calendar_month 11 ธ.ค. 2018 / stylus Admin Chillpainai / visibility 53,638 / รีวิวที่เที่ยว
เมื่อไรก็ตามที่ได้ยินคำว่า ‘เราจะได้เดินทาง’ มักจะทำให้หัวใจเราพองโต จินตนาการไปด้วยใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะทุกครั้ง โดยครั้งนี้เราจะมุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี สถานที่พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติ ที่ กางเลโฮมสเตย์ จังหวัดจันทบุรี
เราใช้เวลาการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ก็ถึงจุดหมาย ทันทีที่ไปถึงเราก็ได้รับการทักทายด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรพร้อมกับคำพูดต้อนรับจากเจ้าของอย่างเป็นกันเอง สำรับอาหารเที่ยงที่จัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี หน้าตาอาหารแต่ละเมนูชวนให้น้ำลายไหล แต่จะต้องเบรกความหิวไว้ก่อน เพราะต้องเดินสำรวจบริเวณโดยรอบของโฮมสเตย์ก่อน
แน่นอนว่าหลายคนคงสงสัยว่า ทำไมโฮมสเตย์ชื่อกางเล เจ้าของเล่าว่า กางเล มาจากคำว่า กาง หมายถึง โกงกาง ส่วน เล หมายถึง ทะเล จึงเป็นที่มาของคำว่า กางเลโฮมสเตย์ ซึ่งบรรยากาศของที่นี่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้มากมาย อาทิเช่น ต้นโกงกาง ต้นแสม ต้นฝาด ต้นบุญ ต้นลำพู และพันธุ์ไม้อื่นๆ ที่โอบล้อมโฮมสเตย์ไว้ท่ามกลางธรรมชาติที่หลากหลาย ตัวบ้านพักจะซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าโกงกาง พร้อมกับมีบึงน้ำขนาดใหญ่ที่มาพร้อมเครื่องเล่นทางน้ำให้ได้เล่นสนุกกันมันส์ตั้งแต่เช้ายันเย็นได้เลย
โฮมสเตย์แห่งนี้รังสรรค์พื้นที่ออกเป็นส่วนๆ มีเนื้อที่ทั้งหมด 30 ไร่ แต่ละส่วนเชื่อมโยงกันหมด อาคารหลังใหญ่เป็นอาคารรับแขก ห้องจัดเลี้ยงอาหารพร้อมกับมีสวนน้ำอยู่ด้านหน้า และโฮมสเตย์ทั้งหมด 9 หลัง ในจำนวนนี้มีห้องรองรับแขกที่มาพักได้ 7 คน 7 หลัง และ 14 คน 2 หลัง โฮมสเตย์แต่ละหลัง มีสีสันสดใสไม่ซ้ำกัน
ภายในห้องแต่ละห้องมีสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย มีแอร์ ทีวี ห้องน้ำในตัว สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำส่วนกลาง จำนวน 5 ห้อง เพื่อเอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ยังไม่เพียงเท่านั้น หากใครต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด กินลมชมวิวด้วยการกางเต็นท์นอน สำหรับ 2 คน ซึ่งจะต้องนำเต็นท์มาเอง ที่สำคัญคือจะได้รับการบริการเป็นอย่างดีไม่แพ้ห้องพักห้องใหญ่แน่นอน
เมื่อเดินชมโฮมสเตย์เสร็จ ความหิวจึงบังเกิด อาหารถูกจัดเตรียมไว้อย่างสวยงาม แน่นอนว่าความหิวไม่ปราณีใคร ส้มตำถาดที่จัดมาเต็มทั้งส้มตำปูรสแซ่บ พร้อมเครื่องเคียงไข่ต้ม ไข่เค็ม หมูยอ ขนมจีน หมี่เหลืองกรอบ เวลาทานก็คลุกเคล้าให้เข้ากันแซ่บล้ายหลาย เมนูที่สองแกงส้มชะอมกุ้งที่เขานำชะอมไปชุบไข่ หั่นมาเป็นชิ้นโต ใส่ไปในน้ำแกงส้ม พร้อมคัดกุ้งตัวโตๆ ซดโล่งคอมากๆ เมนูที่สาม ปูผัดผงกะหรี่ กลิ่นหอมเครื่องเทศแทรกซึมเข้าไปในเนื้อปู ทั้งหวานทั้งหอม ส่วนเมนูที่สี่คือ ทอดมันปลากราย ที่มีความนุ่มของเนื้อปลาทานกับน้ำจิ้มอาจาดรสเปรี้ยวหวาน ทานเล่นก็ได้หรือจะทานกับข้าวสวยก็ดี เมนูต่อไปใครที่มาจันทบุรีห้ามพลาดเด็ดขาดกับเส้นจันท์ผัดปูกุ้ง ที่ใช้เส้นจันท์เหนียวนุ่มไปผัดกับปูและกุ้งปรุงรสให้มีรสหวาน เปรี้ยว เผ็ด อร่อยสุดๆ ปิดท้ายด้วยน้ำพริกไข่ปูที่ใช้ไข่ปูเน้นๆ มาทำเป็นน้ำพริกรสกลมกล่อม แนมกับผักสด และ ข้าวสวยร้อนๆ อิ่มมากแล้วก็ลูบพุงตัวเองเบาๆ
หลังจากอิ่มเอมไปกับอาหารมื้อเที่ยง เราเตรียมตัวไปล่องแพ เล่นน้ำ ตกปลา ดูเหยี่ยวแดง และทะเลร้อยขวดเป็นที่เลี้ยงหอยนางรม กิจกรรมในช่วงบ่ายซึ่งทางโฮมสเตย์ได้จัดไว้ในแพ็คเกจ ก่อนออกเดินทางทุกคนจะต้องสวมเสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัย รถรางสีชมพูเคลื่อนตัวออกจากกางเลโฮมสเตย์ มุ่งหน้าเข้าสู่ท่าแพด้วยระยะทาง 2 กิโลเมตร บรรยากาศบนรถรางคึกคักด้วยเสียงหัวเราะหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานของนักท่องเที่ยว
ความตื่นเต้นเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อก้าวขาลงแพ ซึ่งแพลำนี้จุคนได้ประมาณ 30 คน เสียงดนตรีจากเครื่องเสียงที่ตั้งอยู่ในแพทำให้บรรยากาศครึกครื้นมากเป็นพิเศษ นักท่องเที่ยวบางคนลุกขึ้นเต้นในขณะที่แพล่องไปตามแม่น้ำ ล่องไปได้ไม่นานเสียงเพลงน่าจะปลุกให้ธรรมชาติมีชีวิตชีวา เพราะอยู่ดีๆ ฝูงเหยี่ยวแดง มีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ และอีกาจำนวนมากโบยบินออกมาทักทาย โฉบเฉี่ยวอาหารที่โยนไว้ให้ ด้วยท่าทีที่สวยงาม แพหยุดลงกลางแม่น้ำนักท่องเที่ยวต่างพากันกระโดดเล่นน้ำด้วยความสนุกสนาน
เสร็จกิจกรรมล่องแพใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็เดินทางกลับที่พักในช่วงเย็นความสนุกยังไม่หมดเท่านั้นเพราะเราจะมาเล่นเครื่องเล่นทางน้ำของที่พักกันต่อ
วัดใจไปกับสไลเดอร์เป่าลมขนาดยักษ์แม้ความสูงจะไม่มาก แต่ก็ดีกรีความมเสียวใช้ได้เลยล่ะ
เครื่องเล่นรีโวลูชั่นที่สามารถเป็นได้ทั้งม้าโยกน้ำ วิธีเล่นก็แบ่งฝ่ายกันให้ดีใครจะฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวา ส่วนถ้าพลิกอีกด้านก็จะกลายเป็นสไลเดอร์ขนาดย่อม บอกเลยว่าอันนี้เล่นกับเพื่อนมันส์สุดๆ
ถ้าใครเหนื่อยก็ลองมาพายเรือคายัคชิลๆ ยิ่งในช่วงยามเย็นพระอาทิตย์กำลังตกดินแบบนี้ชิลมากๆ
หลังจากใช้แรงกายไปกับการล่องเรือและเล่นสวนน้ำกันไปแล้วพวกเราก็แยกย้ายไปอาบน้ำเพื่อมาเตรียมตัวทานอาหารเย็นที่ถูกเตรียมไว้ให้เป็นอย่างดี ทั้ง เมนูปูนึ่งตัวโตโชว์ก้ามท้าทายความหิวโหย เมนูกุ้งกุลาดำย่าง ตัวใหญ่ เนื้อแน่น หวาน เมนูหอยนางรมสดพร้อมเครื่องเคียง ทั้ง น้ำพริกเผา หอมเจียว และผักกระถิน เมื่อนำทุกอย่างมารวมกันรสชาติหวานของหอยนางรมและความมันของเครื่องเคียงเข้ากันได้เป็นอย่างดี ต่อด้วยเมนูกุ้งสดแช่น้ำปลา กุ้งสดรสชาติหวานซึ่งเคล็ดลับของเมนูนี้คือ กุ้งสดต้องแช่น้ำปลานานๆ และน้ำปลาที่ใช้จะต้องเป็นน้ำปลาอย่างดี เมื่อมีปู มีกุ้งแล้วก็ต้องมีปลากับเมนูปลากะพงทอดน้ำปลาอร่อยสมกับคำร่ำลือ มาแซ่บกันต่อกับต้มยำรวมมิตรทะเล ทั้งกุ้งแชบ๊วย ปลากะพงรสเนื้อแน่น รสจัดจ้านซดโล่งคอมากๆ ปิดท้ายด้วยผลไม้อย่างแตงโมและสับปะรดหวานฉ่ำชื่นใจ ทุกเมนูสามารถเติมได้ไม่อั้น บอกได้คำเดียวเลยว่า “สุดยอด” อิ่มท้องพร้อมกับยกนิ้วให้สำหรับมื้อนี้
กินอาหารเสร็จกลับเข้าห้องพักเตรียมตัวพักผ่อน แต่อยู่ๆ ก็คิดขึ้นมาได้ เจ้าของโฮมสเตย์ได้บอกกับเราว่า ในเวลากลางคืนโฮมสเตย์แห่งนี้ จะมีหิ่งห้อยจำนวนมากมาบินอยู่รอบๆ โฮมสเตย์ จากคำบอกเล่านั้นทำให้เราต้องลองออกมาดูด้วยตาของตัวเอง เดินไปตามทางเดินก็พบกับสิ่งที่น่าประหลาดใจ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้สัมผัสหิ่งห้อยตัวเป็นๆ ถึงแม้ว่าจะออกมาให้เราเห็นไม่มาก แต่เชื่อว่าพื้นที่โฮมสเตย์แห่งนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
แสงแรกของวันปลุกเราสู่เช้าวันใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ก่อนจะทานอาหารเช้า เราเดินทางไปดูฟาร์มเลี้ยงปูซึ่งสามารถพูดได้ว่าที่นี่เป็นเจ้าของรายใหญ่ที่รับซื้อขายส่งปูให้กับร้านอาหารในพื้นที่ละแวกนี้และต่างจังหวัด
เมื่อเดินไปถึงก็พบกับบ่อเลี้ยงปูพร้อมกับกล่องดำมากมายบนพื้นน้ำ พบกระบะปูที่ถูกคัดไว้ตามจำนวนน้ำหนัก มีตั้งแต่ 3 ขีดขึ้นไป ปูที่มีน้ำหนักเยอะที่สุดน้ำหนัก 7 ขีด ราคาขีดละ 900 บาท ถ้า 5 ขีด ลงมา ราคาจะอยู่ประมาณ 700 บาทแล้วแต่น้ำหนักของปู ในช่วงเดือน สิงหาคม-ตุลาคม จะมีปูมากในช่วงนี้ และหลังปีใหม่ และช่วงสุดท้ายเป็นช่วงตรุษจีน แขกไปใครมาสามารถซื้อไปเป็นของฝากได้ ซึ่งจะซื้อขายตามน้ำหนักปู พร้อมให้บริการซื้อขายตลอดทั้งปี
ตื่นตาตื่นใจไปกับปูก้ามโตแล้ว ได้เวลากลับมากินข้าวเช้า โดยมีชา กาแฟ ขนมปัง เลือกทานได้ตามใจ และเมนูพิเศษที่ทางโฮมสเตย์เตรียมไว้ให้สำหรับมื้อเช้าเป็นข้าวต้มรวมมิตรที่ใส่ทั้งกุ้งตัวโต หมูสับ ปลากระพง ทานข้าวต้มร้อนๆ ในยามเช้าแบบนี้ช่วยเรียกความสดใสได้อย่างดีเลยล่ะ
สำหรับใครที่อยากมาพักที่พักท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ กางเลโฮมสเตย์ จันทบุรี คือตัวเลือกหนึ่งที่ อยากให้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง รับรองว่าถ้าได้มาแล้วจะต้องหลงรักแน่ๆ
ที่ตั้ง 30/3 หมู่ 9 ตำบลหนองชิ่ม อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี 22130
ราคา แพ็คเกจ 2 วัน 1 คืนรวมค่าที่พักรวมอาหาร 3 มื้อ และกิจกรรม
วันอาทิตย์ - วันพฤหัสบดี ผู้ใหญ่ ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาท
วันศุกร์ - เสาร์และวันนักขัตฤกษ์ ผู้ใหญ่ ราคาเริ่มต้นที่ 1,700 บาท
เด็ก 5-11 ขวบ ครึ่งราคา / เด็ก 1-4 ขวบ ฟรี
ติดต่อ 080-1950082 กางเลโฮมสเตย์, 098-5248029 คุณหนุ่ม, 081-9402570 คุณอนันต์
Tags: จันทบุรี ที่พัก กางเลโฮมสเตย์ โฮมสเตย์ โฮมสเตย์เปิดใหม่ ที่พักจันทบุรี ที่พักหินปูจันทบุรี โฮมสเตย์จันทบุรี
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 03 ก.ค. 2024 | 2,292 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 28 เม.ย. 2024 | 2,933 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 08 มี.ค. 2024 | 2,931 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 06 ก.พ. 2024 | 4,080 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 29 ม.ค. 2024 | 4,885 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 24 ม.ค. 2024 | 3,883 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 22 ม.ค. 2024 | 6,998 อ่าน