calendar_month 20 ก.ย. 2018 / stylus Admin Chillpainai / visibility 62,905 / ทริปตัวอย่าง
ช่วงนี้อากาศเมืองไทยเอาใจยากจริง ๆ ค่ะ เพื่อน ๆ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว บางทีฝนก็ตก เรียกได้ว่าปรับตัวไม่ทันกันเลยทีเดียว แต่เราก็ไม่สามารถละทิ้งความคิดที่จะเที่ยวไปจนแก่ไม่ได้ เพราะการเที่ยวนี่แหละค่ะ เป็นยารักษาโรคที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะโรคทางกาย หรือว่าโรคทางใจ ^^ ว่าแล้วก็หาข้อมูลไปเที่ยวตามฝันกันดีกว่าค่ะ
ทริปนี้เรียกได้ว่าเป็นทริปหญิงไทยใจงามมากเลยค่ะ เพราะเราจะพาเพื่อน ๆ มุ่งสู่ประตูอีสานอย่างเมืองนครราชสีมา หรือที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือ “โคราช” เมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายจนเลือกได้เลยค่ะว่าจะเที่ยวแบบลุย ๆ หรือจะเที่ยวแบบ ชิค ๆ ชิล ๆ แน่นอนค่ะ บอบบางอย่างเราก็ต้องไปเที่ยวสไตล์ผู้หญิงชิค ๆ หาที่ถ่ายรูปเก๋ ๆ มาอวดให้เพื่อน ๆ อิจฉาเล่น ว่าแล้วเราก็ไปกันเลยจ้า
ผู้หญิงอย่างเราออกเดินทางแต่เช้าก็คงไม่ไหว ทริปนี้ตั้งใจจะไปเที่ยวชิล ๆ กันอยู่แล้ว เราจึงออกเดินทางกัน บ่ายโมงตรง การเดินทางทริปนี้ เราใช้ถนนหมายเลข 2 เข้า ทางพิเศษศรีรัช มุ่งไป แขวง ทุ่งพญาไท จากนั้นใช้ทางพิเศษศรีรัช และใช้ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ถนนหมายเลข 1 และ 2 ไปทาง ถนนหมายเลข 224 เพื่อมุ่งไปยังจังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 4 โมงเย็น เราก็ถึงเส้นทางที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดนครราชสีมากันแล้วค่ะ แต่ก่อนจะเข้าอำเภอเมือง เราก็ขอแวะเติมความหวานกันสักหน่อยที่ร้าน บาร์ไอติมเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง กันก่อน
ร้านบาร์ไอติม เป็นร้านไอศกรีมระดับพรีเมี่ยมเลยค่ะ เป็นร้านสไตล์ “Modern Thai Tropical Loft” หรือเข้าใจง่าย ๆ ก็คือทุกอย่างในร้านเป็นสินค้าโฮมเมดทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีม เค้ก หรือขนมปังต่าง ๆ
ร้านน่านั่งมากค่ะ ร่มรื่นอากาศดีมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากและที่สำคัญไอศกรีมที่นี่อร่อยมากค่ะแถมมีรสชาติแปลก ๆ ที่เพื่อน ๆ น่าจะยังไม่เคยได้ลองทานที่ไหน ได้ลองทานอีกด้วย
ไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ ค่ะเพื่อน ๆ ว่าไอศกรีมรสมะม่วงน้ำปลาหวานและมะยมพริกเกลือ จะอร่อยจนต้องสั่งเพิ่มเลยค่ะ รสชาติเหมือนเราทานมะม่วงน้ำปลาหวานจริง ๆ แต่เป็นมะม่วงน้ำปลาหวานที่มาในรูปแบบไอศกรีม มะยมพริกเกลือก็รสชาติอร่อยไม่แพ้กันค่ะ เพื่อน ๆ ได้ชิมแล้วต้องติดใจแน่นอน
ไม่ใช่แค่ไอศกรีมอย่างเดียวนะคะที่เด็ด น้ำและขนมอื่น ๆ ก็เด็ดไม่แพ้กันเลย หากเพื่อน ๆ ไปเที่ยวก็อย่าลืมแวะลองชิมกันดูนะคะ รับลองว่าติดใจแน่นอน
หลังจากแวะเติมความหวานกันแล้ว เรามุ่งหน้าไปยังที่พักกันเลยค่ะ วันนี้เราพักกันที่ โรงแรมแคนทารี โฮเต็ล แอนด์ เซอร์วิซ อพาร์ตเมนต์ โคราช ที่พักใจกลางเมืองโคราช ที่มองเห็นวิวโคราชแทบทั้งเมืองเลยค่ะ
หลังจากเก็บของเข้าห้องกันเรียบร้อยเราก็ขึ้นมาชมวิวเมืองโคราชกันทันทีเลยค่ะ บอกได้เลยว่าคืนนี้ฝันดีอย่างแน่นอน
เราออกเดินทางจากที่พักไปยัง อำเภอคง 8 โมงเช้า เพื่อที่จะโฮมสเตย์บ้านคุณเพชร เพื่อไปเรียนรู้การทำลูกประคบด้วยสมุนไพรท้องถิ่นกันค่ะ
โฮมสเตย์บ้านคุณเพชรเพิ่งเปิดได้ไม่นานค่ะ เป็นโฮมสเตย์สำหรับให้นักท่องเที่ยวที่รักความสงบมาใช้ชีวิตแบบบ้าน ๆ กัน มีผักสวนครัวต่าง ๆ มากมาย มีบริการนวดหน้า นวดแผนไทย เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียว ครบทุกอย่าง ว่าแล้วเราก็ลองไปทำลูกประคบกันเลยค่ะ
วัตถุดิบต่าง ๆ ของลูกประคบก็เป็นสมุนไพรที่ทางโฮมสเตย์บ้านคุณเพชรปลูกเองทั้งหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ไพร ตะไคร้หอม ขมิ้น และผิวมะกรูดค่ะ ประโยชน์ของลูกประคบก็จะช่วยให้บริเวณที่เจ็บปวด เคล็ดขัดยอก ทุเลาลงได้ ลองไปทำกันเลยค่ะ
พอได้ลองทำจริง ๆ ลูกประคบทำไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่สับสมุนไพรให้ละเอียด แล้วห่อลงในผ้าจากนั้นก็มัดให้เป็นลูกกลม ๆ เล็กใหญ่แล้วแต่ถนัดเพียงเท่านี้เราก็ได้ลูกประคบตามต้องการแล้วค่ะ
ลูกประคบที่เสร็จแล้วหน้าตาก็จะออกมาแบบนี้ค่ะเพื่อน ๆ วิธีใช้ลูกประคบก็ง่าย ๆ เลยค่ะ เพียงแค่นำมานึ่งให้ร้อน หรือจะใช้ไมโครเวฟอุ่นก็ได้ แค่นี้ก็สามารถใช้ได้แล้วค่ะ
ที่โฮมสเตย์บ้านคุณเพชรมีบริการนวดหลากหลายรูปแบบค่ะ ลองนวดดูแล้วสบายจนไม่อยากกับอยากนอนที่นี่ไปเลยค่ะ
บ้านคุณเพชรทำอาหารไว้ต้อนรับเราหลายอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกล้วยมรกต ข้าวโพดหลากสี และสอนเราทำอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่น ก็คือใบยออบชีสด้วย
ใบยอที่นี่ใบใหญ่มา ๆ เลยค่ะ ที่สำคัญปลอดสารพิษอีกด้วย ถ้าใครอยากใช้ชีวิตสงบ ๆ ตามวิถีสโลไลฟ์ แนะนำที่นี่เลยค่ะ โฮมสเตย์บ้านคุณเพชร รับลองว่าเพื่อน ๆ ต้องติดใจความน่ารักและความพออยู่พอกินของที่นี่อย่างแน่นอน
เราเดินทางออกจากโฮมสเตย์บ้านคุณเพชรประมาณ เที่ยงค่ะ จากนั้นเราเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านห้วยทราย เพื่อทานอาหารถิ่นที่เป็นของขึ้นชื่อจาก 3 หมู่บ้าน ก็คือหมู่บ้านห้วย หมู่บ้านปรางค์ และหมู่บ้านโกรกตะไคร้
เราได้รับการต้อนรับจากทั้ง 3 หมู่บ้านเป็นอย่างดีค่ะ มีการแสดงรำของภาคอีสานโชว์เราด้วย ดูแล้วต้องยิ้มตามเลยค่ะ
ความเชื่อของที่นี่คือเมื่อเรามาจากที่อื่นก็ต้องมีการผูกข้อไม้ข้อมือเพื่อเรียกขวัญกันก่อน เราได้รับพรจากคนเฒ่าคนแก่ที่นี่แบบจัดเต็มเลยค่ะ
หลังจากผูกข้อไม้ข้อมือกันเสร็จก็ได้เวลาอาหารกลางวัน อาหารถิ่นของที่นี่แซ่บนัวจริง ๆ ค่ะ เพราะมีปราร้าเป็นส่วนประกอบเกือบทุกเมนูเลย เพื่อน ๆ ได้ฟังชื่อเมนูอาหารก็อาจแปลกใจกันนิดนึง เพราะชื่ออาหารเค้าแปลกไม่เหมือนใครค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ซุปสายไหมใยหม่อน ที่ใช้น้ำของไหมมาทำเป็นส่วนประกอบ ช่วยเพิ่มคอลลาเจนในร่างกายค่ะ บองไฮโซ สะเอ้อะเด้อ ขาหมูโคราชไวโอเลตเรตแอนบราวด์ ไฮโซสมุนไพร และแกงเหล็กห้วยทราย เชื่อกันรึยังคะว่าเมนูที่นี่แปลกจริง ๆ
ที่นี่มีข้าวโพดราชินีทับทิมสยาม ที่ทานได้โดยไม่ต้องต้มค่ะ ทานได้สด ๆ เลยค่ะ รสชาติหวานมากๆ
หลังจากทานอาหารอิ่มแล้ว เราก็ไปดูผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ทำจากธรรมชาติ ก็คือการทอผ้า การทำสบู่จากไหม และการทำยาสีฟัน
ที่นี่เลี้ยงไหมเองนะคะ ไม่ใช่ไหมสังเคราะห์ และที่นี่ก็ใช้ประโยชน์จากไหมได้อย่างครบถ้วนเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการนำมาประกอบอาหาร การนำมาทำสบู่ หรือการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
หลังจากเราได้ดูวิธีการทอผ้า การทำสบู่แล้ว ชาวบ้านก็พาเรานั่งรถอีแต็กชมวิว เพื่อนำเรามาส่งหน้าหมู่บ้านค่ะ บอกได้เลยว่าหมู่บ้านห้วยทรายมีเสน่ห์มาก ชาวบ้านที่นี่น่ารัก อาหารที่นี่อร่อย เป็นความประทับใจที่จะไม่มีวันลืมเลยค่ะ
หลังจากเดินทางออกจากหมู่บ้านห้วยทราย เราก็มุ่งหน้าไปยังปรางค์บ้านปรางค์ โบราณสถานที่สร้างขึ้นมาด้วยสถาปัตยกรรมแบบขอมในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 หรือราว ๆ พุทธศตวรรษที่ 18 เนื่องจากโบราณสถานแห่งนี้ห่างไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ จึงยังไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจกับสถานที่แห่งนี้มากนัก อยากให้เพื่อน ๆ ลองมาเที่ยวที่ปรางค์บ้านปรางค์กันเพราะที่นี่ก็เป็นโบราณสถานที่สวยงามไม่แพ้กับโบราณสถานที่อื่นเลย
ห่างออกไป 100 เมตร ชาวพบสระน้ำซึ่งเป็นบารายของปราสาทปรางค์ เมื่อไม่นานมานี้ชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างสะพานบารายที่สร้างด้วยไม้ไผ่โดยมีความยาวถึง 300 เมตร ขึ้นมา
เพื่อน ๆ เคยฟังเพลงรักเก่าที่บ้านเกิด ของพี่ เอกชัย ศรีวิชัย กันไหมคะ นี่แหละค่ะเรืออีโปง เหมือนท่อนนึงของเพลงรักเก่าที่บ้านเกิด “พายเรืออีโปง เก็บดอกโสน” ช่วงเย็นที่นี่คนเยอะค่ะ เหมาะแก่การมาดูพระอาทิตย์ตกเป็นอย่างมาก สูดอากาศสบาย ๆ รับลมเย็น ๆ ชื่นใจสุด ๆ ไปเลย
ดูพระอาทิตย์ตกกันแล้ว ก็ได้เวลาที่เราจะไปชม Mini light & sound Phimai ที่หอประชุมโรงเรียนพิมายวิทยา รับลองว่าการแสดงแสงสีเสียงที่ตระการตามาก ๆ เลยค่ะ
การแสดงที่นี่เป็นการแสดงของเด็กนักเรียนในพื้นที่หลากหลายสถาบันค่ะ เด็กที่นี่มีความสามารถมาก ๆ ดูการแสดงได้อย่างเพลิดเพลินเลยทีเดียว
เช้าวันสุดท้ายของโคราช เราตื่นกันตั้งแต่ ตี 5 เดินทางไปที่ตลาดจอแจ ตลาดเล็ก ๆ น่ารักที่คนในชุมชนแถวนี้นำของมาขาย
เราเลือกซื้อของกันที่นี่เพื่อจะไปใส่บาตรตอนเช้ากันค่ะ
ข้าวของที่นี่ราคาไม่แพงเลย อย่างดอกบัวที่เราซื้อเป็นดอกบัวที่คุณยายเก็บมาเองแล้วนำมาพับขาย 3 กำ 10 บาทเท่านั้นเองค่ะ
มีขนมไทยโบราณต่าง ๆ ที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันในกรุงเทพแล้วมาวางขายมากมายเลยค่ะ เราได้ลองชิมแล้วติดใจจริง ๆ
หลังจากเราซื้อของเตรียมใส่บาตรกันเรียบร้อย วันนี้เรามารอใส่บาตรพระกันที่สะพานรักบ้านเตยค่ะ ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ตามปรัชญาเศรษกิจพอเพียง ชาวบ้านจึงระดมทุนกันสร้างสะพานไม่ไผ่ขึ้นมาโดยมีความยาว 300 เมตร บริเวณโดยรอบเป็นทุ่งนาทั้งหมดค่ะ
ระหว่างรอพระมาเราก็ถ่ายรูปกับวิวสวย ๆ กันไปพลาง ๆ ก่อนค่ะ
อิ่มอกอิ่มใจมากเลยค่ะเช้านี้ นอกจากจะได้รับอากาศแสนบริสุทธิ์แล้ว ยังได้รับบุญแบบเต็มเปี่ยมอีกด้วย
หลังจากใส่บาตรกันเสร็จเราก็กับโรงแรมไปทานอาหารเช้าจากนั้นก็เก็บกระเป๋าเพื่อไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวบ้านปราสาทกันต่อ
บ้านปราสาทเป็นหมู่บ้านที่คนในหมู่บ้านรวมตัวกันสร้างที่โฮมสเตย์ขึ้นมา มีศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านหลากหลายรูปแบบ เช่น การสานหมวก สานกระเป๋า การตัดเย็บ การทอผ้า รวมไปถึงการทำอาหารพื้นบ้านอีกด้วย
พวงกุญแจหมวกใบเล็กนี้ราคาเพียง 20 บาทเท่านั้นนะคะ เราได้ลองสานดูแล้วบอกได้เลยว่าไม่ง่ายเลยค่ะเพื่อน ๆ กว่าจะได้มาแต่ละใบ คุณยายบอกว่าทำไปมั่งพักไปมั่งค่ะแกทำเรื่อย ๆ เพื่อน ๆ มาเที่ยวที่นี่ก็อย่าลืมแวะอุดหนุนคุณยายด้วยนะคะ
นอกจากจะได้ลองสานพวงกุญแจหมวกกันแล้วเรายังได้ลองทำผัดหมี่โคราชกันด้วยค่ะ คุณยายอกว่าสูตรของผัดหมี่โคราชแต่ละชุมชน แต่ละอำเภอก็จะต่างกันออกไป
ผัดหมี่โคราชของสูตรบ้านปราสาทอร่อยมากค่ะ เส้นเหนียวนุ่มมากเลย รสชาติก็ดี ติดใจจนอยากห่อกลับมาฝากเพื่อน ๆ เลยค่ะ
หลังจากออกจากบ้านปราสาทเราก็มุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารโคราฑา ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพ ร้านโคราฑามีอาหารโบราณท้องถิ่นที่หากินยากมากอย่างเช่น ข้าวแผะ ผัดหมี่กระโทก ไก่กระเต็ด ไก่โครฑา ไก่ย่างท่าช้าง เป็นต้น
ทานอาหารกันอิ่มแล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องกลับกรุงเทพกันแล้ว อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองมาเที่ยวโคราชกันนะคะ นอกจากจะมีอาหารท้องถิ่นที่อร่อย ภาษาถิ่นที่น่ารัก นอกจากนี้โคราชยังเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์อีกจังหวัดนึงเช่นกัน แน่นอนค่ะว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวแบบสบาย ๆ อยากให้โคราชเป็นอีกทางเลือกนึงของเพื่อน ๆ ค่ะ เพราะโคราชเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ไม่แพ้จังหวัดอื่นเลย ^^
ทริปตัวอย่าง | 18 ธ.ค. 2024 | 102 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 12 ธ.ค. 2024 | 296 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ธ.ค. 2024 | 385 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 27 พ.ย. 2024 | 510 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 26 พ.ย. 2024 | 726 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 1,039 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 01 ธ.ค. 2024 | 478 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 907 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 28 ต.ค. 2024 | 1,241 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,400 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,761 อ่าน