calendar_month 11 พ.ย. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 14,963 / เที่ยวต่างประเทศ
ถ้าพูดถึงเที่ยวต่างประเทศ สิ่งแรกที่เกิดขึ้นในหัวคือ ใช้เงินเยอะ ใช้เวลานาน ต้องรอวันหยุดยาว หรือลาพักร้อนก่อนถึงจะได้ไป แต่สำหรับเมือง "ปีนัง" ประเทศมาเลเซีย ไม่ต้องรอวันหยุดยาว แค่มีเวลาวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ แล้วลาหัวหน้าเพิ่มอีกสักหนึ่งวัน ก็ไปเที่ยวได้แล้วค่ะ เพราะปีนังนั้นเดินทางง่ายสะดวกสบาย ค่าครองชีพไม่แพง และเมือง George Town หรือปีนังนั้นยังได้รับขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก เนื่องจากมีภูมิสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่ไม่ซ้ำใครทั้งในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสำหรับการเดินทางไปปีนังนั้น ทางสายการบิน "แอร์เอเชีย" ก็มีเที่ยวบินจากดอนเมืองเดินทางไปยังปีนัง 2 เที่ยวต่อวัน พร้อมกับโปรโมชั่นราคาพิเศษอีกมากมายที่จะทำให้เราเที่ยวปีนังแบบสบายกระเป๋า วันนี้ชิลไปไหนเลยจะพาไปทำความรู้จักเมืองน่ารักบ้านใกล้เรือนเคียงของเราให้มากยิ่งขึ้น กับ 10 สถานที่ในปีนังที่ต้องไปเช็คอินในวันหยุดสุดสัปดาห์
เริ่มต้นที่แรกเราจะพาไปทำความรู้จักประวัติศาสตร์ของเมืองปีนังผ่านคฤหาสน์สีน้ำเงิน The Blue mansion หรือ Cheong Fatt Tze Mansion หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมที่สุดแห่งหนึ่งในปีนัง เพราะความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบเปรานากันทั้งภายใน ภายนอก ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมากมายมาถ่ายภาพสวยๆ ที่คฤหาสน์แห่งนี้กันมากมาย และที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Crazy Rich Asian ด้วยค่ะ ประวัติความเป็นมาของคฤหาส์สีน้ำเงินแห่งนี้สร้างในปี 1880 เจ้าของคฤหาสน์คนแรกก็คือ Cheong Fatt Tze (เฉิง ฟัต เจ๋อ) คหบดีชาวฮกเกี้ยนที่อพยพมาจากกวางตุ้งเพื่อมาติ้งถิ่นฐานที่ปีนัง ก่อร่างสร้างตัวค้าขายจนกลายเป็นมหาเศรษฐีครอบครองที่ดินหลายประเทศในเอเชีย โดยการสร้างคฤหาสน์หลังนี้ได้ช่างฝีมือดีจากจีนแผ่นดินใหญ่มาสร้างให้โดยยึดหลักฮวงจุ้ยเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนสาเหตุที่ใช้สีน้ำเงินแทนสีแดง ซึ่งเป็นสีมงคลของคนจีนนั้นเนื่องจากในยุคนั้นสีน้ำเงินได้รับความนิยม และได้นำครามจากอินเดียมาผสมกับปูนขาวกลายเป็นสีน้ำเงินสดใส กาลเวลาผ่านไปคฤหาสน์หลังนี้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลาจนเมื่อปี 1990 ได้มีการบูรณะจากกลุ่มอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมจนได้รับรางวัล ‘Most Excellent’ Heritage Conservation Award (Asia-Pacific) จากยูเนสโก ในปี ค.ศ. 2000 ปี และในปี 2011 ได้รับเลือกจาก Lonely Planet ให้ติดอันดับ “ONE OF 10 GREATEST MANSIONS IN THE WORLD’ ในปัจจุบันคฤหาสน์หลังนี้เปิดเป็นโรงแรม ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ ใครที่อยากสัมผัสคฤหาสน์หลังนี้อย่างใกล้ชิดก็ลองไปพักกันเลยค่ะ หรือมาทานอาหารอร่อยในบรรยากาศสุดคลาสสิค พร้อมกับชมเรื่องราวของบ้านหลังนี้โดยจะมีไกด์พาเยี่ยมชมและให้ข้อมูลประวัติความเป็นมาเป็นภาษาอังกฤษทุกวันค่ะ
มาปีนังทั้งทีถ้าไม่ได้มาถ่ายกับสตรีทอาร์ตแปลว่ามาไม่ถึงปีนังกันนะคะ ซึ่งสตรีทอาร์ตของปีนังทำให้เมืองแห่งนี้โด่งดังและทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากเดินทางมาสัมผัสกันสักครั้ง เพราะเป็นศิลปะแนว Interactive Art คือการนำสิ่งแวดล้อมรอบๆ มาเป็นส่วนหนึ่งของผลงาน และผู้คนที่มาชมยังสามารถเข้าไปทำท่าทางต่างๆ ให้เข้ากับสถานการณ์ในภาพนั้นๆ ได้ด้วย โดยศิลปะแนวสตรีทอาร์ตของปีนังที่โด่งดังนั้นสร้างสรรค์โดยศิลปินมากมาย อาทิ Ernest Zacharevic ศิลปินชาวลิทัวเนียที่มาเยือนปีนังในปี 2012 และสร้างผลงานศิลปะไว้บนฝาผนัง 12 รูป เช่น รูปเด็กปั่นจักรยาน ขี่มอเตอร์ไซด์ เด็กเอื้อมมือหยิบของ เด็กเล่นชิงช้า ซึ่งนอกจากภาพวาดบนกำแพงแล้วยังมีการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากเหล็กดัดที่ใช้ชื่อโปรเจ็คต์ว่า "Welded Iron Wall Caricatures" มีทั้งหมด 52 ชิ้นโดยมี Jimmy Choo ดีไซเนอร์รองเท้าระดับโลกที่กำเนิดที่ปีนังเป็นหนึ่งในศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานในโปรเจ็คต์นี้อีกด้วย และล่าสุดกับโปรเจ็คต์ "101 Lost Kitten" ภาพวาดน้องแมวที่มีทั้งตัวเล็กและใหญ่ภายในเมืองจอร์จทาวน์ ก็ได้ศิลปินชาวไทย คุณณัฐธร เมืองเกรียง ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานในโปรเจ็คต์สุดน่ารักนี้ โดยจุดชมสตีทอาร์ตนั้นจะกระจายไปทั่วทุกมุมเมืองของจอร์จทาวน์ ซึ่งคุณสามารถหยิบแผนที่ลายแทงของสตรีทอาร์ตได้ที่โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ได้ฟรีทั่วเมืองเลยค่ะ
ถ้ายังติดใจความงดงามของคฤหาสน์สีน้ำเงิน Cheong Fatt Tze Mansion เราก็อยากแนะนำให้คุณมาชมความงดงามของ Pinang Peranakan Museum กันอีกครั้งค่ะ ซึ่งที่นี่สร้างขึ้นในปี 1890 สร้างหลัง Cheong Fatt Tze Mansion แค่ 10 ปีเท่านั้น เจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้คือ Chung Keng Kwee คหบดีชาวจีนที่มาตั้งรกรากที่ปีนัง และเป็นผู้นำองค์กรลับไห่ซานในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 บ้านหลังนี้ตกแต่งเป็นสไตล์เปอรานากันค่ะ โดยคำว่าเปอรานากันนั้นเป็นคำเรียกชาวจีนที่มาอาศัยในมลายู และผสมผสานวัฒนธรรมจีนกับมลายูกลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ตัวบ้านหลังนี้จึงมีความเป็นจีนและความเป็นมลายูผสมกัน ภายในบ้านตกแต่งได้สวยงาม วิจิตบรรจงมากๆ ค่ะ แยกส่วนของเจ้านาย บริวาร ครัว และศาลเจ้าออกจากกัน มีห้องหับมากมายที่ตกแต่งทั้งสไตล์จีนและฝรั่งให้เข้ามาชม ใครที่อยากถ่ายรูปชิคๆ แบบ Vintage พร้อมไปกับการทำความรู้จักเมืองปีนังแห่งนี้ให้มากขึ้นก็ห้ามพลาดไม้ได้เลยด้วยประการทั้งปวง
เที่ยวกันมาหลายที่แล้วแวะพักเบรกทานติ่มซำอร่อยๆ กันดีกว่าค่ะ ซึ่งอาหารที่ปีนังมีให้เลือกมากมายทั้งอาหารสไตล์ มลายู และสไตล์จีน สำหรับอาหารจีนของที่นี่ก็ต้องนี่เลย ติ่มซำ เมนูฮอตฮิตของคนปีนัง โดยถ้ามาปีนังก็ต้องมาทานติ่มซำของร้าน Tai tong restaurant ร้านดังในตำนานซึ่งตั้งอยู่บนถนน Lebuh Cintra ย่านจอร์จทาวน์ ความน่ารักของร้านนี้คือพอเข้าไปนั่งในร้านปุ๊บก็จะมีบริกรของร้านที่เป็นเหล่าคุณลุงคุณป้าสูงวัย ที่มาเข็นรถเข็นซึ่งเต็มไปด้วย ติ่มซัม ของนึ่ง ของทอด โจ๊กซุป มากมายให้เราได้เลือกหยิบจากรถเข็นได้เลยค่ะ โดยร้านนี้จะเปิด 2 เวลา คือช่วงเช้าตั้งแต่ 6 โมงเช้า - บ่ายสอง และช่วงเย็นตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 5 ทุ่ม บอกเลยว่าร้านนี้เขาฮอตมากๆ คนเยอะตลอดเลยค่ะ ไปทานทีไรก็ติดใจจนอยากซื้อกลับเมืองไทยเลยล่ะค่ะ
เช้าๆ ใครอยากทานชา กาแฟ ขนมปัง ไข่ลวกแนะนำร้านนี้เลยค่ะ ร้าน Toh Soon ตั้งอยู่บน Lebuh Campbell ย่านจอร์จทาวน์โดยไฮไลท์ของร้านนี้คือขนมปังปิ้งจากเตาถ่านทาด้วยคายา หอม อร่อยมากๆ ซึ่งคายานั้นหรือสังขยามาเลย์ค่ะทำจากกะทิ ไข่ น้ำตาล ใบเตย ซึ่งหน้าตาจะไม่เหมือนสังขยาบ้านเราโดยจะเป็นสีน้ำตาล ไม่ได้เนื้อเนียนเหมือนบ้านเราแต่จะมี Texture เนื้อสัมผัสที่หอม หวาน มัน เวลาทานเขาก็จะนำขนมปังปิ้งที่ทาด้วยคายาจิ้มไข่ลวก ตัวขนมปังที่มีรสหวานมันจากคายา เวลาทานคู่กับไข่ลวกมันช่างเข้ากั๊น เข้ากันสุดๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มร้อนเย็นให้สั่งมาทานคู่กับขนมปังด้วยค่ะ
อย่าเพิ่งอิ่มเพราะเราจะพาไปนั่งชิลจิบกาแฟทานขนมอร่อยกันต่อที่ร้าน China house ซึ่งเป็นร้านที่ยาวที่สุดในปีนังเลยล่ะค่ะ ทำเลที่ตั้งของร้านตั้งอยู่ที่ย่านจอร์จทาวน์ ภายในแบ่งแยกย่อยเป็นร้านคาเฟ่ ร้านอาหารอาหาร บาร์ โรงเรียนสอนศิลปะ ห้องสมุด อาร์ตเสปซ ร้านเฟอร์นิเจอร์ และร้านจิวเวลรี่รวมทั้งหมด 14 ร้าน แต่ไฮไลท์ของที่นี่คือคาเฟ่ที่มีเบเกอรี่ให้เลือกกว่า 30 เมนู โดยเมนูฮอตฮิตนั่นก็คือเค้ก Tiramisu เนื้อนุ่มละมุน แถมยังมีทาร์ตและขนมอบให้เลือกอีกหลากหลาย พร้อมกันนั้นบนโต๊ะเขาจะมีกระดาษแผ่นใหญ่ๆ ปูไว้ สามารถนั่งวาดรูประบายสีได้ด้วยค่ะ เรียกได้ว่ามาร้านนี้ร้านเดียวแต่มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย แถมขนมยังอร่อยอีกด้วย อยู่ได้ทั้งวันเลยล่ะค่ะ
ตกค่ำใครอยากหาร้านนั่งชิลบรรยากาศเก๋ๆ แนะนำร้านนี้เลยค่ะ Magazine 63 ( hidden bar ) บาร์ลับๆ ที่ซ่อนตัวอยู่บนถนน Jalan Magazine แค่เห็นทางเข้าที่เป็นประตูเหล็กแง้มมาเล็กๆ ก็ไม่คิดว่าภายในจะมีบาร์เก๋ๆ สไตล์จีนซ่อนตัวอยู่ จุดสังเกตคือด้านซ้ายของประตูจะมีเลข 63 ติดอยู่ก็เปิดประตูไปได้เลย บรรยากาศด้านในตกแต่งสไตล์โรงเตี๊ยมจีนสวยงามมากๆ ค่ะ มีดนตรีสดเล่นเพลงเพราะๆ ให้ฟังด้วยนะ ร้านนี้เขาจะเปิดประมาณ 2 ทุ่ม ใครที่กำลังไปเที่ยวปีนังก็จดลิสต์ร้านนี้เอาไว้ได้เลย
เอาใจสายบุญกันบ้างค่ะกับ วัดเก๊กลกสี่ หรือวัดเขาเต่า ซึ่งเป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างขึ้นในปี 1893 สถาปัตยกรรมภายในวัดผสมผสานสถาปัตยกรรมจีน ไทย และพม่าเข้าด้วยกัน ไฮไลท์ของวัดนี้คือ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ที่สูงถึง 30.2 เมตร และ เจดีย์สมเด็จพระรามหก (เจดีย์พระพุทธเจ้า 10,000 พระองค์) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดและพระพุทธรูปศิลาขาวทั้งหมด 10,000 องค์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสามัคคีระหว่างนิกายมหายานและหินยาน มีบันไดที่สามารถขึ้นไปยังยอดเจดีย์และชมวิวสวยงามของเมืองปีนังได้ และในช่วงตรุษจีนวัดแห่งนี้จะประดับประดาโคมไฟหลายพันดวงงดงามมากๆ ค่ะ
พาไปชมวิวมุมสูงของเมืองปีนังกันค่ะกับ Penang Hill จุดชมวิวสุดฮอตของปีนังที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง การเดินทางไปที่นี่สามารถนั่งรถเมล์สาย 204 บริเวณหน้าตึก Komtar ไปลงสุดสายที่สถานีปีนังฮิลล์ จากนั้นนั่งรถรางกินลมชมวิวขึ้นเขาซึ่งรถรางของที่นี่เป็นรถรางแห่งแรกในเอเชียเลยนะคะ สร้างโดยบริษัทรถรางสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ แต่ก่อนเขานั่งรถรางกันประมาณ 30 นาที พอถึงกลางทางต้องเปลี่ยนรถราง แต่ปัจจุบันนี้ใช้เวลารวดเร็วแค่ 3 นาทีก็ถึงจุดชมวิวแล้วล่ะค่ะ โดยปีนังฮิลล์นั้นอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 830 เมตร ด้านบนอากาศดีมาก ๆ สามารถชมวิวสวยๆ ของปีนังได้อย่างสวยงาม และบน Penang Hill ก็ยังมีที่เที่ยวที่ห้ามพลาดนั่นก็คือ Penang Hill Habitat อุทยานแห่งชาติที่อยู่บน Penang Hill โดยภายในจะมีทางเดินชมธรรมชาติเหนือยอดไม้หรือ "Tree Top Walk" ให้เราสามารถไปเดินสำรวจต้นไม้และดูค่างแว่น, นกแซงแซวหางบ่วงและพญากระรอกดำพร้อมชมวิวเมืองปีนังได้แบบ 360 องศา
ปิดท้ายเราจะพาคุณไปชมวิถีชีวิตชาวประมงที่ Chew Jetty หมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ในย่านจอร์จทาวน์ใกล้กับ Penang Ferry Terminal ภายในหมู่บ้านจะประกอบไปด้วยบ้านไม้มากมายเรียงรายอยู่ริมทะเลได้อารมณ์เหมือนชุมชนเก่าริมน้ำของไทย มีทางเดินไม้ที่เราสามารถเดินสำรวจหมู่บ้าน เลือกซื้อของฝาก ที่ระลึก ซึ่งบ้านแต่ละหลังเปิดเป็นร้านของฝาก ร้านอาหารให้บริการนักท่องเที่ยว พ่อค้า แม่ค้าบางร้านสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ด้วยนะคะ การมาเที่ยวชมที่นี่แนะนำว่ามาตอนเย็นเพราะอากาศไม่ร้อน พร้อมกันนั้นลองมานั่งชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ขอบอกว่าสวยงามและประทับใจมากๆ
ปีนัง เมืองน่ารักที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่น่าสนใจ อาหารอร่อย มีที่เที่ยวให้เยี่ยมชมมากมาย และที่สำคัญเดินทางไปง่ายมีเวลาแค่วันหยุดศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศเมืองไทยมาเดินเล่นชิลๆ ที่ปีนังกันได้แล้ว วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ถ้าคุณอยากมาสัมผัสปีนังด้วยตัวเองก็จองตั๋วเครื่องบินของแอร์เอเชียมาเที่ยวปีนังกันได้เลย
จองตั๋วเครื่องบินแอร์เชียมาปีนังคลิกที่นี่>>https://www.airasia.com/en/home.page
Tags: มาเลเซีย ปีนัง ที่เที่ยวปีนัง ที่เที่ยวต่างประเทศ แอร์เอเชีย เที่ยวปีนัง ที่เที่ยวมาเลเซีย การเดินทางปีนัง รีวิวปีนัง penang airasia เครื่องบิน
เที่ยวต่างประเทศ | 21 พ.ย. 2024 | 38 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 12 พ.ย. 2024 | 266 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 883 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 1,192 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 24 ก.ย. 2024 | 916 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ย. 2024 | 1,752 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 30 ก.ค. 2024 | 2,668 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 19 ก.ค. 2024 | 5,361 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 2,640 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 1,011 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 18 เม.ย. 2024 | 3,791 อ่าน