calendar_month 26 ก.พ. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 64,750 / สถานที่ยอดนิยม
อยู่ต่อเลยได้ไหม อย่าปล่อยให้ตัวฉันไป
เธอก็รู้ว่าทั้งหัวใจ ฉันอยู่ที่เธอหมดแล้วตอนนี้ ~
เคยมั้ย ? เวลาออกเดินทางไกลไปไหนสักที่แล้วมันหลงลืมความวุ่นวายรอบตัว ลืมเรื่องทุกสิ่ง จนอยากกดพอสเวลา หยุดนาฬิกาชีวิตเอาไว้ให้ได้นานที่สุด ใช่ค่ะ… เรากำลังรู้สึกแบบนั้นกับจังหวัด “น่าน” เมืองเล็กๆ น่ารักแต่แสนมีเสน่ห์ที่หลายคนเคยมองว่าเป็นเมืองรอง และแน่นอนว่าเราคงต้องขอเถียงขาดใจ เพราะไม่เพียงแต่ธรรมชาติสวยงามอุดมสมบูรณ์ของขุนเขา และทุ่งนาเท่านั้น แต่น่านยังเป็นเมืองล้านนาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิถีชีวิต และมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า เป็นเหมือนไวรัสแห่งความสุขที่เรากล้าพูดได้เต็มปากว่า ถ้ามีโอกาสได้มาลองสัมผัส “น่าน” ด้วยตัวเองสักครั้ง จะต้องตกหลุมรักซ้ำๆ แบบที่เราเป็นอย่างแน่นอน !
สักการะพระธาตุประจำปีเกิด ณ “พระธาตุแช่แห้ง”
แต่ละจังหวัด แต่ละบ้านเมืองมักมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนแตกต่างกันออกไปตามความเชื่อและศาสนา และแน่นอนว่าเมื่อพูดถึงวัดคู่บ้านคู่เมืองประจำจังหวัดน่านคงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้อีก นอกจาก “พระธาตุแช่แห้ง” พระธาตุประจำปีนักษัตรของคนปีเถาะหรือปีกระต่าย ที่ชาวล้านนามีความเชื่อว่าการได้มา ‘ชุธาตุ’ หรือสักการะประธาตุประจำปีเกิดสักครั้ง จะได้รับอานิสงส์อย่างแรงกล้า เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสืบต่อไป
พระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่ที่อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร จัดเป็นโบราณสถานล้ำค่าอีกแห่งหนึ่งของประเทศ ทั้งในด้านศิลปะกรรมและประวัติศาสตร์ ลักษณะเป็นพระอารามหลวง มีเจดีย์องค์ใหญ่สีทองเหลืองอร่ามตามแบบสถาปัตยกรรมล้านนา และจะดูงดงามอย่างที่สุดเมื่อยามต้องแสงอาทิตย์ สามารถมองเห็นได้แต่ไกล
ตามตำนานพงศาวดารเก่าแก่ของเมืองน่านบันทึกไว้ว่า เจ้านครน่านได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุในส่วนของกระดูกข้อมือด้านซ้ายจากกรุงสุโขทัยมาประดิษฐานไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง และยังมีเรื่องเล่าต่ออีกว่า เมื่อครั้นพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่งแม่น้ำน่านทางทิศตะวันออก และเสวยผลสมอแห้ง ซึ่งมีผู้นำมาถวาย แต่ผลสมอนั้นแห้งมาก พระองค์จึงทรงนำผลสมอนั้นไปแช่น้ำก่อนเสวย และทรงมองเห็นนิมิตในอนาคตว่า ต่อไปที่นี่จะมีผู้นำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน และเรียกขานว่า “พระธาตุแช่แห้ง” นับแต่นั้นเป็นต้นมา
แต่นอกจากการไหว้ขอพรพระธาตุแล้ว ภายในบริเวณวัดยังมีซุ้มให้นักท่องเที่ยวร่วมทำบุญ อย่างการแขวนตุง หรือแขวนโคมได้อีกด้วย
ตามรอยจิตรกรรมฝาผนังกระซิบรักบรรลือโลกที่ “วัดภูมินทร์”
จังหวัดน่าน ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมในเรื่องของการสร้างวัดสวยงามชื่อดังมากมาย หนึ่งในนั้นคือ “วัดภูมินทร์” ที่ใครๆ ก็ต้องพากันมามากระซิบรักให้โลกจดจำหน้า “ปู่ม่านย่าม่าน” ภาพเขียนสีอันโด่งดังอายุหลายร้อยปี จนกลายมาเป็นแลนด์มาร์คสำคัญสำหรับคนที่มาเยือนจังหวัดน่าน แน่นอนว่าถ้ามาน่านแล้วไม่ได้มาชมภาพเขียนสีนี้สักครั้งก็เหมือนมาไม่ถึง
มีการสันนิฐานว่า “ปู่ม่านย่าม่าน” แท้จริงแล้วเป็นชาวพม่า โดยคำว่าปู่นั้นไม่ใช่คำเรียกผู้ชายอายุมากๆ อย่างที่พวกเราคุ้นชิน แต่เป็นคำที่ใช้เรียกผู้ชายซึ่งผ่านพ้นวัยเด็ก เช่นเดียวกับคำว่า ย่า ขณะที่ม่านนั้นหมายถึงประเทศพม่านั่นเอง ภาพปู่ม่านย่าม่านในวิหารของวัดภูมินทร์นั้น เรียกได้ว่าเป็นจิตรกรรมอันโด่งดังและแตกต่างจากการวาดภาพชาดกในวัดทั่วไป
โดยเฉพาะกับกิริยาที่แสดงความรักใคร่ระหว่างหนุ่มสาวซึ่งล่วงเข้าสู่วัยที่แต่งงานเป็นสามีภรรยากันแล้ว นอกจากนี้ ภายในวิหารก็ยังมีภาพอื่นๆ ที่เล่าถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมของชาวน่านในอดีต ซึ่งผ่านกาลเวลา ผ่านร้อน ผ่านหนาวจนกลายมาเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ยังหลงเหลือเอาไว้ให้เราได้ร่วมชื่นชม
แต่นอกจากภาพเขียนสีแล้ว ตัวโบสถ์ของวัดภูมินทร์เองก็มีเอกลักษณ์ไม่แพ้กัน ด้วยการออกแบบรูปทรงจตุรมุขแห่งเดียวในเมืองไทย มีประตูรายล้อมตัวโบสถ์ถึง 4 ด้าน ไม่ว่าจะเข้ามาจากประตูไหนก็จะสามารถมองเห็นได้ใบหน้าของพระพุทธเจ้าได้อย่างชัดเจนทั่วถึงทุกมุม
แน่นอนว่าต้องอย่าลืมไปลอดบันไดพญานาค บริเวณหน้าทางขึ้นวิหารด้วยนะ โดยชาวบ้านเชื่อกันว่า หากลอด 1 ครั้งจะได้กลับมาน่านอีก ส่วนถ้าลอดครบ 3 ครั้งคำอธิษฐานขอพรจะเป็นจริง และยังอาจจะได้เป็นลูกเขย หรือลูกสะใภ้เมืองน่านด้วยล่ะเจ้า
สัมผัสวิถีชาวบ้านแบบสโลว์ไลฟ์ที่ “ชุมชนบ่อสวก”
ถ้าอยากซึมซับความเป็นน่านให้เข้าถึง เราขอแนะนำให้ทุกคนไปทำความรู้จักกับ “ชุมชนบ้านบ่อสวก” ชุมชนแห่งภูมิปัญญาที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น กับการรักษาและอนุรักษ์วิถีชีวิตของชาวบ้านแบบดั้งเดิม ไปพร้อมๆ กับการส่งต่อเอกลักษณ์การทำเครื่องปั้นดินเผาแบบโบราณที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งเครื่องปั้นดินเผาที่ดีที่สุดในอดีต ยืนยันได้จากการขุดค้นเจอเตาเผาโบราณเก่าแก่ที่สุดในล้านนาอายุ 750 ปี จำนวนมากถึง 7 เตาที่บ้านจ่ามนัส จนได้รับยกย่องเชิดชูให้เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าโบราณคดีที่สำคัญอีกแห่งของประเทศมาแล้ว
ซึ่งเมื่อนับรวมกับเตาของพื้นที่อื่นในละแวกใกล้เคียงเชื่อว่าจะมีจำนวนถึง 2,000-3,000 เตาเลยทีเดียว เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าในอดีตชุมชนบ่อสวกนั้นเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเครื่องเคลือบที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ อีกทั้งดินเหนียวบ่อสวกยังได้ชื่อว่าเป็นดินเหนียวแบบพิเศษที่เหมาะสำหรับนำมาปั้นเครื่องปั้นดินเผาได้ดีที่สุดอีกด้วย ในปัจจุบันชุมชนบ้านบ่อสวกได้รับการส่งเสริมยกระดับให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวจนคว้ารางวัลกินรีสาขาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชุมชน และรางวัลชุมชนชวนเที่ยวของททท.มาแล้วมากมาย
นอกจากนี้ ที่ชุมชนบ่อสวกจึงเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว และบุคคลที่สนใจได้มีส่วนร่วมกับการปั้นเครื่องปั้นดินเผา สนุกไปกับกิจกรรมจักรสานบ้านต้วม ที่คุณลุงคุณป้าจะสอนเราสานไม้ตอกที่ได้จากต้นไผ่เป็นข้าวของเครื่องใช้ ตลอดจนของเล่นต่างๆ
หรือสนุกสนานไปกับกิจกรรมทอผ้ากับบรรดาชาวบ้านซาวหลวง ซึ่งถือเป็นเครือข่ายกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน ด้วยการส่งออกผ้าทอลายน้ำไหล ผ้าทอลวดลายขึ้นชื่ออันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของจังหวัดน่าน ที่ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจนสร้างเป็นมูลค่าออกมาในนามของแบรนด์ผ้าทอ “น่านเน่อเจ้า”
ดื่มด่ำสถาปัตยกรรมแบบไทลื้อ-ต้นโพธิ์ยักษ์ที่ “วัดหนองแดง”
ไกลออกไปในอำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน คือ ที่ตั้งของ “วัดหนองแดง” วัดเก่าแก่โบราณของชาวไทลื้อ ที่มีลักษณะเด่นอยู่ตรงสถาปัตยกรรมแบบเฉพาะตัว ซึ่งร่วมกันสร้างขึ้นจากฝีมือช่างชาวไทลื้อ และไทพวนราว 200 กว่าปีมาแล้ว นับเป็นสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่หาได้ยาก อีกทั้งยังเป็นวิหารไม้รุ่นสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่
ตัววิหารมีขนาดกะทัดรัด ผนังใช้อิฐถือปูน และไม้มุงหลังคาที่เรียกว่าแป้นเกล็ด ส่วนช่อฟ้าแกะด้วยไม้สักทองเป็นรูปนกหัสดีลิงค์ ด้านในประดิษฐานพระบัวเข็ม องค์พระประธานสร้างโดยครูบาสิทธิการบนนาคบัลลังก์ ซึ่งเชื่อว่านาคคือตัวแทนของความดีงาม ความสง่างามและช่วยปกป้องพุทธศาสนา นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเขียนด้วยปูนหายากสมัยโบราณเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธชาติชาดก
ส่วนด้านนอกนั้นเปิดพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ท้องถิ่นขนาดเล็ก ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นดูมีมนต์ขลังของต้นไม้น้อยใหญ่ที่ล้อมรอบ หากพอมีเวลา แนะนำว่าลองหาโอกาสไปเดินเล่นด้านหลัง เพราะยังมีต้นโพธิ์ยักษ์ และพระพุทธรูปปางประจำวันเกิดรอให้เราได้ทำการขอพรอีกด้วย
แปลงร่างเป็นชาวสวนที่ “Cocoa Valley” อาณาจักรสำหรับคนรักโกโก้
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าที่น่านก็มีสวนโกโก้ที่ฟินไม่แพ้ต่างประเทศเหมือนกัน ! กับ Cocoa Valley อาณาจักรสำหรับคนรักโกโก้ที่เป็นทั้งที่พัก สวนโกโก้ และคาเฟ่สุดฟิน
Cocoa Valley สวนโกโก้หนึ่งเดียวในจังหวัดน่าน บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ ที่ผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันและใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการเพาะต้นกล้า คอยดูแลรดน้ำ เก็บเกี่ยวผลโกโก้มาแปรรูป สู่ผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตสารพัดรูปแบบในแบรนด์ของตัวเอง
โดย Cocoa Valley ยังใจดีเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่เข้ามาพัก และลูกค้าทั่วไปได้ร่วมทำการเวิร์คช็อปเกี่ยวกับช็อกโกแลตอย่างใกล้ชิดในราคาเพียง 350 บาท/คน ที่เราจะได้ทั้งการทดลองเป็นชาวไร่เที่ยวสวนโกโก้ ทดลองฝัดโกโก้แบบภูมิปัญญาไทยสมัยโบราณ ชิมโกโก้สดๆ จากไร่ และลงมือทำช็อกโกแลตบาร์ด้วยตัวเองเพียงชิ้นเดียวในโลก
รวมไปถึงคาเฟ่วิวเขาในชื่อของ Cocoa Valley Cafe ที่ให้เราได้เลือกอิ่มอร่อยกับเครื่องดื่ม และของว่างแบบโฮมเมดกว่า 40 เมนู ซึ่งทำจากโกโก้แท้ 100% ที่ทางรีสอร์ทใช้เวลาคิดค้นสูตรต่างๆ นานถึง 8 เดือนเพื่อให้ได้เมนูที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แล้วรับรองเลยว่าการมาเที่ยวน่านครั้งนี้ จะเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ !
เที่ยว “น้ำตกวังศิลาแลง” แกรนด์แคนยอนเมืองน่าน
แผ่นหินสูงต่ำสลับกันเข้าไปในป่าของอำเภอปัว คือสิ่งที่พาเรามุ่งหน้าสู่แกรนด์แคนยอนเมืองน่าน หรือ “น้ำตกวังศิลาแลง” แก่งหินมหัศจรรยซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของแกระแสน้ำ และลมที่พัดพากินเวลาอย่างยาวนานจนเกิดเป็นซอกหินลวดลายสวยงาม มีธารน้ำใสเย็นชื่นใจไหลผ่าน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนของจังหวัดน่าน ซึ่งดูงดงามราวกับภาพวาดศิลปะที่มีจิตรกรเอกอย่างธรรมชาติเป็นผู้สรรค์สร้างขึ้นมา
ด้านในน้ำตกศิลาแลงนั้นมีวังน้ำมากถึง 7 วังด้วยกัน ท่ามกลางระยะทางกว่า 400 เมตร โดยจะมีบางช่วงเป็นแอ่งลึก-ตื้นเขินสลับกันไป ซึ่งฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสมนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นช่วงฤดูแล้ง เพราะน้ำจะใสจนสามารถมองเห็นความสวยงามของพื้นดินด้านล่าง และโขดหินต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ส่วนในช่วงฤดูฝน น้ำจะขุ่น และมีสีส้ม ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำแต่อย่างใด
ใครชอบค้นหาสถานที่ถ่ายภาพในมุมมองแปลกใหม่ ต่างไปจากเดิม มาที่นี่ “น้ำตกวังศิลาแลง” รับรองเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
ชมพระอาทิตย์ตกสองเขตแดนบนยอดดอย “สวนยาหลวง”
จากน้ำตกวังศิลาแลง เรานั่งรถกระบะชาวบ้านชนิดที่เรียกได้ว่าหัวสั่นหัวคลอนจนเหมือนลำไส้และกระเพาะแทบจะไหลมากองรวมกัน ยามที่เจ้าพาหนะคู่ใจค่อยๆ พาเราไต่ระดับผ่านดินลูกรัง และป่าดิบชื้นสองข้างมุ่งหน้าสู่ยอดดอย “สวนยาหลวง”
หุบเขากาแฟอาราบิก้าหลายพันไร่ของชาวเขาเผ่าเมี่ยน ซึ่งตั้งอยู่ด้านบนขุนเขาที่สูงที่สุดเหนือระดับน้ำทะเลสูง1,600 เมตร รวมๆ แล้วเป็นระยะทางกว่า 14 กิโลเมตร
เพื่อเตรียมตัวบอกลาเจ้าพระอาทิตย์สีส้มดวงกลมโตที่จะลับขอบฟ้าหายไปจากสายตาของเราแล้วเปลี่ยนสลับเอาพระจันทร์กับหมู่ดาวขึ้นมาแทนที่ หรือถ้าใครอยากสัมผัสธรรมชาติให้ใกล้ชิดกว่านี้ด้านบนก็ยังมีโฮมสเตย์ให้บริการด้วยค่ะ
ความพิเศษของดอยสวนยาหลวง คือ เป็นเขตรอยต่อระหว่างจังหวัดน่าน และจังหวัดพะเยา ที่แบ่งยอดเขาด้านบนกันอย่างละครึ่ง และเพียงแค่ก้าวเท้าเลยจากน่านออกไปหน่อย เราก็จะสามารถยืนอยู่ในจังหวัดพะเยาได้อย่างไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ดอยสวนยาหลวงยังถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวเขารอบด้านได้แบบ 360 องศา ให้เรามองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ ทางฝั่งจังหวัดพะเยา และวิวพระอาทิตย์ขึ้นรวมถึงทะเลหมอกยามเช้าทางฝั่งจังหวัดน่านได้อย่างชัดเจนโดยไม่มีอะไรมาบดบังได้แบบ 2 in 1 ในที่เดียว ดีต่อใจสุดๆ !
ได้มาสูดอากาศสดชื่น เพลินไปกับการนั่งจิบกาแฟร้อนสักแก้ว แล้วมองดูพระอาทิตย์ค่อยๆ แทรกตัวเคลื่อนผ่านขุนเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อนลูกแล้วลูกเล่าโผล่มาทักทายเราในยามเช้า ไม่ต้องหวือหวา หรูหราอะไรมาก แค่นี้ก็เหมือนเป็นการได้ชาร์จพลังก่อนเริ่มต้นวันใหม่ที่ฟินอย่าบอกใครแล้วจ้า
ส่วนเมล็ดกาแฟที่เก็บได้นั้นก็จะส่งลงมายังร้านกาแฟ Lapien Coffee บ้านไม้หลังเล็กที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยภาพวาดฝีมือคุณกฤษ เจ้าของหนุ่มไฟแรงที่ควบตำแหน่งบาริสต้า เปิดเป็นทั้งโรงคั่ว และคาเฟ่ให้เราได้ชิมกาแฟรสชาติดี สดๆ จากสวนส่งตรงถึงมือ หรือถ้าใครอยากซื้อติดไม้ติดมือเป็นของฝากกลับบ้าน ทางร้านก็มีเมล็ดกาแฟสำเร็จรูปที่คั่วสำเร็จแบบพร้อมชงวางขายด้วยเช่นกัน
เช็คอิน “วัดบ้านก๋ง” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ วิวดอยภูคา
มาเที่ยวน่านแค่ไม่กี่วัน ก็เหมือนสะสม #แต้มบุญ มาตลอดทั้งชีวิต และถ้าใครอยากตามเก็บเช็คลิสต์ไหว้พระจังหวัดน่านให้ครบต้องไม่พลาดที่นี่ “วัดบ้านก๋ง” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ในจังหวัดน่าน ที่จะทำให้เราอิ่มใจกับวิวสวยๆ ได้พร้อมกัน
วัดศรีมงคล หรือชื่อพื้นเมืองว่า วัดบ้านก๋ง วัดใหญ่ใจกลางวิวทุ่งนาเขียวขจีกว้างไกลสุดสายตาในอำเภอปัว จังหวัดน่าน ตกแต่งสวยงามอลังการด้วยสถาปัตยกรรมตามแบบฉบับล้านนาโบราณ ตั้งแต่ด้านหน้าประตูทางเข้าอย่างซุ้มประตูโขงไม้สัก และตัววิหารหลวง ด้านในนั้นประดิษฐานพระประธานองค์เก่าแก่คู่เมืองน่านอายุร้อยกว่าปี ให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้ทำการกราบไหว้ขอพร เสริมความเป็นสิริมงคล
ผนังวิหารโดยรอบถูกเติมแต่งด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง เล่าถึงเรื่องราวประวัติเมืองน่านที่ประสบกับอุทกภัยใหญ่เมื่อครั้งอดีต ตลอดจนวรรณคดีไทย อาทิ รามเกียรติ์ สังข์ทอง ก็มีให้เราได้เดินอ่านกันแบบเพลินๆ
ส่วนด้านนอกนั้นประดับด้วยธงตุง ร่มกระดาษน่ารัก โคมสีสันสดใส และซุ้มไม้ไผ่ยักษ์ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ อีกทั้งยังเพลิดเพลินไปกับเสียงน้ำไหลจากน้ำตกจำลอง ท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนคลาสสิกในอำเภอปัว
ทั้งยังมาพร้อมซุ้มขายของกิน ของฝาก มุมนั่งเล่น ถ่ายรูป ยอดฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสกายวอล์ค สะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวผ่านนาข้าว เฮือนโอชา ร้านกาแฟสดวิวหลักล้าน โอบล้อมด้วยวิวดอยภูคาเรียงรายสวยงามแบบพาโนรามาสูงตระหง่านทางเบื้องหน้า
ตลอดจนพิพิธภัณฑ์มงคลธรรมรังสี (หอคำหลวง) อาคารไม้สักทองทรงล้านนา ที่รวบรวมเอาของเก่าแก่หายาก และเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มาตั้งโชว์ให้ทุกคนได้มีโอกาสได้ศึกษาเรียนรู้ งานนี้เรียกได้ว่าอิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งใจ แถมยังได้ความรู้ครบจบในที่เดียว
สนุกกับการใช้ชีวิตนอกตำราที่ “Mix Academic Cafe”
เพราะการใช้ชีวิตไม่ได้มีสูตรสำเร็จแบบในตำรา แบบที่เรียน อ่าน ท่องจำไปสอบเสมอไป หากแต่ชีวิต คือ การลองผิด ลองถูก และต้องลองออกไปสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง ! และแน่นอนว่าการเดินทาง เอาตัวเองออกไปเจอสถานที่ใหม่ๆ ก็เช่นกัน ว่าแล้วก็อย่ารอช้า...ตามเราไปเรียนรู้วิธีเติมความสดชื่นให้ชีวิตที่นี่เลยจ้า “Mix Academic Cafe”
Mix Academic Cafe คาเฟ่น่ารักในจ.น่าน ที่มีให้เลือกนั่งได้ทั้งแบบสไตล์ลอฟท์คุมโทนแบบเท่ๆ
และโซนใหม่น่ารักกุ๊กกิ๊กแบบมินิมอล ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นประเทศญี่ปุ๊นญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเน้นโทนสีขาวสะอาดตา เฟอร์นิเจอร์ไม้ และหลอดไฟวอร์มไลท์ให้บรรยากาศอบอุ่นแบบเจแปนนิสแท้ๆ ท่ามกลางดนตรีที่เปิดคลอเบาๆ ขับกล่อมให้เรารู้สึกผ่อนคลายอยู่ตลอดเวลา
อีกทั้งยังขอเอาใจลูกค้าสาวๆ ที่ชอบถ่ายรูปด้วยมุมถ่ายรูปมากมายภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็นเคาท์เตอร์บาร์ขนาดยาว สำหรับใครที่มาคนเดียว มุมโต๊ะนั่งทานของหวานสำหรับใครที่มาเป็นคู่ ตลอดจนเคาท์เตอร์กาแฟดริปให้ลูกค้าได้โชว์ความสามารถดริปกาแฟสดๆ ทานเองกับมือ
เมนูเด็ดที่มาแล้วพลาดไม่ได้ แนะนำให้ลองสั่งข้าวซอยไส้อั่ว ข้าวซอยเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำแม่มดเครื่องแน่น แล้วอย่าลืมแบ่งที่ว่างให้ของหวานอย่างเฟรชสตรอว์เบอรี่ทาร์ต เค้กโอรีโอมัจฉะเจแปนนีส
รวมถึงเครื่องดื่มเติมความสดชื่นอย่างเอสเพรสโซ่ โรมาโน่ และทับทิมซากุระนมสด สีสันสดใสทานได้ทุกวัย หอมกลิ่นนม ทึ่ด้านล่างเป็นทับทิมกรอบ เคี้ยวหนึบหนับเป็นการปิดท้าย มาเที่ยวน่านคราวหน้า ใครอยากเติมความหวานให้ชีวิตก็แวะมาได้ที่ Mix Academic Cafe เลยจ้า
ที่ตั้ง : 9/2 ถนนเปรมประชาราษฎร์ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน
ราคา : เริ่มต้นที่ 40 บาท
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 08.00 - 19.00 น.
โทรศัพท์ : 080-4510083
Enjoy Eating ส่งท้ายทริปให้แฮปปี้กับร้าน ‘ อยู่ดี กินดี”
นอกจากที่พักจะน่ารัก ธรรมชาติสดชื่นเต็มไปด้วยวิวขุนเขา และทุ่งนาสวยงามเหมาะแก่การพักผ่อนแล้ว จังหวัดน่านยังเต็มไปด้วยร้านคาเฟ่สุดชิคที่น่าไปเช็คอินอีกเพียบ ! และถ้ามีใครสักคนถามว่าไปน่านกินอะไรดี ? เราไม่ลังเลเลยที่จะชวนทุกคนมาฝากท้องไว้ด้วยกันที่นี่ “อยู่ดี กินดี” คาเฟ่น่ารักใจกลางเมืองที่พร้อมเสิร์ฟเมนูความอร่อยแบบโฮมเมดกว่า 100 เมนูด้วยความรักส่งตรงจากครัว…
“อยู่ดี กินดี” คาเฟ่น่ารักที่เกิดขึ้นจากความปรารถนาดีที่อยากให้ลูกค้าได้ทานอาหารที่ดี ในสถานที่ดีๆ แม้จะเปิดมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงไม่หยุดความตั้งในในการสร้างสรรค์เมนูแสนอร่อยสำหรับทุกคน
ภายในแบ่งออกเป็นโซนร้านอาหาร และร้านกาแฟให้เลือกนั่ง เชื่อมหากันด้วยประตูตรงกลางร้าน โดยลูกค้าสามารถสั่งอาหาร และเครื่องดื่มนั่งทานได้ทั้งสองโซนเลยค่ะ
สำหรับเมนูอาหารของอยู่ดี กินดี นั้นมีให้เลือกทั้งอาหารเช้า กลางวัน หรือแม้แต่เย็นเลยค่ะ โดยสามารถเลือกสั่งได้ทั้งแบบ A La Carte อาหารจานเดียว แบบกับข้าว หรือแม้แต่เซ็ตของว่างทานเล่น จึงมั่นใจได้เลยว่าจะมาเดี่ยว มาคู่ หรือมาแบบกลุ่มเพื่อน และครอบครัว ที่นี่ก็ครอบคลุมตอบโจทย์การทานอาหารของทุกคนด้วยสารพัดเมนูโฮมเมดกว่า 100 เมนู สำหรับคนทุกวัย
เริ่มด้วยออฟเดิร์ฟทานเล่นอย่างป่อเปี๊ยะกุ้งทอด กุ้งพันแป้งโรลทอดกรอบทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย , ลาบหมูคั่ว ลาบหมูสไตล์ชาวเหนือแท้ๆ แบบไม่ใส่ข้าวคั่ว , ต่อด้วยผัดไทกุ้งสด ผัดไทเส้นนิ่มแต่งหน้าด้วยกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ มากถึงสามตัว , ไก่ทอดมะแขว่น ไก่ทอดสูตรสมุนไพร กรุบกรอบได้ใจหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ และสปาเก็ตตี้ผัดไส้อั่ว เมนูฟิวชั่นระหว่างอาหารอิตาเลียนและเมนูแบบไทยๆ ประยุกต์ออกมาเป็นเมนูใหม่ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว รวมถึงยังมีบริการกาแฟ และเครื่องดื่มต่างๆ ที่ต้องบอกว่าครบจบในที่เดียว ไม่ต้องไปไหนแล้วจ้า
ที่ตั้ง : 30-30/1 ถนนข้าหลวง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน
ราคา : เริ่มต้นที่ 45 บาท
เวลาเปิด-ปิด : หยุดทุกวันพุธ 09.00 - 20.00 น.
โทรศัพท์ : 081-5311331
นอกจาก 10 จุดเช็คอินที่เรารวบรวมมาฝากกันในครั้งนี้แล้ว จังหวัดน่านก็ยังมีที่เที่ยวสุดชิล ที่กินสุดชิค และที่พักสวยๆ รอให้เราได้ตามไปเช็คอินอีกเพียบ แถมแต่ละอำเภอก็ล้วนมีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป แบบที่ต้องลองเปิดใจออกไปสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วจะรู้ว่าการเที่ยวเมืองรองเล็กๆ แห่งนี้ก็ฟินไม่แพ้ใคร !
Tags: น่าน ที่เที่ยวน่าน จุดเช็คอินน่าน คาเฟ่น่าน พระธาตุแช่แห้ง วัดภูมินทร์ ชุมชนบ้านบ่อสวก วัดหนองแดง CocoaValley น้ำตกวังศิลาแลง สวนยาหลวง วัดบ้านก๋ง วัดศรีมงคล MixAcademicCafe อยู่ดีกินดี golocalthailand เที่ยวเมืองรอง ททท การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 15 พ.ย. 2024 | 804 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 05 พ.ย. 2024 | 3,721 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 07 พ.ย. 2024 | 2,671 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 15 พ.ย. 2024 | 431 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 01 พ.ย. 2024 | 862 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 08 พ.ย. 2024 | 1,617 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 27 ต.ค. 2024 | 2,976 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 15 พ.ย. 2024 | 232 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 03 พ.ย. 2024 | 1,025 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 30 ต.ค. 2024 | 1,234 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 06 พ.ย. 2024 | 380 อ่าน