0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ทริปเที่ยวปราจีนบุรี 3 วัน 2 คืน ใกล้แค่นี้...ดีต่อใจ

calendar_month 26 มิ.ย. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 45,680 / สถานที่ยอดนิยม

ปีๆ หนึ่งผ่านไปไวจริงจริ๊งงง..นี่ก็เลยครึ่งปีมาแล้วก็ต้องหาเวลาพักผ่อนให้ตัวเองนิดนึง เวลาก็ไม่ค่อยจะมีขอไปเที่ยวใกล้ๆ ก็แล้วกัน…นึกขึ้นมาได้พอดีว่าบ้านเพื่อนสนิทอยู่จังหวัดปราจีนบุรี ที่ไม่ได้ไกลอะไรเลยจากกรุงเทพมหานคร แต่!! ก็ไม่เคยย่างเท้าไปแตะปราจีนบุรีสักที ครั้งนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดีจึงโทรไปขอให้เพื่อนแนะนำที่เที่ยวในจังหวัดปราจีนบุรีมาให้หน่อย ก็เลยเป็นที่มาของทริป ปราจีนบุรี 3 วัน 2 คืน ใกล้แค่นี้...ดีต่อใจ นี่แหละค่าา

ปราจีนบุรี


Day 1 

เมื่อวันหยุดมาถึงเรามักจะตื่นเช้าได้ด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องมีนาฬิกาปลุกเสมอ ทำไมนะ? คงเป็นเพราะตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ออกเดินทางแหละมั้ง วันนี้เราออกเดินทางกันตั้งแต่  7 โมงเช้า ขับรถชิลๆ สบายๆ ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา และทางหลวง 319 เข้าอำเภอศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ เราก็มาถึงสถานีตำรวจภูธรศรีมโหสถ อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ เราขับรถถูกกฏจราจรมาตลอดทาง แต่ที่ต้องเลี้ยวเข้าสถานีตำรวจก็เพราะว่าเราจะเริ่มต้นทริปนี้ด้วยการมาสักการะขอพร “หลวงพ่อทวารวดี” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สมัยทวารวดี ณ ศาลที่ตั้งอยู่ในบริเวณสถานีตำรวจฯ นี่เองค่ะ

หลวงพ่อทวารวดี ปราจีนบุรี

หลวงพ่อทวารวดี เป็นพระพุทธรูปประทับยืนปางประทานธรรมสร้างจากหินทรายสีเขียวอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 12-14 ถูกพบโดยผู้ป่วยโรคเรื้อนขณะขุดดินเพื่อปลูกข้าวโพดใกล้กับโรงพยาบาลโรงเรื้อน หลังจากนั้นชาวบ้านจึงอัญเชิญไปตั้งไว้ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอ ระหว่างที่เดินเข้าไปกราบขอพรก็เห็นผู้คนเดินเข้ามาไม่ขาดสาย เราก็เลยขอแอบถามนิดนึงว่าส่วนใหญ่มาขอพรเรื่องอะไรกัน? ซึ่งก็ได้คำตอบมาว่า ขออะไรก็ได้สมใจหวังทั้งนั้น ถ้าไม่มีกรรมใดมาบดบังเราก็เลยได้แต่แอบหวังว่าพรที่เราขอท่านไปนั้นจะไม่มีอะไรมาบดบังนะ สาาาธุ

หลวงพ่อทวารวดี ปราจีนบุรี

ที่ตั้ง : ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี

เวลาเปิดปิด : ทุกวัน 08.30 - 16.30 น.

GPS : https://goo.gl/maps/4kySjUuMR7xCuwFHA

...หลังจากนั้นเราเดินทางต่อไปอีกไม่นานจนถึง วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ  วัดสำคัญของจังหวัดปราจีนบุรี ที่คนปราจีนต้องบอกว่า ถ้ามาปราจีนต้องมาที่นี่เลยนะ ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงปราจีนบุรี ซึ่งเราเองก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าที่นี่เป็นที่ที่ได้นำต้นศรีมหาโพธิ์จากอินเดียมาปลูกเป็นต้นแรกของประเทศไทย เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดในเมืองไทยเลยก็ว่าได้

วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ  ปราจีนบุรี

เมื่อเราไปถึงวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิเราก็เดินเข้าไปภายในระเบียงคตที่อยู่ตรงข้ามกับวัด จะได้เจอกับต้นโพธิ์ขนาดใหญ่สูงกว่า 30 เมตร ที่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมไปทั่วระเบียงคตทำให้ได้ความรู้สึกที่ร่มรื่นและสงบขึ้นมาทันที ต้นโพธิ์ต้นนี้มีอายุกว่า 2,000 ปี เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดปราจีนบุรี  ที่สำคัญมีความเชื่อกันว่าต้นโพธิ์ต้นนี้เป็นหน่อจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับนั่งขณะตรัสรู้ ที่พุทธคยา ประเทศอินเดียอีกด้วย

วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ  ปราจีนบุรี

ที่ตั้ง :  ตำบล โคกปีบ อำเภอ ศรีมโหสถ ปราจีนบุรี  

เวลาเปิดปิด : 08:30 - 16:00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/L2Sg5Qez3Dz3WNy8A

...ขับต่อออกมาไม่นาน เราก็ไปแวะกันที่ กลุ่มโบราณสถานสระมรกต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโบราณสถานเมืองศรีมโหสถ หลายคนอาจจะไม่เคยรู้ว่าจังหวัดปราจีนบุรีที่อำเภอศรีมโหสถเป็นที่ตั้งของ เมืองโบราณสมัยทวารวดีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีคูเมืองและคันดินกำแพงเมืองล้อมรอบคูน้ำ ภายในเมืองส่วนใหญ่เป็นศาสนสถานเกี่ยวกับพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์ ฮินดูตามรูปแบบสถาปัตยกรรมทวารวดีและเขมรโบราณ มีทั้ง วิหาร เจดีย์ อโรคยาศาล สระน้ำและบ่อน้ำต่างๆ

รอยพระพุทธบาทคู่ ปราจีนบุรี

สิ่งสำคัญของกลุ่มโบราณสถานสระมรกตก็คือ รอยพระพุทธบาทคู่ ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย รอยพระบาทคู่ถูกสลักอยู่บนศิลาแลงธรรมชาติ ลักษณะเหมือนรอยเท้ามนุษย์ นิ้วเท้ายาวไม่เท่าและเรียงไม่เสมอกันกลางฝ่าพระบาทแต่ละข้างสลักรูปธรรมจักร  ตรงกลางมีหลุมสำหรับใช้ปักเสา สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อปักฉัตรหรือร่ม คาดว่าสร้างขึ้นครั้งแรกสมัยมวารวดีถึงสมัยลพบุรี นับเป็นรอยพระพุทธบาทคู่ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย

รอยพระพุทธบาทคู่ ปราจีนบุรี

บริเวณใกล้เคียงกันมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งพบพระพุทธรูปและโบราณวัตถุเป็นจำนวนมากภายในบ่อ นอกจากนี้ น้ำในบ่อน้ำแห่งนี้ยังน้ำที่นำขึ้นทูลเกล้าถวายเนื่องในพิธีรัชมังคลาภิเษกอีกด้วย เราจึงขอตักน้ำมาลูบผมเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นเราเดินต่อไปยังด้านหลังเพื่อไปดู สระมรกต สระน้ำรูปสี่เหลี่ยมพื้นผ้าขนาดกว้าง 115 เมตร ยาว 215 เมตร ลึก 3.5 เมตร สันนิษฐานว่าขุดขึ้นมาใช้เป็นแหล่งน้ำและนำศิลาแลงไปใช้ในการก่อสร้าง บริเวณใกล้ๆ กันมีอาคารศรีมโหสถ เป็นศูนย์นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโบราณสถานเมืองศรีมโหสถ

สระมรกต ปราจีนบุรี


ที่ตั้ง :  วัดสระมรกต ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี

เวลาเปิดปิด : 08:30 - 16:00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/AwGjmYg6TB1fEJhQ7


...ถึงเวลาทานข้าวกันแล้วค่า เราไปทานมื้อเที่ยงกันที่ร้าน The Platoo Kitchen ร้านที่ใช้ปลาทูแม่กลองเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร ที่บอกได้เลยว่าคุณจะต้องลืมเมนูปลาทูทอดธรรมดาๆ ไปเลย “ปลาทู” วัตถุดิบหลักในการทำอาหารของเราวันนี้เป็นเจ้าปลาทูแม่กลองจากมหาชัยที่มีความพิเศษจากที่อื่นๆ เพราะว่าทานได้ทั้งตัว ตั้งแต่หัวยันหางแบบที่ไม่ต้องกลัวก้างติดคอเลยด้วย

The Platoo Kitchen ปราจีนบุรี

ไม่เคยนึกเลยจริงๆ ว่าจะนำปลาทูธรรมดาๆ มาทำอาหารได้หลากหลายมากขนาดนี้ ที่สำคัญกินได้ทั้งตัว ยันหัวและหางเลย แต่เมนูแนะนำที่มาแล้วต้องกินก็คือ “ปลาทูต้มกะทิสายบัว” สูตรโบราณ เมนูที่ชวนให้คิดถึงตอนเด็กๆ ที่สำคัญ ไม่ได้มีให้กินกันตลอดนะคะ บางทีช่วงแล้งมากๆ สายบัวหายาก เมนูนี้ก็ถูกงดไป วันนี้ถือว่าเราโชคดีมากๆ เลย

The Platoo Kitchen ปราจีนบุรี

แล้วถ้าใครติดอกติดใจเจ้าปลาทูที่กินได้ตั้งแต่หัวยันหางล่ะก็ เขาก็มีให้ซื้อกลับไปกันนะคะ ราคาเข่งล่ะ 100 บาท เก็บไว้ได้ 3 - 4 วัน แต่ถ้านำไปแช่ช่องฟรีซก็จะอยู่ได้  3 เดือนเลย ถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวปราจีนบุรีก็อย่าลืมแวะมาทานปลาทูที่นี่กันนะคะ

ที่ตั้ง : 80 ม.10 ถ.สุวรรณศร ต.โนนห้อม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

การเดินทาง : ริมถนนสุวรรณศร กิโลเมตรที่ 163

เวลา เปิด-ปิด : ทุกวัน พุธ - จันทร์ 07.45 - 20.30 น.

โทร. 089-998-8635

GPS : https://goo.gl/maps/BNaen45JY6KuKYVQ7


...ถึงเวลาเข้าที่พักกันแล้ววว คืนนี้เราพักกันที่ เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน (The Verona at Tub Lan) ที่พักสไตล์อิตาลีที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมืองเวโรน่าประเทศอิตาลี เมืองแห่งความรักต้นกำเนิดของโรมิโอและจูเลียต นวนิยายชื่อดังของโลก

เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน  ปราจีนบุรี

เช็คอินเรียบร้อยขอเอาของเข้าไปเก็บในห้องกันก่อน คืนนี้เราพักกันที่ห้อง Verona Deluxe ห้องพักแสนหวานแบบสตูดิโอที่เปิดประตูห้องออกมาก็มองเห็นวิวทะเลสาบเลย

เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน  ปราจีนบุรี

เก็บของเรียบร้อย พร้อมเดินเล่นถ่ายรูปมากกกก เชื่อเลยว่าถ้าใครได้ก้าวเท้าเข้ามาในเวโรน่า แอท ทับลานแล้วล่ะก็ จะต้องรู้สึกเหมือนหลุดเข้าในอีกดินแดนนึงเลยแหละ เพราะที่นี่เขาจำลองแลนด์มาร์คของเมืองเวโรน่า ทั้งทะเลสาบการ์ดาและสะพาน Castelvecchio, หอคอย Lamberti ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยวิวภูเขาของอุทยานแห่งชาติทับลาน สมแล้วจริงๆ ที่เป็นอาณาจักรแห่งการพักผ่อนเมื่อมาถึงเวโรน่า แอท ทับลานแล้ว กิจกรรมห้ามพลาดเลยคือ นั่งเรือกอนโดล่าล่องทะเลสาบชมบรรยากาศยามเย็นในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ฟินนนสุดๆ ไม่ต้องบินไปไกลถึงอิตาลีเลยจ้า

เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน  ปราจีนบุรี

เดินเล่นถ่ายรูป นั่งเรือชมบรรยากาศกันจนเพลินก็ได้เวลาอาหารเย็นกันแล้ว เย็นนี้เราไปดินเนอร์กันที่ร้านอาหารแบล็ควู๊ด ร้านอาหารอิตาเลียนฟิวชั่นไทย ตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบการ์ดา บอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก...เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน  ปราจีนบุรี

เมนูนำเสนอวันนี้ พิซซ่าฮาวายเอี้ยนแป้งบางกรอบ แซลมอนรมควันยำวุ้นเส้นรสแซ่บถูกใจคนชอบรสจัดจ้านอย่างแน่นอน ใครอยากซดน้ำก็มีเมนูปลาเก๋าต้มเผือก แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว และเมนูซิกเนเจอร์อย่างขาหมูแบล็ควู้ด ขาหมูเยอรมันสูตรพิเศษของทางร้านที่ใครมาก็ต้องสั่งจานนี้เลยจ้า

เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน  ปราจีนบุรี

The Verona at Tub Lan

ที่อยู่ : 251 หมู่ 6 ต.บุพรามณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

ราคา :  เริ่มต้น 2,500 บาท

โทร :  096-324-4423

GPS :https://goo.gl/maps/7pbgLAGyXPnnDBzR9


Day 2


วันนี้เราออกกันแต่เช้าหน่อยเพราะมีกิจกรรมสุดท้าทายรอเราอยู่ แต่ก่อนจะไปแอดเวนเจอร์ ขอแวะช้อปปิ้งก่อน เพราะได้ยินมาว่าใกล้ๆ กับเวโรน่า แอท ทับลาน มีกลุ่มจักสานใบลานอยู่ เราก็เลยขอแวะไปดูกันหน่อยเผื่อซื้อเป็นของฝากด้วย

กลุ่มจักรสานใบลานบ้านทับลาน ปราจีนบุรี

ที่กลุ่มจักรสานใบลานบ้านทับลานแห่งนี้ เป็นวิสาหกิจชุมชนที่ผลิตสินค้าจากใบลาน เพราะบริเวณนี้ถือเป็นป่าลานที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทยและเป็นสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาวของจังหวัดปราจีนบุรีเลยนะ  วันนี้เราโชคดีที่ไปในช่วงที่ชาวบ้านกำลังจะออกไปตัดใบลานพอดีเราก็เลยขออาสา

ตามไปช่วยด้วยยกลุ่มจักรสานใบลานบ้านทับลาน ปราจีนบุรี

ชาวบ้านจะเลือกต้นลานที่อายุ 40-50 ปี ดูจากขนาดลำต้นและเลือกที่ยอดใบลานไม่บาน ตัดเอาแต่ยอดแล้วนำใบลานที่ตัดจากต้นมาฉีกเป็นแผ่นๆ ตากแดดให้แห้งแล้วเลียดเป็นเส้นตามขนาดที่ต้องการแล้วก็จะนำมาสานเอามาเป็นหมวก กระเป๋า กล่องรูปแบบต่างๆ แต่สินค้าขึ้นชื่อของที่นี่เลยก็คือ กระเป๋าผูกนิลวรรณ กระเป๋าจากใบลานธรรมดาๆ ที่ถือแล้วก็ดูดีได้น้าา

กลุ่มจักรสานใบลานบ้านทับลาน ปราจีนบุรีที่อยู่ : 525 ม.1 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี

โทร :  08-1996-0036, 08-9831-3369

GPS :https://goo.gl/maps/XwoSCwBJWetTprGA6

...แวะช้อปปิ้งกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปต่อกับกิจกรรมสุดท้าทายของปราจีนบุรี บอกเลยว่าสายลุยไม่ควรพลาด กับการไปล่องแก่งสุดมันส์ที่ แก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรีแก่งหินเพิง ปราจีนบุรี

แก่งหินเพิงเป็นแก่งหินตอนปลายสุดของแม่น้ำที่มีชื่อว่าแม่น้ำใสใหญ่ มีลักษณะทางธรณีวิทยาเป็นชั้นหินทราย เมื่อถึงฤดูฝนกระแสน้ำจะไหลหลากอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดเกาะแก่งต่างๆ มากมาย และในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายนนี่แหละ เป็นช่วงที่สวยและเหมาะที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวแก่งหินเพิง
แก่งหินเพิง ปราจีนบุรี

สำหรับคนที่อยากจะมาล่องแก่งหินเพิง เปิดให้ล่องตั้งแต่ 08.00-17.00 น. จะจองมาก่อนกับทางรีสอร์ทที่พักหรือมาติดต่อที่หน้างานก็ได้ ปกติราคาเหมาลำอยู่ที่ 8 คน  3,500 บาท รวมอาหารว่างและน้ำดื่ม แต่ถ้ามาน้อยกว่า 8 คนพี่เขาก็มีส่วนลดให้น้า เรามาถึงก็เริ่มต้นกันที่ หน่วยพิทักษ์ป่า ขญ.9 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และเดินป่าไปยังต้นน้ำ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 45 นาที

แก่งหินเพิง ปราจีนบุรี

พร้อมแล้วจ้าาา ตื่นเต้นสุดๆ เตรียมตัวลงแพ แพยางจะนั่งได้ประมาณ 8 -10 คน โดยเราจะเริ่มต้นกันที่แก่งหินเพิงเป็นจุดแรก จากแก่งหินเพิงลงมาจะผ่านแก่งวังบอน บริเวณนี้จะมีโขดหินสองฝั่งขวางกระแสน้ำอยู่จึงบีบให้กระแสน้ำเข้าหากับเป็นรูปตัววีและถ้าผ่านแก่งวังบอนมาได้ กระแสน้ำที่แก่งวังบอนจะไหลย้อนมาตรงนี้ สามารถพักเรือบริเวณนี้ได้ ล่องเรือต่อมาจะพบกับแก่งลูกเสือบอกเลยว่าตรงนี้มันส์มากก ล่องต่อไปเรื่อยๆ จนถึงแก่งวังไทร และแก่งงูเห่า เป็นแก่งสุดท้าย ใช้เวลาล่องประมาณ 2 ชั่วโมงสนุกมันส์จนลืมเวลากันเลย

ที่อยู่ : หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ. 9 (ใสใหญ่) อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

โทร : อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 08 6092 6527, 08 6092 6529, 08 6092 6531

เวลา : 08.00-17.00 น.

ฤดูกาลท่องเที่ยว: ช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม

GPS :https://goo.gl/maps/BR2RstkuxY9mbWYX7


...หลังจากสนุกสนานกับการล่องแก่งแล้ว เราก็เดินทางเข้าที่พักกันจ้าา ที่พักของเราวันนี้พูดชื่อไปทุกคนต้องร้อง อ๋อออออ...แน่นอน เพราะที่นี่เขาจัดเทศกาลดอกไม้อยู่บ่อยๆ นั่นคือ ดาษดา เดอะ ฟลาวเวอร์ เอสเซนซ์ รีสอร์ท (Dasada The Flower Es'Senses Resort) หรือที่หลายคนรู้จักในนาม “ดาษดา แกลเลอรี่”  นั่นเอง

ดาษดา เดอะ ฟลาวเวอร์ เอสเซนซ์ รีสอร์ท ปราจีนบุรี

ถึงแม้ว่าช่วงที่เรามาพักไม่มีสวนดอกไม้เพราะช่วงนี้เขาปิดซ่อมแซมอยู่ แต่บอกเลยว่าไม่เสียใจเลยที่มา เพราะบรรยากาศร่มรื่นมาก เงียบสงบให้ความรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก อาจจะเป็นเพราะที่นี่มีเนื้อที่กว้างขวางอยู่ติดเขา ขนาดมาช่วงนี้ที่กรุงเทพทั้งร้อนทั้งฝน แต่ที่นี่ก็ยังอากาศดี๊ดี... นอนฟังเสียงฝน เสียงนกร้อง ฟินสุดด

ดาษดา เดอะ ฟลาวเวอร์ เอสเซนซ์ รีสอร์ท ปราจีนบุรี

เรามาถึงก็เกือบเย็นแล้วค่ะ ด้วยที่นี่มีเนื้อที่กว้างมาก เขาเลยให้จอดรถไว้ด้านหน้าและจะมีรถกอล์ฟมารับ รวมถึงใช้ในการเดินทางไปไหนมาไหนในตัวรีสอร์ทด้วย เช็คอินเสร็จปุ๊บก็เก็บของเข้าห้อง ห้องที่เราพักวันนี้เป็นห้องพักโซนบาหลี ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นสบายตา ห้องกว้างมากกก... แถมห้องที่เราพักวันนี้เปิดหน้าต่างออกมาก็เจอสระว่ายน้ำเลยจ้า

ดาษดา เดอะ ฟลาวเวอร์ เอสเซนซ์ รีสอร์ท ปราจีนบุรี

เก็บของกันเรียบร้อยแล้วออกไปปั่นจักรยานเล่นกันหน่อย ใกล้ๆที่พักมีเป็นเหมือนอุโมงค์ต้นไม้เลย อากาศดีมาก

ดาษดา เดอะ ฟลาวเวอร์ เอสเซนซ์ รีสอร์ท ปราจีนบุรีท้องร้องแล้วจ้า ไปกินข้าวกันก่อนเพราะเดี๋ยว 1 ทุ่ม เราต้องไปชมการแสดงน้ำพุกัน มื้อเย็นนี้เราไปทานข้าวกันที่ “ร้านบลูม@ดาษดา” เมนูแนะนำที่เราสั่งมาวันนี้ ทั้งชื่อและหน้าตาน่ากินทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นปอเปี๊ยะสดบุปผาดาษดา, เมี่ยงดอกไม้, แกงส้มบุษบาปลาสลิดทอด และปลากระพงนึ่งซีอิ๊วทานคู่กับเส้นใหญ่ทอด บอกเลยว่าชอบจานนี้มากกก... ตักปลาเนื้อแน่นมาวางไว้บนเส้นใหญ่ที่มีความกรอบนอกนุ่มในแล้วราดน้ำจิ้มซีฟู้ด ฟินมากก!! อยากให้ลองจานนี้จริงๆ

ดาษดา เดอะ ฟลาวเวอร์ เอสเซนซ์ รีสอร์ท ปราจีนบุรี

เมื่อท้องอิ่มแล้วก็ใกล้เวลาแสดงของน้ำพุพอดี เราเตรียมพร้อมนั่งรถกอล์ฟไปที่ลานน้ำพุกัน ที่นี่เราจะได้พบกับการแสดงน้ำพุเต้นระบำ (Dancing Fountain) จากทีมผู้สร้างเดียวกับ Dubai Fountain และน้ำพุที่โรงแรม Bellagio เมือง Las Vegas รัฐ Nevada สหรัฐอเมริกา ใช้เวลาชมทั้งหมด 20 นาทีพร้อมเพลงประกอบการแสดง

ดาษดา เดอะ ฟลาวเวอร์ เอสเซนซ์ รีสอร์ท ปราจีนบุรี

ทั้งแสง สี เสียงจัดเต็ม อลังการมาก!! บอกเลยว่าไม่ควรพลาดจริงๆ นั่งดูเพลินมาก บางเพลงประกอบการแสดงก็เป็นเพลงที่ร้องได้เราก็นั่งร้องตามไปเผลอแป๊บเดียวจบซะแล้ว  อ้อ! ส่วนเพลงประกอบเราขออุบไว้นะว่ามีเพลงอะไรบ้าง อยากให้เพื่อนๆ มาฟังด้วยตัวเองเดี๋ยวจะไม่ตื่นเต้น

ที่อยู่ : 179 ม.12 ถ.ปราจีน - เขาใหญ่ ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี

ราคา :  ราคาเริ่มต้น 2,600 บาท

โทร :  090-198-7581

GPS :https://goo.gl/maps/PG1h22ejG5vxCwnh9


Day 3

วันสุดท้ายของทริปแล้วว วันนี้เราเข้ามาเที่ยวในตัวเมืองปราจีนบุรีที่ วัดแก้วพิจิตร พระอารามหลวงเก่าแก่ตั้งแต่ยุคสมัยรัชกาลที่ 5  และยังเป็นวัดนิกายธรรมยุติแห่งแรกของจังหวัดปราจีนบุรี สร้างโดยเศรษฐีนีใจบุญชาวปราจีนบุรี ชื่อนางประมูล โภคา แต่ต่อมาในปี พ.ศ.2461 เจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่ที่ชำรุดผุพัง นอกจากเป็นวัดสำคัญในประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของปราจีนบุรีแล้ว ที่นี่ยังนับว่าเป็นวัดสวยสุดอันซีนของปราจีนบุรีก็ว่าได้

วัดแก้วพิจิตร  ปราจีนบุรี

บอกเลยว่าเราไม่เคยเห็นพระอุโบสถโทนสีชมพูสวยแปลกตาแบบนี้มาก่อน ด้วยลักษณะโดนเด่นทางสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนที่ไหน ซึ่งตามประวัติบอกว่าถูกก่อสร้างโดยฝีมือช่างและแรงงานชาวเขมรในสังกัดของเจ้าพระยาอภัยภูเบศรนั่นเอง จุดเด่นของวัดแก้วพิจิตรจึงอยู่ที่ตัวอาคารของพระอุโบสถที่มีการผสมผสานของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายไว้รวมกัน ทั้งสถาปัตยกรรมไทยในส่วนของช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ศิลปะจีนที่รูปปั้นมังกรเขียวบริเวณหน้าจั่ว ศิลปะฝรั่งเป็นเสาแบบโครินเธียน และศิลปะเขมรที่รูปแบบหลังคากำแพงแก้วซุ้มประตูแก้วบริเวณทางเข้าพระอุโบสถ

วัดแก้วพิจิตร  ปราจีนบุรี

ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานปางอภัยทานองค์เดียวในโลก ออกแบบโดยสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และภาพวาดแผ่นผ้าเกี่ยวกับเรื่องราวในพระพุทธศาสนา เช่น ทศชาติชาดก มารผจญโดยช่างหลวงในรัชกาลที่ 6

วัดแก้วพิจิตร  ปราจีนบุรี

มาเที่ยวปราจีนบุรีแล้วอย่าลืมนะคะ ต้องมาชมพระอุโบสถและมากราบสักการะพระประธานปางอภัยทานองค์เดียวในโลกกันนะคะ

ที่อยู่ : ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี หมู่ 4 ถนนแก้วพิจิตร ต.บางบริบูรณ์ 

อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี

เวลาเปิดปิด : 07:00 - 18:00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/jHJbAqcaDDopz33Y9

...ห่างจากวัดแก้วพิจิตรเพียง 10 นาที เราก็เดินทางมาถึงโรงพยาบาลที่สวยที่สุดในประเทศไทยที่ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในโรงพยาบาลพระยาอภัยภูเบศร เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาแล้วเราก็จะเห็นตึกสองชั้นสีเหลืองแบบยุโรปโดดเด่นสะดุดตา ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมสมัยเรอเนสซองส์ มีมุขด้านหน้าตรงกลางเป็นโดม ผนังด้านนอกเป็นปูนปั้นลายพฤกษาประดับซุ้มประตูและหน้าต่าง ซึ่งเจ้าพระยาอภัยภูเบศรสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหากเสด็จประพาสมณฑลปราจีนอีกครั้ง แต่ไม่ทันได้เสด็จประทับพระองค์ก็เสด็จสวรรคตก่อน

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  ปราจีนบุรี

แต่ตึกนี้ก็เคยใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.6 รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์และเคยใช้เป็นตึกอำนวยการ ห้องตรวจโรค ห้องจำหน่ายยา ชั้นบนใช้เป็นห้องคนไข้หญิง ก่อนที่กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นโบราณสถานและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เที่ยวชมอย่างเป็นทางการ

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  ปราจีนบุรี

ภายในอาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้นด้วยกัน ชั้นล่างนอกจากจะจัดแสดงประวัติตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรแล้วก็มีคลินิกการแพทย์แผนไทย ร้านขายยาไทยต้นแบบ “โพธิ์เงินอภัยภูเบศรโอสถ” และร้ายขายผลิตภัณฑ์จากอภัยภูเบศรที่พึ่งย้ายเข้ามาในอาคารเพราะร้านเดิมด้านนอกปิดปรับปรุง

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปราจีนบุรี

ส่วนชั้น  2 จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติการพัฒนาสมุนไพรอภัยภูเบศรและประวัติโรงพยาบาลอภัยภูเบศร รวมถึงห้องประชุมสัมมนา

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  ปราจีนบุรี

ก่อนกลับก็ขอแวะซื้อผลิตภัณฑ์จากอภัยภูเบศรกันหน่อย มีให้เลือกหลายอย่าง ทั้งครีมทาผิว สบู่ ยาสระผม สเปรย์แก้ปวดเมื่อย และโฟมล้างหน้าเปลือกมังคุดที่เห็นเพื่อนใช้มานานวันนี้ต้องขอลองกันหน่อย

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  ปราจีนบุรี

ที่อยู่ : เลขที่ 32/7 หมู่ 12 ถนนปราจีนอนุสรณ์ ตำบลท่างาม จังหวัดปราจีนบุรี

โทร : 037 211 088

เวลาเปิดปิด : ทุกวัน 08.30-20.30 น.

GPS : https://goo.gl/maps/WJWMG74RkPH6vCnU8


...ก่อนกลับมีพี่ๆ แนะนำว่าไหนๆ ก็มาตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรแล้วให้แวะไปที่ ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะ หรือพิพิธภัณฑ์หมอไทย สิ เพราะเขาเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่เพิ่งแยกออกไปจากตัวโรงพยาบาลอภัยภูเบศร มีเนื้อที่กว้างขวางกว่าด้วย

พิพิธภัณฑ์หมอไทย ปราจีนบุรี

เมื่อมาถึงเราก็ไปยังจุดแสดงหลักของที่นี่ นั่นก็คือ เรือนหมอพลอย ซึ่งเรือนหลังนี้เป็นเรือนต้นแบบของความหมาย “เรือนเป็นยา บ้านเป็นยา” เพราะในการปลูกเรือนสมัยก่อนจะมีการดูทิศทางลม ทิศเหนือใต้ออกตก เพื่อให้บ้านตั้งอยู่ในมุมที่เหมาะสม และด้วยสภาพอากาศเมืองไทยเป็นเมืองร้อนเลยมักสร้างบ้านที่มีอาคารสูง มีหน้าต่างทุกด้านเพื่อรับลมทำให้อากาศถ่ายเทดี เราหายใจสะดวกเลือดลมไหลเวียนดี ไม่อึดอัดเหมือนห้องที่อับทึบติดแอร์แบบทุกวันนี้ อันนี้ถือเป็นความรู้ใหม่มากๆ แอบคิดไปไกลเลยว่าถ้าจะสร้างบ้านสักหลังจะขอใช้หลักการนี่แหละ พามาดูในบ้านกันบ้าง ชั้นล่างจะมีมุมยาย้อนยุคให้ผู้มาเยือนได้ตรวจธาตุเจ้าเรือน พร้อมกับได้ทดลองทำยาอย่างง่ายๆ รวมถึงร้านกาแฟ

64fca1f0b90c3692fed5ffb858b5a41c014be0b8.JPG

ในส่วนชั้น 2 แบ่งออกเป็น  3 ห้องจัดแสดง ห้องที่ 1  “ย้อนรอยหมอหลวง ชื่อหมอพลอย” ห้องนี้จัดแสดงเกี่ยวกับข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตของหมอพลอยและจำลองมุมสงบของห้องพระหมอพลอย ห้องที่ 2 “หมอไทยนั้นเป็นฉันใด” ห้องนี้เราจะได้เรียนรู้เรื่องราวการแพทย์เชิงระบบ การแพทย์เหนือธรรมชาติและการแพทย์พื้นบ้าน และห้องสุดท้าย ห้อง “หั่น สับ จับมาเป็นยา” ห้องนี้ชอบมากก...เพราะเราจะได้ลองทำ ลองหั่น ลองบดยาจริงๆ ท่ามกลางกลิ่นหอมจรุงของเครื่องยาจนนึกว่าอยู่ในละครหมอยาท่าโฉลงเลยนะเนี่ย

พิพิธภัณฑ์หมอไทย ปราจีนบุรี

ถ้าหากใครไปเที่ยวที่ตึกอภัยภูเบศรแล้ว ก็อย่าลืมแวะมากันที่ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะ กันด้วยน้า ห่างกันไม่ถึง 10 นาที เราจะได้มาเรียนรู้ความเป็นมาและความรู้ของสมุนไพรไทยกันว่ามันดีแค่ไหน

ที่อยู่ : หมู่ 1 ถนน 319 ตำบลบางเดชะ อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี

โทร : 097-0983582

เวลาเปิดปิด : ทุกวัน  08.30-16.30 น.

GPS : https://goo.gl/maps/8JKhdiSdnQbKgQrE6


...ก่อนกลับบ้านเราก็ไปแวะทานข้าวกันหน่อย เพื่อนบอกว่าในตัวเมืองปราจีนบุรีมีร้านอาหารกึ่งคาเฟ่สวยๆ อยู่ร้านนึงห่างจากพิพิธภัณฑ์หมอไทยแค่ 10 นาทีเอง ชื่อร้าน Gardener House Cafe & Bistro ใครผ่านไปผ่านมาแถวนี้เชื่อเลยว่าต้องสะดุดตากับเจ้าตึกสีฟ้านี้แน่ๆ

Gardener House Cafe & Bistro ปราจีนบุรี

เมนูของทางร้านที่ถึงแม้จะเน้นไปทางอาหารฝรั่งแต่ก็มีอาหารไทย อาหารทานเล่นของหวานและเครื่องดื่มด้วยน้า แต่เมนูขึ้นชื่อของทางร้านที่ไปแล้วต้องสั่งคือ “ทีโบนสเต็ก” สเต็กหมูเนื้อนุ่มๆ มาพร้อมความชุ่มฉ่ำจากมันที่แทรกอยู่ นำมาย่างแบบมีเดียม ราดด้วยซอสเกรวี่สูตรเฉพาะของทางร้าน เข้มข้นสุดๆ บอกเลยว่าจานนี้ห้ามพลาดเลยน้า
Gardener House Cafe & Bistro ปราจีนบุรี

ถ้าใครมาเที่ยวในเมืองปราจีนบุรีแล้วมองหาร้านอาหารกึ่งคาเฟ่น่ารักๆ อย่าลืมแวะมาที่ร้าน Gardener House Cafe & Bistro กันนะคะ บริการเป็นกันเองมากๆ บอกเลยไม่ผิดหวังค่า

ที่ตั้ง : 42/7 ม.2 ถ.ปราจีนอนุสรณ์ ต.ท่างาม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

การเดินทาง : หากมาจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ขับตรงมาตามถนน 304 ประมาณ 3 กม. ร้านอยู่ฝั่งซ้ายมือ

เวลา เปิด-ปิด : ทุกวัน จันทร์ - อาทิตย์ เวลา 08.00 - 19.00 น.

โทร. 098-661-668


จบทริปแล้ววว...เตรียมตัวกลับบ้าน วันหยุดทำไมผ่านไปเร็วแบบนี้น้าา แต่ก็ถือว่าใช้เวลาที่นี่ได้คุ้มค่ามากๆ เราขอยกให้ปราจีนบุรีทริปนี้ เป็นทริปที่ดีต่อใจจริงๆ ไม่ต้องขับรถไปไหนไกล ก็สนุกได้ครบแถมได้เก็บแต้มบุญในช่วงครึ่งปีหลังไปเต็มๆ เลย







เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai