วิธีเที่ยวมอสโก รัสเซีย ฉบับมนุษย์เงินเดือนก็ไปได้

อยากไปยุโรปสักครั้งแต่มีเงินเก็บไม่มากจะไปเที่ยวที่ไหนดี แนะนำที่นี่เลยจ้าประเทศรัสเซีย ประเทศที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเอเชียและยุโรป มีการผสมผสานของพหุวัฒนธรรมแบบยูเรเชีย และที่สำคัญประเทศนี้คนไทยไปได้โดย No Visa ถือพาสปอร์ตไทยเล่มเดียวก็เดินเข้ารัสเซียได้แล้ว เกร๋กู้ดดดไหมล่ะเธอ วันนี้ชิลไปไหนเลยอยากพาเพื่อนไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ออกไปมองโลกกว้าง สัมผัสความสวยงามของเมืองมอสโก เมืองหลวงแห่งรัสเซีย ที่มีสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และอลังการ ในแบบมนุษย์เงินเดือนเที่ยว เดินทางอย่างไร กินอยู่แบบไหน รับรองว่าซาราลี่แมนอย่างเราไปเที่ยวได้ ค่าใช้จ่ายเอื้อมถึงแน่นอน ลองตามไปชมกันเลย

การเตรียมตัวก่อนไปมอสโก

การจองตั๋วเครื่องบิน

มีหลากหลายสายการบินที่ให้บริการทั้งบินตรงและบินแบบทรานซิทไปยังกรุงมอสโก โดยราคาก็ไม่แรงค่ะ บางสายการบินทำโปรโมชั่นไปมอสโกในราคาไม่เกินหนึ่งหมื่นห้าพันบาทก็มี แต่หลังจากจองตั๋วเครื่องบินแล้วเช็คกันสักนิดว่าคุณไปลงสนามบินไหน เพราะมอสโกนั้นมีสนามบินนานาชาติถึง 3 ที่กันเลยค่ะ ได้แก่ สนามบินโดโมเดโดโว (DME) สนามบินเชเรเมเตียโว (SVO) และสนามบินวนูโคโว (VKO) จะได้หาข้อมูลในการเดินทางได้อย่างถูกต้อง

การใช้โทรศัพท์ในมอสโก

ตัวเลือกในการใช้งานอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศนั้นมีมากมายค่ะ ไม่ว่าจะไปซื้อซิมในต่างประเทศ หรือจะซื้อจากเมืองไทย เดี๋ยวนี้ก็มีค่ายมือถือที่ให้บริการมากมาย แต่ปัญหาที่เจอเวลานำซิมในเมืองไทยไปใช้ในต่างประเทศคือ ต้องสมัครโปรโมชั่นหรือต้องซื้อซิมใหม่ พอเปลี่ยนซิมไปมา สุดท้ายซิมเก่าหายจ้า กลายเป็นปัญหาต้องติดต่อทำซิมใหม่ชีวิตเวิ่นเว้อวุ่นวายเลยล่ะค่ะ

ล่าสุดดีแทคเอาใจสายเที่ยวกับครั้งแรกของแพ็กเกจรายเดือน #dtacGO ที่ให้เน็ตเมืองไทยเยอะ แถมยังฟรีเน็ตในต่างประเทศโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มและไม่ต้องสมัครเพิ่มอีกด้วย โอ๊ยยยโดนใจสายเที่ยวอย่างเรามากอ่ะแกรร

มาดูโปรโมชั่นกันจ้า สำหรับแพ็คเกจ #dtacGO ที่สามารถใช้เน็ตต่างประเทศได้นั้นราคาจะเริ่มต้นที่ 499 บาท สามารถใช้เน็ตในประเทศเพื่อนบ้าน มาเลเซีย พม่า ลาว และกัมพูชา ได้5GB/เดือน สำหรับสมาชิก Silver Member 899 เป็นต้นไปสามารถใช้อินเตอร์เน็ตในเอเชีย ออสเตรเลีย อเมริกา รวม 24 ประเทศ ได้ 5GB/เดือน และสำหรับลูกค้า Blue Member ได้ทั้งเน็ตในไทยไม่อั้นและไม่ลดสปีด แถมยังใช้เน็ตได้ในทุกทวีปทั่วโลก รวม 72 ประเทศได้ 5GB/เดือนเช่นกันจ้า

แน่นอนว่ากรุงมอสโก ประเทศรัสเซียสามารถใช้อินเตอร์เน็ตของ #dtacGO ได้ค่ะ เน็ตแรง สัญญาณชัดเจน เพราะดีแทคเค้ามีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกและที่สำคัญเน็ตไม่รั่ว ไม่ต้องร้องกรี๊ดเวลาได้รับบิลอีกด้วย ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมกับเช็คประเทศที่ให้บริการสามารถกดชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้เลย>>https://bit.ly/2krThD8

#dtacGO #dtacGOแพ็กเดียวใช้ได้ทั่วโลก #เน็ตไทยเยอะสุดเน็ตเมืองนอกฟรี

สภาพอากาศในมอสโก

มอสโกมี 4 ฤดูค่ะ คือ ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมิถุนายน - เดือนสิงหาคม อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 12-22 องศาเซลเซียส ฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างเดือนกันยายน - เดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 5-10 องศาเซลเซียส ฤดูหนาวเดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ -5 ถึง - 10 องศาเซลเซียส และในฤดูใบไม้ผลิระหว่างเดือนมีนาคม - เดือนพฤษภาคม อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 10-15 องศาเซลเซียส ใครที่อยากสัมผัสมอสโกฤดูไหนก็เลือกเดินทางไปกันได้เลย แต่คำเตือนว่าช่วงหน้าหนาวของรัสเซียนั้นมันโหดจริงๆ ใครขี้หนาวแนะนำว่าเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวกันลมไว้ด้วยนะคะ เพราะช่วงหน้าหนาวของมอสโกนั้นลมแรงมากๆ จะยิ่งทำให้หนาวกว่าเดิมเพิ่มเข้าไปอีก

สกุลเงินที่ใช้ในมอสโก

รัสเซียใช้สกุลเงินรูเบิลรัสเซีย (RUB) ปัจจุบัน (เดือนกันยายน 2562) ค่าเงินรูเบิลรัสเซียเทียบกับเงินบาทไทยจะอยู่ที่ 1 รูเบิลรัสเซีย = 0.48 บาท ดังนั้นค่าเงินบ้านเขาคิดง่ายมากๆ ค่ะ อยากรู้ว่าราคาเป็นเงินไทยเท่าไรก็แค่หารครึ่งก็จะได้ค่าเงินไทยแล้วล่ะค่ะ

รัสเซียไม่ต้องขอวีซ่า

ถ้าคุณอยู่ไม่เกิน 30 วัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องเตรียมเอกสารการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบินขากลับ หรือแพลนการเดินทางไว้ด้วยนะคะ เผื่อตม.จะถามรายละเอียดในการเดินทาง จะได้ตอบเขาได้ 

แนะนำการเดินทางในมอสโก

จากสนามบินเข้าเมือง

จากทั้งสามสนามบินนานาชาติของมอสโกเดินทางเข้าสู่เมือง เราขอแนะนำการเดินทางที่ประหยัดที่สุดด้วย AEROEXPRESS ที่จะไปเชื่อมต่อสถานีรถไฟใต้ดินสายต่างๆ เพื่อเดินทางเข้าสู่เมืองมอสโก ค่ารถเที่ยวเดียวประมาณ 500 รูเบิล/เที่ยว ถ้าจองล่วงหน้าตั้งแต่ 4-90 วันยังได้ลดเหลือ 450 รูเบิล/เที่ยว หรือถ้าจองแบบไป-กลับ ก็ยังได้ราคาพิเศษ 850 รูเบิล  และถ้าคุณมีเพื่อนไปด้วยกันเป็นกลุ่ม 4 คนก็ยังได้ลดไปอีกเหลือ 950 รูเบิล/เที่ยว/กรุ๊ป ตกคนละ 237.5 รูเบิลเท่านั้น ดีงามพระรามมอสโกจริงๆ ไปเที่ยวทั้งทีก็ชวนเพื่อนไปเยอะๆ กันนะจ๊ะ จะได้ช่วยหารค่ารถได้อีกด้วย

**ไม่แนะนำแท็กซี่ที่มาจอดรอเรียกคนตามสถานี เพราะอาจจะโดนโก่งราคาเกินจริงค่ะ แนะนำเป็นแอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่อย่าง Gett taxi กับ Yandex taxi ที่ราคาจะปรากฎชัดเจน คำนวณตามระยะทางและช่วงเวลาเร่งด่วน และมารับถึงสถานที่ที่เรียกได้เลย ตอนที่เรานั่งจากตัวเมืองมาสนามบินโดโมเดโดโว ราคาประมาณ 800-1000 รูเบิลเท่านั้น

รถไฟใต้ดิน (Metro)

เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มีระบบขนส่งสาธารณะยอดเยี่ยมมากๆ สำหรับเมืองมอสโก โดยเฉพาะรถไฟใต้ดินของบ้านเขาที่เริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 1935 ปัจจุบันมีทั้งหมด 12 สาย มีสถานีเกือบสองร้อยสถานีครอบคลุมทั้งในเขตเมืองและชานเมืองมอสโก และแต่ละสถานีนั้นก็ตกแต่งสวยงามสุดๆ แนะนำเลยว่าแค่คุณทัวร์สถานีรถไฟใต้ดินในมอสโกก็ฟินแล้วล่ะค่ะ 

ค่ารถไฟใต้ดินของรัสเซียราคา 55 รูเบิล/เที่ยว จะนั่งยาว นั่งไกลแค่ไหนก็แค่ 55 รูเบิลเท่านั้น หรือสามารถซื้อแบบ 24 ชั่วโมง ราคา 230 รูเบิลก็สามารถขึ้นได้ไม่จำกัดเที่ยวภายในเวลา 24 ชั่วโมง ส่วนการซื้อตั๋วสามารถซื้อได้ที่ตู้อัตโนมัติของแต่ละสถานีเลยค่ะ มีภาษาอังกฤษให้สะดวกมากๆ

สถานี Komsomolskaya ของสายสีน้ำตาลเป็นหนึ่งสถานีที่ติดอันดับสถานีรถไฟใต้ดินที่สวยงามที่สุดในมอสโก

ที่พักในมอสโก

ที่พักในมอสโกมีตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงราคาแพง  สิ่งสำคัญในการเลือกที่พักสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราลำดับแรกคือ "ราคา" สำหรับทริปมอสโกนั้นเราตั้งราคาค่าที่พักต่อคน ต่อคืนไม่เกิน 1000 บาท ดังสิ่งที่ต้องพิจารณาต่อมาคือ "ทำเลที่ตั้ง" ที่อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว หรือใกล้กับรถไฟใต้ดินไหม เดินทางสะดวกสบายแค่ไหน ตั้งอยู่ในสถานที่ที่เปลี่ยวหรืออันตรายไหม วิธีง่ายๆ ที่จะทำให้รู้ข้อมูลเหล่านี้คือการอ่านรีวิวตามเว็บไซต์จองที่พักต่างๆ ก่อนที่จะจอง อย่าเพิ่งจองเพราะคิดว่าราคาถูก ซึ่งของถูกอาจจะตามมาด้วยประสบการณ์การเข้าพักที่ไม่ดี และอีกสิ่งหนึ่งสำหรับการตัดสินใจเลือกที่พักของเราคือจะหาที่พักที่สต๊าฟของที่พักสามารถ "พูดภาษาอังกฤษได้" ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเที่ยวรัสเซียประเทศที่คนส่วนมากไม่นิยมพูดภาษาอังกฤษ เพราะสต๊าฟที่พูดภาษาอังกฤษได้จะมีส่วนในการแนะนำที่เที่ยว การเดินทางในเมืองมอสโกให้คุณได้อย่างยอดเยี่ยมเลยล่ะค่ะ

ที่พักแนะนำในมอสโก "Nereus Hostel near Kremlin" ทำเลดีใกล้พระราชวังเคลมลิน สต๊าฟสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดีเลยล่ะค่ะ มีห้องพักทั้งแบบห้องเดี่ยว ห้องรวม ห้องแฟมิลี่ แต่แชร์ห้องน้ำรวม ราคาถูกมากๆ เราจองห้องสำหรับ 4 คน ราคาประมาณ 4000 รูเบิล/คืน ตกคนละ 1000 รูเบิลหรือประมาณ 480 บาทเท่านั้น ห้องพักสะอาด ข้อเสียคือห้องแคบไปหน่อยและไม่มีลิฟต์

อาหารการกินในมอสโก

มอสโกเป็นเมืองที่มีการผสมผสานของพหุวัฒนธรรม ดังนั้นคุณสามารถหาร้านอาหารตั้งแต่ร้านฟาสต์ฟู้ดแบบอเมริกันสไตล์ อาหารแบบรัสเซีย อาหารอร่อยที่เราต้องเซอร์ไพรส์อย่างอาหารจอร์เจีย ไปจนถึงอาหารเอเชีย อาหารไทย จีน ญี่ปุ่นได้ ใครอยากประหยัดเงินหน่อยก็เดินเข้าฟาสต์ฟู้ดโล้ดมีให้บริการอยู่ทุกมุมเมือง และเปิดบริการแต่เช้าไปจนถึงดึกดื่น หิวเมื่อไรก็แวะมาได้ แถมไม่ต้องสั่งอะไรเยอะชี้เอาอย่างเดียว

อีกร้านสำหรับฝากท้องคนเอเชียอย่างเราคือร้านที่เราเรียกว่าร้านข้าวตักค่ะ หน้าตาเหมือนร้านข้าวแกงบ้านเรา มีข้าวทั้งข้าวสวย ข้าวผัด และกับข้าวพวกเนื้อผัดซอส ไก่ทอดผัดซอสหวาน เวลาจะสั่งก็ชี้แล้วคนขายจะตักใส่จานใครอยากกินเยอะสามารถให้คนขายตักให้เยอะได้ หรือถ้ากินน้อยก็ส่งสัญญาณมือบอก Stop จากนั้นคนขายจะนำไปชั่งน้ำหนักคิดราคาเป็นกรัม รสชาติอาหารถือว่าโอเคเลยค่ะ บางอย่างก็เข้าขั้นอร่อยอย่างพวกเนื้อวัวผัดซอสนี่อร่อยจริงเจอร้านไหนต้องสั่งทุกครั้งเลยล่ะค่ะ

ที่เที่ยวแนะนำในมอสโก

จตุรัสแดง (Red Square)

เป็นสถานที่ที่คนมาเที่ยวมอสโกไม่ควรพลาดเด็ดขาด เพราะที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่รวมจุดถ่ายรูปแลนด์มาร์คแห่งมอสโกเลยล่ะค่ะ ภายในจตุรัสจะประกอบไปด้วย มหาวิหารเซนต์เบซิล (Saint Basil’s Cathedral) หรือที่หลายคนเรียกว่าโบสถ์ลูกกวาดบ้าง โบสถ์หัวหอมบ้าง หรือโบสถ์ไอศกรีมโคนบ้าง ซึ่งเป็นโบสถ์ที่มีรูปทรงแตกต่างจากโบสถ์อื่นๆ คือมี 8 โดมล้อมรอบโดมใหญ่สุดตรงกลาง โดยเป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมรัสเซียนกอธิกและยุโรปตะวันตก พูดคำเดียวเลยว่าสวยจริงๆ สวยแบบยืนตะลึงใปหลายนาทีเลยล่ะค่ะ ซึ่งที่มาของความสวยนี้ก็มีความโหดร้ายซ่อนอยู่เพราะคนที่ให้สร้างมหาวิหารแห่งนี้คือ ซาร์อีวานที่ 4 ส่วนคนออกแบบชื่อว่าปอสต์นิค ยาคอฟเลฟ มีเรื่องเล่าว่าหลังจากที่ซาร์อีวานที่ 4 ทรงพอพหฤทัยในความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้พระองค์เลยให้รางวัลสถาปนิกผู้ออกแบบโดยการควักลูกตาทั้งสองข้าง เพื่อที่จะไม่ให้สามารถไปออกแบบที่สวยกว่านี้ได้อีก เลยกลายเป็นที่มาของสมญานามซาร์อีวานผู้โหดเหี้ยม

ภายนอกว่าสวยแล้วภายในตกแต่งด้วยภาพเขียนสีที่สวยงามมากๆ ค่าเข้าชมด้านใน 500 รูเบิล เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี เข้าฟรีค่ะ

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของรัสเซีย (State Historical Museum) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คภายในจตุรัสแดงที่ต้องมาถ่ายรูปเช็คอินกันให้ได้ ภายในจัดแสดงวัตถุโบราณที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของรัสเซียตั้งแต่ยุคหิน จนมาถึงช่วงเวลาที่รัสเซียกลายเป็นมหาอำนาจในยุโรป ค่าเข้าชมด้านใน 300 รูเบิล

กำแพงป้อมปราการของพระราชวังเครมลินซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจตุรัสแดง

ตอนกลางวันว่าสวยแล้วตอนกลางคืนยิ่งสวยกว่า

ห้างสรรพสินค้ากุม (Gum) ห้างสุดหรูที่เก่าแก่ที่สุดในมอสโก สร้างมาตั้งแต่ปี 1895 ตอนกลางคืนจะประดับไฟ และคาเฟ่ให้นั่งจิบเครื่องดื่มชมความสวยงามของจตุรัสแดงได้ด้วยค่ะ

เครมลิน (Kremlin)

อีกหนึ่งสิ่งที่คนมาเที่ยวมอสโกไม่ควรพลาดคือการมาชมความยิ่งใหญ่ของพระราชวังเครมลิน เดิมทีที่นี่สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นที่พำนักของพระเจ้าซาร์ทุกพระองค์ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ที่นี่ก็กลายที่ทำการของรัฐบาล และปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมกับมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจให้เราได้เข้าชมค่ะ

การเข้าชมในเครมลินคุณสามารถเลือกจะเข้าชมสถาปัตยกรรมและหมู่ตึกต่างๆ ภายในพระราชวังเครมลิน (THE ARCHITECTURAL COMPLEX OF THE CATHEDRAL SQUARE) หรือจะเลือกเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ THE ARMOURY CHAMBER ก็ได้ค่ะ ค่าเข้าชมสำหรับพระราชวังเครมลิน 700 รูเบิลแบบไม่มีไกด์ทัวร์และไม่มีออดิโอไกด์(ภาษาอังกฤษ) แต่ถ้าต้องออดิโอไกด์ก็จ่ายคนละ 1,000 รูเบิล โดยจะมีให้บริการรอบเวลา 14.00-16.30 น. ส่วนใครที่ต้องการไกด์ทัวร์ราคาเข้าชมจะคนละ 1100 รูเบิล ไม่ได้มีให้บริการทุกวันนะคะ สามารถเช็ครอบและจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่ https://tickets.kreml.ru/en/

ส่วนการเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ THE ARMOURY CHAMBER ราคา 1,000 รูเบิลสามารถซื้อออนไลน์ได้เช่นกัน ส่วนใครไม่ได้ซื้อทางออนไลน์มา สามารถมาซื้อที่ Ticket Office ได้ค่ะ แต่คนต่อแถวค่อนข้างเยอะอยู่ ยิ่งถ้าเป็นช่วงวันหยุดแนะนำว่าควรมาต่อแถวกันเช้าๆ เพราะแถวจะยาวมากๆ

ทางเข้าชมในส่วนพระราชวังกับส่วนพิพิธภัณฑ์ THE ARMOURY CHAMBER นั้นจะแยกกัน โดยทางเข้าชมส่วนพระราชวังจะต้องขึ้นทาง Kutafya Tower ผ่าน Troitskaya (Trinity) Tower และเข้าสู่ในส่วนของ THE ARCHITECTURAL COMPLEX OF THE CATHEDRAL SQUARE ที่มีวิหารสวยงามมากมายให้เราได้ชมได้แก่ Dormition Cathedral, Archangel Cathedral, Annunciation Cathedral และ Ivan Bell Tower

ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ (Tsar Cannon) ว่ากันว่าเป็นปืนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่บริเวณ Cathedral of The Dormition  และ Church of the Twelve Apostles

เดินถัดมาอีกนิดก็จะพบกับ ระฆังของพระเจ้าซาร์ (The Tsar Bell) ว่ากันว่าเป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก หนักถึง 200 ตัน ซึ่งระหว่างการก่อสร้างนั้นเกิดไฟไหม้ภายในเครมลิน ทำให้ระฆังร้าว และแตกออกมาตามภาพเลยค่ะ ซึ่งถ้าระฆังใบนี้ไม่แตกซะก่อนก็จะนำไปแขวนไว้ที่ Ivan Bell Tower

ส่วนพิพิธภัณฑ์ THE ARMOURY CHAMBER ทางเข้าจะอยู่บริเวณ Borovitskaya Bashnya ภายในจัดแสดงสมบัติล้ำค่าของรัสเซียกว่า 4000 ชิ้นบอกเลยว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ห้ามพลาด เพราะมีทั้งเครื่องเงิน เครื่องทอง เพชรนิลจินดา เสื้อเกราะ อาวุธโบราณ รถเทียมม้า ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15-18 ให้ชมกันเพลินๆ ใครที่ชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์มาที่นี่จะเพลิดเพลินมากๆ ค่ะ แต่เสียดายด้านในไม่สามารถถ่ายรูปได้นะคะ

มหาวิหารเซ็นต์ เดอ ซาร์เวีย (Cathedral of Christ the Saviour)

มหาวิหารเซ็นต์ เดอ ซาร์เวีย (Cathedral of Christ the Saviour) อีกหนึ่งมหาวิหารที่สวยงามและอลังการห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง หลายคนจะเรียกที่นี่ว่าวิหารโดมทอง ส่วนเราจะชอบเรียกที่นี่ว่าโบสถ์หัวหอมทอง เพราะจุดเด่นคือหลังคาโบสถ์ที่สร้างเป็นรูปโดมสีทองอร่ามยามที่ต้องกับแสงอาทิตย์ยามเย็นยิ่งสวยงามประทับใจมากๆ ค่ะ มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ ที่ 1 เพื่อถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าและเป็นอนุสรณ์สถานที่รัสเซียชนะรอดพ้นจากสงครามนโปเลียน มหาวิหารแห่งนี้เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียและสูงที่สุดในโลก ใช้เวลาสร้างถึง 45 ปีเลยทีเดียว

ด้านในของมหาวิหารสามารถเข้าชมได้ฟรีค่ะ แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านในค่ะ

ส่วนด้านหน้าของมหาวิหารมีสะพาน Patriarshy ที่ทอดตัวข้ามฝั่งแม่น้ำ Moskwa ไปยังมหาวิหาร จุดนี้เป็นจุดที่สามารถมาถ่ายรูปวิวยามค่ำคืน โดยจะเห็นภาพของเครมลินเป็นฉากหลังสวยงามมากๆ

ช้อปปิ้งที่ไหน

ห้างสรรพสินค้ากุม (Gum)

ห้างที่หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในมอสโก ภายในมีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมให้เลือกมากมายเลยล่ะค่ะ ส่วนมนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็ได้แต่เดินถ่ายรูปกับสถาปัตยกรรมสวยๆ ภายในห้าง เพราะแบรนด์แต่ละอย่างเกินเอื้อมจริงๆ

ตลาดอิซเมโลฟสกายา (Izmayloysky Market)

ส่วนแหล่งช้อปปิ้งที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราคู่ควรก็ต้องที่นี่เลย ตลาดอิซเมโลฟสกายา (Izmayloysky Market) หรือที่เราเรียกว่าตลาดสติแตกค่ะ เพราะที่นี่จะเป็นตลาดที่รวมของฝากทั้งตุ๊กตาแม่ลูกดก บอกเลยว่าแต่ละร้านความสวยงามและราคาต่างกันด้วยค่ะ แนะนำว่าเดินเข้าไปลึกๆ จะเจอร้านราคาถูกและสวยอยู่ หรือใครจะหาซื้อแม็กเน็ต โปสการ์ด พวงกุญเจ กล่องดนตรีก็มีให้เลือกมากมาย ต่อได้ด้วยนะเธอ ใครอยากขนพรมสวยๆ กลับบ้านก็มาเลือกช้อปกันได้เลย เรียกว่าเดินกันจนสติแตกเพราะมันน่าซื้อ น่าช้อปไปหมด ราคาก็ไม่แพงด้วย วิธีการเดินทางมาที่นี่นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Izmaylovo เดินมาอีกประมาณ 300 เมตรก็จะเจอตลาดที่ดีไซน์ด้านนอกเป็นเหมือนปราสาทในเทพนิยายแนะนำว่าควรมาวันเสาร์ อาทิตย์ของจะเยอะกว่าวันธรรมดาค่ะ

ถนนอาบัด (Arbat Street)

ปิดท้ายด้วยย่านถนนคนเดินอาบัด (Arbat Street) ที่เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านหนังสือมือสอง ร้านขายภาพวาด มีการแสดงดนตรีเปิดหมวกให้ชมด้วยนะคะ  นอกจากนี้ยังมีมุมเก๋ๆ อาร์ตๆ ให้ถ่ายรูปด้วยค่ะ การเดินทางนั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Arbatskaya ออกมาก็เจอทางเข้าถนนถนนอาบัดเลย 

สำหรับเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวเฉพาะมอสโกประมาณ 3-4 วันค่ะ ใครมีเวลามากกว่านั้นสามารถนั่งรถไฟไปเที่ยวต่อที่เซ็นต์ ปีเตอร์สเบิร์กได้ด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายตีคร่าวๆ สำหรับทริปเที่ยวเฉพาะมอสโกระยะเวลาประมาณ 4 วัน จะอยู่ที่ประมาณ 25,000 - 30,000 บาทค่ะ ไม่ต้องใช้วันลาเยอะ เก็บเงินไม่นานก็สามารถบินไปเที่ยวสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ออกไปมองโลกกว้าง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในชีวิตของเราได้แล้วค่ะ

Tags: รัสเซีย มอสโก มอสโค มอสโคว เที่ยวต่างแดน dtacGO dtac ดีแทค ใช้อินเตอร์เน็ตต่างประเทศ ซิมต่างประเทศ ยุโรป ใช้อินเตอร์เน็ตในรัสเซีย เที่ยวรัสเซีย เที่ยวมอสโก เที่ยวมอสโค เที่ยวมอสโคว ที่พักรัสเซีย วิธีการเดินทางในรัสเซีย รถไฟรัสเซีย รถไฟใต้ดินรัสเซีย แผนที่รัสเซีย ที่พักมอสโก วิธีการเดินทางในมอสโก รถไฟมอสโก รถไฟใต้ดินมอสโก แผนที่มอสโก ที่พักมอสโค วิธีการเดินทางในมอสโค รถไฟมอสโค รถไฟใต้ดินมอสโค แผนที่มอสโค ที่พักมอสโคว วิธีการเดินทางในมอสโคว รถไฟมอสโคว รถไฟใต้ดินมอสโคว แผนที่มอสโคว russia moscow

เขียนโดย

นางสาวฮานะ ชิลไปไหน

แชร์บทความนี้