ทริป 2 วัน 1 คืน เวลาเดินช้าๆ ที่บ้านจ่าโบ่ จ.แม่ฮ่องสอน

...ทริป 2 วัน 1 คืน เวลาเดินช้าๆ ที่บ้านจ่าโบ่ จ.แม่ฮ่องสอน...

ปลายฝนต้นหนาวนี้ ใครที่กำลังหาสถานที่สำหรับการพักผ่อนชิลๆ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าสนใจไม่เบา วันนี้จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ หมู่บ้านจ่าโบ่ ชุมชนเล็กๆ สุดน่ารักในอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่น่าไปใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์สักครั้ง

 A-Bo-Da-ya  (อาบูดะยา) เป็นคำกล่าวทักทายภาษาลาหู่ แปลว่า...สวัสดี

สวัสดี บ้านจ่าโบ่  หมู่บ้านเล็กๆกลางขุนเขาที่เต็มไปด้วยมนต์สเน่ห์แห่งวิถีชีวิต

...Day1...

          ออกเดินทางจากกรุงเทพโดยเครื่องบินรอบเช้าสุดมุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเราเดินทางสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนโดยรถตู้ส่วนตัวค่ะ 

(มีข้อมูลการเดินทางวิธีอื่นด้านล่างค่ะ) จากเชียงใหม่ เดินทางสู่บ้านจ่าโบ่ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ เราแวะทานอาหารกลางวันกันที่ อ.ปายและเดินทางต่อ จากปายไป บ้านจ่าโบ่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งค่ะ ระหว่างทางมีจุดชมวิวดอยกิ่วลม และจุชมวิวลุกข้าวหลาม เราสามารถแวะชมวิวข้างทางพักเข้าห้องน้ำได้ และถ่ายรูปสวยๆได้จ้า

จุดชมวิวลุกข้าวหลาม

          หมู่บ้านจ่าโบ่  ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอำเภอปายมากนัก ใช้เวลาเดินทางจากปายประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า บรรยากาศภายในหมู่บ้านทั้งสองฝั่งถนนเต็มไปด้วยบ้านเรือนไม้แบบชาวเขาดั้งเดิม ชาวบ้านในชุมชนบ้านจ่าโบ่ที่อยู่ในปัจจุบันเป็นชาวลาหู่ ล้วนเกี่ยวดองเป็นญาติกันทั้งหมด ยังคงใช้ภาษาและเครื่องแต่งกายแบบลาหู่ ซึ่ง แบ่งออกเป็น 3 ชาติพันธุ์ย่อย คือ มูเซอดำ มูเซอแดงและมูเซอเหลือง อาชีพหลักของคนในชุมชน คือทำไร่และเลี้ยงสัตว์ อาชีพรอง คือเก็บของป่าขาย และรับจ้างทั่วไป ช่วงที่เราไปเป็นช่วงฤดูฝน คนน้อย ชิลมากเลยค่ะ

          บ่ายๆหลังจากเดินชมหมู่บ้านเสร็จ เราก็เช็คอินเข้าที่พักกันที่ จ่าทอโฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์ในหมู่บ้านจะมีหลายหลังค่ะ โดยแต่ละหลังจะมีเจ้าบ้านต่างกันไป มีวิวของแต่หลังที่จะสวยงามแตกต่างกันไปค่ะ และสำหรับใครที่อยากกางเต้นท์ที่นี่ก็มีลานกางเต้นท์บริการด้วยนะคะติดต่อไปได้เลยจ้า (ลานกางเต็นท์จ่าทอ&โฮมสเตย์บ้านจ่าโบ่ 098-7900292)  ส่วนบ้านที่เราพักชื่อ โฮมสเตย์บ้านนายไชยวัฒน์  บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน วิวสวยเลยทีเดียวค่ะ บ้านพักเป็นหลัง หลังนึงพักได้ 2 ท่าน-4ท่าน (ห้องน้ำรวม)ราคาที่พัก 300 บาท/คืน รวมอาหารเย็น มีหมอน ผ้าห่ม มุ้งให้  ต้องเอาผ้าเช็ดตัวไปเองด้วยค่ะ ลืมบอกไปที่นี่ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี ธรรมชาติล้วนๆ ค่ะ ชิลมากเพราะอากาศเย็นทั้งปี ช่วงกลางคืนอากาศจะหนาว

อาหารเย็นของเราวันนี้ ต้มฟัก ไก่บ้านทอดน้ำปลา ผัดหน่อไม้ ไข่เจียวหมูสับ อร่อยมากค่ะ นั่งทานกันหน้าที่พักพร้อมชมวิวสวยๆ ผิงไฟอุ่นๆ โครตชิลเลยค่ะ วันไหนโชคดีก็จะสามารถมองเห็นทางช้างเผือกได้จากห้องพักเลยด้วยค่ะ

...Day2...

          เช้าวันที่สอง ตื่นกันแต่เช้า ขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกันที่ จุดชมวิวภูผาหมอก กันค่ะ จากหมู่บ้านนั่งรถมา5นาที ถึงจุดที่เดินเท้า เดินเทาขึ้นไปประมาณ 15 นาที ทางที่เดินขึ้นค่อนข้างก็จะได้เห็นวิวแบบนี้ค่ะ 

ลงจากจุดชมวิวเราแวะจิบกาแฟชิลๆ กันที่ Dek Doi Coffee (เด็กดอยคอฟฟี่) ที่นี่บอกเลยว่าห้ามพลาด กาแฟดี วิวเด็ด และชิลโครตๆ ร้านตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน ร้านเป็นร้านเล็กๆ มีระเบียงไม้ยื่นออกไปให้นั่งชมวิว นั่งชิลจิบกาแฟ หรือใครอยากจะนอนอ่านหนังสือเล่นก็มีมุมน่ารักๆให้นั่งค่ะ เครื่องดื่มในร้านอร่อยทุกเมนู ไม่ว่าจะกาแฟ ชาเขียว โกโก้ แถมเจ้าของร้านยังใจดีอีกด้วยค่ะ

จิบกาแฟชมวิวกันเสร็จท้องเริ่มร้อง ก่อนจะกลับเดินทางกลับเราแวะทาน ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ่ กันค่ะ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินของบ้านจ่าโบ่เลยค่ะ ร้านนี้เค้ามีที่นั่งริมระเบียงแบบเปิดโล่งให้นั่งห้อยขาซดน้ำก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ท่ามกลางบรรยากาศชิลๆ วิวสวยๆ แหมชิลสุดๆ (ร้านปิดทุกวันอังคาร)

 

ทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จก็บอกลาบ้านจ่าโบ และเดินทางกลับเชียงใหม่ค่ะ ครั้งนี้เราจองไฟล์ขากลับรอบดึงจึงยังพอมีเวลาเที่ยวอยู่ เรากลับทางปายเหมือนเดิม ระหว่างทางมีเวลาแวะเที่ยว น้ำพุร้อนธรรมชาติไทรงาม และ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย  

          น้ำพุร้อนธรรมชาติไทรงาม อยู่ใน อบต.แม่นาเติง บริเวณป่าอนุรักษ์ไทรงาม ตำบลแม่นาเติง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันซีน ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสวยงาม มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำกว้างใส ล้อมรอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่คอยให้ร่มเงา นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าการได้มาแช่ตัวที่น้ำพุร้อนแห่งนี้ยังช่วยบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ อย่างอาการของโรคเหน็บชา หรือไขข้ออักเสบ และเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการบรรยากาศความผ่อนคลายแบบชิลๆ เสียค่าธรรมเนียม ราคา 20 บาท/คน และเด็ก (อายุต่ำกว่า 15 ปี) ราคา 10 บาท/คน ค่ะ

ต่อกันที่ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย  สะพานแห่งนี้อยู่ระหว่างทางกลับค่ะ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 1095 สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทหารประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้ข้ามแม่น้ำปายและลำเลียงเสบียงและอาวุธเข้าไปยังประเทศพม่า ปัจจุบันสะพานประวัติศาสตร์ยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอำเภอปายอยู่เป็นประจำ เพราะถือเป็นอีกหนึ่ง แลนด์มาร์คของปายที่ไม่ควรพลาดต้องแวะมาเดินเล่นบนสะพานและถ่ายภาพ  ซึ่งบริเวณตัวสะพานยังมีร้านขายของที่ระลึกอีกด้วยค่ะ 

จากนั้นก็เดินทางกลับค่ะ จบแล้วสำหรับทริปสั้นๆเที่ยวแม่ฮ่องสอน เสาร์อาทิตย์ก็เที่ยวได้จ้า

ปล.ใครที่อยากจะไปพักที่ปายอีกคืนหือ อยากจะแวะไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนก็สามารถทำได้นะคะ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า "เพราะชีวิตคือการเดินทาง"

การเดินทาง

1.รถทัวร์นอน ของสมบัติทัวร์ ตามเวลารถออก 17:20 น. ถึงขนส่งแม่ฮ่องสอน 9 โมง เกือบ 10 โมง นั่งวินไปร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ต่อ ค่าเช่าวันละ 300 บาท มีมัดจำอีก 1500 บาท มีรถแล้วก็แว๊นซ์ต่อยาวๆ ไป “บ้านจ่าโบ่” เลย โค้งเยอะ ทางชัน มันส์ดี มีจอดแวะพักระหว่างทางกินนู้นนี่บ้าง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงถึงบ้านจ่าโบ่

2.นั่งเครื่องบิน มาลง เชียงใหม่ รถตู้เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ลงรถที่ปายแล้วเช่ามอเตอร์ไซค์ไปบ้านจ่าโบ่อีกประมาณ 56 กิโลเมตร

3.รถโดยสาร ที่ผ่าน ปางมะผ้า - แม่ฮ่องสอน มาลงหน้าปากทางหมู่บ้านแล้วโบกรถเข้าไปจากหน้าปากทางประมาณ 3 กิโล ส่วนขากลับ

ก็แอบๆ เนียนๆ ขอติดรถนักท่องเที่ยวที่มาลงไปที่ปายก็ได้ ค่ะ ^^

4.คือเหมารถจากในหมู่บ้านมารับ วิธีนี้ถ้ามากันหลายคนหารกันลงตัวสุด ถ้ามาคนเดียวก็เเล้วเเต่สะดวกค่ะ

Tags: ที่เที่ยวเมืองแม่ฮ่องสอน เที่ยวอำเภอปางมะผ้า ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ก๋วยเตี๋ยวหลับสิบวิวหลักล้าน บ้านจ่าโบ่ โฮมสเตย์บ้านจ่าโบ่ น้ำพุร้อนธรรมชาติไทรงาม สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ปาย เที่ยวปาย ทริป2วัน1คืน เด็กดอยคอฟฟี่

เขียนโดย

Maprang Chillpainai

แชร์บทความนี้