
ที่นี่เกิดจากชาวบ้านในชุมชนได้รวมกลุ่มกันจัดตั้งเป็นชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสวิถีชีวิตและการอนุรักษ์สัตว์ทะเลอย่างปูทะเล โดยชาวบ้านที่ทำประมงเมื่อจับแม่ปูที่มีไข่ได้จะนำมาส่งต่อให้ศูนย์อนุรักษ์ของทางชมรม เพื่อเพาะเลี้ยงลูกปูและนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ที่สำคัญ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยวโดยนักท่องเที่ยว ก่อนจะเข้ามาเที่ยวในชมรมฯ เราต้องมีการลงทะเบียนและวัดอุณหูภูมิร่างกายกันให้เรียบร้อยก่อนเพื่อความปลอดภัย
ช่วงเย็นเรานั่งเรือหาปลาของชาวบ้านไปตามแม่น้ำตะเภาออกไปยังปากน้ำชุมพรที่ไหลเชื่อมสู่ทะเล เพื่อนำลูกปูไปปล่อยบริเวณใกล้ๆ กับเกาะมัตโพน เกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ห่างจากปากน้ำชุมพรออกไปประมาณ 500 เมตร เมื่อถึงช่วงเวลาที่น้ำลงจะเห็นแนวสันทรายซึ่งสามารถใช้เป็นทางเดินจากชายฝั่งไปถึงตัวเกาะได้ ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็มาถึงจุดที่เราจะปล่อยลูกปูกันแล้วค่ะ
วิธีในการปล่อยลูกปูลงทะเล เราต้องเติมน้ำทะเลเข้าไปในถังเล็กน้อยเพื่อให้ลูกปูได้ปรับสภาพกันก่อน ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยลูกปูที่เพาะเลี้ยงไว้ลงสู่ทะเล โดยบริเวณที่ปล่อยนั้นระดับน้ำต้องไม่ลึกจนเกินไปและมีพื้นทรายให้ลูกปูได้อาศัยและซ่อนตัวได้ด้วย
หลังจากปล่อยลูกปูเสร็จ จากนั้นเรานั่งเรือกลับมากินอาหารเย็นที่ชมรมฯ ซึ่งชาวบ้านได้จัดเตรียมอาหารไว้รอชุดใหญ่ แน่นอนว่าไฮไลท์คือเมนูปูม้านึ่ง พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ และยังมีเมนูไข่เจียวปูสุดฟินที่ไส้เนื้อปูทะลักจุใจไม่แพ้ร้านมิชลินท์สตาร์ดังๆ ในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังมีอาหารเมนูพื้นบ้านอร่อยๆ อีกมากมายให้กินกันจนพุงกางเลยค่ะ
ใครอยากมาท่องเที่ยวและได้เรียนรู้การอนุรักษ์พันธุ์ปูของชาวปากน้ำชุมพร พร้อมยังได้กินอาหารทะเลสดๆ อร่อยๆ แบบนี้ สามารถติดต่อได้ที่ชมรมอนุรักษ์พันธุ์ปูปากน้ำชุมพร โทร.081-2334151 ได้เลยค่ะ
ชมรมอนุรักษ์พันธุ์ปูปากน้ำชุมพร
ที่ตั้ง : ต.ท่ายาง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร
พิกัด : https://goo.gl/maps/wtybFBK1VTh7vAQKA
เปลี่ยนฟีลไปเที่ยวทะเลกันบ้างที่ "อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร" อุทยานแห่งชาติทางทะเลของจังหวัดชุมพรที่มีเกาะสวยๆ ให้เราได้ไปเที่ยวกันหลายแห่ง แต่ที่มาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวต้องยกให้กับหมู่เกาะง่าม ที่เราสามารถซื้อทัวร์ท่องเที่ยว 4 เกาะไปเที่ยวชมความสวยงามของเกาะง่ามน้อย เกาะงามใหญ่ เกาะกะโหลก และเกาะทะลุกันได้แบบเต็มอิ่ม
จะนั่งเรือเที่ยวชมวิวชิลๆ หรือใครฟิตอยากลองดำน้ำดูปะการังก็สามารถดื่มด่ำกับโลกใต้ทะเลที่แสนมหัศจรรย์กันได้เลย
นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์อย่างเกาะมาตราซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปูไก่ที่มีลักษณะคล้ายปูดำ แต่เป็นสีแดงร้องเสียงเหมือนไก่! เราสามารถไปเที่ยวได้ทั้งแบบ One Day Trip หรือถ้าอยากค้างคืนบนเกาะก็มีที่พักของชาวบ้านแบบเรียบง่ายให้เราได้หนีมาติดเกาะกันด้วย
สำหรับสายชิลที่ชอบบรรยากาศสงบเงียบ แนะนำ "เกาะลังกาจิว" เกาะสัมปทานรังนกที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปท่องเที่ยวบนเกาะได้ด้วย ที่นี่เป็นเกาะเล็กๆ สุดน่ารัก นอกจากทะเลสวยน้ำใสและหาดทรายขาวละเอียดราวกับแป้งแล้ว ยังมีจุดดำน้ำตื้นให้ดูปะการัง ยกให้เป็นเกาะที่เราชอบที่สุดแห่งหนึ่งของชุมพรเลยล่ะ
ปิดท้ายด้วยเกาะไฮไลท์สำหรับสายดำน้ำทั้งแบบ Snorkeling และ Scuba ต้องไม่พลาดกับ "เกาะร้านเป็ด-ร้านไก่" อันซีนแห่งทะเลชุมพร เพราะมีจุดดำน้ำที่น่าสนใจอีกหลายจุดให้เราได้ดำน้ำชมปะการังและความงามของทะเลชุมพร ถ้าโชคดีอาจได้เจอน้องฉลามวาฬลายจุดออกมาโชว์ตัวทักทายกันอีกด้วย
เที่ยวชุมพรกินอะไรดี?
ใครมาเที่ยวชุมพรแล้วอยากทานเมนูอร่อยๆ พร้อมกับชมวิวหลักล้านของทะเลชุมพรแล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดมาเช็คอินกันที่ร้าน “ภูผาหน้าเล” คาเฟ่ชุมพรที่มาพร้อมกับวิวทะเลแบบพาโนรามา ตัวคาเฟ่ตั้งอยู่ริมหน้าผาหันหน้าร้านออกสู่ทะเลซึ่งสามารถมองเห็นวิวอ่าวทุ่งมหาของจังหวัดชุมพร และยังสามารถมองเห็นวิวของเกาะน้อยใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ทั้งเกาะเวียง เกาะพระ เกาะรัง ไปจนถึงเกาะร้านเป็ดร้านไก่ที่อยู่ไกลๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ที่ร้านยังได้รับตราสัญลักษณ์ SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยวโดยนักท่องเที่ยวอีกด้วย มาเช็คอินที่ร้านนี้รับรองว่ามั่นใจในเรื่องความสะอาดปลอดภัยกันแน่นอน
ภูผาหน้าเล
ที่ตั้ง : 11 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร
เปิด : จ.-ศ. 10.00-20.00 น. , สา.-อา. 09.00-20.00 น.
โทร. 082-5292871
Facebook : ภูผาหน้าเล PhuPha-NaLay Cafe'n Camping
พิกัด Google Maps: https://g.page/Phuphanalay?share
ส่วนใครเป็นคอกาแฟ เราขอแนะนำร้านนี้ "CRAFT SMITH Coffee Bar" ร้านกาแฟแบบสโลว์บาร์ที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนร่มรื่น ตั้งอยู่ในตำบลนาชะอัง ทางไปหาดทุ่งวัวแล่นใกล้กับตัวเมืองชุมพร จุดเด่นของที่นี่คือเป็นร้านกาแฟที่ทำทุกอย่างด้วยความประณีตและพิถีพิถัน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ นับตั้งแต่การปลูกกาแฟที่ปลูกเองโดยเป็นสวนกาแฟแบบเกษตรอินทรีย์ กระบวนการผลิตและแปรรูปกาแฟ ไปจนถึงขั้นตอนการคั่วกาแฟที่ทางร้านมีโรงคั่วเป็นของตัวเอง จนได้เมล็ดกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน และกลายมาเป็นกาแฟโรบัสต้าเมืองชุมพรที่หลากหลายและมีเสน่ห์น่าสนใจไม่แพ้กาแฟที่อื่นเลยจริงๆ
CRAFT SMITH Coffee Bar
ที่ตั้ง : ซอยต้นท้อน (ก่อนถึงวิทยาลัยเทคนิคชุมพร2) ต.นาชะอัง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร
เปิด 9.00-16.00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)
โทร. 061-7687443
Facebook : CRAFT SMITH Coffee Bar
พิกัด Google Maps : https://goo.gl/maps/Gj7PGt5Xzby6cGb89
เที่ยวชุมพรพักที่ไหนดี?
ใครจะนึกว่าชุมพรจะมีที่พักเก๋ๆ แบบนี้ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แถมยังอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองชุมพรกันด้วย ไปเช็คอินกันที่นี่ "Villa Varich" ที่พักชุมพรสุดชิลสไตล์วิลล่าในสวนริมน้ำ ที่จะทำให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศของบ้านสวนและชุมชนแสนน่ารักของเมืองชุมพร
ที่นี่เป็นที่พักสไตล์บ้านสวน บรรยากาศของรีสอร์ทร่มรื่นด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่ทางเจ้าของรีสอร์ทปลูกไว้ เพื่อทำให้แขกที่มาพักได้รู้สึกว่าได้มาพักผ่อนชาร์จแบตร่างกายท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง
รีสอร์ทมีห้องพักให้เลือกหลายแบบ ไฮไลท์คือห้อง Riverside Jungle บ้านพักสไตล์วิลล่าที่ตั้งอยู่ภายในสวนร่มรื่น แต่ละหลังมีทางเดินเชื่อมระหว่างหน้าห้องที่แยกเป็นสัดส่วนออกจากกัน โดยจุดเด่นของวิลล่านี้ คือ ภายในดีไซน์ออกแบบให้มีชั้นลอยเหมือนห้องใต้หลังคา ให้ความรู้สึกว่าได้มาพักบ้านในฝันเหมือนสมัยเด็กๆ ไม่แปลกใจเลยที่ห้องพักแบบนี้จะกลายเป็นห้องพักยอดฮิตของรีสอร์ท ที่ปกติมีคิวจองยาวตลอดทั้งปี
และหากใครสนใจอยากไปเที่ยวชุมชนใกล้ๆ ที่พัก ทางรีสอร์ทก็ยังมีจักรยานไว้ให้เรายืมไปปั่นเล่นกันได้ฟรี ซึ่งทางรีสอร์ทจะมีกิจกรรมพานักท่องเที่ยวไปชมวิถีชุมชน หรือใครเป็นสายกินก็สามารถให้ทางที่พักแนะนำร้านอาหารเด็ดๆ ที่อยู่ใกล้ๆ กันได้
Villa Varich
ที่ตั้ง : 56/1 ซอยปรมินทรมรรคา 24 ต.บางหมาก อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร
ราคา : เริ่มต้น 700-1,600 บาท
โทร. 081-5430344
Facebook : Villa Varich
พิกัด : https://g.page/villavarich?share
เมืองรองเล็กๆ ที่แสนสงบติดทะเลอันดามันแห่งภาคใต้ บางคนอาจคิดว่าไปเที่ยวระนองแล้วต้องไปทะเลหรือเกาะต่างๆ เพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วระนองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเฟี้ยวๆ วิวสวยที่น่าสนใจอีกมากมายไม่แพ้กัน พร้อมแล้วตามไปเที่ยวระนองกันเลย!
ประเดิมเที่ยวระนองกันที่แรกกันที่ "ภูเขาหญ้า" ที่เที่ยวสุดอันซีนแลนด์มาร์คของจังหวัดระนอง ที่ใครได้ลองมาที่นี่แล้วต้องตกหลุมรักกับบรรยากาศและความสวยงามของต้นหญ้าที่ขึ้นปกคลุมเนินเขาเล็กๆ ลดหลั่นกันท่ามกลางทุ่งกว้างสีเขียวสุดสายตา โดยเฉพาะในช่วงกรีนซีซั่นหน้าฝนแบบนี้ ทุ่งหญ้าก็ยิ่งเขียวขจี บรรยากาศดีเหมือนได้ไปเที่ยวต่างประเทศเลยทีเดียว
ที่ตั้ง : ต.หงาว อ.เมืองระนอง จ.ระนอง
พิกัด : https://goo.gl/maps/orUMCr2jXTb1tzVw5
น้ำตกหงาว
ถัดมาไม่ไกลจากภูเขาหญ้า คือจุดท่องเที่ยวไฮไลท์อีกแห่งอย่าง "น้ำตกหงาว" น้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามซึ่งไหลมาจากเทือกเขาที่ทอดตัวเป็นทิวยาวในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนแบบนี้เราจะสามารถเห็นภาพน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาบนยอดเขาสูงได้อย่างชัดเจน นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวระนองที่ไม่ควรพลาด
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ต.หงาว อ.เมืองระนอง จ.ระนอง
พิกัด : https://goo.gl/maps/Xm5NwUZJj12WFvWDA
เที่ยวทุ่งหญ้าและน้ำตกกันแล้ว ไปแช่น้ำร้อนฟินๆ กันต่อที่ "ธาริน ฮ็อทสปริง" (Taryn Hot Springs) บ่อน้ำแร่ร้อนของเอกชนแห่งเดียวในจังหวัดระนอง ที่มาพร้อมกับบ่อน้ำแร่แบบออนเซ็นให้เราได้นอนแช่กันถึง 6 บ่อ ซึ่งน้ำแร่ที่นี่เป็นน้ำแร่ธรรมชาติจากใต้ดินที่เจ้าของได้ขุดเจาะนำมาใช้และเปิดเป็นบ่อน้ำแร่ร้อนให้นักท่องเที่ยวได้มาแช่น้ำกันชิลๆ
อย่างที่ทราบว่าระนองเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำแร่ธรรมชาติที่บริสุทธิ์อยู่แล้ว คุณภาพของน้ำแร่ที่ธาริน ฮ็อทสปริงก็เช่นเดียวกัน บ่อน้ำแร่ที่นี่มีทั้งแบบบ่อรวมและบ่อเดี่ยวส่วนตัวแบบ VIP เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวก็สามารถมานอนแช่น้ำแร่คนเดียวแบบนี้ได้เหมือนกันค่ะ
นอกจากเราจะได้ผ่อนคลาย แช่น้ำแร่ธรรมชาติจากแหล่งน้ำแร่บริสุทธิ์จังหวัดระนองกันแล้ว ความพิเศษของที่นี่อีกอย่างคือ ยังมีชุดยูกาตะให้เราได้ใส่ถ่ายรูปน่ารักๆ กันก่อนลงไปแช่น้ำแร่ พร้อมยังมีเวลคัมดริงค์เป็นน้ำสมุนไพรและไข่ลวกลาวาที่ใช้ไข่ไก่ไปแช่ในน้ำแร่ให้เราได้สั่งมากินกันฟินๆ อีกด้วย
ที่ธาริน ฮ็อทสปริง มีห้องน้ำแยกชายหญิงให้เปลี่ยนชุดกันก่อนลงแช่น้ำแร่ ซึ่งภายในกว้างขวางและสะอาดมากๆ มีทั้งห้องอาบน้ำ ห้องสุขา อ่างล้างหน้า ล็อคเกอร์เก็บของ และเคาน์เตอร์กระจกสำหรับแต่งหน้าที่มีอุปกรณ์อย่างไดร์เป่าผมไปจนถึงยางรัดผมให้พร้อมสรรพเลยค่ะ บอกเลยว่าปลื้มมากๆ เหมือนออนเซ็นในญี่ปุ่นเลยล่ะ
นอกจากนี้ ที่นี่เค้ายังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่เผื่อใครอยากลงไปว่ายหลังแช่น้ำแร่เสร็จ และยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ทั้งสะพานทางเดินไม้ริมคลองที่มีบ่อปลาคาร์ปสีสวยแหวกว่ายโชว์ตัวอยู่ บอกเลยว่ามาที่นี่แล้วฟินได้ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่นกันเลยจ้าาา...
ที่ตั้ง : ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง
เปิด : 08.00-20.00 น.
โทร. 077-826726
Facebook : Taryn Hot Springs ธาริน ฮ็อท สปริง
พิกัด : https://g.page/tarynhotsprings?share
ใครอยากสัมผัสบรรยากาศของทะเลระนองสวยๆ โดยไม่ต้องข้ามเกาะ ลองแวะไปเที่ยวกันที่นี่ "อุทยานแห่งชาติแหลมสน" อุทยานแห่งชาติทางทะเลของระนอง ที่ประกอบไปด้วยป่าชายเลน หาดทราย และแนวปะการัง โดยมีขนาดพื้นที่ถึงประมาณ 196,875 ไร่ โดยไฮไลท์ของที่นี่คือแนวต้นสนบนชายหาดที่ทอดตัวยาวตลอดแนวชายฝั่ง สลับด้วยลำคลองสั้นๆ หลายสาย ใครมาเที่ยวแถวอำเภอกะเปอร์หรือเคยขึ้นไปเรือไปเที่ยวเกาะต่างๆ ของระนองน่าจะเคยมาขึ้นเรือกันที่นี่
ถึงแม้ว่าตอนนี้ทางอุทยานฯ จะยังไม่เปิดบริการ แต่ถ้าหากมีโอกาสมาหลังจากช่วงสถานการณ์โควิด-19 เราอยากให้ลองแวะมาเที่ยวกันที่นี่ แค่ได้เดินเล่นริมทะเล เอาเท้าเหยียบทราย ดูพระอาทิตย์ตกชิลๆ หรือปีนไปถ่ายรูปบนโขดหินเก๋ๆ ดูชาวบ้านเก็บหอยกันแบบนี้ ก็เหมือนได้ชาร์จแบตให้ทะเลช่วยเยียวยาหัวใจจนหายเหนื่อยกันเลยค่ะ
อุทยานแห่งชาติแหลมสน
ที่ตั้ง : 36/6 หมู่ 4 ตำบลม่วงกลวง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง
โทรศัพท์ : 077-861431
พิกัด : https://goo.gl/maps/bzobNopDtLCNzLFw7
ปิดท้ายทริประนอง ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนอีกแห่งอย่างการ "ล่องเรือคลองลัดโนด" โดยวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลม่วงกลวง ที่เกิดจากการรวมตัวของชาวบ้านในชุมชนจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสวิถีชีวิตของคนในชุมชนที่ส่วนใหญ่ทำอาชีพประมงและอาศัยอยู่ริมสองฝั่งลำน้ำ
จุดเด่นของการมาเที่ยวที่นี่ คือเราจะได้ทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และเชิงอนุรักษ์ เริ่มตั้งแต่ฟังประวัติความเป็นมาของชุมชนที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อทราบถึงความน่าสนใจของแต่ละสถานที่กันก่อน ซึ่งที่นี่ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยวโดยนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน เราจึงสามารถมาทำกิจกรรมและท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจกันในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้
สำหรับใครที่สนใจมาล่องแพเปียกคลองลัดโนดสามารถติดต่อได้กับทางวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลม่วงกลวง โดยจะมีค่าใช้จ่ายคนละ 1,350 บาท ซึ่งจะรวมทุกอย่างทั้งการนั่งเรือเที่ยวชมวิถีชุมชน อาหารกลางวันที่เราจะได้กินปูและซีฟู้ดสดๆ กันบนกระชังกลางทะเล รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ อย่างการปลูกป่าชายเลนและล่องแพเปียกเล่นน้ำกันที่ทะเลแหวก หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้วจากนั้นเราจึงจะนั่งรถต่อไปลงเรือเที่ยวคลองลัดโนดที่ท่าเรือกันค่ะ
พาหนะที่เราใช้คือเรือประมงหาปลาของชาวบ้านที่เรียกกันว่า "เรือพรีส" เรือลำเล็กสีสันสดใส นั่งได้ลำละไม่เกิน 2 คน (ไม่รวมคนขับเรือ) ใช้เวลาแค่ 10 นาทีเราก็มาถึงที่กระชังชุมชน ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราจะมาทานอาหารกลางวันบนกระชังกลางทะเลกัน
ที่นี่เป็นกระชังของชาวบ้านในชุมชนที่จะมีการเลี้ยงหอยนางรมและปลาต่างๆ เพื่อสาธิตให้นักท่องเที่ยวได้ชมการทำประมงพื้นบ้านอย่างใกล้ชิด บอกเลยว่าบรรยากาศดีมากๆ ลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวันจนเกือบหลับเลยล่ะ
รออาหารสักพัก พี่ๆ แม่ครัวพ่อครัวที่เป็นชาวบ้านก็ลำเลียงอาหารออกมาต้อนรับพวกเรากันชุดใหญ่ บอกเลยว่าแต่ละเมนูเห็นแล้วน้ำลายไหล มีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลาตัวใหญ่ๆ สดๆ ที่ชาวบ้านจับมาทำอาหารให้พวกเรากินกัน มีทั้งเมนูต้มยำทะเล,ปลานึ่งซีอิ้ว,ใบเหลียงผัดไข่,ใบโกงกางชุบแป้งทอด และไฮไลท์อย่างเมนูกุ้งและปูทะเลนึ่งกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดฟินนน...
หอยนางรมสดๆ เพิ่งเก็บขึ้นมาจากกระชัง กินเปล่าๆ หรือจะจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บก็อร่อย เนื้อหอยหวานและสดมากๆ
พออาหารเริ่มย่อยๆ พี่ๆ ชาวบ้านก็พาพวกเราไปดูฟาร์มปูนิ่มของชาวบ้านที่ใช้เลี้ยงปูนิ่มกันบนกระชังกลางทะเลที่อยู่ใกล้ๆ กันกับกระชังของชุมชน
เราเคยกินแต่เมนูปูนิ่ม เพิ่งได้มาลองดูวิธีการเลี้ยงจริงๆ ที่นี่ ซึ่งชาวบ้านจะใส่ปูไว้ในกล่องพลาสติกแช่น้ำไว้ให้ปูลอกคราบ พอถึงเวลาก็มาเก็บไปขายให้กับพ่อค้าในตลาดอีกทีหนึ่งค่ะ
จากนั้นเรานั่งเรือไปเที่ยวกันต่อ คราวนี้ขอเที่ยวแบบอนุรักษ์กันบ้าง ด้วยการไปปลูกป่าโกงกางที่บริเวณแปลงอนุรักษ์ของชุมชน ความรู้สึกคือเหมือนเป็นคนสวยที่รักษ์โลกมากเลยอ่ะ...555 เอาจริงๆ คือเราชอบการท่องเที่ยวสไตล์นี้มาก เพราะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และยังเป็นการท่องเที่ยวที่ได้ช่วยเหลือชุมชนและสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย
พอถึงตอนเย็น ได้เวลาที่พวกเรารอคอยกันแล้ว! นั่นคือกิจกรรมการล่องแพเปียกนั่นเอง โดยทางชุมชนจะใช้เรือลากแพพาพวกเราล่องออกไปในทะเล เพื่อไปเล่นน้ำที่ทะเลแหวกกันค่ะ วิวระหว่างทางคือสวยงาม อากาศสดชื่นเป็นธรรมชาติมากๆ อยากเอาใส่กระเป๋ากลับบ้านไปด้วยจริงๆ
แป๊บเดียวก็มาถึงจุดที่เป็นทะเลแหวก ซึ่งหลังช่วงที่น้ำลดจะปรากฏเป็นแนวสันทรายทอดตัวยาวให้เราลงไปเดินเล่น ชมวิว เล่นน้ำถ่ายรูปชิลๆ กันได้ โดยชาวบ้านที่นี่เรียกบริเวณนี้กันว่า "สันหลังปิ้งกือ" ซึ่งชื่อนี้มาจากขนาดของสันทรายที่เล็กกว่าสันหลังมังกรเลยตั้งชื่อน่ารักๆ ให้ว่าสันหลังปิ้งกือหรือกิ้งกือแทน
ไหนๆ ก็มาแล้ว เราไม่พลาดที่จะลงไปเดินเล่นเอาเท้าเหยียบทรายบนทะเลแหวกกันซะหน่อย ฟีลลิ่งคือดีอ่ะ! เป็นทะเลแหวกไซส์มินิกำลังน่ารักตะมุตะมิดีจัง55 แถมยังมีป่าโกงกางเป็นแบคกราวด์ฉากหลังให้ถ่ายรูปกันด้วยนะ ประทับใจจนตั้งใจว่าครั้งหน้าจะชวนเพื่อนมาเที่ยวกันยกแก๊งค์ คงสนุกแน่นอน!
วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลม่วงกลวง
ที่ตั้ง : 11/1 หมู่ที่ 3 ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง
โทรศัพท์ : 087-8857965
เที่ยวระนองกินอะไรดี?
คาเฟ่สุดคิวท์สไตล์มินิมอล ตั้งอยู่ในตัวเมืองระนอง โดยเจ้าของร้านได้ปรับปรุงพื้นที่บริเวณบ้านเลขที่ 12/15 ที่เป็นบ้านพักอาศัยหลังนี้ให้กลายเป็นคาเฟ่สุดน่ารักสไตล์มินิมอล ที่ให้ฟีลแบบคาเฟ่ญี่ปุ่นเบาๆ นอกจากจะมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ แล้ว เมนูของที่ร้านยังเน้นเป็นเมนูเครื่องดื่มและเบเกอรี่โฮมเมดที่มีให้เลือกหลากหลายเมนู บอกเลยว่าเป็นสวรรค์สำหรับสายคาเฟ่ฮ็อปปิ้งอย่างแท้ทรูเลยจริงๆ
12 Cafe & Bakery
ที่ตั้ง : 12/15 ซอยจัดสรร 12 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง
เปิด : 09.00-18.00 น. (หยุดวันพุธ)
โทร. 062-5455544
Facebook : 12cafebakery
พิกัด Google Maps: https://g.page/12CafeBakery?share
คาเฟ่สุดเก๋ในตัวเมืองระนองอีกแห่ง ที่แตกต่างด้วยคอนเซ็ปต์การเป็นทั้งคาเฟ่ อาร์ตแกลเลอรี่ และภายในยังมีร้าน Eco Shop ที่จำหน่ายสินค้ารักษ์โลกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ที่นี่เป็นอีโค่คาเฟ่ที่เป็นมากกว่าแค่คาเฟ่หรือร้านกาแฟทั่วไป แต่ก็ยังมีมุมนั่งเล่นเก๋ๆ ไว้ให้สายโซเชียลถ่ายรูปเช็คอินลง IG กันด้วย ที่สำคัญ เมนูขนมและเบเกอรี่ที่ร้านนี้เค้าเป็นสูตรโฮมเมดอร่อยสุดๆ ไปเที่ยวระนองปักหมุดร้านนี้ไว้ในลิสต์กันได้เลย!
Mata Cafe - Store & Artspace
ที่ตั้ง : ถ.เพชรเกษม ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง จ.ระนอง
เปิด : 10.00-19.00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)
โทร. 062-0739991
Facebook : Mata Cafe - Store & Artspace
พิกัด Google Maps : https://goo.gl/maps/dJhMv4J14LVsb7Xw8
เที่ยวระนองพักที่ไหนดี?
ที่พักสวยเก๋ที่ตั้งอยู่ติดริมทะเล ห่างจากตัวเมืองระนองเพียงแค่ 20 นาที ด้านหลังของรีสอร์ทอิงภูเขาเขียวขจีเป็นแบคกราวด์ และหันหน้ารีสอร์ทเข้าหาบริเวณปากอ่าวที่มีแม่น้ำกระบุรีไหลทอดยาวออกสู่ทะเล มาพักที่นี่แล้วเราจึงได้ทั้งวิวทะเลและภูเขาสดชื่นแบบ 2 in 1 ที่สำคัญ ห้องพักที่นี่เค้าสวยเก๋น่าพักมากๆ ใครไม่อยากข้ามเกาะลองแวะมาเช็คอินกันที่รีสอร์ทริมทะเลอย่าง The Blue Sky Resort Ranong กันได้เลย
ที่ตั้ง : 170 หมู่ 5 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระนอง ระนอง
ราคา : 1,999 - 5,499 บาท
เบอร์ติดต่อ : 02-247-7310,02-247-7311
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/b4XZfwmbmLbjrhck8
ที่พักสไตล์โมเดิร์นตั้งอยู่ใจกลางเมืองระนอง ที่มาพร้อมกับดีไซน์เก๋ชิคและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนสเล็กๆ และคาเฟ่สุดเก๋ในบริเวณรีสอร์ท นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีห้องพักให้เลือกหลากหลายแบบ ไฮไลท์คือทุกห้องจะมีชั้นลอยไว้ให้มานั่งเล่น อ่านหนังสือ หรือถ่ายรูป เหมาะกับนักท่องเที่ยวทั้งสายชิลและสายชิค ใครมาเที่ยวระนองแล้วมองหาที่พักที่เป็นมากกว่าสถานที่พักผ่อน แล้วยังได้ถ่ายรูปเก๋ๆ เช็คอินกันได้ทุกมุมแบบนี้ ลองมาพักที่นี่กันได้เลยค่ะ
Blu Monkey Hub & Hotel Ranong
ที่ตั้ง : เขานิเวศน์ 2 ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง
ราคาเริ่มต้น : 1,150- 1,550 บาท (ราคาโปรโมชั่นขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เข้าพัก)
โทร. 082-3695929
Facebook : Blu Monkey Hub & Hotel Ranong
พิกัด : https://goo.gl/maps/Nk17bKtJsjm3vt4u7
และทั้งหมดนี้ก็คือจุดเช็คอินกินเที่ยวพักชุมพร-ระนอง ที่เราเอามาฝากให้เพื่อนๆ ได้ไปตามรอย บอกเลยว่าสองเมืองรองภาคใต้แห่งนี้มีเสน่ห์น่าไปเยือนมากๆ ไม่ว่าจะไปเที่ยวช่วงกรีนซีซั่นในช่วงหน้าฝนแบบนี้... หรือว่าฤดูไหนก็ฟินชุ่มฉ่ำหัวใจกันแน่นอน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 01 พ.ย. 2024 | 123 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 27 ต.ค. 2024 | 977 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 03 พ.ย. 2024 | 299 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 30 ต.ค. 2024 | 286 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 1,367 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 746 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ข่าวท่องเที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 704 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 10 ต.ค. 2024 | 5,665 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 10 ต.ค. 2024 | 832 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 22 ต.ค. 2024 | 1,326 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 10 ต.ค. 2024 | 3,909 อ่าน
