ทริป 2 วัน 1 คืน ขับรถเที่ยวอุทัยธานี เช็คอินที่เที่ยวสุดUnseen ตะลุยกินของอร่อย นอนแพริมน้ำ

ทริป 2 วัน 1 คืน ขับรถเที่ยวอุทัยธานี เช็คอินที่เที่ยวสุดUnseen ตะลุยกินของอร่อย นอนแพริมน้ำ

เอาใจคนวันหยุดน้อย แอดมินเก็บกระเป๋าพาเพื่อนๆ ขับรถไปเที่ยว อุทัยธานี ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์กันสัก 2 วัน 1 คืนค่ะ จะชิลแค่ไหนออกเดินทางไปพร้อมๆกันเลยค่ะ...

อุทัยธานี จัดหวัดเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบนของแผนที่ประเทศไทย เมืองสุดชิคแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจ ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม รวมไปถึงของกินอร่อยๆ ที่สำคัญไม่ไกลจากกรุงเทพด้วยค่ะ แถมค่าครองชีพก็แสนจะถูก ทำให้เป็นที่สนใจของบรรดานักท่องเที่ยวที่รักความชิลเป็นพิเศษ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์พร้อมๆกันค่ะ ...

Day1 : ตื่นนอนกันแต่เช้าแล้วออกเดินทางกันเลยค่ะ

เช้า     

           เราออกเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวกันแต่เช้าค่ะเพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ  จากกรุงเทพ-อุทัยธานี  ใช้เส้นทางหลักถนนสายเอเชีย อยุธยา-อุทัยธานี ระยะทาง 227 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 3 ชั่วโมงค่ะ (ใครที่ไม่มีรถส่วนตัว สามารถเดินทางโดนรถตู้ได้ค่ะ ขึ้นรถที่ สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก จุดจำหน่ายตั๋วอยู่บริเวณ อาคารB ตั๋วราคา 160 บาท/ท่าน รถออกตั้งแต่ 04.00น.-18.00น.) 

สายๆ

          ถึง อุทัยธานี เรามุ่งหน้าไปที่ อ.ทัพทัน ไปเช็คอินชิลๆ กันที่ สถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ "บ้านไร่ปลายนา" ไปนั่งพักจิบกาแฟดริปชิลๆ ริมท้องนาสีเขียวๆ ถ่ายรูปสวยๆอวดเพื่อนกันก่อนเลยจ้า  ร้านนี้ตกแต่งเรียบง่ายตามสไตล์บ้านทุ่ง มีสะพานไม้ไผ่ทอดยาว และมุมเก๋ๆ ให้ถ่ายรูปมากมายเลยค่ะ 

จากนั้น ก็เดินทางต่อไปที่ วัดจันทราราม หรือ วัดท่าซุง ก่อนเลยค่ะ จุดเด่นของวัดท่าซุง คือ องค์พระพุทธชินราชจำลอง และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ชมความงดงามของวิหารแก้ว วิหารทองคำ ส่วนใครที่ชอบปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ เนื่องจากทางวัดมีที่พักไว้สำหรับผู้มาปฏิบัติธรรมด้วยค่ะ (เวลาเปิดให้เข้าชมวิหารแก้ว 09.00-11.45 และ 14.00-16.00น.) 

เที่ยง

          เที่ยงๆเริ่มหิวก็กลับเข้าตัวเมือง แวะทานอาหารกลางวันที่ ร้านเจ๊โหนกก๋วยเตี๋ยวไก่ ร้านก๋วยเตี๋ยวขึ้นชื่อของจังหวัดอุทัยธานีร้านตั้งอยู่ในตรอกโรงยาค่ะ ร้านเป็นห้องแถวไม้ 1 คูหา ไม่กว้างมาก ไสตล์บ้านๆ ไม่เน้นบรรยากาศแต่เน้นรสชาติ ความเหนียวนุ่มของเส้น และเนื้อไก่ เมนูเด็ดที่ต้องจัดเลยก็คือ บะหมี่แห้งไก่ตุ๋น ขอน้ำซุปแยกซดน้ำร้อนๆด้วยนะคะ จะเด็ดมาก ใครไม่กินไก่ก็มีหมูเด้ง ลูกชิ้น จะต้มยำต้มจืดก็สั่งได้เลยค่ะ เดี๋ยวเจ๊แกจัดให้ ถ้าไปช่วงเที่ยงๆ คนเยอะก็นั่งเล่นเน็ตเพลินๆ รอกันก่อนได้ เพราะที่ร้านมี wifiฟรีให้ ด้วยค่ะ (เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 09.00-14.00น. โทรศัพท์ : 081-9721175) 

บ่าย

          กินอิ่มแล้ว ก็เดินทางไปเช็คอินเข้าที่พักค่ะ ครั้งนี้เรา พักกันที่  แพ บ้าน บ้าน ที่พักน่ารักใหม่แกะกล่อง ตั้งอยู่บนแม่น้ำสะแกกรังเลยค่ะ อยู่ห่างจากใจกลางเมืองแค่ 5 กิโลเมตร เองค่ะ บรรยากาศที่พักด้านบนเป็นสวนผลไม้ ส่วนในแพก็เป็นแพไม้ดีไซน์น่ารัก ตกแต่งสไตล์วินเทจบ้านๆ มีมุมน่ารักๆให้ถ่ายรูปมากมาย หลังแพมีห้องครัวเล็กๆ    มินิบาร์ขนมทานได้ทุกอย่างไม่คิดเพิ่มค่ะ และที่สำคัญที่พักแห่งนี้เอาใจคนรักความชิล และนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสุดๆ เพราะรับลูกค้าทีละกรุ๊ปเท่านั้น  (พักได้ 4 ท่าน ราคา 3500 บาท เสริมได้อีก 2 ท่าน ท่านละ 500 บาท ราคานี้รวมอาหารเช้าค่ะ)

บรรยากาศยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกได้จากหน้าแพที่พักเลยค่ะ

เย็น

          แดดร่มลมตกก็ออกไปเดินเล่น ถนนคนเดินตรอกโรงยา กันค่ะ ตรอกโรงยาเป็นถนนคนเดินซึ่งเดิมทีเป็นที่ตั้งของโรงฝิ่นเก่า ปัจจุบันถูกฟื้นฟูภายใต้การร่วมมือของชาวบ้านในชุมชน บรรยากาศภายในก็จะมีเหล่าแม่ค้าที่เป็นชาวบ้านมาตั้งของขายให้แก่นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมา สินค้าภายในตลาดก็จะมีทั้งของแฮนด์เมดน่ารัก ๆ ของสะสมเก่าแก่ อาหารทั้งคาวหวาน บอกเลยว่าเยอะจนเลือกซื้อไม่ถูกเลยล่ะค่ะ

          ในส่วนของแอดมินนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นของฝากค่ะ ส่วนมื้อเย็นวันนี้ ขอไปจัดหนัดจัดเต็มที่ ร้านอาหารอีสานสุดแซ่บเจ้าดังที่ ร้านยำน้ำลายแตก ค่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่ทางไปสนามกีฬาค่ะ ริมถนนหลักเลยค่ะ ร้านเป็นซุ้มกระท่อมมุงแฝก ตกแต่งบ้านๆแบบอีสานสไตล์ ส่วนอาหารมีให้เลือกหลากหลาย บอกเลยแซ่บอีหลีสุดทรวงทลวงไส้ทุกเมนู เลือกระดับความเผ็ดได้ค่ะ จะเผ็ดเมียหลวง เผ็ดเมียน้อย หรือเผ็ดลืมผัว ก็ระบุได้เลย ส่วนตัวชอบใจชื่อเมนูของร้านนี้ ที่น่ารักและโครตจะแปลก อย่าง สุกรผึ่งแดด ไส้เดือนทอด สาวน้อยท้องป่อง เป็นต้นค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าคืออะไรก็ต้องลองไปทานกันเองนะคะรับรองแซ่บเว่อร์  

ทานกันจนอิ่มท้องก็กลับที่พักนอนพักผ่อนกันค่ะ...Goodnight

Day 2

 เช้า

           สวัสดียามเช้าค่ะ เช้านี้เราตื่นกันแต่เช้า ชื่นชมบรรยากาศยามเช้าที่หน้าแพสักพัก ประมาณ 06.15น. เจ้าของแพพานั่งเรือไปเที่ยวตลาดเช้า พามาทำบุญใส่บาตรพระพายเรือกันค่ะ ระหว่างทางจากแพมาตลาดวิวสองข้างทางชิล และสโลว์ไลฟ์สุดๆ เลยค่ะ ในส่วนตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรังเนี่ย ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเที่ยวแวะชมบรรยากาศยามเช้า และสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวอุทัย ส่วนกิจกรรมที่นิยมทำกันก็คือ ตักบาตรพระพายเรือ(ทุกวัน 07.00น.) ถ่ายรูปเรือนแพริมน้ำ และทานของอร่อยในตลาดกันค่ะ

จากนั้นก็เดินทางกลับที่พัก ทานอาหารเช้า แบบจัดหนักจัดเต็ม  แล้วก็เซ็คเอาส์ ออกเดินทางกันต่อจ้า...

สาย

          เช็คเอาส์ออกจากที่พัก ขับรถขึ้นไปเที่ยวบนยอดเขาสะแกกรังค่ะ ยอดเขาสะแกกรัง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งในจังหวัดอุทัยธานี ที่ทุกคนที่ไปจังหวัดอุทัยต้องไปเยือน เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองอุทัยธานีได้กว้างขวาง จากบนยอดเขา และยังเป็นที่ตั้งของมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งย้ายมาจากวัดจันทาราม มีระฆังใบใหญ่ ชาวอุทัยธานีร่วมกันสร้างขึ้นไว้ใกล้กับมณฑป ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะด้วยค่ะ

แวะซื้อ ขนมปังสังขยาร้านไพรพรรณ 

และ ข้าวกุ้งกรอบข้าวเกรียบปลากลายที่ ร้านแม่ป่วยลั้ง 

เที่ยง

          ได้ของฝากกันเรียบร้อน ก่อนออกเดินทางกันต่อ เราแวะทานมื้อกลางวัน จิบกาแฟ กินโรตีอร่อยๆ กันที่ ร้านมุมสะแก ค่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่ปลายสะพานวัดอุโบสถารามอยู่ในตราดเลยค่ะ นอกจากจะได้กินของอร่อยแล้ว ยังได้นั่งชมวิวบรรยากาศริมแม่น้ำสะแกกรังอีกด้วยจ้า ส่วนเมนูเด็ดของที่นี่ก็คือ Midnight Berry และ โรตีแป้งมาเลย์ บอกเลยว่าห้ามพลาด ส่วนใครที่อยากทานของคาวที่นี่เค้าก็มีเมนูอาหารจานเดียวบริการด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น แกงกระหรี่ปลาแรดทอด, ผัดไทยกุ้งสด หรือจะเมนูสุดแซ่บอย่าง หนุมานคลุกฝุ่น ก็ลองมาทานกันได้นะคะ อร่อยเด็ดทุกเมนูเลยค่ะ

บ่าย

          ออกเดินทางไปที่ อ.ลานสัก ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง จากตัวเมืองอุทัยธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 333 (อุทัยธานี-หนองฉาง) และเข้าทางหลวงหมายเลข 3438 (หนองฉาง-ลานสัก) ไปอีกประมาณ 90 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดหมาย หุบป่าตาดอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ถึง หุบป่าตาด  สถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand สุดฮิตของจังหวัดอุทัยธานี ถ้ำนี้ตั้งอยู่ด้านในเขาหินปูน การเดินทางเข้าไปนั้นต้องพกไฟฉาย เพราะ ด้านในเป็นป่าดงดิบทึบ จึงมืดมากอาจมองทางไม่เห็น ด้านในจะมีหินงอก หินย้อย และต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ พร้อมมีป้ายบอกชื่อต้นไม้แต่ละชนิด พร้อมอธิบายรายละเอียดต่างๆ สำหรับผู้ที่สนใจและเข้าไปศึกษาธรรมชาติด้วยค่ะ (ค่าบริการ คนละ 20 บาท   ปิดเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป)

          ต่อกันด้วยที่สุดท้ายที่ จุดชมวิวบ้านชายเขา ที่เที่ยวแห่งใหม่อุทัยธานี วิวดีเหมือนได้ไปเมืองนอกเลยค่ะ ที่เที่ยวแห่งนี้อยู่ห่างจาก หุบป่าตาด แค่ 2 กิโลเมตร ค่ะ ช่วงหน้าหนาวอากาศจะหนาวมาก ชาวบ้านบางคนแถวนี้เรียกที่นี่ว่า จุดชมวิวบ้านชายเขาสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย  จุดชมวิวแห่งนี้ได้วิวสุดสวยของภูเขาหินปูนของ เขาปลาร้า หุบป่าตาด และเขาที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เรียงรายกันสวยงาม ตัดสลับกับไร่ข้าวโพด สวนผลไม้ของชาวบ้าน ดูสวยแปลกตา ชาวบ้านแถวนี้เลยทำจุดชมวิวเล็กๆ ไว้บริการนักท่องเที่ยวให้แวะมาเช็คอินกันค่ะ แถมใกล้ๆ จุดชมวิว มีร้านส้มตำเล็กๆ บริการอาหาร และเครื่องดื่ม มีซุ้มไม้ไผ่เล็กๆให้นั่งชมบรรยากาศพร้อมทานส้มตำรสแซ่บ ด้วยค่ะ คนจะเยอะช่วงเย็นๆค่ะ มีทั้งนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่เลยค่ะ 

ทริปนี้เราใช้ค่าใช่จ่ายไปประมาณ 2,375 บาท / คน

-ค่าที่พัก 1 คืน 3,500 บาท(4คน) คนละ 875 บาท

-ค่าน้ำมันรถ 2,000 บาท คนละ 500 บาท

-ค่ากิน 1,000 บาท

**ค่าใช้จ่ายจะถูกจะแพงขึ้นอยู่กับที่พักที่เราเลือกและร้านอาหารที่เราทานกันค่ะ**

ถ่ายรูปกันเสร็จก็เย็นพอดี ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้วค่ะ ถึงกรุงเทพ ค่ำๆ เป็นอันจบทริปสุดชิลของเราครั้งนี้ค่ะ ขับเที่ยวจังหวัดอุทัยธานี 2 วัน 1 คืน  

ส่วนทริปหน้าเราจะไปชิลกันที่ไหนฝากติดตามกันด้วยนะคะ  

...เพราะชีวิตคือการเดินทาง...           

Tags: อุทัยธานี เที่ยวอุทัย บ้านไร่ปลายนา จุดชมวิวบ้านชายเขา ยอดเขาสะแกกรัง มุมสะแก วัดท่าซุง วัดจันทาราม แพบ้านบ้าน แพบ้านบ้านโฮมสเตย์ เจ๊โหนกก๋วยเต๋ยวไก่ ศูนย์ผ้าทอลายโบราณบ้านผาทั่ง วัดถ้ำเขาวง หุบป่าตาด ตรอกโรงยา เขาสะแกกรัง บ้านนกเขา ถนนคนเดิน ทองตะนาวเครื่องหอมไทยเดิม หมุดโลก แผนที่หมุดโลก ตลาดเช้าริมน้ำสะแกกรัง แม่ป่วยลั้ง ไพรพรรณ สังขยาไพรพรรณ ขนมปังสังขยา สิริกุล ของฝากอุทัยธานี เที่ยวอุทัยธานี

เขียนโดย

Maprang Chillpainai

แชร์บทความนี้