calendar_month 20 พ.ย. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 46,600 / ทริปตัวอย่าง
อีกเดือนนิดๆ จะหมดปีแล้ว รู้ตัวอีกทีก็ยังไม่ได้ใช้วันลา (พักร้อน) ไปเที่ยวไหนเลยจ้า งานนี้เลยขอใช้สิทธิ์ลาพร้อมกับกริ๊งกร๊างชวนเพื่อนสนิทหอบหิ้วร่างกายที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งปีไปสัมผัสอากาศเย็นๆ กันสัก 3 วัน 2 คืน ที่เชียงใหม่จุดหมายปลายทางที่ยังคงฮอตฮิตอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยที่เที่ยวธรรมชาติให้ได้สัมผัสบรรยากาศดีๆ แล้วยังสามารถเที่ยวแบบชิคๆ คลูๆ ผ่านการ Hopping ตามคาเฟ่ในตัวเมืองได้อีกด้วยนะ
เอาล่ะ! ถ้าอยากไปถ่ายรูป เอ้ย เที่ยวด้วยกันแล้วก็ตามมาเลยจ้า Go Go
ทริปนี้เราเดินทางโดยรถไฟจ้า เพราะเพื่อนตัวแสบนางจองตั๋วไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว 3 เดือน ตอนแรกนางตั้งใจจะไปเที่ยวกับแฟน แต่ใจเจ้ากรรมดันเลิกกันซะก่อน เราเลยได้ตั๋วฟรีขอทำเรื่องเปลี่ยนชื่อและเริ่มเดินทางกันแต่ค่ำๆ โดยไปขึ้นที่ต้นทางสถานีหัวลำโพงนั่นเอง
ขึ้นรถไฟปุ๊ป เป็นอันหลับปั๊ป จะบอกว่ารถไฟไทยนั่งสบายมากเลยนะ เรามาถึงสถานีเชียงใหม่สายๆ จัดการเรื่องรถเช่าเสร็จสรรพก็ขอไปเติมพลังให้อิ่มท้องกันก่อน โดยขอไปฝากท้องมื้อนี้กันที่ ‘ฮ้านถึงเชียงใหม่’ ร้านอาหารเหนือในซอยวัดอุโมงค์ที่เพิ่งได้รับรางวัลมิชลินไกด์ 2563 หรือบิบ กูร์มองด์หน้าใหม่ 2020 ไปหมาดๆ 1 ดาว เรากับเพื่อนเลยไม่พลาดที่จะปักหมุดไปชิมความอร่อยกันที่นี่ ซึ่งต้องบอกเลยว่าจ๊าดลำมากกกก รสชาติแบบคนเมืองแท้ๆ มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทุกเมนูจะเสิร์ฟด้วยจานสังกะสีเล็กๆ รองด้วยใบตอง เรียกว่ามาร้านนี้นอกจากจะได้ชิมอาหารที่รสชาติถึงเครื่องแล้ว บรรยากาศภายในร้านยังให้ความรู้สึกว่าถึงเชียงใหม่อย่างแท้จริงด้วยล่ะ
ฮ้านถึงเชียงใหม่
ที่ตั้ง : 63/9 ซ.สุเทพ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 - 20.30 น.
โทรศัพท์ : 091 076 6100
GPS : https://g.page/Thungchiangmai?share
หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารเหนือแท้ๆ แล้ว เราก็ขอมูฟออนไปชิมชานมไข่มุกที่กำลังมาแรงในเชียงใหม่ขณะนี้กับ ‘nakama café なかま’ ตัวร้านตั้งอยู่ในซอยวัดอุโมงค์อยู่ไม่ไกลจากร้านฮ้านถึงเชียงใหม่เลยค่ะ แถมยังหาไม่ยากมีป้ายบอกตลอดทาง หน้าร้านมีป้ายขาวๆ เขียนชื่อร้านเด่นชัดพร้อมโลโก้หมีน้อยถือแก้วชานมไข่มุกที่เห็นปุ๊ป ก็รู้ปั๊ปว่าทางร้านขายอะไร จุดเด่นของร้านคือเขาเป็นชานมไข่มุกสูตรเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น มีไข่มุกให้เลือกหลายอย่างมาก
เมนูที่แนะนำคือ Brown Suger Bubble Milk เป็นนมสดที่ไม่ข้นไม่หนักมากจนเกินไป ด้านล่างมีไข่มุกที่คลุกเคล้ากับบราวชูก้าซึ่งจะมีความหวานในตัวเอง พอดูดเข้าปากปุ๊ปจะสัมผัสกับความหวานอ่อนๆ ของน้ำตาลที่ผสมมากับไข่มุกปั๊ป บอกเลยว่าดีงาม อร่อย เคี้ยวเพลินได้เรื่อยๆ
nakama café なかま
ที่ตั้ง : ถ.วัดอุโมงค์ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 - 19.00 น.
โทรศัพท์ : 085 594 9298
GPS : https://her.is/2DkPwYW
มัวแต่ดื่มด่ำกับชานมไข่มุกเจ้าดังของเชียงใหม่ดูนาฬิกาอีกทีก็เป็นเวลาเกือบบ่ายโมงแล้ว เลยรีบบึ่งรถไปยังอ.แม่ริม เพราะจองที่พักแถวๆ ม่อนแจ่มไว้ เนื่องจากอยากไปนอนชมดาวบนดอย สัมผัสอากาศเย็นๆ กับเขาดูสักครั้ง เรากับเพื่อนมาถึง ‘ภูแสงเทียน โฮมสเตย์’ ช่วงบ่ายอากาศกำลังดีเลยค่ะ ซึ่งที่นี่เป็นที่พักรูปแบบเต็นท์และบ้านสไตล์มินิมอลเล็กๆ บรรยากาศเงียบสงบและเย็นสบายตลอดทั้งปีเนื่องจากตั้งอยู่บนภูเขาสูงท่ามกลางต้นไม้ ป่าเขียว ทำให้เป็นที่พักที่มีความโรแมนติกและสดชื่นในตัวนั่นเองจ้า
ห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 11 หลังค่ะ แบ่งเป็นบ้านไม้ไผ่ 3 หลัง และเต็นท์ 8 หลัง ทุกหลังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นครบครัน มีห้องน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่นในตัว ที่สำคัญคือมีระเบียงส่วนตัวให้ออกไปรับลม ชมวิวขุนเขาแบบรอบด้านด้วย ซึ่งเรากับเพื่อนเลือกพักแบบเต็นท์ขนาดใหญ่ พักได้ 2 คน เราว่าเหมาะกับคู่รักหรือเพื่อนสนิทที่มาพักผ่อนแบบชิลๆ กันแค่สองคน ภายในมีฟูกนิ่มๆ พร้อมหมอนและผ้าห่ม โต๊ะวางของ ปลั๊กไฟ พัดลม กาต้มน้ำ อุปกรณ์อาบน้ำ รวมถึงมีห้องน้ำในตัว (ด้านล่าง) ซึ่งก็มาพร้อมกับเครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊ส ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องอาบน้ำเย็นๆ ท่ามกลางความหนาวเย็นของอากาศบนดอยเลยค่ะ
ถ่ายรูปเล่นไปๆ มาๆ ก็ได้เวลามื้อเย็นแล้ว เรากับเพื่อนไม่อยากขับรถออกไปไหน เลยสั่งชุดหมูจุ่มของที่พักมาทาน บอกเลยว่าชุดใหญ่อลังเวอร์มีทั้งหมู ไก่ เครื่องใน และผักออแกนิกที่เก็บมาแบบสดๆ จัดมาแบบจุกๆ ยิ่งอากาศเย็นๆ ได้กินของอร่อยพร้อมชมวิวเขาไปด้วยเป็นอะไรที่ดีต่อใจมากเลยล่ะ
หลังจากอิ่มแปล้จากชุดหมูจุ่มที่มาพร้อมน้ำจิ้มสุดแซ่บ เรากับเพื่อนก็ผลัดกันอาบน้ำและมานั่งชมดาวเคล้าบรรยากาศขุนเขายามค่ำคืน ก่อนจะเข้านอนเพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อในเช้าวันใหม่
เช้าวันใหม่เรารีบตื่นกันแต่เช้าตรู่เพราะวันนี้เราวางแพลนว่าจะขึ้นไปเที่ยวม่อนแจ่ม ก่อนจะมุ่งตรงไปถ่ายรูปต่อที่ I love flower farm ทุ่งดอกไม้สุดฮอตฮิตของเชียงใหม่ในเวลานี้ ซึ่งเรากับเพื่อนจองล่วงหน้ามาก่อนสักพัก แต่ก่อนจะเช็คเอ้าท์และมูฟออนก็ขอทานอาหารเช้าของที่พักก่อน ที่นี่เขาจะเสิร์ฟข้าวต้มและอเมริกันเบรคฟาสท์นะคะ มีขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ น้ำผลไม้ และผลไม้ตามฤดูกาลให้บริการ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ด้วยนะว่าจะให้ทางที่พักเสิร์ฟอาหารเช้าที่ระเบียงห้องพักหรือจะทานตรงโซนคาเฟ่ระหว่างช่วงเวลา 07.00 - 09.00 น.
ภูแสงเทียน โฮมสเตย์
ที่ตั้ง : 55/1 ม.11 แม่แรม อำเภอแม่ริม เชียงใหม่
โทรศัพท์ : 089 552 5114
ราคา : เริ่มต้น 1,500 บาท (รวมอาหารเช้า)
GPS : https://goo.gl/maps/VA2xNeNA274r72Q19
เช็คเอ้าท์ที่พักเรียบร้อย เราก็ขอขึ้น ‘ม่อนแจ่ม’ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเชียงใหม่ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก เป็นที่เที่ยวที่แจ่มสมคำร่ำลือจริงๆ ค่ะ เพราะอากาศเย็นสบายตลอดปี มีหมอกในยามเช้าที่สดชื่น ทัศนียภาพค่อนข้างงดงาม มีวิวทิวทัศน์เป็นแนวเทือกเขาสลับซับซ้อน มองเห็นบรรยากาศรอบตัวได้แบบ 360 องศาเลยล่ะ แถมยังมีทุ่งดอกไม้หลากสีสันสดใสให้เลือกถ่ายรูปเพียบเลยล่ะ
ม่อนแจ่ม
ที่ตั้ง : ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
GPS : https://goo.gl/maps/gjoQHwdNMja28VY97
ถ่ายรูปดอกไม้สวยๆ ในบรรยากาศเย็นๆ กันพอกรุบกริบ เราก็ชวนกันย้ายไปถ่ายรูปต่อที่ I love flower farm แต่ระหว่างทางไปทุ่งดอกไม้นั้นบังเอิญไปเจอร้านคาเฟ่เล็กๆ ท่ามกลางบรรยากาศลำธารและป่าเขา ตั้งอยู่ริมถนนใกล้กับสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ชื่อว่าร้าน ‘DOUGH’ พวกเราเลยขอแวะเช็คอินกันสักหน่อย ตัวร้านมีขนาดกะทัดรัดสีขาว ตกแต่งอย่างเรียบง่ายมีกลิ่นอายความเป็นมินิมอลเบาๆใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น ประดับประดาเพิ่มความสดชื่นให้ร้านด้วยดอกไม้สด
เมื่อก้าวเข้ามาภายในร้าน จะได้กลิ่นหอมๆ ของขนมอบ ที่ทางร้านอบสดใหม่ทุกวันผ่านฝีมือเจ้าของร้านเองทั้งหมด ซึ่งจะทำแบบวันต่อวัน เมนูจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เราลองสั่ง Lemon Cake มาทานคู่กับ Peach Tea ชาพีชหอมๆ และ Passionfruit Soda แก้วนี้ได้รสหวานอมเปรี้ยวจากผลไม้ ดื่มแล้วสดชื่นแน่นอน
DOUGH
ที่ตั้ง : 10/96 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
โทรศัพท์ : 088 252 4241
GPS : https://goo.gl/maps/XAT6FzA2ia7hawAv8
ทานขนมรองท้องกันนิดหน่อย เราก็เดินทางกันต่อไปยัง ‘I love flower farm’ สวนดอกไม้ขนาด 8 ไร่ ที่สะพรั่งไปด้วยหมู่มวลดอกไม้ทั้งดอกคัตเตอร์สีขาวละมุน ดอกมาร์กาเร็ตสีม่วงอ่อนและสีม่วงอมชมพู ที่ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของสวนก็สามารถแชะรูปภาพสวยๆ ได้ทุกมุม ก่อนจะมาที่นี่ได้ทุกคนต้องจองทางเพจ I love flower farm ก่อนนะคะ เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมสวนได้แค่วันละ 200 คน ซึ่งจะมีค่าเข้าสวนคนละ 70 บาท พร้อมเครื่องดื่มสมุนไพรและขนมไทย ส่วนใครที่อยากถ่ายรูปในมุมส่วนตัวพร้อมกับเซ็ตน้ำชาสวยๆ ก็สามารถจองเพิ่มได้ด้วยค่ะ ราคา 500 บาท ต่อ 2 คนเท่านั้นเอง
I love flower farm
ที่ตั้ง : 33 ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน 09.00 - 18.00
ค่าเข้า : 70 บาท/คน, เซ็ตน้ำชา 500 บาท/2 คน (ไม่ต้องเสียค่าเข้าเพิ่ม)
GPS : https://goo.gl/maps/UUQMxRz7vgWBMEew5
เรากับเพื่อนผลัดกันถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว ก็ได้เวลาไปหาของอร่อยๆ ทานกันแล้วค่ะ มื้อนี้พวกเราเลือกไปที่ ‘Ei-Shin Bar & Cafe’ ร้านอาหารญี่ปุ่นในสวนสวยใจกลางเมืองเชียงใหม่ จุดเด่นของร้านคือบรรยากาศดี ตกแต่งร้านสไตล์ญี่ปุ่น มีชุดกิโมโนให้ยืมเช่าถ่ายรูปด้วยนะ ซึ่งเขาแบ่งที่นั่งออกเป็นหลายโซนทั้งโซนเอ้าท์ดอร์มีที่นั่งติดพื้นสบายมองเห็นสวนสวยเขียวขจี และโซนด้านในห้องแอร์ ส่วนเมนูอาหารก็มีทั้งคาวและหวานหลากหลายมากๆ ทั้งอาหารญี่ปุ่นที่เสิร์ฟแต่วัตถุดิบสดใหม่ อาหารอิตาเลี่ยนเลิศรส อาหารไทยรสชาติจัดจ้าน มื้อนี้เราหิวกันมาก ลืมถ่ายรูปอาหารเลยค่ะ รู้ตัวอีกทีคือเกลี้ยงจานแล้ว >< แต่ก็ไม่พลาดที่จะถ่ายเมนูเครื่องดื่มและขนมมาฝากนะ บอกเลยว่าอร่อยจนอยากซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านเลยจริงๆ
Ei-Shin Bar & Cafe
ที่ตั้ง : 2 ถ.ศิรินธร อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 09.00 - 00.00 น.
โทรศัพท์ : 094 639 3888
GPS : https://g.page/eishinbarcafe?share
บ่ายแก่ๆ หลังจากทานข้าวและตบด้วยของหวานกันจนอิ่มท้อง เรานั่งชิลๆ กันสักพักก็ได้เวลาเช็คอินที่พักกันแล้วค่ะ ซึ่งวันนี้พวกเราตั้งใจจะมานอนที่ ‘โฮเทล ยาหยี’ บูติกโฮเทลขนาดกระทัดรัดบนถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย17 ของคุณอนันดา เอเวอริ่งแฮม จะบอกว่าเรากับเพื่อนชอบที่นี่มากเลยค่ะ บรรยากาศดี มีเสน่ห์ชวนตกหลุมรักสุดๆ ตั้งแต่เรื่องของดีไซน์การตกแต่ง รวมไปถึงของตกแต่งภายในที่พักเป็นของเก่าสะสมที่ถูกจัดวางได้อย่างลงตัว ตั้งแต่ทางเข้าจนถึงภายในห้องพักเลยค่ะ มีสเน่ห์สุดๆ อ่ะ!
ห้องพักของที่นี่เขาจะมีความเป็นเฟมินีน ใช้วัสดุโทนสีสว่างและเส้นโค้งในรายละเอียดงานสถาปัตยกรรม เช่น ขอบประตู บันไดวน แถมเพิ่มกลิ่นอายพื้นบ้านด้วยผ้าบุพรมปลอกหมอนลายทอท้องถิ่น ส่วนมุมนี้เป็นมุมที่เราชอบสุดๆ ค่ะ เพราะพอเปิดประตูเข้าไปเราจะเห็นแผนที่โบราณอันใหญ่ยักษ์ติดอยู่บนผนัง Lobbyโรงแรมที่จำลองแผนผังเมืองเชียงใหม่ได้อย่างสวยเก๋
ส่วนห้องพักทั้งหมด 14 ห้อง มี 3 แบบให้เลือกพักค่ะ ภายในตกแต่งเรียบๆ โทนสีสว่างมองดูแล้วสบายตา มีดีเทลเล็กๆอย่างผ้าคลุมเก้าอี้ พรมปูพื้น ช่วยเพิ่มสีสันให้กับห้องเรียบๆ ดูน่ารัก สดใส และอบอุ่น ขึ้นมาทันทีเลยค่ะ แถมบางห้องก็มีระเบียงให้ชมวิวเมืองเชียงใหม่อีกด้วย
Hotel YaYee
ที่ตั้ง : 17/5 ถ.สายน้ำผึ้ง อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
โทรศัพท์ : 099 269 5885
GPS : https://goo.gl/maps/xCF1eztmqh6sKEL2A
เช็คอินเก็บของเข้าห้องพักเรียบร้อย เรากับเพื่อนก็ขอออกไป Hopping กันต่อที่ ‘The Baristro at Ping River’ ร้านกาแฟสไตล์มินิมอลตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่ อีกหนึ่งคาเฟ่สวยเก๋มีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย โดยที่นี่ถูกตกแต่งในสไตล์มินิมอลแต่แฝงไปด้วยความสวยงามของสัจจะวัสดุ และความดิบแบบลอฟท์ ที่เน้นผนังปูนเสาเปลือยเท่ๆ โชว์แผงไฟและเท็กเจอร์ของผนังปูนฉาบที่เหมือนยังไม่เสร็จดีแต่กลับมีเสน่ห์ในตัวได้เป็นอย่างดี
ด้านในจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้เลือกผ่อนคลายหลากหลายมุม แถมยังมีโซนริมแม่น้ำที่จัดให้นั่งจิบกาแฟชิลๆ มีบ้านไม้เล็กๆ และสะพานไม้ยื่นออกไปรับความสดชื่นของแม่น้ำปิงท่ามกลางบรรยากาศดีๆ
The Baristro at Ping River
ที่ตั้ง : 62 ถ.ซอยป่าตัน ต.ป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 08.00 - 19.00 น.
โทรศัพท์ : 087 788 2788
GPS : https://goo.gl/maps/uHYyDPQSXkDDnMdB7
หลับสบายจนไม่อยากตื่น! แต่ก็ต้องตื่นมาทานอาหารเช้า เตรียมเช็คเอาท์มุ่งหน้าสู่ ‘เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์’ อีกหนึ่งที่เที่ยว ที่ได้บรรยากาศเหมือนไปเมืองนอก สมญานาม ‘อาลีซานเมืองไทย’ ขอยกให้กับเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ด้วยบรรยากาศอันเขียวขจีของป่าอันอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่และไอหมอกสีขาว มีสะพานไม้ให้เดินชมธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด จึงทำให้ได้บรรยากาศเหมือนได้ไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาอาลีซาน ที่ประเทศไต้หวัน หนึ่งในที่เที่ยวธรรมชาติสุดฮิตที่หลายคนอยากได้ไปสัมผัสซักครั้ง แนะนำช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศจะเย็นสดชื่น และมีไอหมอกออกมาให้ชมเพียบเลยล่ะ
เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์
ที่ตั้ง : ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 05.00 -18.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 053 286 729
GPS : https://goo.gl/maps/tETLkZnoMEmyV4Z96
ด้วยความที่เรากับเพื่อนเป็นคอกาแฟลึซึ่มกันทั้งคู่หลังจากลงจากดอย อิ่มอร่อยกับมื้อเที่ยงก็เป็นเวลานับบ่ายแล้ว พวกเราก็มูฟไปร้านคาเฟ่น้องใหม่ที่มาแรง ณ ตอนนี้ ‘Once in a Blue Moon Cafe & Hostel’ ที่นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบและตกแต่งร้านในสไตล์ลอฟต์ ที่รีโนเวทอาคารพาณิชย์ออกมาในมู้ดแอนด์โทนตามแบบฉบับคาเฟ่เกาหลีแล้ว ทางด้านขนมและเครื่องดื่มของที่นี่ก็มีให้เลือกลิ้มลองความอร่อยกันแบบจุใจไม่แพ้กัน
ภายในร้านถูกตกแต่งแบบสไตล์เรียบง่ายและเท่ไปพร้อมๆ กัน ด้านหน้ากรุกระจกใสบานใหญ่ เพื่อรับแสงธรรมชาติให้เข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศอันแสนอบอุ่นตลอดวัน โดยเฉพาะมุมพักผ่อนที่ยกพื้นสูงด้วยคอนกรีต มีเบาะนั่ง และโต๊ะขนาดกะทัดรัดตั้งตรงกลางให้นั่งพักผ่อนแบบชิลๆ เครื่องดื่มของที่นี่จะเน้นกาแฟที่มีรสชาติและกลิ่นผสมผสานกันมากถึง 3 ตัว มีทั้งกลิ่นที่หอมกำลังดี ความเข้มของกาแฟที่ไม่เข้มจนเกินไปและมีความสดชื่นเล็กน้อย นอกจากนี้ยังเสิร์ฟความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูแบบจุใจทั้งเครื่องดื่มอื่นๆ และขนมให้ได้เลือกอิ่มอร่อยไปพร้อมกับการใช้ช่วงเวลาดีๆ ระหว่างวัน ท่ามกลางบรรยากาศเป็นกันเอง
เครื่องดื่มของที่นี่จะเน้นกาแฟที่มีรสชาติและกลิ่นผสมผสานกันมากถึง 3 ตัว มีทั้งกลิ่นที่หอมกำลังดี ความเข้มของกาแฟที่ไม่เข้มจนเกินไปและมีความสดชื่นเล็กน้อย นอกจากนี้ยังเสิร์ฟความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูแบบจุใจทั้งเครื่องดื่มอื่นๆ และขนมให้ได้เลือกอิ่มอร่อยไปพร้อมกับการใช้ช่วงเวลาดีๆ ระหว่างวัน ท่ามกลางบรรยากาศเป็นกันเอง
Once in a Blue Moon Cafe & Hostel
ที่ตั้ง : 335 ถ.มูลเมือง ซ.9 ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 07.30 -17.30 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 096 695 5520
GPS : https://g.page/onceinabluemoon-cnx?share
อย่างที่บอกไปด้านบนว่าเรากับเพื่อนเป็นคอกาแฟตัวยง ฉะนั้นก่อนไปสนามบินเเลยขอไป Hopping ต่อที่ร้าน ‘Brewginning coffee’ อยู่ในย่านชุมชนเก่าแก่ บนถนนช้างม่อย เส้นเดียวกันกับทางที่จะไปตลาดวโรรส ที่นี่นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของเครื่องดื่มที่มีให้เลือกลิ้มลองแบบจุใจแล้ว การออกแบบและตกแต่งร้านที่รีโนเวทห้องแถว ตึกเก่ามาทำใหม่แต่ยังคงเดิมโครงสร้างเดิมไว้แทบทั้งหมด เพื่อให้ได้กลิ่นอายคลาสสิกย้อนยุคแบบฮิปๆ ด้านในวางเคาท์เตอร์บาร์ไว้ตรงกลาง ก่อนจะแบ่งที่นั่งด้านข้างอีกนิดหน่อย ด้านในมีห้องแอร์เป็นที่นั่งแบบขั้นบันได ที่เก๋สุดคือเขามีกิจกรรมโดยมีดีเจมาเปิดแผ่นเล่นเพลงด้วยจ้า หรือถ้าใครอยากมู้ดฮิปๆ แนะนำมุมด้านข้างที่นั่งเอาท์ดอร์รับแดดเบาๆ ด้านนอกเลยจ้า รับรองถ่ายรูปออกมาสวยเท่มีคนไกค์รัวๆ แน่นอน
Brewginning coffee
ที่ตั้ง : 260 ถ.ช้างม่อย ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 07.00 - 19.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/ySr45iDBKBh7ALs56
ใครที่ชอบข้าวของเครื่องใช้งานจักสานขอให้ตามเรามาทางนี้เลยค่ะ เพราะฝั่งตรงข้ามร้าน Brewginning coffee ตรงบริเวณหัวมุมถนนช้างม่อยเก่า มีร้านค้าของคนท้องถิ่นขายเครื่องจักสานมากมาย ทั้ง กระเป๋า รองเท้า ของแต่งบ้าน รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ขอบอกว่าราคาน่ารักน่าหยิกสุดๆ แถมยังมีลูกค้าชาวต่างชาติเพียบเลยล่ะ ใครอยากซื้อของจักสานไปตกแต่งบ้านหรือซื้อฝากเพื่อนๆ แนะนำเลยจ้า รับรองว่าคนรับแฮปปี้แน่นอน
ร้านขายของจักสาน
ที่ตั้ง : ถ.ช้างม่อยเก่า ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/4KeeDYxrKkRJ5aXp6
หลังจากช้อปปิ้งข้าวของเครื่องใช้จักสานกันพอกรุบกริบก็ได้เวลามูฟออนไปสนามบินเช็คอินกลับบ้านกันแล้วค่ะ แต่ก่อนจะลากันไปในทริปนี้เรากับเพื่อนรู้สึกตรงกันว่า..เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มาเที่ยวกี่ทีก็ประทับใจจริงๆ ค่ะ นอกจากอากาศดี ผู้คนน่ารัก สถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะแล้ว คาเฟ่และร้านอาหารยังมีให้เลือกแบบจุใจเพียบ! เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อนๆ เหนื่อยล้ากับการทำงานหนักมาตลอดทั้งปี ลองพาตัวเองมาดื่มด่ำบรรยากาศสบายๆ ที่เชียงใหม่ เพื่อเป็นรางวัลให้กับตัวเองดูบ้างก็คงจะดีไม่น้อย และเมื่อเที่ยวเชียงใหม่ทั้งทีก็อย่าลืมไปเช็คอินตามสถานที่ต่างๆ ที่เราแนะนำกันดูนะ : )
Tags: เชียงใหม่ นั่งรถไฟเที่ยว รถไฟใหม่ เที่ยวเชียงใหม่ ที่เที่ยวเชียงใหม่ ที่กินเชียงใหม่ ฮ้านถึงเชียงใหม่ nakama café なかま ภูแสงเทียน โฮมสเตย์ I love flower farm ม่อนแจ่ม DOUGH Ei-Shin Bar & Cafe โฮเทล ยาหยี The Baristro at Ping River เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์ Once in a Blue Moon Cafe & Hostel Brewginning coffee ร้านขายของจักสานถนนช้างม่อยเก่า
ทริปตัวอย่าง | 18 ธ.ค. 2024 | 106 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 12 ธ.ค. 2024 | 298 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ธ.ค. 2024 | 390 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 27 พ.ย. 2024 | 513 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 26 พ.ย. 2024 | 728 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 1,044 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 01 ธ.ค. 2024 | 480 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 911 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 28 ต.ค. 2024 | 1,243 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,404 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,765 อ่าน