ยกญี่ปุ่นมาไว้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ กับงาน AKI–GUCHI (อาคิ-กุจิ) เข้าฟรี ไม่มีไฟลท์บินก็มาเดินชิลได้

อยากไปญี่ปุ่นฟรีๆ จะมีมะ???  ตอบเลยทันทีว่ามี!! กับญี่ปุ่นกลางกรุงเทพฯ ที่ยกมาไว้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ งานนี้บอกเลยว่าเข้าฟรี ไม่ต้องมีไฟลท์บินก็เข้ามาเดินชิล ชมศิลปวัฒนธรรมญี่ปุ่นสุดอลังการ กินของอร่อย ช้อปของน่ารัก และยังทักทายกับศิลปินนักร้องมากมายในมินิคอนเสิร์ตสุดมันส์ โดยงานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 20-30 กันยายนนี้

วันนี้ชิลไปไหนก็ได้มีโอกาสมาร่วมงานเปิดเทศกาล "AKI–GUCHI (อาคิ-กุจิ)" ครั้งแรกเลยค่ะ บอกเลยว่าละลานตามากๆ เหมือนหลุดมาที่ประเทศญี่ปุ่นจริงๆ

ก่อนจะพาไปเดินชมงาน "AKI–GUCHI (อาคิ-กุจิ)" หลายคนอาจจะงงว่าคำว่า  (อาคิ-กุจิ) คืออะไร AKI-GUCHI เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า 秋口, あきぐち แปลว่า Beginning of Autumn หรือการก้าวเข้าสู่เทศกาลแห่งการเริ่มต้นเฉลิมฉลองฤดูกาลใบไม้ร่วง ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ดั่งถูกย้อมสีอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งตอนนี้ที่ญี่ปุ่นก็เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ทาง คิง เพาเวอร์ จึงนำเอาความงดงามของฤดูกาลที่เต็มไปด้วยสีสันนี้มารวมไว้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

มาเริ่มต้นตะลุยญี่ปุ่นที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำกันเลยก่อนจะไปเดินงานญี่ปุ่นก็ต้องมาแปลงกายเป็นสาวญี่ปุ่นกันก่อนค่ะ โดยบริเวณทางเข้างานจะมีบูธเช่าชุดกิโมโนและยูกาตะ โดยให้บริการเช่าคิดเป็นรายชั่วโมง ชั่วโมงละ 300 บาท ครึ่งชั่วโมง 150 บาท

ทางร้านมีบริการทำผมแบบเบื้องต้น ติดดอกไม้ ให้ยืมรองเท้า และพัดอีกด้วยโดยเพิ่มเงินอีก 50 บาทค่ะ เพียงเท่านี้ก็กลายร่างเป็นสาวญี่ปุ่น พร้อมออกไปเดินเฉิดฉายในงานกันแล้ว

มุมถ่ายรูปในงานสวยๆ เพียบเลยค่ะ โดยทางเข้าจะทำเป็นเสาโทริสีแดงขนาดใหญ่ เหมือนทางเข้าศาลเจ้าญี่ปุ่น

จำลองฉากในบ้านของคนญี่ปุ่น พร้อมเสื่อตาตามิมาให้ถ่ายรูปเก๋ๆ

มุมโคมไฟ มุมสุดฮอตเวลาถ่ายเหมือนอยู่ญี่ปุ่นจนเพื่อนๆ เข้าใจผิดว่าอยู่ญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ

จากนั้นมาเวิร์คช้อปกันค่ะโดยภายในงานจะมีกิจกรรมเวิร์คช้อปการพับกระดาษโอริกามิสไตล์ญี่ปุ่น (Origami), กิจกรรม DIY การประดิษฐ์เครื่องรางญี่ปุ่น ด้วยตัวเอง โดยทั้งสองงานนี้เราสามารถนำใบเสร็จภายในงานมูลค่า 300 บาท (จำกัด 1 ใบเสร็จ/ 1 สิทธิ์ / ท่าน) มายื่นบริเวณบูธ Workshop เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมฟรี โดยจำกัดเพียง 120 คน/วัน สำหรับกิจกรรมพับกระดาษโอริกามิ และ 80 คน/วัน  สำหรับกิจกรรม DIY การประดิษฐ์เครื่องรางญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการเพ้นท์หน้ากากสไตล์ญี่ปุ่น  (มีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้นนะ) โดยนำใบเสร็จภายในงานมูลค่า 500 บาทเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมเพ้นท์หน้ากากโดยจำกัดเพียง 10 คน/ชั่วโมงเท่านั้นรับรองว่าคุณจะได้สัมผัสความญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

วันนี้เราก็ได้มาร่วมทำกิจกรรม DIY การประดิษฐ์เครื่องรางญี่ปุ่นกันค่ะขอบอกว่าทำง่ายมากๆ

ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีเราก็ได้เครื่องรางแล้วค่ะ น่ารักมากๆ

มีมุมสำหรับเขียนคำอวยพรด้วยค่ะ ดูญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นมากๆ

จากนั้นเรามาเริ่มหาอาหารอร่อยทานกันเลย โดยภายในงานครั้งมีบูธร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่มีให้เลือกรับประทานกว่า 40 ร้าน อาทิ ซูชิร้านดัง Seiryu Sushi, ราเมงในตำนานและเนื้อวากิวชั้นเยี่ยมจากร้าน Yamagoya, คาเฟ่ขนมหวานสุดน่ารักจากร้าน Hello Kitty House, แพนเค้กสไตล์ญี่ปุ่น Iwane U, ซอฟท์เสิร์ฟไอศครีมชื่อดัง ขนานแท้จากฮอกไกโด Hokkaido Softkream

เริ่มด้วยร้าน Sushi Ryu ร้านซูชิร้านดังที่มาเปิดบูธขายอาาหรญี่ปุ่นทั้งซูชิ ซาชิมิ ข้าวหน้าต่างๆ น่ากินมากๆ

จัดมาหนึ่งแพ็คกับแซลมอนเนื้อสดอร่อยมากๆ ค่ะ

ต่อด้วยร้าน Yamagoya Ramen ราเมนร้านดังแต่วันนี้เราขอชิมข้าวหน้าเนื้อที่เขาบอกว่าอร่อยไม่แพ้ราเมนเลยค่ะ

ข้าวหน้าเนื้อหรือกิวด้งของร้านนี้ให้คะแนนเต็ม 100 ไปเลย เนื้อนุ่ม หอม อร่อยมากๆ

เห็นคุณลุงคนญี่ปุ่นกำลังขะมักเขม้นทำทาโกยากิและเรียกลูกค้าอยู่ เราเลยไม่พลาดไปอุดหนุนทาโกยากิกับโอโคมิยากิ หรือพิซซ่าญี่ปุ่นสุดอร่อย รสชาติแบบญี่ปุ่นๆ แท้ มาลองชิม

ต่อด้วยข้าวหน้าไข่ข้นร้าน MR.OMELET ค่ะ คนมาอุดหนุนเยอะ ราคาไม่แพง อร่อยมากๆ

เราสั่งข้าวไข่ข้นแฮม ชีส และไข่มาลองชิม ราคา 129 บาทเท่านั้น อร่อยมากๆ

มาฟินกันต่อกับมันปูหิมะฮอกไกโดจากร้าน Grill 63 Degrees

มันปู หอม อร่อยทานกับข้าวสวยร้อนๆ โอ๊ยยย ฟินมากๆ 

ทานของคาวแล้วมาจัดขนมกันค่ะกับชูครีมร้าน BOON (บุญ) ไส้ทะลักอร่อยมากๆ

ชูครีมชิ้นใหญ่อัดแน่นไปด้วยไส้อร่อยสุดๆ

ปิดท้ายกับขนมแบบญี่ปุ่นและขาเขียวที่ร้าน TSUJIRI

ชาเขียวปั่นสุดเข้มข้นอร่อยสุดๆ

ทานกับดังโงะญี่ปุ่นฟินมากๆ ค่ะ

ส่วนสายช้อปก็เตรียมเงินในกระเป๋าไว้ให้ดี เพราะงานนี้น่าซื้อ น่าช้อปไปหมดเลยล่ะค่ะ ทั้ง รองเท้าแสนชิค, หมวกทรงเก๋ไก๋ และเครื่องปั้นหลากดีไซน์

หลังจากตะลุยกินตะลุยช้อปกันแบบฟินเฟอร์แล้ว ก็ถึงเวลาเปิดงานอย่างเป็นทางการแล้วล่ะค่ะ เริ่มต้นพิธีเปิดงานด้วยศิลปะการแสดงวัฒนธรรมญี่ปุ่นชุด Shūki sutāto ที่สวยงามและอลังการมากๆ โดยใช้พัดและร่มพร้อมดนตรีประกอบที่นุ่มนวลเป็นการแสดงที่ตราตรึงคนทั้งงานไว้กับภาพสุดอลังการเบื้องหน้า

และตลอด11 วัน ตั้งแต่วันที่ 20-30 กันยายนนี้จะมีกิจกรรมและการแสดงภายในงานมากมาย อาทิ การแสดงนินจา, การแสดงคาบูกิ ซึ่งเป็นศิลปการแสดงของญี่ปุ่นที่หาชมได้ยาก, การแสดงโคโตะซึ่งเป็นเครื่องสายของญี่ปุ่น, ชมการสาธิตศิลปะการป้องกันตัวแบบญี่ปุ่น อาทิ เคนโด้ (Kendo) วิถีแห่งดาบของชาวญี่ปุ่น,คาราเต้โด (Karatedo)การต่อสู้ด้วยมือเปล่า และไอคิโด (Aikido)ที่สลับสับเปลี่ยนมาให้ชมกันอย่างจุใจ

ยังไม่หมดแค่นั้นภายในงานยังมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย อาทิ นนท์ ธนนท์, เต้-ดาวิชญ์ กรีพลฤกษ์ และตี๋-ธนพล จารุจิตรานนท์ และมินิคอนเสิร์ตจาก Scrubb, Polycat, ภูมิ - วิภูริศ ศิริรัตน์ และลิเดีย - ศรัณย์รัชต์ ดีน เป็นต้น ใครชื่นชอบศิลปินคนไหน มามีทแอนด์กรี๊ดในงานได้เลย

พิเศษ!! สำหรับลูกค้าคนไทย และสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ เพียงซื้อสินค้าภายในงาน "AKI–GUCHI (อาคิ-กุจิ)" และรวบรวมใบเสร็จรับเงิน ครบ 500 บาทขึ้นไป ภายในวันเดียวกัน รับทันที คูปองส่วนลดมูลค่า 1,000 บาท สำหรับซื้อสินค้า 3,500 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ (1 สิทธิ์/ท่าน/วัน) **เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด**

ย้ำกันอีกครั้งว่างานนี้เขาจัดเพียง 11 วันเท่านั้นนะ ตั้งแต่วันที่ 20 – 30 กันยายน 2561 เวลา 16.00 – 22.00 น. บริเวณฟาวน์เท่น สแควร์ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ การเดินทางก็ง่ายมากๆ นั่งบีทีเอสไปลงสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นสามารถใช้บริการรถชัตเติ้ลบัสของคิง เพาเวอร์ ซึ่งให้บริการฟรีตรงห้างเซ็นจูรี่ หรือเดินเข้าไปก็ได้ค่ะใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ส่วนใครที่มาโดยรถยนต์ก็สะดวกมากๆ ซึ่งเข้าได้ทั้งทางถนนศรีอยุธยา และซอยรางน้ำด้านถนนพญาไทและถนนราชปรารภ

ใครพลาดบอกได้เลยว่าน่าเสียดายเพราะงานญี่ปุ่นดีๆ แบบนี้ไม่มีให้ชมบ่อยนะคะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/KingPowerOfficial
#ExploreEndlessly #KingPowerRangnam #KingPowerAkiguchi2018

Tags: กรุงเทพฯ AKI–GUCHI (อาคิ-กุจิ) คิง เพาเวอร์ รางน้ำ King Power งานญี่ปุ่น ช้อปปิ้ง งานเทศกาลญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่น shopping shop BANGKOK

เขียนโดย

นางสาวฮานะ ชิลไปไหน

แชร์บทความนี้