calendar_month 19 ม.ค. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 34,012 / รีวิวที่กิน
ใครมองหาร้านอาหารริมน้ำเจ้าพระยาบรรยากาศดี ไว้สำหรับไปดินเนอร์ในบรรยากาศสุดโรแมนติกกับคนรู้ใจ แนะนำมาเช็คอินกันเลยที่ “เสวย ท่ามหาราช” ร้านอาหารริมน้ำที่ตั้งอยู่ในทำเลแลนด์มาร์คใจกลางกรุงเทพฯ อย่างริมแม่น้ำเจ้าพระยาและเกาะรัตนโกสินทร์ นอกจากจะได้ฟินกับบรรยากาศริมน้ำแล้ว เรายังจะได้เพลิดเพลินกับอาหารไทยต้นตำรับและเมนูสุดพิเศษอย่างกุ้งแม่น้ำเผาโดยไม่ต้องขับรถไปไกลถึงอยุธยาอีกด้วย!
เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นชื่อของร้านเสวยกันดีอยู่แล้ว เพราะร้านนี้มีชื่อเสียงและเสิร์ฟความอร่อยมายาวนานกว่า 46 ปี จนมีสาขามากถึง 8 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และพัทยาแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นร้านอาหารไทยที่รสชาติครบรสและอร่อยแบบต้นตำรับ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปเช็คอินที่สาขาที่วิวสวยที่สุดแห่งหนึ่งอย่างสาขาท่ามหาราชกันค่ะ
ตัวร้านตั้งอยู่บนชั้น 2 ตึก G ภายในโครงการท่ามหาราช คอมมูนิตี้มอลล์สุดชิคริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นจุดเช็คอินยอดฮิตของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมทั้งนักศึกษาแพทย์ อาจารย์ และคนทำงานออฟฟิศในละแวกย่านศิริราช-ท่าพระจันทร์ โดยเฉพาะช่วงเย็นหลังเลิกงาน เราจะเห็นลูกค้ามาทานอาหารที่ร้านกันอย่างคึกคัก ซึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาที่จอดรถเพราะภายในโครงการมีที่จอดรถให้เพียงพอ หรือจะนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาขึ้นเทียบท่าเลยก็สะดวก อิ่มแล้วจะไปเดินเล่นช้อปปิ้งต่อแถวท่าพระจันทร์ วังหลัง หรือไอคอนสยามก็ใช้เวลานั่งเรือไปแค่แป๊บเดียวเท่านั้น
บรรยากาศร้านคือดีงามมากกก สามารถเลือกมาเช็คอินได้ตั้งแต่มื้อเที่ยงช่วงกลางวัน ไปจนถึงดินเนอร์มื้อค่ำ ซึ่งถ้าหากใครมาช่วงกลางวันก็ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อน เพราะทางร้านมี 2 โซนให้เลือก ทั้งโซนที่นั่งรับประทานอาหารริมน้ำด้านนอก ซึ่งมีหลังคาผ้าใบสามารถเลื่อนเปิดปิดได้ และโซนอินดอร์ด้านในร้านที่ติดแอร์เย็นฉ่ำให้เลือกนั่งสบายๆ เรามาถึงร้านประมาณ 5 โมงเย็น อากาศกำลังดี แดดไม่ร้อนจนเกินไป เลยเลือกนั่งโต๊ะโซนระเบียงริมน้ำด้านนอก สั่งอาหารแล้วนั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาไปพลางๆ
สำหรับโซนอินดอร์ภายในร้านสามารถรองรับลูกค้าได้กว่าสิบโต๊ะ เหมาะสำหรับใครที่ชอบความสงบและเป็นส่วนตัวไม่พลุกพล่าน โดยทางร้านจัดโต๊ะแบบหลวมๆ ไม่แน่นมาก ภายในตกแต่งอย่างสวยงามด้วยโทนสีดำเทาดูโมเดิร์น เติมความสดชื่นด้วยไม้แขวนในกระถางสีเขียวที่ห้อยระย้าจากบนเพดาน ลบภาพร้านอาหารไทยแบบเดิมๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นร้านทรงเรือนไทยแบบโบราณ เราก็สามารถมาทานอาหารไทยต้นตำรับในบรรยากาศชิคๆ ชิลๆ เหมือนคาเฟ่หรือร้านริมน้ำเก๋ๆ แบบนี้ได้
แอบสำรวจร้านได้สักพัก อาหารที่เราสั่งก็ทยอยมาเสิร์ฟเรื่อยๆ ต้องชมว่าอาหารที่นี่ออกไวดีค่ะ รอไม่นาน ไม่ต้องกลัวหิว นั่งชมวิวเพลินๆ แค่แป๊บเดียวเท่านั้นเอง
ประเดิมด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง “หมูสะเต๊ะ” (165 บาท) สูตรพิเศษของทางร้าน จุดเด่นคือหมูสะเต๊ะเนื้อไม่แห้งกำลังพอดี เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเข้มข้นและเครื่องเคียงอย่างอาจาดและขนมปังปิ้ง ต่อด้วย “ทอดมันกุ้งเสวย” (220 บาท) ทอดมันกุ้งร้อนๆ กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มทอดมันรสชาติเปรี้ยวอมหวาน และ “ข้าวอบสับปะรด” (290 บาท) ข้าวผัดทรงเครื่องที่เสิร์ฟมาในสับปะรดลูกใหญ่ อัดแน่นด้วยเครื่องข้าวผัดแบบจัดเต็ม ทั้งเนื้อกรรเชียงปูจัมโบ้, กุ้ง, หมูหยอง, กุนเชียง ฯลฯ เข้ากับข้าวผัดเมล็ดร่วนรสชาติกลมกล่อมไม่อมน้ำมัน เวลาทานได้กลิ่นหอมของสับปะรด ทั้งหน้าตาดีและอร่อยจนต้องยกนิ้วให้เลย!
เอาใจคนชอบกินผักกับเมนู “ผักเหมียงผัดไข่กุ้งเสียบ” (185 บาท) เมนูอาหารไทยที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ ทางร้านเลือกใช้ผักพื้นบ้านปักษ์ใต้อย่างผักเหมียง หรือผักเหลียง นำมาผัดกับไข่และกุ้งเสียบเคี้ยวกรุบกรอบกินได้ทั้งตัว จะทานเล่นก็ได้หรือทานกับข้าวสวยร้อนๆ สักจานก็ยิ่งฟิน
ไปต่อกับเมนูอาหารไทยหาทานยากอีกจาน อย่าง “เนื้อกรรเชียงปูจัมโบ้ผัดเครื่องแกงใบชะพลู” (450 บาท) บอกเลยเมนูนี้ใครที่ชอบกินปูห้ามพลาด ทางร้านใช้เนื้อกรรเชียงปูไซส์จัมโบ้เอามาผัดคลุกเคล้ากับเครื่องแกงและสมุนไพรอย่างใบชะพลู จนเครื่องแกงซึมเข้าไปในเนื้อปู รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม แถมเวลาเคี้ยวยังได้กลิ่นหอมของใบชะพลูอ่อนๆ อีกด้วย
ถ้ามากันหลายคนแนะนำสั่งเมนู “แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย” (165 บาท) ที่เสิร์ฟมาในหม้อไฟสามารถแบ่งทานกันได้ 2-3 คนเลยทีเดียว ลูกชิ้นปลากรายทางร้านทำจากเนื้อปลาแท้ๆ ไม่ผสมแป้ง หอมเครื่องแกงที่เข้มข้นด้วยส่วนผสมของกะทิที่เคี่ยวจนแตกมัน
อีกหนึ่งเมนูที่เป็นได้ทั้งทานเล่นและเป็นกับข้าว คือ “ปลากะพงทอดน้ำปลา” (450 บาท) ปลากะพงตัวใหญ่ที่ทอดจนเนื้อสุกเหลือง กรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน เสิร์ฟมาพร้อมน้ำยำสามรส ออกเปรี้ยว เค็ม หวานนิดๆ ไม่เผ็ดมาก เนื้อปลาสดหวานจะทานเปล่าๆ ก็อร่อย หรือทานคู่กับน้ำยำก็แซ่บซี้ดซ้าดไปอีกแบบ
ความพิเศษอีกอย่างของร้านเสวยสาขาท่ามหาราชแห่งนี้ คือเป็นร้านอาหารเพียงแห่งเดียวในโครงการที่มีโซนครัวเผาโดยเฉพาะภายในครัวแบบกึ่งเปิด ซึ่งมีกระจกใสกั้นให้เราสามารถชมเชฟทำการปรุงเมนูเผาอย่างการย่างกุ้งกันสดๆ ได้แบบนี้
เมนูไฮไลท์ของที่นี่ คือกุ้งแม่น้ำเผาตัวใหญ่ที่ทางร้านนำกุ้งสดๆ มาจากอยุธยาและแม่น้ำท่าจีน ให้เลือกสั่งมาปรุงเป็นเมนูขายตามน้ำหนัก จากนั้นนำมาย่างบนตะแกรงและเลือกใช้เตาอั้งโล่หรือเตาถ่านแบบดั้งเดิม ทำให้มีกลิ่นหอมแตกต่างจากการย่างบนเตาแก๊ส ไม่ต้องขับรถไปไกลถึงอยุธยาก็ฟินกับเมนูกุ้งเผาตัวใหญ่ๆ แบบนี้ได้!
สำหรับเมนูกุ้งแม่น้ำเผา จะคิดตามน้ำหนักเป็นกิโลกรัม เราเลือกกุ้งแม่น้ำเผาไซส์ใหญ่ (ขนาด 2ตัว/1กิโลกรัม ตัวละ 1,000 บาท) มันกุ้งเยิ้มๆ สีเหลืองน่ากินส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายสุดๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ เนื้อกุ้งสดๆ แน่นๆ เด้งดึ๋งในปาก ความหวานของเนื้อกุ้งเข้ากันได้ดีกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัด เผลอแป๊บเดียวหมดจานเลยทีเดียว...
ส่วนใครชอบกินกุ้งก้ามกราม ห้ามพลาดกับเมนูกุ้งก้ามกรามเผา (กิโลกรัมละ 1,000 บาท) ที่ทางร้านใช้กุ้งก้ามกรามสดๆ ไซส์ใหญ่ที่เลี้ยงไว้ในตู้ มาทำเป็นเมนูหลากหลาย ไม่ว่าจะกุ้งเผา หรือต้มยำกุ้งก้ามกราม เนื้อกุ้งสดหวานจะทำเป็นอาหารเมนูไหนก็อร่อยลงตัว สมกับคอนเซ็ปต์ “ครบทุกรส สดทุกมื้อ” ของทางร้านเลยจริงๆ
ตอนเย็นก็เริ่มมีลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติทยอยมาจับจองที่นั่งทานอาหารที่โต๊ะโซนริมน้ำด้านนอก บ้างก็มานั่งชิลจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ชมพระอาทิตย์ตก และมีหลายโต๊ะที่จูงมือคนรู้ใจมาสวีทเป็นคู่ เพื่อดินเนอร์ท่ามกลางบรรยากาศชิลๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บอกเลยว่าบรรยากาศโรแมนติกมากเว่อร์!
โดยร้านสาขาท่ามหาราชแห่งนี้ นับได้ว่าเป็นร้านที่วิวสวยที่สุด สามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบพาโนรามา และยังอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คในย่านกรุงเก่าอย่างวัดพระแก้ว วัดโพธิ์ หรือวัดอรุณ ฯลฯ ใครมาเที่ยวแถวนี้มองหาร้านอาหารริมน้ำวิวสวย บรรยากาศดีก็สามารถแวะมานั่งทานอาหารริมน้ำชิลๆ ที่นี่กันได้เลย
ตอนกลางคืนทางร้านเริ่มเปิดไฟประดับทั่วบริเวณ ยิ่งขับให้ตัวร้านดูโดดเด่น มีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย นอกจากนี้ ทางร้านยังสามารถจัดงานเลี้ยงในโอกาสต่างๆ ได้ ใครมองหาร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดีไว้จัดเลี้ยงปาร์ตี้ออฟฟิศ นัดแก๊งค์เพื่อนหรือพาครอบครัวมาทานข้าวในโอกาสพิเศษ สามารถรีเควสท์ทางร้านเพื่อจองโต๊ะได้เลยค่ะ
ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ได้เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทานอาหารชิลๆ ริมน้ำ มองดูแสงไฟจากเรือสำราญที่แล่นผ่านไปมาบนแม่น้ำเจ้าพระยา มองเห็นแสงไฟสะท้อนผืนน้ำเป็นประกายสวยๆ แบบนี้ บอกเลยว่าคอมพลีท!
อิ่มทั้งวิวสวยๆ และอาหารอร่อยๆ แล้ว อย่าลืมเผื่อท้องไว้กินของหวานกันด้วยนะคะ เพราะเมนูของหวานของที่ร้านเสวยเค้าขึ้นชื่อไม่แพ้ของคาวเลยทีเดียว แถมยังมาในคอนเซ็ปต์ขนมไทยดีไซน์เฟรช เพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น งานนี้ขอลืมอ้วนกันนิดนึง ก็แหม...แต่ละเมนูทั้งเก๋แถมหน้าตาน่ากินยั่วน้ำลายทั้งนั้นเลย!
เริ่มด้วยเมนู “พานาคอตต้าบัวลอยแก้วไอศกรีม” (125 บาท) ที่จัดว่าเป็นของหวานสไตล์ฟิวชั่นสุดเก๋จานเด่นของทางร้าน โดยการนำเอาพานาคอตต้า ของหวานอิตาเลียนที่ทำจากครีมผสมน้ำตาลและเจลาติน มาเสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมกะทิและบัวลอยแก้วสีเขียวสวยน่ากิน ท้อปปิ้งด้วยถั่วลิสงคั่วหอมๆ แล้วราดด้วยกะทิสด พานาคอตต้าเนื้อนุ่มเนียนเข้ากันกับไอศครีมกะทิเข้มข้นหวานมัน ส่วนบัวลอยแก้วที่ทำจากส่วนผสมของน้ำใบเตยคั้นก็สีสวย เนื้อนุ่ม เวลาเคี้ยวหนึบๆ อร่อยจนเกือบหยุดไม่อยู่
ต่อด้วย “ฟักทองแกงบวดกะทิสด” (125 บาท) สูตรพิเศษของร้านเสวย ซึ่งแตกต่างจากฟักทองแกงบวดที่เราเคยกิน โดยนอกจากทางร้านจะใช้น้ำกะทิสดคั้นเอง การันตีความสดใหม่ทุกวันแล้ว ยังเสิร์ฟมาพร้อมกับทองม้วนกรอบ สาคู เนื้อมะพร้าวอ่อนและไอศกรีมวานิลลา เข้ากันกับรสชาติหวานมันของฟักทองแกงบวดและน้ำกะทิสดได้อย่างลงตัว
ปิดท้ายด้วยของหวานที่เป็นเมนูซิกเนเจอร์เด็ดของร้านเสวยอย่าง “มะพร้าวเสวยทรงเครื่อง” (180 บาท) ที่ทางร้านเสิร์ฟมาในลูกมะพร้าว เก๋ซะจนต้องควักมือถือออกมาถ่ายรูปก่อนชิม ด้านในมีทั้งบัวลอยญวน บัวลอยลูกโตสีสวยน่ากินสอดไส้เผือก พร้อมสาคู มะพร้าวและไอศกรีมวานิลลา เวลาทานต้องราดกาแฟลงไปช้าๆ ได้รสชาติกลมกล่อมทั้งรสเข้มข้นของกาแฟปนความหวานของกะทิ สาคูและแป้งบัวลอย
นอกจากอาหารไทยรสเลิศแล้ว เครื่องดื่มของที่นี่ก็เพอร์เฟ็กต์ไม่แพ้กัน โดยทางร้านได้เชิญ Mixologist ชื่อดังมาคิดค้นเมนูเครื่องดื่มสูตรพิเศษให้กับร้านเสวยโดยเฉพาะ อาทิ ไฮไลท์อย่าง “อันดามัน” (90 บาท) ที่ใช้บลูคอราเซลไซรัปผสมกับยาคูลท์และเม็ดแมงลัก รสชาติเปรี้ยวอมหวาน สีสวยเหมือนน้ำทะเลอันดามันสมชื่อ ตามมาด้วย “น้ำคะน้าปั่น” (60 บาท) เครื่องดื่มสูตรพิเศษของทางร้านที่นำคะน้าสดมาปั่นเป็นเครื่องดื่มรสสดชื่น อร่อยและยังไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวของผักคะน้า บอกเลยว่าแก้วนี้ขนาดคนไม่ชอบกินผักยังต้องยกนิ้วให้ ต่อด้วย “น้ำกระเจี๊ยบซาสี่” (90 บาท) ที่ใช้น้ำผลไม้อย่างกระเจี๊ยบนำมาผสมเข้ากับซาสี่ได้อย่างลงตัว หรือจะลอง “ชากุหลาบลิ้นจี่” (90 บาท) ชากุหลาบผสมน้ำลิ้นจี่หอมๆ เย็นชื่นใจเหมาะสำหรับใครที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และข่าวดีสำหรับสายชิลเร็วๆ นี้ทางร้านกำลังจะมีเบียร์คราฟต์สดให้นั่งละเลียดจิบชิลๆ พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนอีกด้วย
โปรโมชั่นพิเศษ สำหรับใครที่มีบัตรเครดิต KTC รับไปเลยส่วนลด 10% เฉพาะค่าอาหารและเครื่องดื่มราคาปกติ เมื่อทานครบ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลส์สลิป (ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์) ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 62 อิ่มคุ้มแถมได้สิทธิพิเศษกับโปรโมชั่นดีๆ แบบนี้ ห้ามพลาดเลยค่ะ
เรียกว่า “เสวย ท่ามหาราช” เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารริมน้ำที่ตอบโจทย์ลงตัว ทั้งอาหารอร่อย วิวสวย บรรยากาศโรแมนติก ใครอยากมาฟินเหมือนเรา รีบชวนคนรู้ใจหรือพาครอบครัวมาดินเนอร์ในบรรยากาศสุดพิเศษกันที่นี่ได้ รับรองประทับใจจนอยากกลับมาเช็คอินบ่อยๆ กันอีกแน่นอน
ที่ตั้ง : ร้านเสวย ตึก G ท่ามหาราช ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 11.00-21.30 น.
โทร. 0-2024-1317, 0-2024-1320
ติดต่องานจัดเลี้ยง โทร. 095-5141141
FB / IG / LINE : @savoeycatering
เว็บไซต์ : www.savoey.co.th
Tags: กรุงเทพฯ ร้านอาหารกรุงเทพ ร้านอาหารริมน้ำ ร้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา เสวย ท่ามหาราช ร้านอาหารริมน้ำเจ้าพระยา ร้านบรรยากาศดีริมน้ำ ร้านอาหารบรรยากาศดี ร้านริมน้ำโรแมนติก ร้านอาหารไทย ร้านกุ้งแม่น้ำเผา ktc โปรโมชั่น
รีวิวที่กิน | 07 ต.ค. 2024 | 465 อ่าน
รีวิวที่กิน | 01 ส.ค. 2024 | 667 อ่าน
รีวิวที่กิน | 10 ก.ค. 2024 | 1,483 อ่าน
รีวิวที่กิน | 30 เม.ย. 2024 | 5,989 อ่าน
รีวิวที่กิน | 30 เม.ย. 2024 | 4,632 อ่าน
รีวิวที่กิน ที่กิน | 02 เม.ย. 2024 | 2,891 อ่าน
รีวิวที่กิน | 26 ธ.ค. 2023 | 2,599 อ่าน
รีวิวที่กิน | 08 ธ.ค. 2023 | 9,735 อ่าน
รีวิวที่กิน | 21 มิ.ย. 2023 | 23,684 อ่าน
รีวิวที่กิน | 12 มิ.ย. 2023 | 42,249 อ่าน
รีวิวที่กิน | 24 พ.ค. 2023 | 11,422 อ่าน