ยกเมืองแพร่มาไว้ใจกลางกรุง กับงานมหกรรมของดีเมืองแพร่ ที่ JJ Mall

หลังจากที่ไปแอ่วเมืองแพร่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก็ตกหลุมรักเมืองนี้เข้าเต็มเปาเลยล่ะค่ะ ทั้งความน่ารักของผู้คน อาหารการกินสุดอร่อย วัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงาม หลังกลับมาจึงเกิดอาการแพร่แอดดิคท์ขึ้นมาโหยหาอยากหาตั๋วไปเที่ยวเมืองแพร่อีกสักรอบ

แต่โชคดีที่รู้ข่าวว่าจะมีการยกเมืองแพร่มาไว้ใจกลางกรุงกับงาน “มหกรรมของดีเมืองแพร่” ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การค้า เจ.เจ.มอลล์ ระหว่างวันที่ 25-29 เมษายนนี้ เราเลยไม่พลาดขอไปเดินเที่ยวให้หายคิดถึง พร้อมกันนั้นยังไม่พลาดเก็บบรรยากาศของงาน และพาไปชิมเมนูสุดอร่อยของเมืองแพร่มาฝากตามไปแอ่วพร้อมกันเลยเจ้า

งานมหกรรมของดีเมืองแพร่ จัดขึ้นบริเวณลานโปรโมชั่นชั้น 1 ของศูนย์การค้า เจ.เจ.มอลล์ เปิดประตูห้างมาก็เจอทางเข้างานเลยล่ะค่ะ มีตุงประดับหน้างานพร้อมกับบูทร้านค้ามากมายที่อิมพอร์ตส่งตรงมาจากเมืองแพร่ ทั้ง เสื้อผ้า ของฝาก เฟอร์นิเจอร์ อาหาร กว่า 75 บูท 57 รายการ

เราเริ่มต้นที่บูทเสื้อผ้ากันก่อนเลย เพราะเมืองแพร่นั้นขึ้นชื่อเรื่องผ้าหม้อห้อม ซึ่งเป็นผ้าพื้นเมืองที่ผ่านกระบวนการย้อมสีธรรมชาติด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยใช้ใบและต้นห้อมที่ปลูกในจังหวัดแพร่ หลายคนอาจจะคิดว่าเสื้อผ้าหม้อห้อมเป็นเสื้อผ้าที่ดูเชย ดูแก่ แต่ในปัจจุบันมีผู้ผลิตเสื้อผ้าหม้อห้อมในจังหวัดแพร่ที่เป็นคนรุ่นใหม่และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นจากบรรพบุรุษมาประยุกต์ใส่ความทันสมัยเข้าไปออกมาได้โมเดิร์นน่าใส่มากๆ ค่ะ

เช่นร้านนี้ที่นำเสื้อหม้อห้อม ผ้าตีนจกของจังหวัดแพร่ ผ้าทอ และผ้าแพรจีนมาประยุกต์ให้ออกมาดูเท่ และเก๋ น่าใส่มากๆ

หรือร้านนี้กับการทำผ้าหม้อห้อมให้ดูทันสมัย ใส่สไตล์ความเป็นมินิมอลเข้าไป กลายเป็นเสื้อผ้าสวยๆ ที่มีทั้งเดรส เสื้อแขนกุด กางเกง กระโปรง ผ้าใส่สบายเหมาะกับการใส่ช่วงหน้าร้อนแบบนี้มากๆ เลยล่ะค่ะ

ส่วนใครที่ชื่นชอบความสวยงามละเอียดประณีตของผ้าตีนจก ผ้าพื้นเมืองชื่อดังของจังหวัดแพร่ในงานนี้ก็มีให้เลือกหลายร้านเหมือนกัน เดินเลือกสี เลือกลายกันเพลินเลยล่ะค่ะ

ได้ลองใส่ผ้าตีนจกด้วยค่ะ ผ้าลายสวยมากๆ งานนี้เลยอุดหนุนคุณป้าเจ้าของร้านไปหนึ่งผืน

โอ๊ยเดินผ่านร้านนี้แล้วสะดุดตาจนต้องหยุดดู เพราะมันน่ารักมากๆ เลยอ่ะแกร โดยเป็นการนำผ้าหม้อห้อมมาสร้างมูลค่าทำเป็นของฝาก พวงกุญแจ ของประดับ ผ้าโพกผม กิ๊ฟต์น่ารักๆ จะซื้อไว้ใช้เองหรือจะซื้อเป็นของขวัญของฝากคนได้รับก็ชื่นใจแน่นอน

ผ้าโพกผมที่ดีไซน์ได้น่ารักมากๆ และยังมีที่เก็บพวงกุญแจ สร้อยคอเก๋ไก๋มากๆ ค่ะ

เข็มกลัดรูปแมวสุดน่ารัก ทาสแมวอย่างเราเจอชิ้นนี้เข้าไปรีบควักเงินซื้อเลยล่ะค่ะ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย

ส่วนใครอยากรู้เรื่องราวของผ้าหม้อห้อมภายในงานมีสาธิตวิธีการทำผ้าหม้อห้อมให้เราชมด้วยค่ะ

สีน้ำเงินที่ได้มาจากเจ้าต้นนี้ล่ะค่ะ ชื่อว่าต้นห้อมที่ปลูกในจังหวัดแพร่ แล้วนำใบและต้นห้อมไปตีจนได้สีน้ำเงิน จากนั้นนำสีที่ได้นำไปย้อมผ้าซึ่งส่วนมากจะใช้ผ้าฝ้ายในการย้อมค่ะ ขอบอกว่าผ้าหม้อห้อมที่ได้นั้นสีติดทนนานไม่มีตกเลยล่ะค่ะ เพราะเคยซื้อตอนไปแพร่ ซักกี่รอบสีก็ยังไม่ตกและยังคงความสวยงามมาจนถึงวันนี้

นอกจากผ้าหม้อห้อมแล้ว จังหวัดแพร่ยังขึ้นชื่อเรื่องไม้สักอีกด้วยนะคะ ภายในงานจึงมีบูทร้านเฟอร์นิเจอร์มากมายให้เราได้เลือกซื้อไปตกแต่งบ้าน

ดีไซน์เก๋ไก๋โดนใจ ราคาก็ไม่แรงอีกด้วย

ระหว่างเดินในงานก็ยังมีเสียงเพลงจากบนเวที เป็นเพลงภาษาคำเมืองเพราะๆ บรรเลงให้เราฟัง ลืมไปเลยว่าเราอยู่กรุงเทพฯ นึกว่าอยู่เมืองแพร่เลยล่ะค่ะ

ช้อปเสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์กันแล้ว ท้องก็เริ่มร้อง เลยรีบเดินเข้าโซนอาหารซึ่งมีร้านมาเปิดบูทอาหารเหนือให้เลือกทานมากมาย กลิ่นหอม ของเหล่าบรรดาขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอย แกงฮังเล มันช่างเย้ายวนใจให้เรารีบสาวเท้าเข้าไปในร้าน

เจอร้านแรกกับร้านข้าวแกงปี้สาวคนสวย ที่มีทั้งลาบแพร่ แกงฮังเล ตำขนุน จอผักกาด และเมนูอาหารเหนือมากมายที่คุณพี่เล่าว่าวัตถุดิบต่าง ส่งตรงมาจากเมืองแพร่ ทำโดยคนแพร่แท้ๆ

ลาบแพร่เป็นเมนูที่เราคิดถึงมากๆ เพราะลาบของแพร่เขาไม่เหมือนที่ไหนโดยจะใส่มะแขว่น ซึ่งเป็นเครื่องเทศของชาวเหนือ ที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและกลิ่นเฉพาะตัว ถ้าได้ข้าวนึ่งร้อนๆ จิ้มลาบจานนี้ไปนะเธอ โอ๊ยยย ลำขะน้าด

อีกหนึ่งเมนูอันโด่งดังของเมืองแพร่นั่นก็คือน้ำพริกน้ำย้อย ที่ใช้กากหมู กระเทียม หอมแดง พริกป่น นำไปทอด และปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรส รสชาติจะเผ็ดๆ เค็มนิดๆ มันๆ กรอบอร่อย คนแพร่จะทานคู่กับขนมจีนที่บีบเส้นสด หรือจะใส่ก๋วยเตี๋ยว นำไปคลุกข้าวสวย จิ้มกับแคปหมูก็ลำแต๊ๆ เจ้า

หมูยอ ไส้อั่ว ร้อนๆ ก็มีให้เลือกทาน

ใครจะซื้ออาหารกลับไปกินบ้าน หรือจะนั่งกินที่นี่ก็ได้ค่ะ มีร้านอาหารเหนือ ที่มีทั้ง ขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอย ข้าวแกงสไตล์ชาวเหนือให้เลือกทาน

งานนี้เราเลยสั่งทั้งข้าวซอย ลาบแพร่ แกงฮังเล และก๋วยเตี๋ยวจากร้านชื่อดังของเมืองแพร่มาทาน อิ่มอร่อยทุกเมนูเลยล่ะค่ะ

ภายในงานยังมีบูทผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจของจังหวัดแพร่อีกมากมายเลยล่ะค่ะ เช่นบูทนี้ที่นำแก้วมังกรมาแปรรูปเป็นแก้วมังกรอบแห้ง และข้าวเกรียบแก้วมังกร ให้ได้เลือกซื้อกลับบ้านอีกด้วย

ติดใจเมนูนี้มากๆ ค่ะกับแก้วมังกรอบแห้ง มันจะมีความกรอบ ความเหนียว และรสหวานอมเปรี้ยวของแก้วมังกร นำไปทานเป็นสแน็คก็ได้รับรองว่าอร่อยและยังมีประโยชน์อีกด้วย

ข้าวเกรียบแก้วมังกรก็อร่อยนะเธอ

ส่วนร้านนี้เป็นร้านที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้งแท้ค่ะ โดยเป็นน้ำผึ้งจากดอกลำใย 100 % มีรังผึ้งมาให้ได้ลองชิมด้วย ใครอยากรู้เรื่องราวการเลี้ยงผึ้งสามารถเข้าไปคุยกับพี่เจ้าของบูทได้เลยค่ะ ความรู้เยอะและคุยสนุกมากๆ

รังผึ้งหอมหวานอร่อยมากๆ 

ใครที่อยากรู้ว่าเมืองแพร่มีอะไรดีเราแนะนำว่าควรไปงานนี้เลยล่ะค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่าเมืองแพร่นั้นมีของดี ของอร่อยอีกมากมาย ส่วนใครที่เคยไปแพร่แล้ว และเกิดอาการคิดถึงเมืองแพร่อย่างเราก็ต้องรีบไป เพราะงานนี้ทำให้เหมือนได้เดินเที่ยวที่แพร่กันเลย และข่าวดีสำหรับคนที่มาเดินช้อป ชิม ชิลในงานนี้สามารถร่วมลุ้นรางวัลแพ็คเกจเที่ยวแพร่ที่รวมทั้งการเดินทาง ที่พัก ที่กินแบบอิ่มหนำสำราญเพียงใช้จ่ายในงานทุก 300 บาท รับคูปองชิงโชคแพ็คเกจทริปแพร่ แจกไปเลย 2 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง ประกาศผลวันที่ 29 เมษายนนี้นะคะ

Tags: กรุงเทพฯ จตุจักร งานมหกรรมของดีเมืองแพร่ แพร่ จังหวัดแพร่ เที่ยวแพร่ ที่เที่ยวแพร่ อาหารแพร่ เที่ยวเหนือ อาหารเหนือ เจ.เจ.มอลล์ JJ Mall งานโอท็อป o-top โอท็อปแพร่

เขียนโดย

นางสาวฮานะ ชิลไปไหน

แชร์บทความนี้