calendar_month 25 มี.ค. 2019 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 240,020 / ทริปตัวอย่าง
ถ้านึกถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เราอาจจะนึกถึงเมืองชายทะเลสุดฮอตอย่างหัวหิน แต่หัวหินสำหรับเราเป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่ไปบ่อยจนรู้จักทุกซอกทุกมุม เราอยากลองไปทำความรู้จักเมืองอื่นของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กันดูบ้าง เพื่อนสาวจึงออกไอเดียปิ๊งว่า "ไปสามร้อยยอดมะ..." เมืองบรรยากาศสุดสงบ แตกต่างจากหัวหินโดยสิ้นเชิง มีที่เที่ยวสวยงามมากมาย และการที่เราเดินทางไปเมืองที่ไม่รู้จักแบบนี้ก็เป็นเรื่องสนุกที่เราจะจินตนาการการเดินทางครั้งนี้ได้อย่างเต็มที่
จินตนาการแรกคือการขับรถเที่ยวสุดสนุกกับเพื่อนสาวสองคน อยากแวะที่ไหนก็ได้ตามใจต้องการ จินตนาการที่สองคือต้องเป็นทริปที่สะดวกสบาย เพราะเราต่างเป็นผู้หญิงพร็อพเยอะไปเที่ยวทะเลทั้งที ต้องขนเสื้อผ้า บิกินี่ เครื่องสำอางไปให้เยอะที่สุด รวมทั้งทริปนี้เราจินตนาการถึงปาร์ตี้บาร์บีคิวริมทะเล ก่อนออกเดินทางเราจึงแวะซื้ออาหารสดสำหรับทำบาร์บีคิวติดกระเป๋าไปมากมาย
โชคดีที่เพื่อนสาวใช้ "ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่"เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC รุ่น 5 ที่นั่ง เครื่องแรง คันใหญ่ สะดวกสบาย ของจะเยอะแค่ไหนก็ไม่หวั่น ทริปนี้สตาร์ทการเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้ามืด ปักหมุดมุ่งหน้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่แรกนั่นก็คือบึงบัวสามร้อยยอด ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้ถนนพระราม 2 เข้าสู่ถนนเพชรเกษม ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งเราก็เดินทางสู่อำเภอสามร้อยยอดกันแล้วล่ะค่ะ เบื้องหน้าของเราเป็นภูเขาหินปูนที่มียอดเขาน้อยใหญ่สลับกันมากมายสมชื่อสามร้อยยอดจริงๆ
ประมาณ 9 โมงเช้าก็มาถึงศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว หรือบึงบัวสามร้อยยอด แนะนำว่าควรมาที่นี่ไม่เกิน 10 โมงเช้า เพราะเป็นช่วงที่อากาศกำลังดีไม่ร้อนมาก และช่วงนี้เป็นช่วงที่บัวกำลังบานเลยล่ะค่ะ (โดยจะบานในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน)
บึงบัวสามร้อยยอดแห่งนี้เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ภายในบึงบัวประกอบไปด้วยสัตว์และพืชนานาชนิด มีสะพานไม้ทอดยาวไปในบึงน้ำ โดยสองข้างทางของทางเดินจะเต็มไปด้วยต้นธูปฤๅษีสีเขียวสลับเหลืองกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เหมือนกำลังเดินอยู่บนทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ พร้อมกันนั้นยังมีบัวเผื่อนกำลังออกดอกสีชมพูระเรื่อรับกับแสงพระอาทิตย์ยามเช้า อ๊ะไม่ต้องกลัวว่าจะร้อนนะคะ เพราะจะมีจุดพักเป็นศาลาหลังเล็กให้เราได้นั่งพักรับลมเย็นๆ ตลอดทาง
ในขณะที่เดินเราก็จะได้ยินเสียงนกร้องอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับการปรากฏตัวของนกสีสันสวยงามต่างๆ ที่จะออกมาชะแว้บให้เราได้เห็น แต่น้องก็ขี้อายกันมากๆ เพราะพอเราเดินเข้าไปใกล้ๆ น้องก็รีบเดินเข้าดงธูปฤๅษีหายตัวแว้บไปแล้ว แต่อย่าเดินเพลินจนไม่มองทางกันนะคะ เนื่องจากสะพานที่นี่ค่อนข้างเก่าจึงมีจุดที่ชำรุดไปบ้าง ดังนั้นควรใช้ความระมัดระวังกันด้วย เราเดินมาประมาณครึ่งทางก็เจอป้ายคุณไม่ได้ไปต่อ T_T เพราะสะพานชำรุดจึงเดินต่อไปไม่ได้แล้วล่ะค่ะ
เดินไม่สุดทางก็อย่าเพิ่งเสียใจไป มาลองใช้บริการคุณลุงคุณป้าชาวบ้านแถวนี้ ที่นำเรือมาจอดรอพานักท่องเที่ยวชมบึงบัว ราคาค่าเรือ 500 บาท/ลำ สามารถนั่งได้ประมาณ 4 คน ใช้เวลาเดินทางไป-กลับประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง คุณลุงจะพาเราล่องไปในบึงบัว อยากแวะถ่ายรูปเซลฟี่ตรงไหนก็ได้ เราเลยบอกคุณลุงให้พาไปจุดที่สวยที่สุด คุณลุงเลยพามาตรงบริเวณที่เต็มไปด้วยบัวเผื่อนกำลังชูช่อออกดอกสวยงามมากๆ เบื้องหน้าของเราคือแนวภูเขาหินปูนสลับซับซ้อนที่ยิ่งใหญ่เป็นภาพที่สวยงามและประทับใจ ไม่เคยคิดเลยว่าเราจะได้พบมุมมองแบบนี้ในเมืองชายทะเลแห่งนี้ด้วย
คุณลุงเล่าว่าอาชีพหลักๆ ของคุณลุง คือการทำประมงหาปลา โดยหลังจากมาเป็นไกด์พาเราเที่ยวแล้วก็จะกลับไปสวมวิญญาณชาวประมงต่อ ซึ่งในบึงบัวแห่งนี้เราจะเห็นภาพพี่ๆ ลุงๆ ยืนทรงตัวถ่อเรือหาปลาแบบขั้นเทพทำให้เรือล่องเร็วฉิวโดยไม่คว่ำเลยล่ะค่ะ
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
โทรศัพท์ : 032-821568
ที่ทำการอุทยานฯ เปิดประมาณ 8.00-16.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/SQ498HQgnrF2
เที่ยวบึงบัวกันจนเหนื่อยท้องก็เริ่มร้อง เลยเดินทางไปทานอาหารกลางวันที่ร้าน Chicken and Bee : good food & organic farm ร้านนี้เป็นร้านอาหารแนวออร์แกนิคฟาร์มที่มีคนแนะนำว่าอาหารอร่อยมากๆ เราเลยรีบปักหมุดเอาไว้ แล้วขับรถมุ่งหน้ามาที่ร้าน ซึ่งถ้าขับมาจากบึงบัวใช้เวลาประมาณ 40 นาที ร้านจะอยู่เลยอบต.สามร้อยยอดมานิดนึงค่ะ ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ สังเกตให้ดีนะคะเพราะป้ายร้านค่อนข้างเล็กอาจจะขับเลยร้านก็ได้
บรรยากาศของร้านล้อมรอบไปด้วยสวนผักผลไม้ออร์แกนิคที่พี่บี๋ นัทธมน ธัญวงษ์และพี่เจี๊ยบ สุดรัก โกมลหิรัณย์ สองสาวเพื่อนรักอดีตมนุษย์เงินเดือนจากเมืองหลวง ตัดสินใจเดินออกจากคอมฟอร์ตโซนมาเปิดร้านอาหารเล็กๆ พร้อมทำฟาร์มออร์แกนิคอยู่ที่สามร้อยยอดแห่งนี้ ซึ่งคำว่า Chicken and Bee มาจากชื่อพี่เจี๊ยบและพี่บี๋ ส่วนตัวร้านจะเป็นแบบเปิดโล่ง พี่บี๋เล่าด้วยความอารมณ์ดีว่าได้ไอเดียจากเพิงหมาแหงน ซึ่งหัวใจสำคัญคือการออกแบบให้อิงแอบกับธรรมชาติ โดยไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่เชื่อไหมคะว่าอากาศไม่ร้อนเลย มีลมพัดเย็นตลอดเวลา ยิ่งในช่วงยามเย็นบรรยากาศดีมากๆ จะเห็นพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าตรงฟาร์มผักด้านหลังร้านพอดีเลยล่ะค่ะ
ความน่ารักของร้านนี้คือการที่เห็นเจ้าของร้านอย่างพี่บี๋ เดินเข้าสวนไปเก็บพืชผักสวนครัวจากต้นมาปรุงอาหารเอง พี่บี๋บอกเราว่าบางส่วนจะปลูกเอง บางส่วนจะรับซื้อจากเกษตรกร หรือฟาร์มที่มั่นใจว่าไม่มีสารเคมี
ตอนแรกเราคิดว่าร้านออร์แกนิคฟาร์มแบบนี้เมนูอาหารจะสุขภาพจ๋าหรือเปล่า แต่พอเปิดเมนูมาก็พบว่ามีทั้งอาหารสุขภาพและอาหารทั่วไปที่คนอยากทานเบค่อน อยากทานชีส หรืออยากทานน้ำอัดลมก็มีให้ทาน พี่บี๋กับพี่เจี๊ยบเล่าให้เราฟังว่าเมนูอาหารเหล่านี้เกิดจากไลฟ์สไตล์ของทั้งคู่ที่บางครั้งก็อยากทานอาหารสุขภาพสลับกับอาหารแบบแฟตบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวัตถุดิบต่างๆ ทุกเมนูมีการเลือกสรรมาเป็นอย่างดี
เมนูที่เราสั่งมาทานในวันนี้ประกอบไปด้วย อาหารไทยอย่าง แกงรัญจวนหมู อาหารชาววังในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งดั้งเดิมจะใช้เนื้อ แต่ทางร้านเลือกใช้เป็นหมูนำไปตุ๋นจนเปื่อยได้ที่แล้วนำมาแกงพร้อมกับใส่น้ำพริกกะปิ กลิ่นหอมรัญจวนชวนน้ำลายไหล ตัวน้ำแกงจะมีรสชาติเหมือนต้มยำแต่มีความหอมกะปิ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมากๆ ต่อด้วยน้ำพริกนางลอยที่ใช้น้ำพริกกะปิถ้วยเดียวกับแกงรัญจวนนำไปผัดกับหมูสับ สับปะรด มะเขือเทศ พร้อมกับใส่ไข่แดงเค็มปั้นเป็นลูกกลมเล็กๆ ตกแต่งด้านบน รสชาติของเมนูนี้ให้ 10 ผ่านกันไปเลย เพราะทางร้านเลือกใช้กะปิกลิ่นหอมและไม่เค็มจนเกินไป ใช้ความเปรี้ยวของสับปะรด และมะเขือเทศตัดกับกะปิทำให้น้ำพริกถ้วยนี้รสชาติครบรสมากๆ ยิ่งทานกับผักแนม ทั้ง กระเจี๊ยบ มะเขือ แตงกวา ดอกอัญชัน และผักพื้นบ้านอย่างยอดสะเดามาเล ผักโขมบ้าน โอ๊ยยย ฟินสุดๆ พร้อมกันนั้นยังเสิร์ฟมาคู่กับมะเขือยาวชุบไข่ทอด ยกนิ้วให้เลยอร่อยเด็ดจริงๆ ค่ะ
ไม่ใช่เพียงอาหารไทยที่เด็ด สลัด พาสต้าร้านนี้ก็ไม่น้อยหน้า เราสั่งปราณ รีเฟร็ชเมนท์ สลัดผลไม้สดทั้งส้ม กีวี แอปเปิ้ล องุ่น แก้วมังกร เม็ดมะม่วงหิมพานต์และน้ำสลัดสูตรของทางร้าน ทานแล้วช่วยรีเฟรชร่างกายในวันที่อากาศร้อนได้อย่างดีเลยล่ะค่ะ ต่อด้วยกรีกสลัด ที่ใช้ผักสลัด มะเขือเทศ มะกอกดำ แตงกวา หอมแดง เฟต้าชีส และน้ำสลัดสูตรของทางร้าน รสกลมกล่อมอร่อยมากๆ ปิดท้ายด้วยสปาเก็ตตี้เบคอน พริกแห้ง กระเทียม ตัวเบค่อนกรอบหอมอร่อยรสจัดจ้านโดนใจ ส่วนข้าวที่ร้านจะมีให้เลือก 3 แบบ คือข้าวหอมมะลิจากอำนาจเจริญ ข้าวสีนิล และข้าวเวสสันตะระซึ่งเป็นการนำพันธุ์ข้าวเหนียวมาผสมกับพันธุ์ข้าวหอมมะลิ ได้ข้าวหอมนุ่มหนึบ ยิ่งทานกับอาหารไทยของร้านบอกเลยว่าจานเดียวไม่เคยพอ ต้องขอเบิ้ลเพิ่มกันเลย
แนวคิดการพึ่งพิงธรรมชาติไม่ได้อยู่เพียงในเมนูอาหารและการตกแต่ง แต่ยังอยู่ในการเลือกใช้ภาชนะของทางร้านโดยทางร้านเลือกใช้แก้วที่ย่อยสลายได้ ใช้หลอดกระดาษ และใครที่นำแก้วมาเองยังลดค่าเครื่องดื่มอีก 10 บาทด้วยนะ ก่อนจะขับรถต่อ เราจึงสั่งเมนูเครื่องดื่มเย็นๆ ไปทานระหว่างขับรถกันด้วยค่ะ
ถือแก้วขึ้นรถมาก็สามารถนำมาวางตรงช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลางที่กว้างขวางและเรียบหรูตกแต่งเส้นสายด้วยลายไม้ และวัสดุสี Piano Black สามารถวางแก้วน้ำสองใบคู่กันได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมช่องใส่ของที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลายรูปแบบ
ที่ตั้ง : ร้าน Chicken and Bee ตำบลสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 10.00 - 18.00 น. (ปิดวันพุธ)
โทรศัพท์ : 092-054-5645
GPS : https://goo.gl/maps/P4hbY5e1unk
จากร้าน Chicken and Bee ใช้ถนนหมายเลข 4020 มุ่งสู่หาดสามร้อยยอด โดยจุดมุ่งหมายครั้งนี้ของเราคือที่พักสุดไพรเวท หรรษา ปราณบุรี (Hansar Pranburi)
ซึ่งถนนในสามร้อยยอดที่เราใช้เดินทางสู่ที่พักนั้นจะเป็นโครงข่ายถนนเลียบชายฝั่งทะเล มีเลนจักรยาน และมีป้ายบอกตลอดทางว่า เลี้ยวซ้ายระวังจักรยาน ซึ่งสำหรับคนที่ขับรถจะเป็นกังวลเรื่องมุมอับ กังวลเวลาจะเลี้ยวซ้ายหรือเปลี่ยนเลน แต่สำหรับฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่คันนี้ ตอบโจทย์คนขับรถอย่างเรามากๆ ค่ะ เพราะมี Honda LaneWatch ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนที่ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย
โดยใช้กล้องจับภาพและแสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 7 นิ้ว เพื่อการมองเห็นที่ไร้มุมอับ ให้ความปลอดภัยในทุกการขับขี่
ประมาณ 20 นาทีก็ถึงที่พักแล้วค่ะ ที่พักแบบส่วนตัวเหมาะสำหรับการมาพักเป็นครอบครัว โดยคุณสามารถเหมายกหลัง จะยกแก๊งค์ ยกเพื่อน ยกออฟฟิศมาพักก็ยังไหว ส่วนเราแม้จะมา 2 คนแต่ของก็เยอะเหมือนมาเป็นครอบครัว ไม่ว่าจะเสื้อผ้า บิกินี่ที่เตรียมมาเกือบทุกสี เครื่องสำอางชุดใหญ่ และพลาดไม่ได้กับวัตถุดิบอาหาร ซีฟู้ด ที่นำมาทำปาร์ตี้บาร์บีคิวในคืนนี้ ของเยอะขนาดนี้ถ้าไม่ได้ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่คันนี้คงจะขนมาไม่หมดแน่ๆ ด้วยที่วางของด้านท้ายรถที่กว้างขวางมีพื้นที่ให้ขนของสบายเลยล่ะค่ะ
เวลาขนของเยอะๆ เราไม่อยากวางของเพื่อปิดฝากระโปรงท้าย แต่รถคันนี้สะดวกเพราะมี Hands-free Power Tailgate ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี
ห้องพักคืนนี้ของเรามองเห็นทะเลด้วยค่ะ อากาศร้อนๆ แบบนี้ขอไปเปลี่ยนชุดบิกินี่ที่เตรียมมาไปเล่นน้ำกันดีกว่า
ที่พักบรรยากาศส่วนตัวตั้งอยู่สุดหาดสามร้อยยอด ยิ่งในช่วงยามเย็นแบบนี้เป็นช่วงเวลาที่สวยงามมากๆ
เมื่อเล่นน้ำกันตัวเปื่อยก็ถึงเวลาแห่งมื้อดินเนอร์สุดพิเศษ คืนนี้เรานำของสด ซีฟู้ด และผักต่างๆ ที่ขนมาจากท้ายรถ มาทำเป็นบาร์บีคิวริมทะเล ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก แหม อยากกดปุ่มเปลี่ยนเพื่อนสาวตรงหน้าเป็นชายหนุ่มหล่อจังเลยค่ะ 555
ที่ตั้ง : หรรษา ปราณบุรี ตำบลสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โทรศัพท์ : 02-209-1234
GPS : https://goo.gl/maps/UCeQ26owTc12
เช้านี้เราเช็คเอาท์ออกจากที่พักตั้งแต่เช้าเพื่อเดินทางไปยังถ้ำพระยานคร ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด โดยปักหมุด GPS ไว้ที่วัดบางปู แล้วจะมีให้เลือกสองวิธีคือเดินข้ามเขาประมาณ 500 เมตรไปยังหาดแหลมศาลา หรือจะเลือกนั่งเรือหางยาวอ้อมเขาใช้เวลาเพียง 10 นาทีราคา 400 บาท/ลำ นั่งได้ประมาณ 6 คน ไปยังหาดแหลมศาลา จากนั้นจะมีทางเดินไปยังถ้ำพระยานคร โดยเป็นทางขึ้นเขาค่อนข้างชันไปอีก 430 เมตร
เดาไม่ยากว่าสองสาวขยั๊น ขยันเดินอย่างเราจะเลือกอะไร ก็ต้องเลือกนั่งเรือสิคะ ตอนแรกว่าจะลองเดินข้ามเขากันนั่นแหละค่ะ แต่พอเห็นทางขึ้น ขาก็เริ่มสั่น เลยบอกนางเพื่อนว่าเรามาใช้เงินแก้ปัญหานั่งเรือสวยๆ กันดีกว่า ค่าเรือไป-กลับ 400 บาท และเสียค่าเข้าอุทยานฯ อีกคนละ 40 บาท
เรือหางยาววิ่งมาประมาณ 10 นาทีก็ถึงหาดแหลมศาลา ซึ่งเป็นหาดที่ทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสน่าเล่นสุดๆ แต่จุดมุ่งหมายของเราครั้งนี้ไม่ใช่น้ำทะเลใสๆ แต่เป็นสิ่งที่อยู่ด้านหลังทะเล นั่นก็คือทางเดินสู่ถ้ำพระยานคร
ป้ายเขียนบอกไว้ว่า 430 เมตร ถ้าเป็นทางราบไม่หวั่น แต่พอเป็นทางชันทำไมขาสั่นขึ้นมาก็ไม่รู้
ทางเดินเป็นทางที่ค่อนข้างดี เดินง่ายค่ะ แต่เป็นทางขึ้นอย่างเดียวเลย เดินไปก็หอบแฮกๆ ไป และนั่งพักไป ระหว่างนั้นก็จะมีผู้พิชิตที่มาก่อนเรากำลังเดินสวนเรากลับมา พร้อมกับคำพูดที่ให้กำลังใจว่าใกล้ถึงแล้ว ได้ฟังดังนั้นลูกฮึบมันก็ขึ้นมาและพาสองขาให้ก้าวไปข้างหน้าต่อ จนมาเจอป้ายถ้ำพระยานครพร้อมทางลง ใจก็เริ่มชื้นแล้วค่ะ
พอเดินลงมาไม่นานเราก็ต้องตกตะลึงกับความสวยงามตรงหน้า ซึ่งเป็นเหมือนห้องโถงขนาดใหญ่มีลำแสงสาดส่องเข้ามาในช่องตรงกลางของถ้ำ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวขึ้นปกคลุมปากปล่องถ้ำ ราวกับที่นี่เป็นดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ ตรงกลางที่ตั้งอยู่โดดเด่นนั้นคือศาลาทรงไทยนามว่า "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในคราวที่พระองค์เสด็จประพาสแหลมมลายู เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2433 ซึ่งพระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระยาชลยุทธโยธินเป็นนายช่างสร้างพลับพลาแบบจตุรมุขขนาดย่อมตั้งไว้บนเนินดินกลางถ้ำ และพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์"
ด้านขวาของพระที่นั่งมีลายพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และ รัชกาลที่ 7 ปรากฏอยู่ และถ้ำแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเคยเสด็จประพาสถึงสองครั้ง
ภายในยังมีความสวยงามของหินงอกหินย้อยมากมายให้เราได้ชม เป็นความเหนื่อยที่คุ้มค่ากับการได้มาชมสักครั้งในชีวิต ซึ่งถ้าใครอยากมาชมในช่วงเวลาที่แสงพระอาทิตย์สาดส่องลงมาที่ตัวพระที่นั่งฯ พอดี จะต้องมาในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม เวลาประมาณ 10 โมงเช้า จะได้ภาพที่สวยงามราวกับภาพวาดเลยล่ะค่ะ
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : 032-821568
GPS : https://goo.gl/maps/LDnkaNKqvd72
จุดหมายต่อไปของเราคือหาดสามพระยา ซึ่งถนนทางไปหาดสามพระยามีโค้งหักศอก แต่ปลอดภัยเพราะฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่คันนี้มี Vehicle Stability Assist (VSA) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง เพิ่มการยึดเกาะถนน มั่นใจทุกการขับเคลื่อน
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีเราก็ถึงหาดสามพระยาแล้วค่ะ ซึ่งหาดสามพระยานั้นตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เรามีบัตรอุทยานฯ จากถ้ำพระยานครแล้วก็สามารถเข้าที่นี่ได้เลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม
หาดสามพระยานั้นเป็นหาดที่สวยงามบรรยากาศสงบ ทรายขาวนุ่มเท้า และยังมีทิวสนขึ้นปกคุมรอบๆ หาด เหมาะกับการมานอนเอนกายชมทะเล ใครที่อยากมากางเต็นท์เขาก็มีบริการลานกางเต็นท์ด้วยนะคะ ถ้านำเต็นท์มาเสียค่าบริการเพียง 30 บาท/คน/คืน ส่วนใครที่ไม่ได้นำเต็นท์มาสามารถมาเช่าที่นี่ได้ราคา 150 บาท/หลังมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ พร้อมร้านขายอาหารให้บริการ
อัตราค่าบริการเข้าชมหาดสามพระยา
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : 032-821568
GPS : https://goo.gl/maps/3n9AyC9p45v
ทั้งขึ้นเขา เข้าถ้ำ เล่นน้ำกันจนเหนื่อย แถมยังต้องขับรถเที่ยวแบบนี้อาจจะทำให้เกิดการเหนื่อยล้าแต่สำหรับ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่คันนี้ ทำให้เรามั่นใจด้วยระบบ Driver Attention Monitor ซึ่งเป็นระบบที่ตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ผ่านการควบคุมพวงมาลัย เมื่อพบว่าประสิทธิภาพในการควบคุมรถของเราลดน้อยลง ระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ TFT
และเมื่อตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้า ระบบจะทำการสั่นเตือนที่พวงมาลัย เป็นสัญญาณบอกกับเราว่าควรหาคาเฟ่น่ารักนั่งพักทานกาแฟกันสักแก้ว ซึ่งร้านคาเฟ่ที่เราเลือกพักในครั้งนี้ก็คือร้าน Above Sea Level Cafe
Above Sea Level Cafe คาเฟ่เปิดใหม่ตั้งอยู่ริมถนนเลียบทะเลปราณบุรี โดยตัวร้านจะยกพื้นสูงจากระดับน้ำทะเล ทำให้สามารถชมวิวทะเลสวยๆ ได้อย่างเต็มตาจึงเป็นที่มาของชื่อร้าน Above Sea Level Cafe
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งได้น่ารักมากๆ โดยใช้โทนสีฟ้าของท้องทะเลมาเพนท์ลายผนังให้เป็นเกลียวคลื่น เช่นเดียวกันกับเคาน์เตอร์บาร์ไม้ที่เพ้นท์สีฟ้าน้ำทะเลเหมือนเกลียวคลื่นกำลังไหลผ่านไปทั่วร้าน ตัดด้วยสีขาวของตาข่ายบนเพดานให้ความรู้สึกเหมือนเรือประมง พร้อมกับของประดับตกแต่งกระจุกกระจิกภายในร้าน เช่น เรือใบลำเล็ก โคมไฟรูปสมอ ก็ทำให้เรารู้สึกถึงท้องทะเลสีคราม พร้อมกับลมทะเลที่พัดกลิ่นอายทะเลเข้ามา ความเหนื่อยล้าเมื่อครู่จากการเดินทางก็เริ่มเบาบางลง
เราสั่ง Cocopresso ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน เมนูกาแฟสุดเข้มข้นที่ใช้เอสเพรสโซ่ช็อต จากเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% ของภาคเหนือ และใช้น้ำมะพร้าวแทนน้ำเปล่า ซึ่งความนุ่มนวล หอม หวานของน้ำมะพร้าว ทำให้กาแฟที่หอม เข้ม ละมุนลง มีกลิ่นหอมจางๆ ของมะพร้าว เสิร์ฟมาพร้อมเนื้อมะพร้าวด้านบน เป็นเมนูที่ช่วยเรียกความสดชื่นให้กับร่างกายได้อย่างดีทีเดียวค่ะ
นอกจากเมนูกาแฟแล้วทางร้านยังมีเมนู Non Coffee ให้เลือกอีกมากมายทั้งเมนูอิตาเลียนโซดา เมนูช็อกโกแลตเย็นผสมมะพร้าวซึ่งเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ที่น่ามาลองมากๆ วันนี้เราก็ได้สั่งมาลองกันด้วยค่ะ ใครชอบช็อกโกแลตรับรองว่าฟิน ส่วนเมนูขนมของร้านมีทั้งเค้กโฮมเมด และเมนูวาฟเฟิล แนะนำเมนูนี้เลย วาฟเฟิลสตรอว์เบอร์รีเฟรชครีม+ไอศกรีม ตัววาฟเฟิล อบร้อนด้านนอกกรอบด้านในนุ่ม ทานกับไอศกรีม สตรอว์เบอร์รีสด วิปครีม และไซรัป อร่อยฟินมากๆ เรื่องของหวานต้องยกให้สองเรา ให้กินจนตัวแตกก็ยังไหว
ทานขนมและจิบกาแฟกันแล้วท้องก็เริ่มอยากทานอาหารหนักๆ ซึ่งร้าน Above Sea Level Cafe นั้นตั้งอยู่ภายในร้านอุดมโภชนา ร้านอาหารชื่อดังของปราณบุรี เราเลยขอฝากท้องไว้ที่ร้านนี้ จัดหนักจัดเต็มทั้งกับเมนูเด็ดหมึกแดดเดียวสูตรต้นตำรับ ไม่เหนียว รสกลมกล่อมไม่ต้องจิ้มอะไรก็อร่อย ต่อด้วยน้ำพริกไข่ปู น้ำพริกรสจัดจ้านพร้อมกับไข่ปูม้าอัดแน่นมาเยอะมาก ทานกับผักสดจิ้มกันจนเพลินเลยค่ะ เผ็ดร้อนกันต่อกับเมนูหอยเชลล์ผัดฉ่า ใช้หอยเชลล์สดๆ ไปผัดกับเครื่อง รสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟมากันต่อกับเมนูกุ้งอบเกลือ เลือกใช้กุ้งทะเลตัวโตมาอบเกลือแล้วจิ้มด้วยน้ำจิ้มสุดแซ่บ มีกุ้งแล้วก็ต้องสั่งปู เราเลยสั่งปูนิ่มทอดกระเทียม วิธีทำคือการนำปูนิ่มคลุกกับแป้งข้าวโพดและกระเทียม แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ทำให้กลิ่นหอมของกระเทียมเข้าถึงเนื้อปู มาฟินกันต่อกับปลากะพงสามรสสูตรเด็ดของร้าน คือการนำมะเขือเทศมาหั่นแล้วเคี่ยวกับน้ำตาลทราย กระเทียม ใส่พริกแดง ความเปรี้ยวของมะเขือเทศช่วยชูรสให้ปลากระพงสามรสจานนี้มีความอร่อย รสชาติไม่เหมือนใคร
ที่ตั้ง : ร้าน Above Sea Level Cafe ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เปิดบริการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 9.00 - 19.00 น., วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 9.00 - 20.00 น.
โทรศัพท์ : 081-458-3444
GPS : https://goo.gl/maps/rDkFBtEvqj52
ปิดท้ายทริปนี้กับวนอุทยานปราณบุรีซึ่งเส้นทางจากร้าน Above Sea Level Cafe ไปยังวนอุทยานปราณบุรีนั้นเป็นทางขึ้นเขาค่อนข้างชัน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะมี Hill Start Assist ช่วยให้การขับขี่บนเขาง่ายขึ้น ชันแค่ไหนก็ไปไหว
เดินทางมาถึงวนอุทยานปราณบุรีแล้วล่ะค่ะ ไปทิ้งท้ายทริปนี้ด้วยการถ่ายรูปสวยๆ ด้านในกันเลยดีกว่า โดยภายในวนอุทยานปราณบุรีนั้นประกอบไปด้วยป่าชายเลน ป่าเบญจพรรณ และป่าชายหาด มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเป็นทางเดินไม้ที่ลัดเลาะไปในป่าชายเลนระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ให้เราได้เดินชมป่าชายเลน ซึ่งพอเดินเข้าไปข้างในเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่งเลยค่ะ บรรยากาศร่มครึ้มไปด้วยป่าโกงกางอายุร้อยปี ที่มีรากขนาดใหญ่โผล่มาจากพื้นดินเลน เหมือนเรากำลังเดินเข้าสู่ป่าดึกดำบรรพ์ พร้อมกับมีเหล่าบรรดาปู ปลา และสัตว์ต่างๆ ที่ต่างพึ่งพิงป่าแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัย
เดินมาจนจะสุดทาง เราจะได้พบกับทุ่งโปรงทอง ซึ่งเต็มไปด้วยต้นโปรงที่ขึ้นอยู่มากมาย มีหอชมวิวให้สามารถชมวิวสวยๆ ด้านบน ยิ่งในช่วงยามเย็นแบบนี้แสงของพระอาทิตย์จะอาบไล้เหล่าบรรดาต้นโปรงให้กลายเป็นสีเหลืองทองสวยงามมากๆ ค่ะ นี่จึงเป็นที่มาของทุ่งโปรงทอง ณ วนอุทยานปราณบุรี
ที่ตั้ง : วนอุทยานปราณบุรี หมู่ที่ 1 ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 8.00-18.00 น.
โทรศัพท์ : 061-464-4951
https://goo.gl/maps/qKSLQ46Psiz
ระยะเวลา 2 วัน 1 คืนในสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เราได้พบว่าที่นี่มีสถานที่สวยงามมากมายที่ซ่อนตัวอยู่ และทุกสถานที่ที่เราไปนั้น ล้วนเป็นสถานที่ที่เราไม่คุ้นเคย ความสนุกของทริปนี้จึงเกิดจากการดีไซน์และจินตนาการทริปในแบบของเรา ไม่ต้องมีคู่มือไกด์บุ๊คอะไรให้วุ่นวาย มีเพียงเพื่อนร่วมทางคู่ใจและฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่คันนี้ที่จะนำเราไปสู่ทุกพื้นที่ที่เราจินตนาการ
Tags: ประจวบคีรีขันธ์ ทริปตัวอย่าง สามร้อยยอด ขับรถเที่ยว ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ALL NEW HONDA CRV รถยนต์ ฮอนด้า ยานยนต์ เที่ยวสามร้อยยอด ที่เที่ยวสามร้อยยอด ที่กินสามร้อยยอด ร้านอาหารสามร้อยยอด คาเฟ่สามร้อยยอด เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ ที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ ที่กินประจวบคีรีขันธ์ ร้านอาหารประจวบคีรีขันธ์ คาเฟ่ประจวบคีรีขันธ์ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว(บึงบัวสามร้อยยอด) Chicken and Bee อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด หรรษา ปราณบุรี (Hansar Pranburi) ถ้ำพระยานคร หาดสามพระยา Above Sea Level Cafe อุดมโภชนา วนอุทยานปราณบุรี เที่ยวปราณบุรี ที่เที่ยวเที่ยวปราณบุรี ที่กินเที่ยวปราณบุรี ร้านอาหารเที่ยวปราณบุรี คาเฟ่เที่ยวปราณบุรี
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 414 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 360 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 883 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,199 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ต.ค. 2024 | 881 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน ทริปตัวอย่าง | 11 ก.ย. 2024 | 2,235 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 05 ส.ค. 2024 | 1,981 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 31 ก.ค. 2024 | 1,439 อ่าน
ทริปตัวอย่าง ที่เที่ยว | 25 ก.ค. 2024 | 1,324 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 23 ก.ค. 2024 | 2,115 อ่าน