calendar_month 19 มิ.ย. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 45,932 / รีวิวที่กิน
เอาใจสายชิลที่กำลังมองหาร้านอาหารบรรยากาศดีใกล้ๆ ในกรุงเทพฯ เราจะพาไปเช็คอินกันที่ Villa De Bear ร้านอาหารสุดคิวท์ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์หมู่บ้านฮอลแลนด์และโรงงานตุ๊กตาหมีสุดน่ารัก ซึ่งนอกจากเมนูอาหารอร่อยๆ แล้ว ที่นี่ยังเป็นเหมือนแลนด์มาร์คสำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปอีกด้วย รับรองว่ามาเช็คอินที่นี่ที่เดียว ได้ทั้งอิ่มอร่อยแถมยังได้รูปสวยๆ กลับไปเป็นร้อยแน่นอนจ้า!
Villa De Bear (วิลล่า เดอ แบร์) ตั้งอยู่โดดเด่นริมถนนเส้นราชพฤกษ์ พอเลี้ยวรถเข้ามาปุ๊บ..เราก็เจอกับรูปปั้น “พี่หมีวิลลี่” หมีดำตัวใหญ่รอต้อนรับที่ด้านหน้าร้านเลยค่ะ ภายในบริเวณร้านมีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ หลายมุมมากๆ เรียกว่าแวะเช็คอินกันตลอดทาง ตั้งแต่จอดรถจนเดินเข้าร้านก็กดชัตเตอร์กันรัวๆ จนเม็มฯ เกือบเต็มแล้วล่ะ!
มุม Back Drop ด้านหน้าร้าน ไอเดียเก๋มากๆ เพราะมีหน้ากากพี่หมีให้แขกที่มาทานอาหารที่นี่ ได้แอ็คชั่นถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันได้ด้วย
หลายคนอาจสงสัย ว่าทำไมต้องเป็นหมี? เพราะคอนเซ็ปต์ของ Villa De Bear คือโรงงานตุ๊กตาหมีที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้ทุกคนได้แฮปปี้ นำทีมโดยพี่หมีวิลลี่ ทายาทเจ้าของโรงงานตุ๊กตาหมีแห่งนี้ ท่ามกลางดีไซน์การตกแต่งร้านที่เก๋ไก๋สะดุดตา ตั้งแต่ตัวอาคารที่ออกแบบให้เหมือนอาคารหมู่บ้านฮอลแลนด์สไตล์ยุโรป และการบริการต้อนรับที่อบอุ่นของพนักงาน และยังมีเรื่องราว Story ให้เราได้ยิ้มกับความน่ารักของพี่หมีวิลลี่และเพื่อนๆ ทั้ง 4 ตัว
ภายในร้านมีพื้นที่กว้างขวาง แบ่งออกเป็น 5 โซน โซนแรกคือโซน A ที่เป็นลานเอาท์ดอร์ดนตรีสด สำหรับใครที่อยากมานั่งทานอาหารพร้อมฟังเพลงเพราะๆ ไปด้วยชิลๆ
โซนต่อมาคือโซน B ที่เป็นอาคารหลัก เรียกว่า Ware House หรือโรงงาน ภายในตกแต่งโดยจำลองบรรยากาศของโรงงาน ซึ่งแบ่งเป็นโซนตัดเย็บและโซนตุ๊กตาหมี โดยมีไฮไลท์อยู่ที่หลอดด้ายยักษ์สีสันสดใส เป็นพร็อบตกแต่งเพดานได้อย่างเก๋ไก๋ ผนังด้านหนึ่งเป็นงานเหล็กรมดำเท่ๆ ดีไซน์เป็นรูปชิ้นส่วนต่างๆ ในการทำตุ๊กตา เหมือนกับว่าเราได้มานั่งทานข้าวในโรงงานตุ๊กตาหมีของพี่วิลลี่จริงๆ
มุมสุดฮิตที่เรียกว่าฮ็อตมากๆ คือโซนจัดแสดง ที่เป็นที่นั่งโซฟายาวติดริมผนัง ด้านหลังเป็นรูปพี่หมีวิลลี่ ทายาทเจ้าของโรงงาน Villa De Bear นั่นเอง ใครอยากมาทานข้าวแล้วได้เซลฟี่ร่วมเฟรมกับพี่วิลลี่ แนะนำจองที่นั่งโซนนี้ล่วงหน้ากันนะ
สำหรับใครที่มากับเพื่อนหรือครอบครัว ก็อาจเลือกโต๊ะริมกระจกที่เป็นส่วนตัว สามารถนั่งทานข้าวแล้วดูวิวด้านนอกไปด้วยได้
จากนั้นเราเดินขึ้นไปสำรวจบนชั้นสอง ซึ่งก็จำลองเป็นห้องกระดุม ที่เครื่องจักรจะลำเลียงตุ๊กตาขึ้นไปติดกระดุมด้านบนอีกที นอกจากตรงบันไดจะเป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ แล้ว โซนห้องกระดุมยังสามารถจัดงานไพรเวทปาร์ตี้เล็กๆ ได้ด้วย วันที่เราไปก็มีแขกมาจองจัดปาร์ตี้เซอร์ไพรส์ขอแต่งงานด้วย ไม่แปลกใจเลยเพราะบรรยากาศร้านน่ารักและโรแมนติกมากๆ เลยค่ะ
ส่วนด้านนอกของโรงงาน Ware House คือ โซนเอาท์ดอร์ริมน้ำสุดโรแมนติก โซนนี้มีหลังคาเหมาะกับช่วงหน้าฝนแบบนี้ที่ใครอยากนั่งทานข้าวมองสายฝนไปด้วยชิลๆ พร้อมยังมีดนตรีสดเพราะๆ มาเล่นให้ฟังช่วงหัวค่ำในบรรยากาศสบายๆ จะมาแฮงค์เอาท์กับเพื่อนหลังเลิกงาน หรือพาคนรู้ใจมาดินเนอร์ในวันหยุดก็ฟินได้ทุกสไตล์เลยค่ะ
และสำหรับใครที่อยากมาจัดเลี้ยงปาร์ตี้สังสรรค์ ที่ Villa De Bear ก็ยังมีโซนจัดเลี้ยงโดยเฉพาะอย่าง Villy Room โดยมีทั้งห้องแอร์และโซนเอาท์ดอร์บนระเบียงดาดฟ้าชั้นบน รองรับแขกได้จำนวนตั้งแต่ 40-90 คน ซึ่งทางร้านก็จะมีโปรโมชั่นห้องจัดเลี้ยงในราคาสุดคุ้มอยู่บ่อยๆ ใครมองหาร้านอาหารบรรยากาศดีไว้จัดงานเลี้ยงบริษัท หรือปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อนแก๊งค์ใหญ่ ลองสอบถามทางร้านได้เลยค่ะ
เอาใจขาปาร์ตี้ที่ชอบร้องเพลง ด้วยโซนห้องคาราโอเกะที่มีถึงให้เลือกถึง 4 ห้อง บอกเลยว่าแต่ละห้องตกแต่งได้น่ารักมากๆ และดีไซน์ไม่ซ้ำกันเลยสักห้อง แถมช่วงนี้ทางร้านยังมีโปรโมชั่นลดค่าห้อง 50% (สมาชิกลด 60%) จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ด้วยนะ บอกเลยว่าคุ้มมากๆ เลยค่ะ
เริ่มด้วยห้องเล็กที่สุดก่อน กับ “ห้องพี่หมี Christy” หมีสาวเชฟขนมหวาน ห้องคาราโอเกะขนาดสำหรับ 15-17 คน ราคา 1,800 บาท ราคานี้เราสามารถใช้ห้องได้ยาวตั้งแต่ 5 โมงเย็นไปจนถึงเที่ยงคืนเลยค่ะ (ถ้าหากมาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็เปิดเพิ่ม มานั่งร้องเพลงยาวๆ ได้ตั้งแต่ช่วง 11.00-16.00 น.) ภายในห้องตกแต่งสวยหวานและมีชุดเครื่องเสียงคาราโอเกะให้พร้อมสรรพ และยังมีเพลย์ลิสต์เพลงให้เลือกหลากหลาย ทั้งเพลงจีน, เกาหลี, อินเตอร์ ไปจนถึงเพลงไทย ซึ่งทางร้านจะอัพเดทเพลงใหม่ๆ เป็นประจำ
ห้องถัดมาคือ “ห้องพี่หมี Sammy” พี่หมีช่างตัดเย็บประจำโรงงาน ห้องนี้รองรับได้ 20 คน ราคา 2,000 บาท ภายในตกแต่งได้กลิ่นอายความเป็นช่างตัดเย็บของพี่แซมมี่ มีทั้งกระดุม,หลอดด้าย,จักรเย็บผ้า ฯลฯ และโคมไฟที่ฝังในกระดุมไม้ห้อยลงมาจากเพดานห้องเก๋ๆ
ขยับพื้นที่มาที่ “ห้องพี่หมี Tubie” ช่างก่อสร้างประจำตระกูล มาพร้อมการตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์เท่ๆ ดิบๆ แบบนายช่างใหญ่ ทั้งสายโซ่และเครื่องมือช่างอย่างค้อน, ไขควง, ประแจ ฯลฯ ประดับบนกำแพง
ห้องนี้ราคา 2,000 บาทเท่ากับห้องก่อนหน้า แต่ว่าสามารถรองรับได้มากกว่าถึง 25 คน เพราะมีที่นั่งโซฟายาวติดผนังอีกฝั่งที่มีหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งสบาย ไม่อึดอัด
ปิดท้ายด้วย “ห้องพี่หมี Kinny” พี่หมีเชฟใหญ่ประจำร้าน ห้องนี้เป็นห้องคาราโอเกะที่ใหญ่ที่สุด รองรับได้ถึง 27 คน ราคา 2,500 บาท
สไตล์การตกแต่งของห้องนี้ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าได้มาร้องคาราโอเกะในห้องครัวใหญ่ของเชฟพี่หมีคินนี่เลยค่ะ เพราะมีทั้งของตกแต่งอย่างเครื่องครัว, ผักและผลไม้ แต่ที่ชอบที่สุดคือไอเดียงานเหล็กที่ดีไซน์เป็นรูปเตาแก๊สติดบนผนังกระเบื้องเซรามิกสีขาว ดูมินิมอลแต่ก็อบอุ่นสมเป็นห้องครัวของเชฟจริงๆ
สำรวจทั่วร้านแล้ว มาดูอาหารที่นี่กันบ้าง เมนูที่ร้าน Villa De Bear มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ บอกเลยว่าน่ากินทั้งนั้นเลยค่ะ
เรียกน้ำย่อยจานแรกกันกับเมนูสุดแซ่บอย่าง “ยำไหลบัวปูไข่ดอง” ที่ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบอย่างไหลบัวสดๆ ที่ทุกวันนี้หาทานยาก นำมายำกับปูไข่ดอง ไข่แน่นๆ เน้นๆ เต็มๆ คำ น้ำยำรสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็มนิดๆ ลงตัวกำลังดี จานนี้เป็นได้ทั้งกับแกล้มและกับข้าวเลยค่ะ
ต่อด้วยเมนู “หมูฮ้อง” อาหารขึ้นชื่อของภูเก็ต หมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว ตุ๋นจนเนื้อนุ่มกำลังดี ปรุงจนออกมาเป็นเมนูหมูฮ้องรสชาติกลมกล่อมละมุนลิ้น หอมซีอิ๊วและเครื่องยาจีน ซึ่งเมนูนี้ของทางร้าน Villa De Bear เป็นสูตรภูเก็ตแท้ๆ รับรองอร่อยไม่แพ้ต้นตำรับแน่นอน
อีกหนึ่งเมนูแนะนำ “เนื้อปูผัดพริกขี้หนูสด” ที่ทางร้านใช้เนื้อปูก้อนไซส์ใหญ่นำมาผัดกับพริกขี้หนูสด รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องแบบผัดพริก อร่อยจนต้องยกนิ้วให้เลยทีเดียว
ใครไม่กินรสจัด แนะนำสั่ง “ปลากะพงทอดน้ำปลา” ปลากะพงตัวใหญ่เนื้อแน่น สดหวาน นำไปทอดจนเหลืองกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยซอสน้ำปลาสูตรพิเศษ เสิร์ฟมาพร้อมกับยำมะม่วงรสแซ่บเพิ่มความจัดจ้าน
ถ้าใครกลัวไม่อิ่มก็มีเมนู “ปูผัดข้าว” เปล่า...เราไม่ได้เขียนผิด ชื่อเมนูนี้จริงๆ นะ ร้านอื่นอาจเป็นเมนูข้าวผัดปู แต่ที่ Villa De Bear เป็นปูผัดข้าว เพราะที่ร้านให้ปริมาณเนื้อปูเยอะมากเว่อร์! เสิร์ฟมาจานใหญ่มากๆ ถ้ามาหลายคนสั่งมาแบ่งกันทานได้สบายเลยค่ะ
ปิดท้ายด้วยเมนู “ต้มยำมะพร้าวน้ำหอมทะเล” เมนูชื่อเก๋ ที่ทางร้านใช้วัตถุดิบซีฟู้ดสดๆ ทั้งกุ้ง, หอยแมลงภู่ตัวใหญ่ ฯลฯ นำมาทำเป็นต้มยำรสจัดจ้านแบบไทยๆ เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าวน้ำหอมที่ส่งตรงมาจากสวนมะพร้าวในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมโดยเฉพาะ
เติมความสดชื่นด้วย Sweet Passion ม็อกเทลน้ำเสาวรส ท้อปปิ้งด้วยลูกลิ้นจี่ด้านบน รสเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่นคลายร้อนได้อย่างดี
ห้ามพลาดเครื่องดื่มค็อกเทลสีสวยอย่าง “Villy in love” ที่เสิร์ฟมาเป็นแก้วพร้อมดอกกุหลาบสีแดงและน้ำแข็งรูปหัวใจ และยังมีเหยือกใส่น้ำพันซ์ที่มีส่วนผสมของพีชและสตรอเบอร์รี่ให้เราค่อยๆ รินช้าๆ จนน้ำแข็งกลายเป็นไอ แก้วนี้ทั้งรสชาติหอมหวาน แถมยังมีกิมมิคให้เราถ่ายรูปอวดเพื่อนได้อีกต่างหาก สาวๆ ห้ามพลาดเลยค่ะ!
อย่าลืมเผื่อท้องไว้ทานของหวาน เพราะเมนูขนมหวานของที่นี่เค้าขึ้นชื่อมากกกก... โดยเฉพาะเมนูซิกเนเจอร์อย่างขนมหวานเนื้อมูส ที่ทำเป็นรูปพี่หมีวิลลี่และผองเพื่อน 4 ตัว 4 รสชาติ ทั้ง Villy Mousse ดาร์กช็อกโกแลตมูสรสเข้มข้น ได้รสชาติช็อกโกแลตแท้ๆ เต็มๆ คำ, Kinny Mousse ตัวนี้ด้านในเป็นไวท์ช็อกโกแลตมูสเนื้อเนียน รสชาติหวานหอมละมุนลิ้น ซึ่งด้านในแต่ละตัวสอดไส้ด้วยเยลลี่สตรอว์เบอร์รีและราสป์เบอร์รีแตกต่างกันไป อย่าง Sammy Mousse มูสเสาวรสที่ทำจากเสาวรสแท้ๆ ด้านในก็จะสอดไส้เยลลี่เสาวรส รสเปรี้ยวอมหวาน อร่อยมากกก... และ Tubie Mousse มูสไส้เผือกผสมกับไวท์ช็อกโกแลตหวานมัน หน้าตาน่ารักน่ากินสุดๆ
ถ้าใครมาทานอาหารช่วงค่ำ ทางร้านยังมีนักดนตรีมาเล่นเพลงเพราะๆ ให้ฟังด้วยแบบนี้ ยิ่งเพิ่มความโรแมนติกให้อาหารมื้อนี้มากขึ้นเป็นพิเศษ
จุดเด่นอีกอย่างของ Villa De Bear ที่เราชอบมากๆ คือการตกแต่ง ที่ไม่ใช่เฉพาะภายในร้านอย่างเดียวเท่านั้น แม้กระทั่งห้องน้ำก็ยังสวยและเก๋มากกกก... แถมยังมีน้ำยาบ้วนปาก, ลูกอม, ยางมัดผม ฯลฯ ให้ลูกค้าหยิบใช้ได้ฟรี! บริการแบบ VIP จริงๆ
ทานอาหารเสร็จแล้วแวะไปถ่ายรูปกันต่อกับกำแพงเท่ๆ ของร้าน Villa De Bear กันซะหน่อย และถ้าโชคดีเรายังมีโอกาสได้เจอพี่หมีวิลลี่ ออกมาโชว์ตัวทักทายให้เราเซลฟี่คู่กับพี่หมีทายาทของร้านได้ด้วยนะ
ใครอยากมาทานอาหารอร่อยๆ แถมได้เช็คอินถ่ายรูปสวยๆ แบบนี้ แวะมาชิลกันที่ร้าน Villa De Bear ราชพฤกษ์กันได้เลย
Villa De Bear
ที่ตั้ง : ถนนราชพฤกษ์ (ปากซอยวัดอินทราวาส) ตำบลบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
เปิด : ทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 17.00-24.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 11.00 - 24.00 น.
โทร. 02-403-1515, 098-496-6245 (จองโต๊ะ)
FB / IG : villadebear
LINE Official : @villadebear
Tags: กรุงเทพ ร้านอาหารกรุงเทพ ร้านอาหารราชพฤกษ์ คาเฟ่ราชพฤกษ์ Villa de Bear วิลล่า เดอ แบร์ ร้านอาหารสวย บรรยากาศชิล ถ่ายรูป
รีวิวที่กิน | 07 ต.ค. 2024 | 465 อ่าน
รีวิวที่กิน | 01 ส.ค. 2024 | 667 อ่าน
รีวิวที่กิน | 10 ก.ค. 2024 | 1,482 อ่าน
รีวิวที่กิน | 30 เม.ย. 2024 | 5,989 อ่าน
รีวิวที่กิน | 30 เม.ย. 2024 | 4,632 อ่าน
รีวิวที่กิน ที่กิน | 02 เม.ย. 2024 | 2,891 อ่าน
รีวิวที่กิน | 26 ธ.ค. 2023 | 2,599 อ่าน
รีวิวที่กิน | 08 ธ.ค. 2023 | 9,735 อ่าน
รีวิวที่กิน | 21 มิ.ย. 2023 | 23,684 อ่าน
รีวิวที่กิน | 12 มิ.ย. 2023 | 42,244 อ่าน
รีวิวที่กิน | 24 พ.ค. 2023 | 11,422 อ่าน