0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ทริปล่าหมอก เที่ยวเขาค้อไม่ง้อฝน ไหว้พระธาตุ จิบกาแฟ ชมหมอก กอดเขาสุดฟิน

calendar_month 28 ก.ย. 2018 / stylus Admin Chillpainai / visibility 172,030 / ทริปตัวอย่าง

 

หน้าฝนแบบนี้…คิดถึงภูเขาเขียวๆ ที่เขาค้อขึ้นมาชะมัด นานแล้วที่เราไม่ได้ออกเดินทางไปกอดสายหมอกยามเช้า ว่าแล้วก็ลงมือจัดกระเป๋าออกไปเที่ยวกันเลยดีกว่า มีเวลาสั้นๆ แค่ 2 วัน 1 คืนก็เที่ยวเขาค้อได้ สำหรับวิธีการเดินทางไปเที่ยวเขาค้อที่ง่ายที่สุดก็คือรถส่วนตัว ใช้เวลาเดินทางแค่ 5-6 ชั่วโมงก็ถึง เสน่ห์ของการขับรถไปเที่ยวเอง คือเราสามารถแวะที่ไหนก็ได้ ระหว่างทางมีอะไรที่น่าสนใจให้แวะชมมากมาย ไปเขาค้อกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลยจริงๆ

เที่ยวเขาค้อ


แต่ก่อนจะออกเดินทาง ก็ต้องเตรียมความพร้อมให้รถกันก่อน หลายคนอาจจะกังวลเรื่องเส้นทางขึ้นเขาค้อที่บางช่วงค่อนข้างชันและแคบ แถมยังอาจจะเจอหมอกฝนระหว่างทาง ดังนั้น นอกจากตรวจเช็คสภาพรถ ทั้งเบรก ลมยาง ฯลฯ แล้ว อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ “การเลือกเติมน้ำมัน” ที่นอกจากจะพาเราขับเคลื่อนไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว การเลือกเติมน้ำมันที่ดียังช่วยปกป้องและดูแลรถคู่ใจที่เรารักไปในตัวด้วย

เที่ยวเขาค้อ


ทริปนี้ เราเลือกเติม “ซูพรีมพลัส” น้ำมันเกรดพรีเมียมจากเอสโซ่ ที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มสมรรถนะกว่าน้ำมันสูตรมาตรฐาน นอกจากช่วยปกป้องเครื่องยนต์และทำความสะอาดอย่างเหนือชั้น ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้และประหยัดน้ำมัน คืนพลังให้เครื่องยนต์ทำงานต่อเนื่องได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะทริปที่ต้องขับรถขึ้นลงเส้นทางที่เป็นภูเขาสูงชันแบบนี้…การเลือกเติมน้ำมันดีๆ ก็ช่วยให้เรามั่นใจทุกครั้งในการเดินทางตลอดทั้งเส้นทาง  

ซูพรีมพลัส ปั๊มเอสโซ่


แถมช่วงนี้ ยังมีสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นดี๊…ดี เมื่อเติมน้ำมันเอสโซ่ ซูพรีมพลัส ทุกประเภท ทั้งซูพรีมพลัส แก๊สโซฮอล์ 95 และซูพรีมพลัส ดีเซล ทุก 700 บาท รับไปเลยน้ำดื่ม 1.5 ลิตร  ฟรี 2 ขวด พร้อมรับคะแนนสะสมเอสโซ่ สไมล์ส 2 เท่า ตั้งแต่ 16 กันยายน 2561 – 15 พฤศจิกายน 2561 นี้เท่านั้น ใครกำลังแพลนทริปขับรถไปเที่ยวที่ไหน…รีบไปเติมน้ำมันที่ปั๊มเอสโซ่ แล้วรับสิทธิพิเศษคุ้มสองต่อแบบนี้กันได้เลย (สังเกตปั๊มที่ร่วมรายการจากโฆษณาหน้าปั๊ม หรือเข้าไปเช็ครายชื่อสถานีบริการน้ำมันที่ร่วมรายการที่ https://www.essosmiles.com/Supremepluspromo/)

ซูพรีมพลัส ปั๊มเอสโซ่


โดยเราสามารถเอาคะแนนเอสโซ่ สไมล์สไปใช้แลกสิทธิพิเศษทั้งช้อป ชิม ชม ต่อได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะแลกเป็นคะแนนเทสโก้โลตัสคลับการ์ด หรือแลก McDonald's, Starbucks e-Coupon และแลกตั๋วดูหนังในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์และอีจีวีทุกสาขา เพราะฉะนั้น ใครอยากได้คะแนนเอสโซ่ สไมล์ส สมัครฟรีได้เลยที่สถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ทุกสาขา หรือ Add line เพื่อรับสิทธิประโยชน์ง่ายๆอีกมากมาย พิเศษรับ 250 คะแนน เมื่อผูกบัตรเอสโซ่ สไมล์สผ่าน LINE @EssoThailand 17 กันยายน 2561 – 31 ธันวาคม 2561

ซูพรีมพลัส ปั๊มเอสโซ่


เติมน้ำมันเต็มถังพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปเขาค้อกันได้เลย จุดแรกที่เราไปแวะกันคือ “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” สถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คของเพชรบูรณ์ ภาพของยอดเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิตสีทองอร่าม บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ประดับประดาด้วยแก้วเบญจรงค์และเศษแก้ววิจิตรงดงามหลากสีสัน คือเสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพากันหลั่งไหลมาชมความงามที่นี่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว


นอกจากนี้ ภายในวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วยังมีแลนด์มาร์คอีกแห่งอย่างมหาวิหาร พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ โดดเด่นด้วยพระพุทธรูปสีขาวที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าทั้งห้าองค์ในภัทรกัป สร้างลดหลั่นกันอย่างงดงาม ท่ามกลางสายหมอกและขุนเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง จัดเป็นอีกหนึ่งวัดสวยอันซีนของเมืองไทย ที่ใครมาเที่ยวเขาค้อแล้วพลาดไม่ได้ต้องมาชมด้วยตาตัวเองสักครั้ง 

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว


เที่ยววัดอิ่มบุญอิ่มใจกันแล้ว ชักเริ่มหิว…เราไปทานมื้อกลางวันกันที่ “โรงเตี้ยมสุดขอบฟ้า” ร้านอาหารวิวสวยที่เพิ่งเปิดใหม่บนเขาค้อ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วมากนัก แต่ถนนทางขึ้นไปยังร้านนั้นค่อนข้างแคบและชันมาก จนบางช่วงเราเห็นรถบางคันต้องจอดแอบข้างทาง โชคดีที่พวกเราเติมน้ำมันพรีเมียมอย่างซูพรีมพลัสมาเต็มถัง จังหวะขึ้นเขาเลยเร่งเครื่องได้ดี ไม่มีสะดุด ขับยาวต่อเนื่องได้ถึงร้านบนยอดเขาแบบไม่ต้องกังวล

โรงเตี้ยมสุดขอบฟ้า ร้านอาหารเขาค้อ


ตัวร้านตกแต่งอย่างโดดเด่นด้วยสไตล์จีนโมเดิร์น ผสมกลิ่นอายแดนมังกรด้วยหลังคาเก๋งจีน และโคมไฟจีนสีแดงประดับตกแต่งอยู่ภายในร้าน

โรงเตี้ยมสุดขอบฟ้า ร้านอาหารเขาค้อ


เมนูเด่นที่นี่เป็นอาหารสไตล์จีนยูนนาน จานเด็ดพลาดไม่ได้มาแล้วต้องสั่งเลยคือ เมนูนี้ “ขาหมูหมั่นโถวสูตรยูนนาน” ขาหมูตุ๋นมาจนหนังเปื่อยนุ่มละลายในปาก ทานคู่กับหมั่นโถวแป้งนุ่มจานใหญ่ หากกลัวเลี่ยนแนะนำจานนี้ ยำยอดฟักแม้ว รสจัดจ้าน ต่อด้วยต้มจืดเยื่อไผ่เนื้อปู เสิร์ฟมาในหม้อไฟร้อนๆ ซดคล่องคอโรงเตี้ยมสุดขอบฟ้า ร้านอาหารเขาค้อ


ถ้ายังไม่อิ่มไปทานของหวาน จิบกาแฟแก้ง่วงหลังอาหารกันต่อที่ “ตั๊กม้อ คอฟฟี่ เขาค้อ” ร้านกาแฟที่อยู่บริเวณติดกันกับร้านอาหารเลยค่ะ เดินแค่ไม่กี่ก้าว…เราก็ได้นั่งจิบกาแฟชมวิวบนที่นั่งริมระเบียงเอาท์ดอร์ท่ามกลางภูเขาล้อมรอบสุดสายตา และยังสามารถมองเห็นวิวพระธาตุผาซ่อนแก้วอยู่ไกลๆ ได้อีกด้วย

ตั๊กม้อ คอฟฟี่ เขาค้อ

ตั๊กม้อ คอฟฟี่ เขาค้อ


ตอนบ่ายเราไปเช็คอินเข้าที่พักคืนนี้ของเรากันที่ วิน วิว อิงลิชโรส การ์เด้นท์ รีสอร์ท เขาค้อ (Vin View English Rose Garden Resort Khaokho) จุดเด่นของที่นี่ คือสวนกุหลาบสวยสไตล์อังกฤษ มีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ และบ้านพักที่ดีไซน์ให้กลิ่นอายกระท่อมในชนบทแนวอิงลิชคอทเทจสีสันสดใสวิน วิว อิงลิชโรส การ์เด้นท์ รีสอร์ท เขาค้อ

วิน วิว อิงลิชโรส การ์เด้นท์ รีสอร์ท เขาค้อ


มื้อเย็นเราทานอาหารเย็นกันที่รีสอร์ท พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกในบรรยากาศสุดโรแมนติก บอกเลยว่าฟินมากๆ เลยค่ะ

วิน วิว อิงลิชโรส การ์เด้นท์ รีสอร์ท เขาค้อ


เช้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นแต่เช้าเพื่อขับรถไปชมทะเลหมอกกันที่ “จุดชมวิววัดกองเนียม” อีกหนึ่งจุดชมทะเลหมอกของเขาค้อที่ได้ชื่อว่าวิวสวยที่สุดแห่งหนึ่ง และยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นจากบริเวณนี้ได้อีกด้วย

จุดชมวิววัดกองเนียม เขาค้อ

จุดชมวิววัดกองเนียม เขาค้อ


จากจุดชมวิววัดกองเนียม เราขับรถมาแวะอีกจุดหนึ่งคือ “ที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อ” อีกหนึ่งจุดชมวิวและกางเต็นท์ยอดนิยม น่าเสียดายที่ฝั่งนี้มองเห็นทะเลหมอกไม่มากนัก แต่เราก็ถ่ายรูปคู่กับป้ายที่ทำการฯ และตู้ไปรษณีย์มาเป็นที่ระลึก

ที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อ


จากนั้นเรากลับไปทานมื้อเช้าที่รีสอร์ท อาบน้ำ เก็บของเสร็จแล้ว ล้อหมุนไปเที่ยวกันต่อเลยดีกว่า…พิกัดแรกปักหมุดกันที่ ไร่สตรอว์เบอร์รี่ GB เขาค้อ ถึงแม้ช่วงนี้สตรอว์เบอร์รี่จะยังไม่ออกให้เราได้เก็บชิม แต่ก็มีทุ่งดอกไม้สวยๆ อย่างคอสมอส, เวอร์บีน่า ฯลฯ ให้เราได้ถ่ายรูป และยังมีชิงช้าให้นั่งเล่น ชมวิวภูเขาและทุ่งกังหันลมที่อยู่ล้อมรอบได้

ไร่สตรอว์เบอร์รี่ GB เขาค้อ

ไร่สตรอว์เบอร์รี่ GB เขาค้อ

ไร่สตรอว์เบอร์รี่ GB เขาค้อ


เดินเล่นถ่ายรูปจนคอแห้ง แวะไปเติมพลังกันที่ Mongker Drip Coffee ร้านกาแฟบรรยากาศดี ตั้งอยู่ติดกับไร่สตรอว์เบอร์รี่ GB มีที่นั่งเล่นให้เราจิบกาแฟชมวิวกันได้แบบชิลๆ

Mongker Drip Coffee

Mongker Drip Coffee


ระหว่างนั้นท้องฟ้าที่สดใสตอนเช้าก็เปลี่ยนเป็นเมฆครึ้มทะมึนมาแต่ไกล ไม่ทันไร…สายฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก เรานั่งรอให้ฝนซาสักพัก จากนั้นก็ไปขึ้นรถรางเพื่อเข้าไปเที่ยวชมภายในทุ่งกังหันลม เขาค้อ โดยซื้อตั๋วรถรางด้านหน้าคนละ 60 บาท รถรางจะพาเข้าไปชมด้านในและแวะจอดรับส่งนักท่องเที่ยวเป็นจุดๆ

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ


จุดแรกที่เราแวะคือ “ทุ่งเทเลทับบี้” ที่เที่ยวแลนด์มาร์คใหม่ของเขาค้อ ไปถ่ายรูปคู่กับเทเลทับบี้น่ารักๆ พร้อมเดินเล่นชมสวนดอกไม้สวยๆ เสียค่าบัตรเข้าชมคนละ 40 บาท หางบัตรสามารถนำไปเป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่มคาเฟ่ด้านในได้ด้วย

ทุ่งเทเลทับบี้

ทุ่งเทเลทับบี้


ไม่ใช่แค่ถูกใจสาวๆ ที่ชอบเซลฟี่ นักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวมักจะแวะที่นี่ เพราะมีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ทั้งการให้อาหารสัตว์ในฟาร์มอย่างแพะ แกะ ม้า ฯลฯ หรือนั่งจิบกาแฟ เครื่องดื่มชิลๆ นั่งเล่นชมวิวทุ่งกังหันลมที่อยู่ล้อมรอบได้ทั้งวัน

ทุ่งเทเลทับบี้

ทุ่งเทเลทับบี้


จุดที่สอง รถรางพาเราแวะมาที่จุดเล่น “ฟอร์มูล่าม้ง” น่าเสียดายที่บ่ายวันนั้นฟ้าครึ้ม ลมพัดแรงเป็นสัญญาณว่าฝนกำลังจะตกในไม่ช้า เราเลยเปลี่ยนไปเล่นชิงช้า ถ่ายรูปชมวิวบริเวณรอบๆ แทน ถ่ายรูปได้แค่แป๊บเดียวฝนก็เทกระหน่ำลงมาอีกครั้ง…คราวนี้ตกหนักกว่ารอบแรก แต่กลับทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกไปอีกแบบ เรียกว่ามาเที่ยวเขาค้อทริปนี้…พวกเราไม่ง้อฝนกันจริงๆ ตกได้ตกไป…รอให้ฝนหยุดแล้วก็ไปเที่ยวต่อกันแบบชิลๆ

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ


เราโบกมือบ๊าย..บายทุ่งกังหันลม ขับรถลงจากเขาค้อมุ่งหน้าไปทางอำเภอหล่มสัก ตั้งใจว่าจะไปปิดท้ายทริปกันที่คาเฟ่น่ารักๆ ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเขาค้อกับภูทับเบิกกันค่ะ

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ


ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึง “เลอ คันนา ฟาร์มสเตย์ คอฟฟี่”  คาเฟ่บรรยากาศดีที่มองเห็นทั้งวิวทุ่งนาและภูเขาแบบ 2 in 1

เลอ คันนา ฟาร์มสเตย์ คอฟฟี่

เลอ คันนา ฟาร์มสเตย์ คอฟฟี่


ภายในร้านมีมุมให้นั่งเล่นนั่งชิลหลายมุม ทั้งมุมเก้าอี้ทรงสูงติดกับเคาน์เตอร์ไม้ตัวยาว เปลไม้ไผ่ให้นอนเล่นชิลๆ รับลมเย็นๆ จากทุ่งนา

เลอ คันนา ฟาร์มสเตย์ คอฟฟี่

เลอ คันนา ฟาร์มสเตย์ คอฟฟี่


นอกจากเป็นคาเฟ่แล้ว ที่นี่ยังมีร้านอาหารชื่อ “ฮิมนา บาย เลอ คันนา” อยู่ใกล้ๆ กัน สามารถสั่งมาทานที่ร้านกาแฟได้ เราจัดเมนูขนมจีนชุดใหญ่ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของทางร้านอย่างขนมจีนเส้นสด เสิร์ฟพร้อมน้ำยา 3 อย่าง คือ น้ำยากะทิ, น้ำยาป่า และน้ำยาหวานหรือน้ำยาถั่ว ที่ทำจากถั่วเหลืองต้ม เอาไปบดแล้วผสมกับถั่วลิสงตำ ปรุงรสโดยใช้หัวกะทิ ได้รสชาติหวานมันครบรส พร้อมผักสดและผักพื้นบ้านลวกเป็นเครื่องเคียงอีกชุดใหญ่ ความพิเศษของขนมจีนที่นี่ คือทางร้านจะผสมสีที่ได้จากชาเขียว,ชาไทยลงไปทำให้ได้เส้นขนมจีนสดใหม่ที่สีสวยน่ากินแปลกตา

เลอ คันนา ฟาร์มสเตย์ คอฟฟี่


ตบท้ายของหวาน อย่างเค้กมะพร้าวอ่อนใบเตย เนื้อเค้กนุ่มๆ ได้รสชาติหอมหวานมันของมะพร้าว และเค้กสตรอว์เบอร์รี่รสชาติเปรี้ยวอมหวาน พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ ที่มีให้เลือกทั้งกาแฟอย่างเอสเพรสโซ่เย็น, ชาเขียว และน้ำผึ้งมะนาวอัญชัน ดื่มแล้วสดชื่นคลายร้อน แถมราคาไม่แพงอีกด้วยค่ะเลอ คันนา ฟาร์มสเตย์ คอฟฟี่


ด้านหลังร้านกาแฟยังเปิดเป็นที่พัก ซึ่งเราสามารถไปเดินเล่นถ่ายรูปบนสะพานไม้กลางทุ่งนาได้ เรียกว่าปิดท้ายทริปเที่ยวเขาค้อกันแบบประทับใจ ได้เจอทะเลหมอกอย่างที่คาดหวัง แม้อาจจะต้องเจอฝนบ้าง…แต่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเดินทางที่เราอยากให้ทุกคนออกไปลองค้นหากันค่ะ

เลอ คันนา ฟาร์มสเตย์ คอฟฟี่


สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังจะมีแพลนขับรถไปเที่ยวแบบพวกเรา อย่าลืมเลือกเติมน้ำมันดีๆ อย่างซูพรีมพลัสที่ปั๊มเอสโซ่ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ง่ายๆ อีกมากมาย พิเศษรับ 250 คะแนน เมื่อผูกบัตรเอสโซ่ สไมล์ส ผ่าน LINE @EssoThailand ตั้งแต่ 17 กันยายน 2561 – 31 ธันวาคม 2561 สิทธิพิเศษดีๆ แบบนี้พลาดไม่ได้เลยค่ะ!




 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai