3 วัน 2 คืน กับนครชากังราว เที่ยวกำแพงเพชร...เด็ดกว่าที่คิด

“ว่ากันว่าการชาร์ตแบทที่ดีที่สุด...

ก็คือการเดินทางไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ”

เหนื่อยกับงานทีไร ใจก็โหยหาธรรมชาติทุกที รีบไปชาร์ตแบทร่างกายกันให้เต็มที่ สูดอากาศดี ๆ กันให้เต็มปอด เราขอแนะนำ จังหวัด “กำแพงเพชร” หรือนครชากังราว เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติของภูเขาและน้ำตกที่สวยงาม รับรองว่าถ้าได้ไปแล้วจะติดใจจนไม่อยากกับอย่างแน่นอน

พร้อมที่จะไปเที่ยวกำแพงเพชรกันแบบจัดเต็ม ใน 3 วัน 2 คืน กับเรารึยัง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย...เพราะกำแพงเพชรเด็ดจริง ไม่มโนนะจ๊ะ

วันนี้เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ กันตั้งแต่ 7 โมงเช้า การเดินทางไป จังหวัด กำแพงเพชร โดยใช้ เส้นทางหลวงหมายเลข 32 โดยผ่าน จังหวัดอยุธยา อ่างทอง สิงหบุรี และนครสวรรค์ จากนั้นเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1 ก็เข้าสู่ จังหวัด กำแพงเพชร จากนั้นเรามุ่งหน้ากันไปที่จุดหมายแรกของเรา นั่นก็คือ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม อ.บึงสามัคคี วัดที่มีเอกลักษณ์เด่นกว่าวัดอื่น ๆ เพราะเป็นวัดที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอีสานที่อพยพมาอยู่ จังหวัด กำแพงเพชร

ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง เราก็มาถึงที่ วัดทุ่งสนุ่น เป็นวัดมีเนื้อที่ 27 ไร่ ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็น ลาวครั่งและลาวเวียง เราแปลกใจจนต้องถามหลวงพ่อว่าเอ๊ะทำไมภาคเหนือถึงมีวัดอีสานได้ หลวงพ่อท่านก็เล่าให้ฟังว่า คนที่นี่ส่วนใหญ่อพยพมาจาก จังหวัด ราชบุรี และนครปฐม ย้ายถิ่นฐานมาทำกินกันที่กำแพงเพชร จากนั้นก็มีชาวร้อยเอ็ดและชาวขอแก่น อพยพตามมาจึงร่วมกันสร้างวัดทุ่งสนุ่นขึ้น

วัดทุ่งสนุ่นมีบุญประเพณีของชาวอีสานที่หลากหลาย เช่น งานบุญพเหวด ประเพณียกอ้อยอครูและการสร้างพระธาตุข้าวเปลือก ช่วงงานประเพณีจะมีชาวอีสานมาร่วมบุญกันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว

ถือเป็นโชคดีของเรามากที่หลวงพ่อให้เราได้ชม พระแก้วไหมทอง หรือชื่อเต็ม พระพุทธสุวรรณโกสัยมัยมณี แกะสลักจากหินไหมทองทั้งองค์ มีขนาดหน้าตักเพียง 3 นิ้ว ทรงเครื่องทองคำแท้ และเป็นพระพุทธรูปที่มีไหมทองขึ้นทั่วเต็มองค์เพียงองค์เดียวในประเทศไทย ถือเป็นบุญของเรามากค่ะที่มีโอกาสได้เห็น เพราะปกติ คนทั่วไปจะมีโอกาสได้เห็นพระแก้วไหมทอง เฉพาะเทศกาลสำคัญ ๆ ของทางวัดเท่านั้นนะคะ

หลังจากอิ่มบุญแล้วเราก็มุ่งหน้าไปชมสินค้าขึ้นชื่อของ จังหวัด กำแพงเพชร นั่นก็คือดีบุก ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถึงดีบุกกำแพงเพชร กันแล้ว

ดีบุกกำแพงเพชร เป็นงานศิลป์จากแร่ดีบุก ถือเป็นสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว ของจังหวัดกำแพงเพชร เลยทีเดียวค่ะ

พี่เบญจมาพร เจ้าของบ้านเล่าว่า เมื่อก่อนคนนิยมใช้เครื่องเงินมาทำเครื่องประดับ แต่พี่เบญจมาพร เล็งเห็นว่า แร่ดีบุกเป็นแร่ที่ไม่ดำและที่มีความเงาและสวยงามไม่ต่างจากเครื่องเงิน เพียงแต่สู้เครื่องเงินแท้ไม่ได้เพราะเครื่องเงินแท้มีความแข็งแรงมากกว่า แต่ข้อดีของดีบุกคือสามารถแกะสลักเป็นลวดลาย ต่าง ๆ ได้งดงามและอ่อนช้อยกว่าเครื่องเงินแท้ พี่เบญจมาพรจึงได้นำดีบุกมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องประดับและของที่ระลึกต่าง ๆ อีกด้วย

หลังจากชมสินค้าดีบุกกำแพงเพชรกันเสร็จ ก็เที่ยงพอดี ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วละสิ เราจึงหาร้านอาหารเด็ด ๆ ของกำแพงเพชรทานกัน ว่าแล้วก็อย่ารอช้า รีบขับรถมุ่งหน้าไปกันที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวแป๊ะอี่ ร้านก๋วยเตี๋ยว เก่าแก่ที่อยู่มาแล้วถึง 120 ปี สืบทอดกันมาแล้วถึง 3 รุ่น

พี่ใหม่ วิระ วาสนวัฒนจรัส ผู้สืบทอดกิจการรุ่นที่ 3 ได้เล่าให้เราฟังว่า สูตรก๋วยเตี๋ยวของทางร้าน มาจากเมืองจีน เมื่อก่อนขายเพียงชามละ 1 สลึง ที่ขายมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะมีสูตรเด็ดน้ำซุปเข้มข้น ทำเส้นบะหมี่ไข่เองทุกวัน เส้นไม่ใส่สารกันบูด เราได้ชิมแล้วก็บอกได้เลยค่ะว่า เส้นเหนียวนุ่มจริง ๆ น้ำซุปก็หอมหวานชวนทานมาก ๆ เลยละค่ะ

ปัจจุบันทางร้าน มีเมนูหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกระเพราเป็ด บะหมี่เป็ดย่าง ข้าวพริกแกงเป็ด และเกาเหลาเป็ด เรียกได้ว่าเลือกทานไม่ไหวเลยทีเดียว
หลังจากอิ่มท้องกันแล้วเราก็เดินทางเข้าตัวเมืองกันเลย ไปตามรอยประวัติศาสตร์กันต่อที่อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ภายในมีวัดมากถึง 60 กว่าวัด มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเพราะใช้ศิลาแลงในการสร้าง เป็นศิลปะแท้ดั้งเดิมที่แสดงถึงฝีมือของคนในอดีด

มาเริ่มกันที่วัดแรกกันเลยค่ะ วัดพระแก้ว ถือเป็นวัดแรกก่อนที่จะเข้าไปยังวัดอื่นภายในอุทยาน มีสิ่งก่อสร้างภายในวัดเรียงกันเป็นแนวยาวตามแกนตะวันออก-ตะวันตกขนานกับกำแพงเมืองด้านทิศใต้ เป็นพระอารามหลวงที่มีขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเช่นเดียวกับวัดมหาธาตุสุโขทัย และวัดพระศรีสรรเพชร กรุงศรีอยุธยา เป็นวัดที่มีเฉพาะเขตพุทธาวาสไม่มีภิกษุจำพรรษา

มาต่อกันที่วัดที่ 2 นั่นก็คือ วัดช้างรอบ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเนินสูงสุดของเขตอรัญญิก วัดนี้มีเจดีย์ประธานทรงระฆังขนาดใหญ่ซึ่งยอดหักพังหมดแล้ว ฐานล่างประดับช้างปูนปั้นครึ่งตัวจำนวน 68 เชือก ตัวช้างสวมเครื่องทรง ตกแต่งลายปูนปั้นนูนสูงรูปพันธ์พฤกษา เจดีย์ด้านบนเหลือเฉพาะฐาน 8 เหลี่ยม มีการประดับลายปูนปั้นเล่าเรื่องเทวดานางฟ้าและพุทธประวัติ

มาต่อกันที่วัดที่ 3 วัดพระสี่อิริยาบถ สิ่งก่อสร้างภายในวัด ก็คือวิหารที่สร้างบนฐานทักษิณขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าวัด มีทั้งหมด 4 ด้าน ประดิษฐานพระพุทธรูปแตกต่างกันออกไปในแต่ละด้าน คือ เดิน นั่ง ยืน นอน ในปัจจุบันเหลือเพียงพระยืนขนาดใหญ่ทางด้านทิศตะวันตก เป็นพระพักตร์ลักษณะสุโขทัยหมวดกำแพงเพชร คือพระนลาฏกว้าง พระหนุเสี้ยม

เราออกจากที่พักประมาณ 8 โมงเช้า จากนั้นเดินทางไปยัง อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์มีพื้นที่ครอบคลุม ถึง 2 จังหวัดด้วยกันคือ อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร และอำเภอแม่วงก์ และกิ่งอำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ เป็นแหล่ง กำเนิดของลำน้ำแม่วงก์ที่สำคัญของจังหวัดนครสวรรค์ และมีหน้าผาที่สวยงามตามธรรมชาติ 

ก่อนขึ้นไปถึงอุทยานเราก็ต้องผ่านจุดชมวิว กิ่วกระทิง แวะถ่ายรูปวิวสวย ๆ ก่อนขึ้นไปข้างบนอุทยานกันค่ะ

ขับรถขึ้นมาประมาณ 30 กิโลเมตร ก็ถึงแล้วค่ะ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ แนะนำก่อนเลยนะคะว่าอย่าลืมพกยาฉีดกันยุง ยาหม่อง หรือตะไคร้หอมสำหรับทาตัวไปด้วย เพราะบริเวณนี้มีตัวคุ่นอาศัยอยู่จำนวนมากเลยทีเดียว ถ้าไม่ทาอาจโดนกัดได้นะคะ

ทางเดินขึ้นไป ภูสวรรค์ หรือ ช่องเย็น เป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร ไม่ไกลมากค่ะ แต่ทางค่อนข้างชันมาก ควรเตรียมน้ำขึ้นไปดื่มด้วยนะคะ ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปพิชิตภูสวรรค์ด้วยกันเลยค่ะ

ระหว่างทางก็จะพบกับดอกไม้ต้นไม้ป่าตลอดทาง บอกได้เลยค่ะว่าอากาศที่นี่ดีอย่าบอกใคร

และแล้วเราก็มาถึงจนได้ ภูสวรรค์ ที่นี่มีความสูง 1,429 เมตรจากระดับน้ำทะเล อากาศเย็นตลอดทั้งปีค่ะ บอกได้เลยว่าอากาศที่นี่
ฟินมากจริง ๆ ทำเอาไม่อยากลงไปข้างล่างเลย และนอกจากนี้ที่นี่ ยังมีพื้นที่ให้บริการกางเต็นท์อีกด้วย ถ้าใครสนใจสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังจริง ๆ

หลังจากฟินจากภูสวรรค์ยังไม่หายเราก็เดินทางไปต่อกันที่ น้ำตกคลองลาน ช่วงนี้หน้าฝนพอดี แวะไปเที่ยวน้ำตกกันสักหน่อย
น้ำตกคลองลานเป็นน้ำตกที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ มีพืชไม้นานาพันธุ์ขึ้นอยู่บริเวณน้ำตก

น้ำตกคลองลาน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติคลองลาน ต.คลองน้ำไหล อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ จุดกำเนิดจากเทือกเขาขุนคลองลาน ไหลลงหน้าผาสูง 100 เมตร ด้านล่างของน้ำตกเหมาะแก่การมานอนแช่น้ำชิล ๆ มากเลยค่ะ

หลังจากเหนื่อยกับการเดินทางขึ้นเขาลงห้วยกันทั้งวัน เราก็ไปแวะหาที่เดินเล่นหาของกินกันเถอะ เรามุ่งหน้าไปกันที่
ตลาดย้อนยุคนครชุม ตั้งอยู่ที่เทศบาลตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นตลาดแบบย้อนยุค จุดเด่นของที่นี่นอกจากจะมีอาหารอร่อยแล้ว ภายในตลาดยังมีพ่อค้าแม่ค้าแต่งกายด้วยชุดไทยอีกด้วย ที่นี่เปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์แรกของเดือน ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป

พ่อค้าแม่ค้าที่นี่น่ารักเป็นกันเองมากค่ะ รับรองว่าถ้าเพื่อน ๆ ได้มาต้องติดใจแน่นอน

มาถึงที่นี่แล้วต้องอย่าลืมมาทาน แกงโบราณหม้อดิน พิณรดา นะคะ ที่นี่มีแกงให้เลือกมากมาย แต่ที่เด็ดเนี่ย ก็ต้องเมนู แกงขี้เหล็ก เพราะสูตรแกงขี้เหล็กของชาวนครชุมไม่เหมือนที่อื่นนะคะ

นอกจากนี้ยังมีแกงเขียวหวานใส่กล้วย ที่บอกได้เลยว่ารสชาติดีเลยทีเดียวต้องลองไปชิมกันนะคะ

ที่นี่จะมีกิจกรรมร้องเพลงช่วงเย็น มีบริเวณสำหรับให้นักท่องเที่ยวทานอาหารไปฟังเพลงไปเพลิน ๆ ไม่มีเบื่อกันเลยละค่ะ

หลังจากอิ่มท้องกันแล้วช่วงเย็น ช่วงค่ำวันนี้เราไปอิ่มบุญกันบ้างค่ะ เราไปต่อกันที่ วัดพระบรมธาตุนครชุม เป็นมหาเจดีย์ทรงสูงใหญ่ สวยงามไปด้วยสถาปัตยกรรมและสีทองอร่ามทั้งองค์ เสมือนดั่งเจดีย์ชเวดากองในเมืองพม่า เป็นพระบรมเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 9 องค์

ในทุก ๆ วันอาทิตย์ ตอนเย็นทางวัดจะมีการสวดพระธรรมจักร มีผู้คนมาสวดกันเยอะมากเลยทีเดียวค่ะไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็จูงไม้จูงมือกันมาสวดพระธรรมจักรเพื่อศิริมงคล

ก่อนเดินทางกลับเราแวะไปดูอุโบสถที่ทำด้วยศิลาแลงที่ วัดหนองปลิง ซึ่งภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธานเนื้อเงินแท้แบบพระพุทธสิหิงค์ซึ่งมีดวงเนตรและทับทิมทองคำ

ที่นี่เป็นที่แรกที่ทำอุโบสถด้วยศิลาแลง  ถืออุโบสถที่สวยงามต่างจากอุโบสถทั่วไปมากค่ะ

ออกจากวัดหนองปลิง เราก็มาไหว้พระขอพรกันต่อที่ ศาลพระอิศวรสัมฤทธิ์จำลอง เพื่อเป็นศิริมงคลก่อนเดินทางกลับ

ไหน ๆ ก็จะกลับแล้วแวะซื้อของฝากกำแพงเพชรกันสักหน่อย ชาวกำแพงเพชรแนะนำให้เราไปที่ร้านกระยาสารทป้าใหญ่ชากังราว ที่นี่ขายกระยาสารทมา 30 กว่าปีแล้วค่ะ เรียกได้ว่ามาซื้อกันถึงหน้าเตาเลยทีเดียว

นอกจากกระยาสารทแล้วยังมีของฝากอย่างอื่นอีกหลายชนิดค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวหลาม ข้าวเหนียวแดง กาละแมร์ เลือกซื้อกันได้ตามใจชอบเลย คุณป้าเจ้าของร้านใจดีทั้งลดทั้งแถม

ปิดท้ายกันด้วยร้านบะหมี่ชากังราว บะหมี่เจ้าดังของจังหวัดกำแพงเพชร เส้นหนานุ่มน้ำซุปหวานกลมกล่อม ฟินก่อนกลับกรุงเทพฯ ไปเลยค่ะ

3 วัน 2 คืน ผ่านไป ไวเหมือนโกหก บอกได้เลยว่ากำแพงเพชรไม่ได้มีดีแค่ชากังราว ยังมีอีกหลายที่ในกำแพงเพชรที่จะทำให้ทุกคนหลงรัก อยากให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสกันดู รับรองว่าทุกคนจะรักกำแพงเพชร แบบที่เรารักแน่นอน ^^

Tags: ที่เที่ยวกำแพงเพชร ที่กินกำแพงเพชร.กำแพงเพชร วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม.ดีบุกกำแพงเพชร.ก๋วยเตี๋ยวแป๊ะอี่.อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร.อุทยานแห่งชาติแม่วงก์.ช่องเย็น.น้ำตกคลองลาน.วัดพระบรมธาตุนครชุม.ตลาดย้อนยุคนครชุม วัดหนองปลิง ศาลพระอิศวร.กระยาสารทป้าใหญ่ชากังราว.บะหมี่ชากังราว

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้