calendar_month 27 พ.ค. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 114,154 / สถานที่ยอดนิยม , ที่เที่ยว
“เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ”
ใช่ค่ะ เราไม่ได้พาคุณไปเที่ยวตามคำขวัญจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่เราจะพาคุณไปรู้จักสุราษฎร์ธานีให้มากกว่า ทะเลสวย เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง จนคุณรู้สึกว่า ปีนี้คุณต้องแพคกระเป๋า สะกิดใครสักคนมาเที่ยวสุราษฎร์ ฯ ให้ได้ เพราะเราคัดมาให้คุณแล้ว ทั้ง จุดเช็คอินใหม่ ร้านอาหารบรรยากาศดี ท่องเที่ยววิถีชุมชน หรือสถานที่ยอดฮิตตลอดกาล แล้วปิดทริปด้วยการเก็บแต้มบุญ เสริมความเป็นสิริมงคล
อีกหนึ่งสถานที่ ที่แสดงความอุดมสมบูรณ์ของท้องถิ่น ดินแดนใต้ เมื่อน้ำสีฟ้าใสผุดขึ้นมากลางป่าต้นน้ำบ้านราด ชาวบ้านจึงช่วยกันพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ทั้งในและนอกจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ถึงแม้ว่าจะมีผู้คนเดินทางมายังบ่อน้ำผุดแห่งนี้ไม่ขาดสาย ที่ป่าต้นน้ำก็มีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยว ให้ช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีกฎระเบียบข้อห้ามนำสิ่งของทุกชนิดเข้าไปภายใน ยกเว้น โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป กระเป๋าสตางค์
และนมเด็ก
เมื่อเราซื้อบัตรเข้าเรียบร้อยแล้ว ระหว่างทางเดินเราจะเจอกับเจ้าตัวปูทูลกระหม่อม ซึ่งจะพบเห็นได้ในช่วงหน้าฝน ชาวบ้านเลยยกให้เจ้าปูทูลกระหม่อมเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ เดินต่อไปไม่นานก็พบกับบ่อน้ำสีฟ้าใส ใสจนเห็นตัวปลา ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราดแห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เพราะชาวบ้านเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ จึงนำมาไว้ใช้ในการประกอบพิธีกรรมที่สำคัญ รวมถึงเอาไว้กินไว้ใช้เป็นหลัก แต่เมื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม จึงกั้นส่วนเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเล่นน้ำได้ แต่อีกส่วนก็ยังคงเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่สามารถลงไปเล่นได้
นอกจากจะได้เล่นน้ำให้ชื่นใจกันแล้ว ยังมีกิจกรรมพายเรือชมธรรมชาติศึกษาเกี่ยวกับระบบนิเวศของป่าต้นน้ำแห่งนี้กันอีกด้วย ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีมัคคุเทศก์น้อยใช้เวลาช่วงวันหยุดมาพายเรือให้ แต่ถ้าใครไปวันธรรมดา อยากจะพายเองหรือให้เจ้าหน้าที่พายให้ก็ได้น้า
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ คนละ 10 บาท / เด็ก 5 บาท
บัตรลงเรือ : ผู้ใหญ่ 40 บาท /เด็ก 20 บาท
จ้างมัคคุเทศก์น้อย 50 บาท/ลำ
เวลาเปิด – ปิด : 09.00 - 17.00 น.
ที่ตั้ง : ต.บ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี
หากพูดถึงเขื่อนรัชชประภา หรือเดิมชื่อว่าเขื่อนเชี่ยวหลาน สถานที่ที่ได้รับฉายาว่า กุ้ยหลินเมืองไทย คงไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน เพราะเชื่อว่าที่นี่เป็นสถานที่ในฝันของใครหลายคน เขื่อนรัชชประภาถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำและใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า อีกทั้ง ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานนามใหม่ว่า เขื่อนรัชประภา ที่มีความหมายว่า แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร ด้วยทัศนียภาพที่เป็นแนวเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อนตัดกับผืนน้ำสีเขียวใสมรกตจึงเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยว เลือกที่จะกลับมาที่นี่ครั้งแล้วครั้งเล่า
กิจกรรมท่องเที่ยวในทะเลสาบเชี่ยวหลาน ก็มีให้เลือกมากมาย จะเหมาเรือแบบเช้าไปเย็นกลับ หรือจะซื้อทริปเหมารวมกับที่พักก็ได้ วันนี้เราเริ่มต้นกันด้วย ไฮไลท์ของเขื่อนรัชชประภา ล่องเรือชมเขาสามเกลอ หรือคนทั่วไปมักเรียกว่า กุ้ยหลินเมืองไทย เป็นภูเขาหินปูน 3 ยอดโผล่พ้นน้ำขึ้นมา จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเขื่อนรัชชประภาที่ใครมาก็ต้องนั่งบนหัวเรือแล้วถ่ายรูปคู่กับเจ้าเขาสามเกลอนี้ให้ได้
จากนั้นเราไปเที่ยวต่อที่ถ้ำปะการัง ซึ่งอยู่ในบริเวณทะเลใน 500 ไร่ และอยู่ในพื้นที่ดูแลของหน่วยพิทักษ์ป่า (ชั่วคราว) ห้วยถ้ำจันทน์ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคลองแสง เมื่อเรือจอดถึงฝั่ง เราเข้าไปซื้อบัตรกับเจ้าหน้าที่ และเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ประมาณ 1.5 กิโล โดยเส้นทางที่เราเดินเป็นทางที่ช้างใช้ลากซุงในสมัยก่อน ถ้าหากโชคดีวันที่ไปก็อาจจะได้เจอช้างกลางทาง แต่วันนี้เราคงพกโชคมาไม่พอ ก็เลยได้แต่มุ่งหน้าเดินต่อไป ใช้เวลาเดินไม่นาน เราก็ถึงหน่วยพิทักษ์ป่า (ชั่วคราว) ห้วยถ้ำจันทน์ เพื่อเตรียมตัวล่องแพไปยังถ้ำปะการัง โดยใช้เวลานั่งแพ เพียง 5 นาที ก็ถึงแล้วว ภายในถ้ำมืดสนิท อากาศชื้นเล็กน้อย แต่ปลอดโปร่ง ไม่อับ และไม่ร้อน ตามทางเดินเราจะพบกับหินงอก หินย้อย ลักษณะคล้ายปะการัง รวมถึงหินลักษณะแปลกตาอีกมากมาย สันนิษฐานว่า มีอายุกว่า 2,500 ล้านปี ถูกพบเมื่อปี พ.ศ. 2545 โดยเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยถ้ำจันทน์ สาเหตุที่ได้ชื่อว่าถ้ำปะการัง เพราะว่าถ้ำแห่งนี้เคยอยู่ใต้ท้องทะเลมาก่อน
ก่อนกลับก็ขอแวะถ่ายรูปกันที่ "เกาะต้นรัก" เกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ใจกลางทะเลสาบเชี่ยวหลาน ชมวิวแบบ 360 องศา กันหน่อย ที่นี่ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง หลวงพี่แจ๊ส 5G และเป็นสถานที่สุดฮิตที่คู่บ่าวสาว นิยมกันมาถ่าย Pre - wedding กันด้วยนะ แต่ถึงแม้เรายังไม่มีคู่กับเขา ก็ถือว่ามาซ้อมถ่ายก่อนก็แล้วกัน
สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเขื่อนรัชชประภา
อุทยานแห่งชาติเขาสก
โทร : 077-395139
ชมรมเรือ
โทร : 083-300-1730 หรือ 081-416-4364
สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวทะเลสาบเชี่ยวหลาน
โทร : 083 789 4493
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 3 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน (ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี 90 กิโลเมตร)
สะพานแขวนขนาดใหญ่ถูกขึงด้วยลวดสลิงยึดกับเสาคอนกรีต ปูพื้นด้วยแผ่นไม้กระดานบนโครงเหล็ก ระยะทาง 120 เมตร อยู่เหนือคลองแสง มีฉากหลังเป็นภูเขารูปหัวใจหรือเขาเทพพิทักษ์ สะพานรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 20 - 30 คน ในการข้ามแต่ละครั้งถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านระหว่างสองฝั่งคลองใช้สัญจรและขนพืชผลทางการเกษตร ที่สำคัญสร้างขึ้นเพื่อให้เรามีมุมถ่ายภาพ สวย ๆ เพิ่มขึ้นในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกได้ว่าเป็นมุมที่ธรรมชาติสร้างมาให้เราจริง ๆ
ใครไปสุราษฎร์ ฯ แล้วไม่ไปถ่ายรูปมุมนี้ ถือว่าพลาดมาก แต่จะถ่ายรูปให้สวยละก็ แนะนำให้เดินเลยกลางสะพานไปหน่อยเพื่อที่จะเห็นภูเขารูปหัวใจได้อย่างชัดเจนและสวยพอดี แอบกระซิบบอกก่อนถ้าใครคิดอยากจะไปถ่ายรูปตอนเช้า อาจจะเห็นวิวภูเขาสวยแต่คลองแสงอาจจะมีน้ำน้อยหน่อยแต่ก็สวยไปอีกแบบ หรือถ้าใครอยากเห็นตอนที่น้ำอยู่เต็มคลองละก็ให้ไปช่วง 10 โมง เพราะเขื่อนรัชชประภาจะปล่อยน้ำออกมายังคลองแสงประมาณ 9 โมงครึ่ง ซึ่งถ้าเราไปถึง 10 โมงน้ำในคลองก็จะเต็มพอดี แล้วถ้าใครไปช่วงเสาร์-อาทิตย์ ถ้าเดินข้ามสะพานไปจนสุดจะมีตลาดชุมชน กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีสินค้า OTOP ให้ช้อปปิ้งกันด้วย
ที่ตั้ง : หลังวัดเขาพัง หมู่ 1 ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี (อยู่ห่างจากเขื่อนรัชชประภา ประมาณ 10 นาที)
แค่รถยนต์เคลื่อนเข้าไปใกล้กับซุ้มพุทธาวดี หรือซุ้มประตูโบราณ 9 ยอด ด้านหน้าทางเข้าอุทยานธรรม จุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูแสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่าน ก็รู้สึกถึงความเงียบสงบ น่าตื่นเต้นและหลงใหลในเวลาเดียวกัน สิ่งสำคัญภายในอุทยานธรรม คือ เจดีย์ทั้ง 4 องค์ รวมถึงองค์ที่ 5 ที่กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ในอีกไม่ช้า เจดีย์ถูกสร้างอยู่บนยอดเขา ด้วยน้ำพักน้ำแรงของคณะพระสงฆ์ สามเณร แม่ชี และชาวบ้านช่วยกันสร้างจากใจที่ศรัทธาแม้จะไม่มีค่าแรงใด ๆ
ในปี พ.ศ. 2552 สมเด็จพระยาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระองค์ที่ 19 ได้พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุมาให้อุทยานธรรมเขานาในหลวง จำนวน 9 องค์ จึงเป็นที่มาของการสร้างเจดีย์ 9 องค์ 9 ยอด เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกกธาตุ น้อมถวายเป็นพุทธบูชาและเพื่อนถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระสังฆราช โดยตอนนี้ได้ดำเนินการสร้างมาจนถึง องค์ที่ 5 แล้ว เจดีย์องค์ที่ 1 นับจากด้านซ้ายมือเมื่อเรามองจากด้านล่าง “เจดีย์ร้อยยอด พระธาตุพันองค์” มีเจดีย์องค์เล็ก ๆ จำนวน 99 องค์ล้อมรอบองค์ใหญ่อีก 1 องค์ รวมเป็น 100 องค์
เจดีย์องค์ที่ 2 ตั้งอยู่บนยอดเข้าอีกลูกใกล้กันมีชื่อว่า “พระพุทธศิลาวดี” บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ก่อสร้างด้วยศิลาแลงจากจังหวัดกำแพงเพชร
เจดีย์องค์ที่ 3 “พุทธราชาวดี” ซึ่งเป็นปณิธานอันแรงกล้าของเจ้าอาวาส (พระอาจารย์ไพร) ที่ต้องการจะเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมแรง ร่วมใจ สร้างเจดีย์องค์ดังกล่าวเพื่อน้อมถวายอุทิศเป็นราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงพร้อมใจกันสร้างเจดีย์ ๙ ยอดถวายให้เสร็จก่อนถวายพระเพลิง
เจดีย์องค์ที่ 4 “พุทธนครกลางหาว” ซึ่งมีเจดีย์รายทั้งหมด 32 องค์ และรอยพระพุทธบาทนครกลางหาวที่เราสามารถขึ้นไปกราบสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองได้
เจดีย์องค์ที่ 5 “พุทธะสะหัสะวดี” ที่กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ในไม่ช้า
นอกจากเราจะได้มาสักการะ ขอพรพระบรมสารีริกธาตุแล้ว ที่อุทยานธรรมเขานาในหลวงแห่งนี้ในช่วงเช้าถือเป็นจุด Unseen ดูทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้อีกด้วย แต่ถึงแม้ หมอกจะจางหายไป วิวตรงหน้าที่มองได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ก็ไม่ได้น้อยหน้าทะเลหมอกเลย ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดอบรมวิปัสสนากรรมฐาน สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถไปฝึกกรรมฐาน เชื่อว่าทุกคนที่ตั้งใจมาต้องอิ่มบุญ อิ่มใจ กลับบ้านไปอย่างแน่นอน
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 8 ตำบลต้นยวน อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ห่างจากบ้านตาขุน 23 กิโลเมตร ขับเข้ามาทาง กม.61 (อยู่ห่างจากเขื่อนรัชชประภา ประมาณ 40 นาที)
พาเที่ยว “พุมเรียง” ชุมชนสองวัฒนธรรมชาวไทยพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันมาช้านาน แม้ว่าปัจจุบัน พุมเรียงเป็นเพียงตำบลเล็ก ๆ แต่เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรมอันน่าตื่นตา ที่เชื่อว่าใคร ๆ ก็ต้องหลงรัก จุดนัดพบของเรา เริ่มต้นที่ ธนาคารปูม้า ซึ่งเกิดจากความร่วมมือร่วมใจ ของชุมชนพุมเรียง จัดตั้งธนาคารปูม้าขึ้นมาเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากร ทุก ๆ วันจะมีชาวประมงนำปูไข่นอกกระดองมาฝากไว้ที่ธนาคารปูม้าเพื่อดูแลให้ปูวางไข่ได้สำเร็จ นอกจากจะมีธนาคารปูม้าแล้ว ที่นี่ยังมีส่วนจัดแสดงซากเต่า พะยูน และสัตว์ทะเลอื่น ๆ พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือประมงพื้นบ้านอีกด้วย
หลังจากเราได้เยี่ยมชมธนาคารปูม้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็นั่งเรือไปยังเกาะเสร็จ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพื่อดูวิถีชีวิตชาวประมง ทำกิจกรรมหาหอย และปล่อยแม่ปูม้าไข่นอกกระดองลงสู่ทะเล เกาะเสร็จ เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำรวมถึงเป็นที่พักพิงยามมรสุมของชาวเล กิจกรรมแรกเมื่อเราถึงเกาะเสร็จ คือ ปล่อยปูม้า ซึ่งปูที่เรานำมาปล่อยในวันนี้ก็คือปูม้า จากธนาคารปูม้า ที่ชาวประมงนำมาบริจาคนั้นเอง
หลังจากนั้นกิจกรรมต่อไปก็คือ หาหอยย โดยเราจะใช้วิธีคราด จากเครื่องมือที่เรียกว่า "คราดหาหอยตลับ" ด้ามจับทำด้วยไม้ ส่วนปลายทำด้วยเหล็กหรืออะลูมิเนียมด้านหน้ามีเหล็กยื่นออกมา ลักษณะคล้ายไม้บรรทัด ไว้สำหรับครูดโคลนเลน ส่วนวิธีใช้เราก็สวมสายเชือกที่เหมือนเข็มขัดเข้าไปที่เอว เมื่อเข้าที่เรียบร้อยเราก็ ดึงคราดเข้ามาหาตัว ทำไปเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงกริ๊ก นั้นแสดงว่า เราเจอหอยตลับแล้ว บนเกาะเสร็จไม่ได้มีแค่หอยตลับเท่านั้น แต่การหาหอยสับเค็ด ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาด เพราะเขาบอกว่าถ้าไปเกาะเสร็จแล้วไม่เจอหอยสับเค็ด ถือว่าไปไม่ถึงงงงงเกาะเสร็จ วิธีหาหอยสับเค็ดต้องมีความเชี่ยวชาญมากกว่าหอยตลับเป็นอย่างมากกกก ตั้งแต่การสังเกตรูหายใจของหอย และความว่องไวในการใช้เสียมขุดลงไปบริเวณรู 30-50 เมตรและใช้มือลงไปจับหอยด้วยความรวดเร็ว บอกได้เลยว่า เป็นกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น และลุ้นสุดๆ ไปเลย
หลังจากเราทำกิจกรรมต่าง ๆ ในเกาะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็นั่งเรือกลับไปยังธนาคารปูม้า แต่ แต่ แต่ เราไม่ได้นำหอยที่เราหามาได้กลับมาด้วยนะคะ เราจับแล้วเราก็ปล่อยพวกกลับสู่ทะเล กิจกรรมนี้เป็นเพียงกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวประมง ได้เห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนพุมเรียง เมื่อกลับมาที่ธนาคารปูม้า ท้องก็ร้องพอดี ทางชุมชนเลยจัดอาหารมาให้พวกเราชุดใหญ่ ซึ่งอาหารทะเลที่เราจะได้กินกันนั้นเป็นของสดที่ชาวบ้านในชุมชนนำมาขายนั่นเอง เมนูอาหารก็มี หอยสับเค็ดต้ม ปูม้านึ่ง ปลาทรายทอดกระเทียม ต้มข่าหอยตลับ ห่อหมกทะเล แกงส้มกุ้งใส่ถั่วงอกหัวโต และที่ห้ามพลาด ไข่หมก อาหารขึ้นชื่อของชุมชนพุมเรียง เป็นการนำไข่เป็ดมาผสมกับเครื่องปรุงตามสูตรโบราณ และนำมาย่างเตาถ่านไฟอ่อน ๆ ตัวไข่จะเป็นยางมะตูมนิด ๆ รสชาติมันเค็ม เชื่อว่าอาหารพื้นบ้านง่าย ๆ นี้จะต้องถูกใจกันแน่นอน
กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านพุมเรียง
ที่อยู่ : 95/1 ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
โทร 092-379-3969, 099-319-9570,082-272-7956
ไม่ว่าเราจะเดินทางไปที่ใดสักแห่ง ด้วยเหตุผลทางด้านการงาน หรือท่องเที่ยว สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้ไปกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของที่นั้น ๆ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง แน่นอนว่าเรามาถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ต้องมากราบสักการะขอพร พระบรมธาตุไชยา ที่วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร สถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งถือเป็นโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพบูชาของคนใต้
องค์พระธาตุไชยา เป็นเจดีย์ทรงปราสาท ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัย ที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรมุขย่อ หลังคาทำเป็น 3 ชั้นลดหลั่นกันขึ้นไป แต่ละชั้นประดับรูปวงโค้งขนาดเล็กและสถูปจำลองรวม 24 องค์ ซึ่งถือเป็นเจดีย์แบบศรีวิชัยที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-14 บริเวณรอบ ๆ เจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารรีริกธาตุนั้นมีพระวิหารคดหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าระเบียงพระเวียนภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสกุลช่างไชยาขนาดและปางต่าง ๆ 180 องค์
เมื่อถึงวัดแล้วเราซื้อดอกไม้ ธูปเทียน ที่ทางวัดจำหน่ายไว้แล้วเข้าไปกราบพระประธานในพระวิหารหลวงที่สร้างล้ำเข้าไปในพระวิหารคตก่อน หลังจากกราบพระประธานเรียบร้อยแล้ว ให้เดินเข้าไปยังพระระเบียงคตเพื่อ เพื่อจุดธูป เทียน สักการะพระบรมธาตุไชยา เป็นลำดับต่อไป
ที่ตั้ง : 50 ถนนรักษ์นรกิจ หมู่ 3 ตำบลเวียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เวลาเปิด – ปิด : 08.00 - 16.00 น.
ถ้าไม่ได้มาสุราษฎร์ธานี ก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าที่เมืองสุราษฎร์ ฯ มีร้านอาหารน่านั่ง บรรยากาศดี มีครบทั้งคาเฟ บาร์และร้านอาหารอยู่ด้วย จากไอเดียของเจ้าของร้านที่อยากให้ลูกค้ามานั่งทานอาหารและดื่มไปพร้อมกัน ได้ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ ไม่ว่าจะมาตอนไหนก็ชิลได้ จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน Day & Night of Surat Thani ที่มีเมนูอาหารคาวหวานสไตล์ฟิวชั่นให้เลือกกว่า 200 เมนู
ตัวร้านตกแต่งด้วย สไตล์อินดัสเทรียลลอฟต์ มีความเท่ หรูและเรียบง่ายให้ความรู้สึกอบอุ่นในเวลาเดียวกัน แบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนอินดอร์ เป็นห้องแอร์ ตกแต่งด้วยโทนสีเข้มสไตล์ลอฟต์ ด้านหลังเคาน์เตอร์บาร์มีขวดบรั่นดี แชมเปญวางเรียงกันอยู่อย่างสวยงามเลยทำให้โซนด้านใน ให้ความรู้สึกที่เรียบหรู มากกว่าโซนเอาท์ดอร์ด้านหลังร้านที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง เรียบง่าย และชิลกว่า ที่สำคัญมุม ถ่ายรูเยอะมากๆ สำหรับเมนูอาหารที่นี่ เรียกได้ว่ามีครบทุกสัญชาติด้วยสไตล์ฟิวชั่นที่เป็นแบบฉบับของร้าน บวกกับความพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบพื้นบ้านคุณภาพดีและวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ
เมนูแนะนำของที่นี่ ที่อยากแนะนำเลยก็มี พิซซ่าสไตล์นาโปลิตาน่า แบบอิตาเลี่ยนแท้ ท็อปปิ้งด้วยโคคัต โอมายก๊อดเสต็กเนื้ออาเจนติน่า ส่วนสันในทานคู่กับเรดไวน์ซอสและฟัวกราจากฝรั่งเศส ข้าวยำปูที่ใช้ข้าวหอมพันธุ์สุราษฎ์ ปูไซส์จัมโบ้อร่อยเต็มคำ ราดหน้าเต้าซี่ปลากระพง ใช้เต้าซี่ถั่วดำหมักเป็นอาหารสไตล์จีน ปลากระพงทอดทานคู่กับผักและเส้นใหญ่ทอดกรอบ แซลม่อนดอกคำฝอย แซลม่อนทอดกรอบทานคู่กับซอสดอกคำฝอยและพาเมซานโฟม และเมนูสุดท้ายที่อยากแนะนำ เพราะเหมาะกับน่าร้อนแบบนี้เหลือเกิน กับเมนู แตงโมปลาแห้ง ดูหน้าตาสวยแบบนี้ ก็อดสงใสไม่ได้ว่ากินแล้วจะเป็นยังไงกัน แต่พอได้ลองแล้ว มันความรู้สึกสดชื่นนน ความอมหวานของแตงโมเย็น ๆ กับความเผ็ดกรอบของปลาแห้งถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวจริง ๆ
ที่อยู่ : จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้ถนนเลี่ยงเมืองมุ่งหน้ามาทางห้างโลตัส สุราษฎร์ธานีเลยห้างโลตัส มาประมาณ 2 กิโลเมตร ร้านจะอยู่ด้านหน้าโรงแรมนิภาการ์เด้น
เวลา เปิด-ปิด : 07.00 - 24.00 น.
ขยับเข้าไปเที่ยวใก้ลตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ที่ชุมชนบางใบไม้ หรือที่หลายคนเรียกว่าคลองร้อยสาย หากใครกำลังตามหาวิถีชีวิตการท่องเที่ยวแบบชุมชน ใกล้ชิดธรรมชาติแต่ก็มีมุมถ่ายรูปชิค ๆ ละก็ห้ามพลาด คลองร้อยสายเป็นคลองที่ไหลลงแม่น้ำตาปี และมีคลองเล็กคลองน้อยเชื่อมต่อกันเป็นร้อยสาย จึงเป็นที่มาของคลองร้อยสาย ชุมชนที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์วิถีชีวิตริมคลองที่เรียบง่าย เราเริ่มต้นกันที่ตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้ ตั้งอยู่บริเวณวัดบางใบไม้ ซึ่งเป็นตลาดน้ำที่คนในชุมชนรวมตัวกันสร้างขึ้นโดยไม่ได้ใช้งบประมาณของภาครัฐเลย และยังถือว่าตลาดน้ำประชารัฐแห่งนี้ เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดสุราษฎ์ธานีอีกด้วย เมื่อมาถึงเราก็เดินเล่นหาของกินกันก่อน เขาบอกว่ามาที่นี่ต้องไปชิม แกงส้มปลาดุกทะเล ต้มส้มปลากระบอกใส่น้ำส้มจาก ช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ชุมชนไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว หรือต้นจาก ทั้งน้ำผึ้งจาก น้ำส้มจาก ถ้าช้อปปิ้ง อิ่มหนำสำราญกันเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาที่เราจะได้ไปล่องเรือชมอุโมงค์ต้นจากกัน
ถือเป็นจุดไฮไลท์แห่งใหม่ของสุราษฎร์ธานีเลยก็ว่าได้ กับการล่องเรือชมต้นจากที่อยู่ระหว่างสองฝั่งคลอง ทางจากโน้มลงมาหากัน จนกลายเป็นอุโมงค์ต้นจากให้เราได้ไปถ่ายรูปสวย ๆ กันแบบนี้ แถมคุณลุงที่มาพายเรือให้เรายังใจดีมาก ๆ ขอหยุดถ่ายรูปตรงไหนแกก็หยุดให้ตลอด แบบไม่บ่นเลยสักคำ ส่วนใหญ่คุณลุงบอกว่าใช้เวลาล่องไม่เกิน 20 นาที แล้วแต่ว่าเราใช้เวลาถ่ายรูปนานไหม ระหว่างที่ใช้เวลาล่องเรือไปยังอุโมงค์ต้นจาก ก็แอบถามคุณลุงไปว่า ทำไมที่นี่ถึงมีแค่วันอาทิตย์ เลยได้คำตอบมาว่า “เหนื่อย” เพราะชาวบ้านทำงานกันมาทั้งอาทิตย์แล้วทำสองวันคงไม่ไหว ที่สำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมสำคัญมากถ้ามีหลายวันขยะก็เพิ่มขึ้นอีก
แต่ถ้าใครพอมีเวลาเยอะ อยากล่องเรือชมวิถีชีวิตชุมชนสองฝั่งคลองที่เชื่อมกับชุมชนบางใบไม้ด้วย แนะนำให้มาเที่ยวกันที่ชุมชนคลองน้อย เราเริ่มต้นกันที่ อบต.คลองน้อย เพราะเราต้องโทรจองกันก่อนล่วงหน้า ที่ชุมชนคลองน้อยยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำ เห็นคุณค่าของทรัพยากรท้องถิ่น สิ่งแวดล้อม ประเพณีและวัฒนธรรม และที่คลองน้อยแห่งนี้ยังเป็นคลองที่เชื่อมไปยังคลองร้อยสายได้อีกด้วย กิจกรรมที่คลองน้อยแห่งนี้ก็มีให้เลือกหลายอย่าง ล่องเรือชมวิถีชีวิตของชาวคลองน้อย เขตอนุรักษ์ปลาเสือพ้นน้ำ อู่ต่อเรือช่างกบ เบ็ดตกกุ้ง สวนผลไม้นานาพันธุ์ สวนกระท้อน การสาธิตการฝึกลิงเพื่อการเกษตร บ้านจาก กลุ่มผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว วัดบุญบันเทิง เราอยากจะเริ่มจากตรงไหนก่อนก็ได้ หรือถ้าหาเรามีเวลาจำกัดก็สามารถบอกคนขับเรือได้เลยว่าอยากแวะตรงไหนบ้าง
กิจกรรมที่เราเลือกไปวันนี้เริ่มต้นกันที่ บ้านพี่นิรันดร์ ครูฝึกลิงเพียงคนเดียวในชุมชนที่สืบทอดการฝึกลิงมาจากคุณพ่อ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสาธิตการฝึกลิงเพื่อการเกษตร การฝึกลิงเพื่อช่วยเก็บมะพร้าว ลิงที่ใช้ฝึกเป็นลิงกัง จะนำมาฝึกก็ต่อเมื่ออายุ 3 ปีขึ้นไป โดยที่นี่เราจะได้ชมการสาธิตวิธีการฝึกลิง 4 หลักสูตร ใช้เวลาชมประมาน 20 นาที 1 การเข้าปั่น 2 การห้อยปั่น 3 การขึ้นราว และ 4 การขึ้นต้นจริง 5 ฝึกลิงให้แก้เชือก นอกจากนี้พี่นิรันดร์ ยังอนุญาตพวกเราได้ถ่ายรูปคู่กับเจ้าลูกลิงได้ด้วยน้า
สถานที่ต่อไปที่เราจะไปแวะกันที่ อู่ต่อเรือช่างกบ ช่างกบ ช่างต่อเรือ ที่มีชื่อเสียงระดับจังหวัด โดยได้สืบต่ออาชีพนี้มามากกว่า 3 ชั่วอายุคน โดยเรือออกทะเลแต่ละลำต้องใช้เวลาต่อเป็นแรมเดือน ซึ่งมีหลายขั้นตอน ตั้งแต่การวางกระดองหมึก ใส่ราวคู่ แรกใส่ทวนหัวทวนใต้ ขึ้นดานวางกงยึด และอีกหลายขั้นตอน ที่นี่จะต่อเรือหัวมาด และเรือหัวโทง จะใช้เวลาอออกทะเล ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาจ้างพี่กบ จะนำเรือไปใช้ขนสินค้าทางการเกษตรหรือนำไปใช้ในเขื่อน ไม้ที่ใช้สำหรับต่อเรือเป็นไม้ตะเคียน กับไม้พะยอม ซึ่งแล้วแต่ลูกค้าจะเลือก
ติดต่อสอบถามข้อมูล ชุมชนคลองร้อยสาย นายพานุ ชำนาญเมือง ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวคลองร้อยสาย
49 ม.5 ต.บางชนะ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
โทร 077-205323, 086-267-6695
ราคาล่องเรือชมอุโมงค์ต้นจาก 20 บาท /ท่าน
ติดต่อสอบถามข้อมูล ตลาดน้ำประชารัฐ
กำนันจรัญญา ศรีรักษ์ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตำบลบางใบไม้
42 หมู่ 1 ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
โทร 081-607-4935, 077-292903
ติดต่อสอบถามข้อมูล จองเรือ ชุมชนคลองน้อย
คุณสุมาตร อินทรมณี ประธานชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตำบลคลองน้อย
ตำบลคลองน้อย 77/1 ต.คลองน้อย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
โทร 089-728 2810, 082-411 6357
ค่าเรือชมวิถีชีวิตสองฝั่งคลอง ค่าเรือลำเล็ก 800 บาท นั่งได้ 10 คน / ลำใหญ่ 1,200 บาท นั่งได้ 20 คน
ถ้าอยากดื่มด่ำบรรยากาศสุดชิล พร้อมวิวยามเย็นของตัวเมืองสุราษฎร์ ฯ ละก็ ต้องมาที่ ร้านสกายฮิลล์ บาร์ บอกเลยว่า ที่นี่ถือเป็นจุดที่มองเห็นตัวเมืองสุราษฎร์ได้สวยสุด ๆ เพราะตัวร้านตั้งอยู่บนเนินเขา ตกแต่งแบบสไตล์โมเดิลเรียบง่าย มีให้เลือกทั้งโซนอินดอร์ที่เป็นห้องแอร์ติดกระจก ถึงแม้จะมาทานอาหารในช่วงกลางวันก็สามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ของตัวเมืองสุราษฎร์ได้ และโซนเอาท์ดอร์ ซึ่งเป็นโซนที่อยากแนะนำให้มานั่งกันในช่วงเย็น ๆ บรรยากาศดี ๆ ไปพร้อมกับวิวพระอาทิตย์ตกดิน เชื่อว่าคงไม่มีอะไรฟินไปกว่านี้อีกแน่นอน
ส่วนอาหารที่นี่เขาก็มีให้เลือกทั้งคาวหวานครบ เมนูแนะนำของที่นี่ก็มี แกงส้มปลากระพงยอดมะพร้าว ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ ซี่โครงหมูบาร์บีคิว หมูคั่วเกลือ และ พะโล้ หมั่นโถว ที่เขาบอกว่าเป็นสูตรเด็ดจากคุณแม่ของ เจ้าของร้านเลย
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่ก็มีแสงไฟของร้านมาทดแทนทำให้บรรยากาศในร้านดูสวยยิ่งขึ้น เลยขอมาถ่ายรูปกับมุมสวย ๆ ไว้อีกหน่อยก็แล้วกัน
ที่ตั้ง ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ถ.สายสุราษฎร์ ฯ - พุนพิน เลี้ยวซ้ายทางแยกโกเตง ก่อนถึง บขส.
เวลาเปิด - ปิด : 11.00 - 22.00 น.
โทร : 091-526-5888 ,061-173-3353
ถ้าได้ไปจังหวัดไหน ก็ขอให้ได้ไปหาของกิน ของอร่อย ของขึ้นชื่อที่ตลาดโต้รุ่ง ของจังหวัดกันหน่อยเพราะถ้าไม่ได้ไปละก็เหมือนมาไม่ถึงยังไงไม่รู้ มาเยือนถิ่น หอยใหญ่ ไข่แดง สุราษฎร์ธานีทั้งที ก็ไม่พลาดไปที่จะไปตลาดศาลเจ้า ตลาดของกินตอนกลางคืนที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่คนทั่วไปเรียกว่าตลาดศาลเจ้า เพราะว่า ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณ ศาลเจ้าฮกเกี้ยน ซึ่งชาวฮกเกี้ยน เป็นชาวจีนกลุ่มแรก ๆ ที่อพยพจากประเทศจีนเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณนี้ และร่วมใจกันสร้างศาลเจ้าฮกเกี้ยนขึ้น เพื่อใช้เป็นศูนย์รวมของชาวฮกเกี้ยนและชาวจีนทั่วไป
ตลาดศาลเจ้า แหล่งฝากท้องของชาวสุราษฎร์ ฯ และนักท่องเที่ยวอย่างเรา สถานที่ที่รวมไว้แล้ว ทั้งของกินขึ้นชื่อ อย่างผัดไทไชยา ผัดไทท่าฉาง ทอดมันย่าง ข้าวแกงปักษ์ใต้ ขนมลา ขนมโค โรตี บัวลอย นอกจากอาหารแล้วก็ยัง ช้อปปิ้ง เสื้อผ้า เครื่องประดับไว้ใส่ไปเที่ยวต่อได้อีกน้า
ที่ตั้ง : ถ.ตีเหล็ก ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
เวลาเปิด - ปิด : 17.00 - 22.00 น.
อยากจะแพคกระเป๋า ลางานกันตอนนี้เลยหรือเปล่าคะ? ใช่ค่ะ ทางเราก็อยากจะลาไปอีกเดี๋ยวนี้เลย สุราษฎร์ธานี นี่ให้ไปอีกกี่รอบก็ยอม ชีวิตคนเราบางทีก็ไม่ได้ต้องการอะไรมาก นอกจากได้ออกไปเจออะไรใหม่ ๆ ได้ไปในที่ที่ไม่เคยไป ได้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ แล้วยิ่งถ้าได้มาสุราษฎร์ธานี มานอนพักในเขื่อน นั่งเรือเที่ยว ออกมาไหว้พระ เดินตลาด เรียนรู้วิถีชุมชน หาของอร่อย ๆ กิน แค่นี่ก็ถือเป็นการพักผ่อนในวันหยุดที่คุ้มค่าสุด ๆ แล้วค่ะ ยิ่งสมัยนี้การเดินทางก็สะดวกสบาย นั่งเครื่องบินแค่ 1 ชั่วโมง 10 นาที ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไกล ๆ แล้ว อย่าลืมนะคะ ปีนี้ต้องไปให้ได้นะ !!
Tags: สุราษฎร์ธานี ที่เที่ยวสุราษฎร์ สถานที่ยอดฮิตสุราษฎร์ธานี ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด เขื่อนเชี่ยวหลาน กุ้ยหลิน เกาะต้นรัก ถ้ำปะการัง สะพานแขวนเขาพัง ภูเขาเขารูปหัวใจ เจดีย์ลอยฟ้า อุทยานธรรมเขานาในหลวง ชุมชนพุมเรียง เกาะเสร็จ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เดย์แอนด์ไนท์ ชุมชนท่องเที่ยวคลองร้อยสาย อุโมงค์จาก ศูนย์ฝึกลิงบ้านพี่นิรันต์ อู่ต่อเรือช่างกบ ตลาดศาลเจ้า สกายฮิลล์เรสเตอรอง GOLOCALTHAILAND ททท เที่ยวเมืองรอง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 17 ธ.ค. 2024 | 345 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 20 ธ.ค. 2024 | 304 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 11 ธ.ค. 2024 | 966 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 09 ธ.ค. 2024 | 3,107 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 07 ธ.ค. 2024 | 2,242 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 04 ธ.ค. 2024 | 2,376 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 05 ธ.ค. 2024 | 3,085 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 13 ธ.ค. 2024 | 431 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 04 ธ.ค. 2024 | 862 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 25 พ.ย. 2024 | 1,876 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 25 พ.ย. 2024 | 876 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 02 ธ.ค. 2024 | 964 อ่าน