calendar_month 06 ธ.ค. 2018 / stylus Admin Chillpainai / visibility 10,160 / เที่ยวต่างประเทศ
- กับคนบางคนเราตกหลุมรักซ้ำๆ
กับบางเพลงเราเปิดฟังซ้ำๆ
กับอาหารบางเมนูเราก็ทานซ้ำๆ
แล้วทำไมกับสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง จะทำให้เราอยากกลับไปซ้ำบ้างไม่ได้ ? -
เคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึง “เวียดนาม” มาตั้งนมนานจนเหมือนเพื่อนในเฟซบุ้คพากันไปเยือน “ดาลัด” จนทะลุปรุโปร่ง แต่ไม่รู้ทำไม๊ทำไมเราถึงยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปดาลัดกับเขาบ้างสักที พอสบโอกาสฤกษ์งามยามดี 3 วัน 2 คืนเลยไม่รอช้า รีบวางแพลนคร่าวๆ ว่าต้องไม่พลาดทั้งนั่ง Roller Coaster เที่ยวน้ำตกดาตันลา แล้วไปปักหมุดถ่ายรูปสุดชิคคูลที่สถานีรถไฟดาลัดเก่า ต่อด้วยการไหว้พระขอพรที่วัดเจดีย์มังกร ก่อนปิดท้ายทริปช็อปปิ้งของฝากที่ตลาดไนท์บาร์ซ่า แต่นอกจากที่เอ่ยมา ดาลัดก็ยังที่เที่ยวอื่นรอให้เราได้ไปเยือนอีกเพียบ และกว่าจะรู้ตัวเราก็ตกหลุมรัก “ดาลัด” แบบถอนตัวไม่ขึ้น จนมั่นใจว่าต้องได้กลับมาซ้ำใหม่แน่นอน เพราะดาลัดครั้งเดียวไม่เคยพอจริงๆ !
เราเดินทางสบายๆ ในเวลาสายๆ ด้วยสายการบิน Thai Viet Jet จากสนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลานั่งฟังเพลง ดูท้องฟ้า และก้อนเมฆข้างนอกหน้าต่างประมาณเกือบสองชั่วโมง เจ้านกยักษ์ก็พาเราลงจอดยังสนามบินเลียนคัง (Lien Khoung Dalat) อย่างนุ่มนวล
เมืองดาลัด (Dalat) ที่คนพื้นถิ่นเค้าออกเสียงกันว่า ด่าหลัด เมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสสมัยที่เวียดนามยังตกอยู่ใต้อาณานิคม มาวันนี้แม้เวียดนามจะประกาศตนเป็นอิสระไม่ขึ้นตรงกับใคร แต่กลิ่นอายประวัติศาสตร์แต่หนหลังก็ยังหลงเหลือให้ “ดาลัด” กลายเป็นเมืองสุดคลาสสิกจนได้รับสมญานามอย่าง “ปารีสตะวันออก” ไปครอบครอง เห็นได้จากสถาปัตยกรรม และการตกแต่งต่างๆ รอบเมือง ที่เมื่อบวกกับอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปีด้วยแล้ว ถ้าไม่บอกว่าเป็นเวียดนาม เราคงนึกว่าตัวเองมาเดินเล่นอยู่ในยุโรปสักเมืองแน่ๆ
จากสนามบินเรามุ่งหน้าสู่น้ำตกดาลันตา (Dalanta) น้ำตกชื่อดังของเมืองดาลัด อายุมากกว่า 100 ปี ที่มาพร้อมกิจกรรมสุดมันส์อย่างการนั่ง Roller Coaster ที่รถรางอันแสนหวาดเสียวจะพาเราเลี้ยวลดคดเคี้ยวผ่านต้นไม้น้อยใหญ่ไปตามทางอันแสนร่มรื่น ก่อนจะถึงปลายทางที่มีน้ำตกสวยงามรอเราอยู่ทางเบื้องหน้า ให้เราได้สัมผัสกับละอองน้ำใสไหลเย็นโปรยปรายมาชวนให้สดชื่น ดับร้อนได้เป็นอย่างดี
หลายคนอาจไม่รู้ว่านอกจากสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติแล้ว “สถานีรถไฟดาลัด” เองก็เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นยอดฮิตไม่แพ้กัน
เพราะไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้นที่แวะเวียนมา แม้แต่วัยรุ่นชาวเวียดนามเอง ก็แต่งตัวมาประชันแฟชั่น โพสต์ท่าชิคๆ ถ่ายรูปกันแบบไม่มีใครยอมใคร ส่วนเราน่ะขอยอมแพ้ เพราะวันนี้เรามาเบาๆ ซอฟท์ๆ ใสๆ มากจ้าาา #ไม่สู้ 5555555
สำหรับทริปนี้ เราพักกันที่ Du Parc Hotel Dalat โรงแรมสวยสไตล์ฝรั่งเศสยุคโบราณ ติดถนนใหญ่ใจกลางเมืองดาลัด ด้านในห้องพักกว้างขวางกำลังดี เพดานสูงโปร่งไม่อึดอัด และแม้ไม่มีเครื่องปรับอากาศก็ไม่รู้สึกร้อนเลยสักนิด แถมเมื่อเปิดหน้าต่างออกไปยังมองเห็นวิวตึกรามบ้านช่องสวยๆ อีกต่อหนึ่งด้วย
ก่อนออกไปช็อปปิ้งคืนนี้ เราแวะมาเติมพลังแบบจัดเต็มกันที่ King BBQ เรียกได้ว่า ท่ามกลางอากาศหนาวๆ 10 กว่าองศา ได้มานั่งผิงไฟอิงไออุ่นคลายหนาวไปกับเตาบาร์บีคิว และปิ้งย่างแสนอร่อย มันช่างแฮพพรี่ซะเหลือเกิน !
ในที่สุดก็มาถึงช่วงเวลาที่หลายคนลอยคอ...รอคอย ท๊าดาาา~ ช็อปปิ้งไทม์ @ “ตลาดไนท์บาร์ซา” นั่นเอง ดูเผินๆ แล้วตลาดไนท์บาร์ซาของชาวเวียดนาม ก็คงไม่ค่อยต่างอะไรกับตลาดกลางคืนบ้านเรามากนัก เพราะนอกจากจะมีเสื้อผ้าแฟชั่นจ๋าวางขายให้เลือกกันอย่างละลานตา ในราคาที่กระเป๋าเงินดองสั่นระริกแล้ว สองข้างทางยังเต็มไปด้วยร้านรวงของที่ระลึก
ตลอดจนบรรดาสตรีทฟู้ดขึ้นชื่อ ที่ใครๆ ก็การันตีว่าต้องโดน ! อย่าง “บันแจงนึง” พิซซ่าเวียดนามที่ทำจากแผ่นแป้งย่างบนเตาถ่าน ส่งกลิ่นหอมกรุ่น แต่งหน้าด้วยผักโรย แฮม และไข่ ซึ่งใครจะเลือกนั่งทานในร้านที่เป็นเก้าอี้เตี้ยๆ ริมถนน หรือซื้อแบบเทคอะเวย์เดินไปกินไปก็ ฟินไม่แพ้กัน
เราเริ่มต้นวันที่สองกันด้วยไฮไลท์สำหรับคนมาเที่ยวดาลัดอย่าง Hydrangeas Garden ทุ่งไฮเดรนเยียสุดมุ้งมิ้งที่เบ่งบานสะพรั่ง อวดโฉมท้าลมหนาวคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวไปทั่วทั้งหุบเขา เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ไม่ว่าใครมาดาลัดต้องแวะมาเช็คอิน แบบที่ไม่ต้องรอหน้าหนาวเลยค่ะ เพราะเจ้าดอกไฮเดรนเยียที่นี่เค้าบานให้เราได้มาเซลฟี่กันตลอดทั้งปีเลยทีเดียว
ชื่นชมความงามกับหุบเขาไฮเดรนเยียจนพอใจ แวะมาไหว้พระขอพรกันต่อที่ Linh Phouc หรือ “วัดเจดีย์มังกร” วัดพุทธนิกายเซนที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม ภายในวิหารมีหอระฆังสูงที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในเวียดนาม และภาพจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส บอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติตั้งแต่ประสูตร ตรัสรู้ และปรินิพพาน
หลังจากทำตัวเป็นสายบุญ อิ่มบุญกันจนทั่วหน้า เรามุ่งหน้าสู่โบสถ์โดเมนเดมารี (Domaine De Marie Convent) โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาธอลิกซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาถนนโงเกวี่ยน ที่มาในสถาปัตยกรรมสวยงาม โดดเด่นด้วยสีชมพูอ่อน จากด้านบนยังมองเห็นวิวเมืองดาลัดโดยรอบได้อย่างชัดเจน เต็มตาจากมุมสูง นอกจากนี้รอบๆ บริเวณโบสถ์ยังมาพร้อมมุมถ่ายรูปสุดชิค ให้เราได้ลั่นชัตเตอร์กันอีกเพียบ รับรองว่าถูกใจสาวๆ ทั้งหลายแน่นอน
จากนั้น เรามาหาเครื่องดื่มร้อนๆ และของว่างแสนอร่อยเติมพลังกันที่ Doha Cafe คาเฟ่ดีไซน์แปลกตา ณ จตุรัสใจกลางเมืองอย่างลาน Lam Vien Square ที่วัยรุ่นและชาวดาลัดนิยมออกมานั่งเล่น ปล่อยของ และทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงยามเย็น ส่วนฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นทะเลสาบให้เราได้นั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ ส่งท้ายวันอีกด้วยค่ะ
เช้าวันสุดท้าย หลังจากทานมื้อเช้าจนเรียบร้อย ระหว่างรอเช็คเอาท์เวลายังเหลือ เราเลยถือโอกาสไปเดินเล่นที่โบสถ์ดาลัด (Dalat Cathedral) โบสถ์สีครีมสไตล์โรมันที่ตั้งตระหง่านตัดกับท้องฟ้าสดใส ด้วยลักษณะเด่นอย่างหอคอยยอดแหลม บริเวณไม่ไกลจากโรงแรมเป็นการส่งท้ายก่อนกลับบ้านกันอีกสักนิด
แล้วในเวลาสายๆ เราก็ได้เวลาโบกมือลาเมืองดาลัด กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ มีเวลาว่างเมื่อไหร่ค่อยเจอกันใหม่นะดาลัด :)
เรื่องและภาพโดยชิลไปไหน
ขอบคุณผู้สนับสนุนดีๆ ประจำทริปนี้อย่าง KTC
เที่ยวต่างประเทศ | 12 พ.ย. 2024 | 104 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 750 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 1,078 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 24 ก.ย. 2024 | 807 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ย. 2024 | 1,566 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 30 ก.ค. 2024 | 2,465 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 19 ก.ค. 2024 | 5,016 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 2,413 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 18 เม.ย. 2024 | 3,690 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 21 ก.พ. 2024 | 5,657 อ่าน