ชี้เป้า 10 ประเทศวิวสวย เที่ยวสบายไม่ง้อ Visa อัพเดทใหม่ 2019

ว่ากันว่า ‘การเดินทางช่วยสร้างแรงบันดาลใจ’ โดยเฉพาะการเดินทางไปยังต่างถิ่น ต่างประเทศด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้เราได้เปิดมุมมองโลกทัศน์และประสบการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างดีเยี่ยมเลยล่ะ แต่การไปเที่ยวต่างประเทศทั้งทีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะมีทั้งเรื่องของเอกสารพาสปอร์ต วีซ่า และอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะคอยมาทำให้เราปวดเศียรเวียนเกล้ากันแบบจ้าละหวั่นสุดๆ จนทำให้หลายๆ คนถอดใจกันเลยทีเดียว แต่! อย่าเพิ่งท้อใจไปค่ะ เพราะวันนี้ชิลไปไหนจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวต่างแดนแบบไม่ง้อวีซ่า กับ “10 ประเทศวิวสวย เที่ยวสบายไม่ง้อ Visa” พร้อมจุดเช็คอินที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด! แต่ถ้าอยากรู้ว่าจะมีประเทศไหนบ้าง ก็ตามเราไปดูพร้อมๆ กันเลยจ้า

ประเทศเวียดนาม - เที่ยวได้ 30 วัน 

( VND หรือ ด่ง,ดอง เป็นสกุลเงินของประเทศเวียดนาม )

มาเริ่มต้นกันด้วยประเทศที่กำลังมาแรง! อย่าง "เวียดนาม" ประเทศใกล้ไทย ที่มาพร้อมกับแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ภูเขาเขียวขจี ชายหาด ทะเลสาป ทะเลทราย สวนดอกไม้ ไปจนถึงสถาปัตยกรรมที่สวยงาม อาทิ เมืองเก่าฮอยอัน, บานาฮิลล์ ดานัง, Crazy House, Fisherman's Village, สุสานโฮจิมินห์, พระราชวังเว้, ทะเลทรายมุยเน่ ทะเลทรายสีขาวนวลที่กำลังมาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวสไตล์ฮิปสเตอร์, เกาะฟูก๊วก เกาะแห่งสมญานาม “ไข่มุกเม็ดงามแห่งเวียดนาม” ที่ตั้งระหว่างชายแดนประเทศเวียดนามและประเทศกัมพูชาในทะเลอ่าวไทย, อ่าวฮาลอง สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกมรดกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโกในปี 2537 เป็นต้น ด้วยการเดินทางสะดวกสบาย และค่าเงินที่ค่อนข้างดีต่อใจชาวไทยอย่างเราๆ จึงไม่แปลกใจเลยล่ะค่ะ ที่จะทำให้ที่นี่กลายเป็นประเทศสุดฮิตที่กำลังมาแรงในตอนนี้เลยก็ว่าได้

ประเทศไต้หวัน - เที่ยวได้ 14 วัน 

( TWD หรือ ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ เป็นสกุลเงินของประเทศไต้หวัน )

อีกหนึ่งประเทศที่กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยและค่าครองชีพไม่แพง เราขอยกให้ที่นี่เลยค่ะ กับ “ไต้หวัน” เมืองต้นตำหรับเมนูเครื่องดื่มสุดฮิตอย่าง ชานมไข่มุก ที่มาพร้อมกับแหล่งช้อปปิ้งราคาสบายกระเป๋า อย่าง ย่านซีเหมินติง (Ximending) แหล่งของกินสตรีทฟู้ดสุดอร่อย วัดศักดิ์สิทธิ์สุดโด่งดัง อาทิ วัดพระถังซำจั๋ง, วัดเหวินอู่, วัดหลงซาน ฯลฯ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างมาไหว้สักการะกันตลอดทั้งปี และแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอีกมากมาย ได้แก่ เขาช้างหรือเขาเซี่ยงซาน, อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค, หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น, ทะเลสาบสุริยันจันทร, หาดซีซิงถัน, อุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋อ (Taroko Gorge) หรือ ‘โยเซมิติแห่งไต้หวัน’ ที่ได้รับการขนานนามจากนิตยสาร LA Times นั่นเองค่ะ แต่จุดแลนมาร์คที่เมื่อไปเที่ยวไต้หวันแล้วพลาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ “ตึก Taipei 101” ตึกสูงสง่าสัญลักษณ์แห่งไทเป ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงถึง 449 เมตร ว่ากันว่าใครมาไต้หวันแล้วไม่มาเช็คอินที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงเชียวล่ะค่ะ

ประเทศฟิลิปปินส์ - เที่ยวได้ 30 วัน

( PHP หรือ เปโซฟิลิปปินส์ เป็นสกุลเงินของประเทศฟิลิปปินส์ )

มาต่อกันที่อีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวใกล้ไทย กับ "ฟิลิปปินส์" ดินแดนหมู่เกาะแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก ที่รายล้อมไปด้วยหมู่เกาะที่สวยงาม และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์มากมาย อาทิ โบสถ์ซานอากุสติน โบสถ์เก่าแก่มรดกโลกในกรุงมะนิลา, นาขั้นบันไดบานาเว แหล่งท่องเที่ยวสุดเขียวขจีบนเกาะลูซอน ที่โดดเด่นด้วยภาพวิวทุ่งนาแบบขั้นบันไดบนภูเขาที่สูงเหนือน้ำทะเลถึง 5,000 ฟุต, ภูเขาไฟมายอน, ช็อกโกแลตฮิลส์, อุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮา, อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โตปรินเซซา, เกาะโบราไกย ฯลฯ แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่าเป็นรายหลักจากการท่องเที่ยวของฟิลิปินส์ เราขอยกให้ที่ “เกาะเซบู” เลยล่ะค่ะ เพราะนอกจากที่นี่จะมีประวัติศาสตร์เกาแก่ที่น่าสนใจแล้ว ที่นี่ยังมีสถาปัตยกรรม ที่เที่ยวและกิจกรรมสนุกๆ มากมาย เช่น การเที่ยวชมป้อมปราการซานเปรโดและมหาวิหารไมเนอร์ สถาปัตยกรรมโบราณที่สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16, กิจกรรมผจญภัยตะลุยน้ำตก Kawasan Falls และกิจกรรมดำน้ำกับฉลามวาฬ ที่ Oslob ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมไฮไลท์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลไปดำน้ำที่เกาะแห่งนี้เลยล่ะค่ะ

ประเทศสิงคโปร์ - เที่ยวได้ 30 วัน

( SGD หรือ ดอลลาร์สิงคโปร์ เป็นสกุลเงินของประเทศสิงคโปร์ )

ส่วนใครที่ชอบความทันสมัยและหรูหราเราขอแนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะ กับ “สิงคโปร์” ประเทศบนเกาะเล็กๆ แต่มากด้วยความเจริญทางเศรษฐกิจ ที่รวบรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความทันสมัยได้อย่างลงตัว ถึงแม้สิงคโปร์จะมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างจำกัด แต่ที่นี่กลับมีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ มากมายไว้คอยให้ผู้คนจากทุกสารทิศได้ไปเที่ยวและพักผ่อนกัน อาทิ สวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอสิงคโปร์, Gardens by the Bay, Singapore Flyer จุดชมวิวแบบพาโนรามาบนชิงช้าสวรรค์ยักษ์ สูง 165 เมตร ที่ตั้งอยู่ริมอ่าวมารีน่า, Helix Bridge สะพานเกลียวสุดเก๋ที่ได้แรงบันดาลใจดีไซน์จากโครงสร้าง DNA ซึ่งในยามค่ำคืนบนสะพานแห่งนี้จะมีการเปิดไฟสุดระยิบระยับให้เราได้มาชมความสวยงามอีกด้วย แต่กิจกรรมไฮไลท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวที่สิงคโปร์แล้วพลาดไม่ได้เลย ก็คือ การถ่ายรูปเช็คอินกับสิงโตพ่นน้ำ “เมอร์ไลออน” ที่ Merlion Park และชมการแสดงแสงสีสุดอลังการที่ Marina Bay Sands ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสร้างสีสันของสิงคโปร์ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ ด้วยความสวยงามอลังการของสถานที่ท่องเที่ยวจึงไม่แปลกใจเลยล่ะค่ะ ที่สิงค์โปร์จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่ผู้คนต่างแวะเวียนมาพักผ่อนตลอดทั้งปีอย่างไม่ขาดสาย

ประเทศเกาหลีใต้ - เที่ยวได้ 90 วัน

( KRW หรือ วอน เป็นสกุลเงินของประเทศเกาหลีใต้ )

กระแสดีไม่มีตก กับ “เกาหลีใต้” ดินแดนแห่งกิมจิ อีกหนึ่งประเทศที่คนไทยไปเที่ยวมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยกระแสของซีรีย์ โอปป้างานดี! สถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่โดดเด่นชวนหลงใหล และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ เกาะนามิ เกาะสุดโรแมนติกที่เป็นโลเคชั่นในซีรีย์สุดโด่งดังอย่าง Winter Sonata, เกาะเชจู เกาะมรดกทางธรรมชาติของโลกที่ได้รับการจดทะเบียนจากยูเนสโก, พระราชวังเคียงบกกุง พระราชวังโบราณที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล, โซลทาวเวอร์ (N Seoul Tower) หอคอยชมวิวสุดโรแมนติก ที่เราสามารถชมวิวรอบกรุงโซลได้แบบพาโนรามา, อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน หรือ ‘สวิตเซอร์แลนด์แดนกิมจิ’ แห่งเที่ยวชมธรรมชาติและใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในเกาหลี, หมู่บ้านบุกชอนฮันอก หมู่บ้านเรือนโบราณสมัยโชซอนที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ซึ่งเป็นทั้งศูนย์วัฒนธรรมและจุดเช็คอินถ่ายรูปสุดเก๋ แต่สำหรับใครมาเที่ยวที่นี่แล้วก็ต้องห้ามพลาดกับการไปเที่ยวสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ และลอตเต้เวิล์ด สวนสนุกขึ้นชื่อของเกาหลีใต้เลยล่ะค่ะ เพราะนอกจากจะมีจุดถ่ายรูปสุดคิ้วท์! ในสวนสนุกแล้ว ภายในยังมีเครื่องเล่นสุดเสียวให้เราได้ไปประลองความกล้าอีกด้วยล่ะค่ะ นอกจากนี้เกาหลีใต้ยังมีแหล่งของกินสตรีทฟู้ด แหล่งช๊อปปิ้งเสื้อผ้าสกินแคร์ราคาถูก อาทิ ตลาดเมียงดง, ตลาดนัมแดมุน ฯลฯ ที่บอกเลยว่าราคาถูก คุณภาพแน่น ถูกใจสายช๊อปอย่างเราสุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ

ประเทศญี่ปุ่น - เที่ยวได้ 15 วัน

( JPY หรือ เยน เป็นสกุลเงินของประเทศญี่ปุ่น )

ตั้งแต่ยกเว้นวีซ่าให้กับคนไทย ก็ฮ็อตฮิตไม่หยุด กับ “ญี่ปุ่น” ดินแดนอาทิตย์อุทัย อีกหนึ่งประเทศสุดท็อปที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกัน ด้วยเทคโนโลยีวิวัฒนาการสิ่งของเครื่องใช้ล้ำสมัย แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามตลอดปีเที่ยวได้ไม่มีเบื่อ อย่าง Tokyo tower ตึกสูงสง่าที่เป็นเสมือนหอไอเฟสฉบับญี่ปุ่น, ภูเขาไฟฟูจิ จุดชมความงามของทิวเขา ซึ่งทั้งสองที่ยังเป็นแลนมาร์คที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่นที่ใครมาที่นี่แล้วไม่ควรพลาด, วัดเซนโซจิ หรือ วัดโคมแดง วัดพุทธโบราณในย่านอาซากูซะที่มีอายุมากที่สุดในกรุงโตเกียว, พระราชวังอิมพีเรียล สถานที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ที่ภายในสวนสไตล์ที่ปุ่นและสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า, หมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะ หมู่บ้านโบราณอายุร่วม 250 ปีที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก, สวนริมทะเลฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค สวนดอกไม้ริมทะเลในจังหวัดอิบะระกิ (Ibaraki) โดดเด่นด้วยทุ่งดอกโคเชีย ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสดใสในช่วงฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ที่ญี่ปุ่นก็ยังมีที่เที่ยวขึ้นชื่ออีกมากมาย ได้แก่ Tateyama-Kurobe Alpine Route หรือเจแปนแอลป์ เส้นทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติ, เกาะคิวชู, สวนกวางนารา, ศาลเจ้าจิ้งจอกแดง, ปราสาทฮิเมะจิ ฯลฯ

มัลดีฟส์ หรือ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ - เที่ยวได้ 30 วัน

( MVR หรือ รูฟียาห์ เป็นสกุลเงินของประเทศมัลดีฟส์ หรือ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ )

หากพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ธรรมชาติสวย น้ำใสสีเทอร์ควอยซ์ เชื่อว่า "มัลดีฟส์" จะต้องเป็นประเทศอันดับท็อปๆ ที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอน! มัลดีฟส์ เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ใกล้กับประเทศอินเดียและศรีลังกา ในมหาสมุทรอินเดีย ที่รายล้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้า ปะการังที่อุดมสมบูรณ์ หมู่ปลาน้อยใหญ่สีสันใส และหาดทรายสีขาวนวลเนื้อละเอียด ที่มีหมู่เกาะขึ้นชื่อมากมาย อาทิ Ari Atoll หมู่เกาะยอดนิยมรูปไข่ ที่เป็นสถานที่ดำน้ำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง, อะทอลซีนู หรือ อะทอลอัดดู แหล่งท่องเที่ยวที่เคยเป็นฐานทัพเรือของอังกฤษในอดีต โดยบนเกาะแห่งนี้มีประชากรเป็นชาวเกาะโดยส่วนมาก ซึ่งจะมีวิถีการดำรงชีวิตและภาษาที่แตกต่างจากเมืองหลวงโดยสิ้นเชิง ใครที่อยากสัมผัสประเพณีวัฒนธรรมแบบมัลดีเวียนของชาวเกาะก็อย่าลืมแวะเวียนมาเที่ยวที่นี่ให้ได้เลยล่ะค่ะ

ประเทศจอร์เจีย - เที่ยวได้ 1 ปี หรือ 365 วัน

( GEL หรือ ลารี เป็นสกุลเงินของประเทศจอร์เจีย )

มาต่อกันที่อีกหนึ่งประเทศสวยสุดปลายทวีปเอเชียที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบยุโรป อย่าง "จอร์เจีย" ดินแดนแห่งภูเขา ที่มีประวัติศาตร์ร่วม 2,500 ปี ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศตั้งอยู่บนเทือกเขาคอเคซัส เทือกเขาสูงขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่แบ่งพรมแดนระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ซึ่งด้านบนก็มีจุดชมวิว อาทิ ยอดเขาคาสเบก ยอดเขาเอลบรุส ที่เราสามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติได้แบบเต็มอิ่มอย่าง, โบสถ์เกอเกติ (Gergeti Trinity Church) โบสถ์แกรนิตเก่าแก่กลางหุบเขาคอเคซัส ตั้งอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำเชเครี ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ซึ่งนับว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของยุคทองของเศรษฐกิจและการเมืองในสมัยนั้นและที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย นอกจากนี้ประเทศจอร์เจียยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและทรงคุณค่าอีกมากมาย ได้แก่ พระราชวังโรมานอฟ, ป้อมปราการโกเกีย, อุทยานแห่งชาติโบอร์โจมิ – คาราเกาลิ, สวนพฤกษศาสตร์บาทูมิ, ยุโรปสแควร์, วิหารโฮลี่ทรินิตี้ ฯลฯ

ประเทศตุรกี - เที่ยวได้ 30 วัน

( TRY หรือ ลีราตุรกี เป็นสกุลเงินของประเทศตุรกี )

มาต่อกันที่ "ตุรกี" ดินแดนสองทวีป เมืองท่องเที่ยวที่มีวัฒนธรรมผสมผสานทั้งยุโรปและเอเชีย และมีประวัติศาสตร์ แหล่งอารยธรรมโบราณมากมาย อาทิ Blue Mosque (สุเหร่าสีน้ำเงิน) หรือ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองอิสตันบูลที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1609 - 1616 ซึ่งในฤดูร้อนของที่นี่จะมีการจัดแสดงแสงสีเสียงที่สวยงามอลังการ, อีเฟซัส, พระราชวังโทพคาปึ, ตลาดแกรนด์บาซาร์, หาดโอลูเดนิซ, พิพิธภัณฑ์ฮาเกียโซเฟีย สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง ซึ่งปัจจุบันที่นี่กลายเป็นมัสยิดและถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสต์ของประเทศ, คัปปาโดเกีย เมืองตอนกลางของประเทศตุรกีที่โดดเด่นเรื่องภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์สวยงามรวมกับเทพนิยาย ซึ่งกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเมืองนี้แล้วไม่ควรพลาด ก็คือการขึ้นบอลลูนชมวิวสวยๆ แบบพาโนรามานั่นเองค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้เราได้ไปเที่ยวชมความสวยงามมากมายอีกด้วยค่ะ

ประเทศรัสเซีย - เที่ยวได้ 30 วัน

( RUB หรือ รูเบิลรัสเซีย เป็นสกุลเงินของประเทศรัสเซีย )

ปิดท้ายด้วยดินแดนหมีขาว กับ "ประเทศรัสเซีย" ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่ในดินแดนยูเรเซียคาบเกี่ยวระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ชนชาติ และศิลปะ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวแลนมาร์คของที่นี่ คือ จัตุรัสแดง (Red Square) ลานสาธารณะของชาวรัสเซีย ที่ครั้งหนึ่งในอดีตที่นี่เคยเป็นตลาดและสถานที่สวนสนามของกองทัพเหล่าทหารในยุคที่สหภาพโซเวียตรุ่งเรือง ซึ่งใกล้ๆ กันก็มีสถาปัตยกรรม Moscow Kremlin ป้อมปราการใจกลางกรุงมอสโก ซึ่งเป็นเขตมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1990, มหาวิหารเซนต์บาซิล อาสนวิหารของศาสนจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย ที่ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์, พระราชวังฤดูหนาว พระราชวังสไตล์บาโรกที่ตั้งอยู่ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งในอดีตที่นี่เคยเป็ยพระราชวังหลวงของราชวงศ์โรมานอฟ นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อีกมากมาย อาทิ มหาวิหารเซนต์ไอแซค, พระราชวังเครมลิน, สวนอเล็กซานเดอร์ ฯลฯ

เรียกได้ว่าเอาใจคนรักการท่องเที่ยวต่างแดนสุดๆ กับ 10 ประเทศวิวสวย เที่ยวสบายไม่ง้อ Visa อัพเดทใหม่ 2019 ที่เรานำมาชี้พิกัดแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละประเทศให้เพื่อนๆ กัน ซึ่งแต่ละเมือง แต่ละประเทศก็มีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างไป และในปี 2019 นี้ ก็มีประเทศน่าเที่ยวที่เราสามารถไปได้แบบชิลๆ ไม่ง้อวีซ่ารวม 32 ประเทศเชียวล่ะค่ะ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถดูข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ใครชอบสไตล์ไหน แบบไหน วันหยุดนี้ลองจิ้มซักประเทศแล้วไปพักผ่อนพร้อมเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ กับคนรู้ใจกันดีกว่าค่ะ  ~

Tags: ที่เที่ยวฟิลิปปินส์ ที่เที่ยวตุรกี ที่เที่ยวสิงคโปร์ ที่เที่ยวเกาหลีใต้ ที่เที่ยวญี่ปุ่น ที่เที่ยวจอร์เจีย ที่เที่ยวรัสเซีย ที่เที่ยวเวียดนาม ที่เที่ยวไต้หวัน ที่เที่ยวมัลดีฟส์ ไต้หวัน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ตุรกี สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เกาหลี ญี่ปุ่น จอร์เจีย รัสเซีย ดำน้ำ ปีนเขา ภูเขา สวนดอกไม้ แหล่งช้อปปิ้ง

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้