calendar_month 24 ก.ย. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 21,812 / สถานที่ยอดนิยม , ที่กิน
ช่วงนี้กระแสอาหารไทยกำลังมาแรง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในหมู่ชาวต่างชาติที่หลงใหลในวัฒนธรรมอาหารการกินที่มีเสน่ห์แบบไทยๆ เท่านั้น แต่คนไทยเราเองก็หันกลับมาให้ความสำคัญกับวิถีการกินอยู่ที่สะท้อนผ่านสำรับอาหารไทยมากยิ่งขึ้น เพราะอาหารแต่ละจานนั้นล้วนผ่านกระบวนการปรุงอย่างพิถีพิถันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร วันนี้ชิลไปไหนเลยจะพาทุกคนไปชี้เป้าเมนูเด็ดห้ามพลาด กับ 5 ร้านอาหารไทยชื่อดังระดับมิชลินสตาร์ รับรองว่าแต่ละจานนั้นเด็ด!! สมกับที่ได้รับการการันตีจากไกด์บุ๊คแนะนำร้านอาหารระดับโลกแน่นอน
ประเดิมด้วยร้านอาหารไทยสุดคลาสสิคบนถนนราชดำเนิน อย่างร้าน “เมธาวลัย ศรแดง” ร้านอาหารไทยเก่าแก่ที่เปิดมานานร่วมกว่า 60 ปี จุดเริ่มต้นจากร้านอาหารไทยชื่อ “ศรแดง” ได้เปลี่ยนมือและรีโนเวทแบรนด์ใหม่เป็น “เมธาวลัย ศรแดง” เมื่อ 30 ปีที่แล้ว จนปัจจุบันนี้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 จุดเด่นของร้านนี้ไม่ใช่เพียงแค่รสชาติอาหารที่ยังคงรักษาคุณภาพความอร่อยระดับตำนาน แต่บรรยากาศภายในร้านยังสุดแสนคลาสสิค ด้วยการตกแต่งในสไตล์โคโลเนียล ให้แขกที่มารับประทานอาหารทั้งลูกค้าประจำชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของถนนราชดำเนินและอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยผ่านหน้าต่างกระจกใส พร้อมเพลิดเพลินไปกับดนตรีสดและเปียโนเพราะๆ โดยมีนักร้องมาขับกล่อมบทเพลงไทยและเพลงสากลในยุคคุณพ่อคุณแม่ยังหนุ่มสาวให้ฟังเป็นประจำทุกวัน ซึ่งกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เมธาวลัย ศรแดง แตกต่างจากร้านอาหารไทยอื่นๆ ทั่วไป
สำหรับเมนูอาหารที่ร้านนี้จะเน้นอาหารไทยเป็นหลัก มีให้เลือกหลายสิบเมนู เมนูยอดนิยม อาทิ ยำตะไคร้ สูตรพิเศษของทางร้านที่เสิร์ฟมาคู่กับใบคะน้าสดๆ ใช้ห่อทานแบบเมี่ยงได้แบบพอดีคำ หรือจานเด็ดที่เป็นได้ทั้งของทานเล่นและเรียกน้ำย่อยอย่าง “กระทงทอง” แป้งจีบทอดห่อไส้ด้วยกุ้งสับ, แครอท, ข้าวโพด, มันฝรั่ง และ “หมี่กรอบชาววัง” หมี่ขาวนำไปทอดจนกรอบราดด้วยน้ำซอสรสเปรี้ยวอมหวาน แต่ละจานล้วนเป็นอาหารไทย signature ของทางร้าน ที่หาทานได้ยากยิ่งในปัจจุบันนี้
โดยเฉพาะเมนูไฮไลท์เด็ดที่พลาดไม่ได้ “แกงคั่วชะอมเนื้อปู” ที่สูตรของร้านนี้แตกต่างจากแกงคั่วทั่วไปที่นิยมใช้ใบชะคราม แต่ทางร้านใช้ใบชะอมนำมาทำเป็นแกงคั่วแทน รสชาติของเครื่องแกงที่เข้มข้นผสมผสานเข้ากันกับเนื้อปูสดหวานชิ้นใหญ่และใบชะอมที่คลุกเคล้ามาในน้ำแกงได้อย่างลงตัวและเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สมแล้วที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ในฐานะร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิมในมิชลิน ไกด์ Thailand ปี 2018 มาครอง
ที่ตั้ง: 78/2 ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิด: ทุกวัน 10.30-22.00 น.
โทร. 02-2243088
ตามมาด้วยร้านอาหารไทยสุดหรู ที่มาในคอนเซ็ปต์ร้านอาหารไทยแบบ Fine Dining ที่นำเสนอเสน่ห์ของอาหารไทยโบราณต้นตำรับ ท่ามกลางบรรยากาศหรูหราร่วมสมัย มาพร้อมกับเมนูอาหารไทยที่คัดสรรมาแล้ว โดยแต่ละจานจะเน้นคุณภาพและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งถูกปรุงอย่างประณีตและพิถีพิถันจากวัตถุดิบที่ดีที่สุด จนออกมาเป็นเมนูอาหารจานเด็ดที่ทั้งรสชาติดีและการนำเสนอที่สวยงามเพื่อให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุดนั่นเอง ด้วยจุดเด่นทั้งหมดนี้ ทำให้ร้านเสน่ห์จันทร์ได้รับรางวัล 1 ดาวจากมิชลินสตาร์ไปครอง
ภายในร้านแบ่งออกเป็นโซนห้องอาหาร บาร์ และห้องดินเนอร์ส่วนตัวแบบ Private Dining บรรยากาศโปร่งโล่งสบาย ไม่อึดอัด มีมุมให้เลือกนั่งรับประทานอาหารหลากหลายมุม ทั้งโต๊ะกลมสำหรับใครที่มาเป็นกลุ่ม และมุมโต๊ะโซฟาตัวยาวติดผนัง ที่ประดับกรอบรูปสถานที่สำคัญๆ ที่งดงามในเมืองไทย
มาถึงเมนูอาหารแนะนำของที่ร้าน พลาดไม่ได้กับเมนูชุดขนมจีนน้ำยาปู ที่เสิร์ฟมาในถาดเครื่องทองเบญจรงค์งดงาม ประกอบไปด้วยสำรับขนมจีน, น้ำยากระทิเข้มข้น พร้อมผักเคียงอย่างถั่วพลูและปลีกล้วย แต่ที่ช่วยให้สำรับดูโดดเด่นน่ากินยิ่งขึ้นคือการครีเอทนำดอกไม้ไทยอย่างดอกลีลาวดี, ดอกอัญชัน ฯลฯ นำมาชุบแป้งทอดจนกรอบเหลืองน่ากิน ทานคู่กับขนมจีนน้ำยาเข้ากันได้อย่างลงตัว
เมนูซิกเนเจอร์ขึ้นชื่อประจำร้าน “แกงรัญจวนเอ็นแก้ว” ที่ทางเชฟได้นำเทคนิคการทำอาหารขั้นสูงแบบโบราณ อย่างแกงรัญจวนที่เป็นสูตรอาหารชาววังโบราณตั้งแต่สมัยยุครัชกาลที่ 5 มาผสานเข้ากับภูมิปัญญาอาหารไทยพื้นบ้าน ซึ่งจากเดิมแกงรัญจวนนั้นมาจากการนำเมนูน้ำพริกกะปิที่ทานเหลือมาปรุงเป็นอาหาร ทางเชฟก็ได้เลือกใช้กะปิจากภาคกลางหรือภาคตะวันออก ที่จะให้รสชาติน้ำแกงแตกต่างไปจากกะปิจากภาคใต้มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการปรุง นำมาตุ๋นกับกระดูกหมูอ่อนที่เคี่ยวจนนุ่ม จนได้ออกมาเป็นแกงรัญจวนที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนรัญจวนใจสมชื่อ รสชาติยังคงความเผ็ดร้อนของเครื่องแกงและได้กลิ่นหอมของสมุนไพรทั้งตะไคร้ หัวหอมแดง กระเทียม และใบโหระพา ยิ่งได้ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าฟินแน่นอน!
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มค็อกเทลแบบไทยๆ อย่าง “จันทร์หอม” ที่เสิร์ฟมาในแก้วที่ทำจากใบตาลเก๋ไก๋ มีส่วนผสมของเหล้ารัมไทยๆ อย่างแม่โขง และผลไม้ลอยแก้วโบราณอย่างส้มฉุนนำมาปั่นละเอียดผสมกับน้ำมะม่วง, ลิ้นจี่, น้ำมะนาว, ไซรัป, ไข่ขาว และโซดา โรยหน้าด้วยขิงและหอมเจียวรสชาติกลมกล่อม เรียกว่าเป็นเครื่องดื่ม Signature ที่ใครมาเยือนเสน่ห์จันทร์ต้องไม่พลาดลองชิมดูสักครั้ง
ที่ตั้ง: อาคาร Glasshouse at Sindhorn ห้อง 130-132 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เปิด: ทุกวัน 11.30 – 14.00, 18.00 – 22.00 น.
โทร.02-6509880
ร้านอาหารไทยที่โด่งดังและมาแรงที่สุดอีกแห่งใน พ.ศ. นี้ “Chim by Siam Wisdom” ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของ "เชฟหนุ่ม" ธนินธร จันทรวรรณ เชฟกระทะเหล็กประจำประเทศไทย และได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ถึง 2 สมัยซ้อน!! ตัวร้านเป็นอาคารเรือนไทยสองชั้นซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 ภายในตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย เรียบหรู สง่างาม โดดเด่นด้วยฝาไม้ลายปะกน ส่วนเมนูอาหารที่ร้านจะเป็นสไตล์ไทยฟิวชั่น โดยเมนูจะไม่ซ้ำกันเพราะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
สำหรับเมนูจานเด็ดของทางร้าน ล้วนแล้วแต่ทำจากวัตถุดิบหลักอย่าง “ไก่เบญจา” ไก่พรีเมียมโดยเฉพาะ น่าทึ่งที่เชฟหนุ่มสามารถพลิกแพลงนำไก่มาทำเป็นเมนูอาหารไทยได้หลากหลายและน่ากินมากมายขนาดนี้ ประเดิมด้วยจานแรกอย่าง “อกไก่เบญจาย่างขมิ้นกับมะนาวดอง” ใช้เนื้อส่วนอกไก่นำมาย่างกับซอสขมิ้นและมะนาวดอง มีความเปรี้ยว หวาน และหอม เป็นสูตรลับเฉพาะที่เชฟรังสรรค์ขึ้นมาสำหรับเมนูนี้เท่านั้น ต่อด้วยเมนูเมนคอร์สอย่าง “คั่วกลิ้งไก่เบญจา” ที่ใช้เครื่องปรุงต่างๆ มาผัดจนเข้าเนื้อไก่จนได้รสชาติที่จัดจ้าน แต่ยังมีน้ำขลุกขลิกกว่าคั่วกลิ้งทั่วไป ทานกับผักแนมเครื่องเคียงต่างๆ จัดเป็นเมนูที่เหมาะกับคนรักสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง
อีกหนึ่งเมนูพลาดไม่ได้คือ “ต้มตุ๊ยดัวไก่เบญจา” เมนูยอดนิยมของร้านที่เลือกใช้เนื้อสะโพกไก่ที่มีความนุ่มชุ่มช่ำและไขมันเล็กน้อย โดยดัดแปลงมาจากต้มข่าไก่สูตรโบราณ แต่ได้เพิ่มส่วนผสมพิเศษที่มีในอาหารพื้นเมืองของภาคใต้ เช่น ใส่สะตอและหน่อกระวานเพิ่มลงไป พร้อมความเปรี้ยวจากซอสที่เชฟคิดขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งทางร้านเสิร์ฟน้ำซุปร้อนๆ ด้วยไซฟอน เป็นการเพิ่มความชุ่มฉ่ำของน้ำซุปในเนื้อไก่ได้เป็นอย่างดี
ปิดท้ายด้วยเมนูเด็ด “ปีกไก่เบญจาย่างซอสซีอิ๊วหวาน” ที่ทางร้านเลือกใช้เนื้อส่วนอกไก่ตรงกลางเพราะจะได้ความกรอบของหนัง ความนุ่มจากเนื้อและไขมันเล็กน้อย นำมาย่างคู่กับซอสหวานสูตรพิเศษของทางร้าน ซึ่งจะมีรสหวานเค็มและหอมจากส่วนผสมต่างๆ เช่น ซีอิ๊วดำหวาน น้ำผึ้ง มิลิน สาเก วิธีกินจะบีบมะนาวลงไปให้ทั่วไก่ เพื่อเพิ่มรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมมากขึ้น จะกินเรียกน้ำย่อยเปล่าๆ หรือกินกับข้าวหุงในน้ำลอยดอกมะลิก็อร่อยเข้ากันลงตัวทั้งสองแบบ
ที่ตั้ง: เลขที่ 66 ซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เปิด: 11.30-14.30 น. และ 17.00-23.00 น.
โทร. 02-2607811
และถ้าหากใครไม่อยากไปต่อคิวยาวที่ร้าน แต่ได้สัมผัสความอร่อยเหมือนมีเชฟมาทำให้กินถึงบ้าน เรามีอีกทางเลือกที่ทั้งอร่อยแถมราคาย่อมเยามาฝาก กับเมนู “สเต๊กอกไก่โมชิโอะ” คิดค้นสูตรโดยสุดยอดเชฟอย่าง “เชฟหนุ่ม” จากร้าน Chim By Siam Wisdom ร้านอาหารไทยชื่อดังระดับมิชลินสตาร์ แค่เดินเข้า 7-11 ชิลๆ ก็ได้ฟินกับความอร่อยระดับพรีเมี่ยมแบบนี้ในราคาแค่ 49 บาทเท่านั้น!!
แค่ฉีกซองแล้วนำไปอุ่นในไมโครเวฟง่ายๆ แค่ไม่กี่นาที ก็ออกมาเป็นเมนูสเต๊กไก่โมชิโอะหน้าตาน่ากิน ดูดีไม่แพ้อาหารจากร้านมิชลินสตาร์เลยใช่ไหมล่ะ? นอกจากจะได้เชฟระดับมิชลินสตาร์มาเป็นผู้คิดสูตรให้แล้ว ที่สำคัญ ยังทำจากวัตถุดิบอกไก่ระดับพรีเมียม Benja Chicken ไก่ที่เลี้ยงด้วยข้าวกล้อง คลุกเคล้าความอร่อยด้วยเกลือโมชิโอะจากประเทศญี่ปุ่นและเครื่องเทศถึง 7 ชนิด!! คือพิถีพิถันกันตั้งแต่เครื่องปรุงจนถึงวัตถุดิบ จ่ายแค่หลักสิบ แต่คุณภาพเกินร้อยแบบนี้ คุ้มมากเว่อร์!!
สเต๊กอกไก่ฉ่ำๆ ออกจากเตาอบร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายสุดๆ นำมาจัดจานเพิ่มความสวยงามน่ากินด้วยผักสลัดใบเขียว มะเขือเทศ ฯลฯ แค่นี้ก็ดูดีพร้อมเสิร์ฟขึ้นโต๊ะดินเนอร์ที่บ้านได้สบายๆ เลยค่ะ
เนื้ออกไก่นุ่ม ฉ่ำเด้งมากๆ ไม่แห้ง ไม่เหนียว มีความจุยซี่ของน้ำซอสเครื่องปรุงผสมอยู่ในเนื้อไก่กำลังพอดี ชิ้นนี้ทานได้หนึ่งคนอิ่มสบายๆ เลยค่ะ เหมาะกับใครที่ชอบทานสเต๊กหรือกำลังมองหาเมนูคลีนๆ สำหรับลดน้ำหนักแบบสุขภาพดี ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ แถมราคาไม่แพงแบบนี้ กดเลิฟให้เลย!
แม้จะเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน...แต่หลายคนที่ได้ลองชิมสเต๊กอกไก่โมชิโอะต่างพากันยกนิ้วให้ในความอร่อยสุดยอด! จนกลายเป็นกระแสปากต่อปาก ใครไม่อยากตกเทรนด์รีบแวะไปที่ 7-11 ทุกสาขาใกล้บ้านกันด่วนๆ การันตีอร่อยเหมือนมีเชฟระดับมิชลินสตาร์มาทำให้กินถึงบ้านแน่นอนจ้า!
ยกให้เป็นร้านสตรีทฟู้ดยืนหนึ่งเพียงร้านเดียวในทั้งหมด 5 ร้านที่เราคัดสรรมา เพราะนอกจากร้านเจ๊ไฝจะมีชื่อเสียงจากเป็นร้านอาหารริมทางแห่งแรกของโลกที่ได้ 1 ดาวจากมิชลินไกด์ถึง 2 ปีซ้อนแล้ว ร้านนี้ยังโด่งดังสุดๆ ในโลกโซเชียลทั้งในเรื่องราคาที่ไม่ธรรมดา ไปจนถึงการเข้าคิวรอเพื่อพิสูจน์ฝีมือการทำอาหารของเชฟสุภิญญา จันสุตะ หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เจ๊ไฝ” เจ้าของร้านผู้ควบตำแหน่งเชฟเพียงคนเดียวของร้าน ซึ่งใครอยากมาชิมฝีมือเจ๊ไฝต้องจองคิวล่วงหน้า ผ่านทางอีเมล์เท่านั้น หากคิดจะวอล์กอินเข้ามาเลยนั้นบอกเลยว่าไม่แนะนำ เพราะตอนนี้ชื่อเสียงของร้านเจ๊ไฝยิ่งโด่งดังกว่าเดิม มีลูกค้าโดยเฉพาะชาวต่างชาติมาลงชื่อเข้าคิวรอตั้งแต่ร้านเพิ่งเปิดนับ 40 รายเลยทีเดียว!
เมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนร้านเจ๊ไฝ แน่นอนว่าจานแรกต้องหนีไม่พ้นเมนู “ไข่เจียวปู” ที่แสนจะโด่งดังนั่นเอง ความพิเศษของเมนูนี้ คือการคัดเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี โดยเฉพาะเนื้อปูที่นำมาทำเป็นไข่เจียวนั้น ทางร้านเจ๊ไฝเลือกใช้เฉพาะส่วนกรรเชียงปูล้วนๆ และต้องเป็นปูที่มาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชและนราธิวาสเท่านั้น เมื่อนำมาทำเป็นไข่เจียวจึงฟู นุ่ม ตักเข้าไปได้เนื้อปูแน่นๆ เน้นๆ เต็มๆ คำ สมราคาจานละ 1,000 บาท ในขณะที่เมนูอื่นๆ อย่างต้มยำกุ้ง ทางร้านก็เลือกใช้กุ้งลายเสือตัวใหญ่สดเป็นพิเศษ หรือเมนูที่ดูง่ายๆ อย่างโจ๊กแห้งทะเล (ชามละ 500-600 บาท) ก็ได้เครื่องแน่นจนล้นชาม แถมทุกจานเวลาทานยังได้กลิ่นหอมของเตาถ่านอ่อนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะร้านเจ๊ไฝใช้เฉพาะเตาถ่านในการปรุงอาหารเท่านั้น
ใครอยากลองชิมรสชาติไข่เจียวปูและเมนูอื่นๆ ของร้านเจ๊ไฝ มาพิสูจน์กันได้ว่าเพราะเหตุใดร้านอาหารห้องแถวริมถนนธรรมดาแห่งนี้ จึงได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ถึง 2 สมัยซ้อน แต่เตือนไว้ก่อนว่าคิวยาวแน่นอน...ถ้าพร้อมแล้วมาลงชื่อเข้าคิวรอกันได้เลย!
ที่ตั้ง: 327 ถ.มหาไชย แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิด: วันอังคาร-วันเสาร์ ตั้งแต่ 14.00-24.00 น. (หยุดวันอาทิตย์และวันจันทร์)
โทร. 092-7249633
ปิดท้ายร้านอาหารไทยในบรรยากาศบ้านสวนริมน้ำ ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวสุดร่มรื่นบนเนื้อที่กว่า 10 ไร่แห่งนี้ คือร้านอาหารไทยหนึ่งเดียวในย่านนนทบุรีที่ได้รับรางวัล 1 ดาวจากมิชลินสตาร์ไปครอง ด้วยความโดดเด่นของรสชาติอาหารไทยแท้แบบต้นตำรับ และความพิถีพิถันใส่ใจในการปรุงอย่างประณีตทุกขั้นตอน ซึ่งเปิดบริการความอร่อยมายาวนานกว่า 38 ปี
ภายในร้านตกแต่งได้อย่างร่วมสมัย มีมุมให้นั่งรับประทานอาหารหลากหลาย ทั้งโซนอินดอร์ที่เพดานสูงโปร่งและโซนระเบียงเอาท์ดอร์ริมน้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบเงียบ เป็นส่วนตัว จึงเปรียบได้กับร้านอาหารเพชรเม็ดงามที่ซุกซ่อนตัวท่ามกลางธรรมชาติของจังหวัดนนทบุรี
เมนูอาหารทุกอย่างของที่นี่ บอกถึงวัฒนธรรมการกินอยู่ของไทย และยังเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ไปจนถึงวรรณคดีไทย สะท้อนผ่านการ presentation ที่ละเมียดละไม แต่ละจานนั้นถูกจัดแต่งอย่างสวยงามราวกับผลงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น กุ้งเผาสะเดาน้ำปลาหวาน, ยำสวนทิพย์, แกงบอน, แกงขี้เหล็ก, น้ำพริกนครบาล สูตรของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช, ส้มตำไหลบัว, เมี่ยงคะน้า, เมี่ยงคำใบชะพลู ฯลฯ แค่เห็นแต่ละเมนูก็รู้สึกอิ่มใจตั้งแต่ยังไม่ได้ลองชิมเลยทีเดียว
เมนูแนะนำพลาดไม่ได้คือ “เมี่ยงกลีบบัว” ที่ทางร้านเลือกใช้ดอกบัวหลวง เพราะจะมีกลิ่นหอมมัน แตกต่างจากบัวชนิดอื่นซึ่งจะมีรสชาติขม เวลารับประทานเราจะตักเครื่องเคียงต่างๆ อย่างมะพร้าวคั่ว, ถั่วลิสง, กุ้งแห้ง ฯลฯ ห่อลงไปในกลีบบัว แล้วตามด้วยน้ำจิ้มสูตรเด็ด ค่อยๆ เคี้ยวซึมซับรสชาติที่มีครบ ทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เคี้ยวเพลิน ได้รสชาติของสมุนไพรไปเต็มๆ คำ ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังความอร่อย คือเชฟบานเย็น เรืองสันเทียะ เชฟหญิงคนเก่งแห่งร้านสวนทิพย์ เผยว่าเคล็ดลับอยู่ที่การคัดเลือกวัตถุดิบทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยต้องใช้ความพิถีพิถันสุดๆ ทั้งดมกลิ่นและสัมผัส เช่นมะพร้าวต้องคัดเฉพาะที่สดๆใหม่ๆ เท่านั้น หากวัตถุดิบไม่สดจะทำให้รสชาติอาหารผิดเพี้ยนไป เพราะใส่ใจในทุกขั้นตอนการทำอาหารแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ทางร้านจะได้รับรางวัลมิชลินสตาร์มาครอง
นอกจากเมนูอาหารไทยต้นตำรับที่หาทานได้ยากแล้ว บรรยากาศริมน้ำก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ร้านสวนทิพย์ดึงดูดทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่อยากมาลิ้มลองรสชาติอาหารไทยโบราณ พร้อมสัมผัสวิถีเรียบง่ายและสงบริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่แตกต่างจากร้านอาหารทั่วไปในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ นั่นเอง
ที่ตั้ง: 17/9 หมู่ 7 สุขาประชาสรรค์ 2 ซอย 76 ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี
เปิด: ทุกวัน 11.00-21.00 น.
โทร. 02-5833748
Tags: กรุงเทพฯ ร้านอาหารกรุงเทพฯ ร้านมิชลินสตาร์ ร้านอาหารไทย เมธาวลัยศรแดง ร้านเสน่ห์จันทร์ ร้านเจ๊ไฝ ไข่เจียวปู ร้านสวนทิพย์ ร้านอาหารนนทบุรี ร้าน Chim by Siam Wisdom สเต็กไก่โมชิโอะ อกไก่ระดับพรีเมียม Benja Chicken ไก่ที่เลี้ยงด้วยข้าวกล้อง 7-11
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 05 พ.ย. 2024 | 1,828 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 07 พ.ย. 2024 | 997 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 01 พ.ย. 2024 | 547 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 08 พ.ย. 2024 | 961 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 27 ต.ค. 2024 | 2,205 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 03 พ.ย. 2024 | 775 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 30 ต.ค. 2024 | 814 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 06 พ.ย. 2024 | 165 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 1,817 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 1,017 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 10 ต.ค. 2024 | 7,154 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 10 ต.ค. 2024 | 1,180 อ่าน