Chill @ Chan เที่ยวจันทบุรี ทริปนี้ชิลจัง…

เหนื่อยไหม? กับการที่ต้องตื่นเช้าฝ่ารถติดไปทำงาน พอมีวันหยุดก็ได้แค่ไปดูหนัง เดินห้าง ใครเบื่อไลฟ์สไตล์ซ้ำๆ ไปค่ะซิส! หาเวลาว่างหนีกรุงไปพักผ่อนกันบ้างดีกว่า ทริปนี้เราชวนเพื่อนสาวไปเที่ยวจันทบุรีเหมือนเดิม…เพิ่มเติมคือความ ‘ชิล’ กับ 7 สถานที่เล็กๆ แต่ความสุขใหญ่บิ๊กเบิ้ม!! เที่ยวเพลินๆ ใช้เวลา 2 วัน 1 คืนก็เก็บได้ครบ (แบบไม่ต้องชะโงกทัวร์) เป็นมินิไกด์เที่ยวตามรอยได้ง่ายๆ รับรองจบทริปแล้วฟินกระจายจนต้องร้อง อู้หูว์…ชิลจัง!

ปักหมุดที่แรกกันที่ Kays Espresso Bar ร้านกาแฟที่เป็นหน้าเป็นตาของเมืองจันท์ก็ว่าได้ ใครมาเที่ยวจันทบุรีแล้วมองหาคาเฟ่เก๋ๆ  กาแฟดี๊ดี…เบเกอรี่อร่อย แถมมีมุมชิคๆ ให้ถ่ายรูปล่ะก็ ขอเรคคอมเมนด์ที่นี่แบบสุดตัว พิกัดร้านอยู่ในตัวเมืองจันทบุรี ติดริมถนนจันทนิมิต ขับมาตาม GPS หาไม่ยาก เจอป้ายร้านใหญ่ๆ ด้านหน้าเลี้ยวรถเข้าไปจอดด้านข้างได้เลย

บอกเลยว่าร้านนี้ไม่ได้ถูกใจเฉพาะแค่สาวๆ เท่านั้น แต่หนุ่มๆ ก็มาเช็คอินได้ไม่ต้องกลัวเขิน เค้าตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์ เน้นโครงเหล็กและผนังอิฐแบบเท่ๆ ดิบๆ แถมยังมีสวนสวยสไตล์อังกฤษสวยๆ ให้ไปนั่งจิบกาแฟชิลๆ ได้อีกด้วย

มาเช็คอินที่ Kays Espresso Bar แล้วไม่ต้องกลัวว่าจะหิว เพราะจัดเต็มเมนูฟินๆ ไว้เพียบบ!! ไม่ว่าจะเป็นเมนูเบเกอรี่ หน้าตาดีอย่าง Buttermilk waffle, ขนมปังมันม่วง, บานอฟฟี่ชีสพาย, บลูเบอรี่ชีสพาย หรือเรดเวลเวทเค้กสีสวยน่ากิน จับคู่กับเครื่องดื่มสีสวยอย่างสตรอว์เบอร์รี่แมงโก้สมูทตี้ และ Iced Mixed Berry Tea ชาผลไม้เบอร์รี่รวม รสเปรี้ยวอมหวานดื่มแล้วสดชื่นสุดๆ ส่วนใครเป็นคอกาแฟต้องไม่พลาด Iced Coffee Jelly Latte กาแฟลาเต้เย็นที่ท้อปปิ้งด้วยเยลลี่วุ้นกาแฟเข้มข้น หรือจะลองเมนูชาเขียวผสมกาแฟเย็นอย่าง Iced Matcha Green Tea Coffee ก็ฟินแบบ 2 in 1 ตบท้ายด้วย Frappe Hojicha ชาเขียวโฮจิฉะปั่น ท้อปปิ้งด้วยวิปครีม แก้วนี้อร่อยเข้มข้นจนเพื่อนสาวเราปลื้มสุดๆ ไปเลยค่ะ

อิ่มแล้วไปเซลฟี่คู่กับรูปปั้นเจ้ากระต่ายยักษ์สีขาว มาสค็อตประจำร้านที่ใครๆ ก็ต้องแวะมาถ่ายรูปด้วย ได้รูปสวยๆ กลับไปอัพโปรไฟล์ใหม่เป็นที่ระลึกกันเพียบเลยจ้า

จากนั้นเราขับรถไปเข้าที่พักของเรากันที่ “บรรเทิงโฮมสเตย์” โฮมสเตย์บรรยากาศดี แถมยังมีกิจกรรมสนุกๆ สมชื่อ ด้วยเครื่องเล่นสไลเดอร์ที่มีให้เลือกหลากหลายระดับความหวาดเสียว แถมยังมีสระว่ายน้ำและสวนน้ำเล็กๆ สำหรับเด็กๆ ได้เล่นสนุกกันอีกด้วย

ตามธรรมเนียม มื้อเที่ยงวันแรกจะรวมอยู่ในแพ็คเกจที่พัก พร้อมอาหาร 3 มื้อและกิจกรรมอยู่แล้ว ซึ่งทางโฮมสเตย์ก็ต้อนรับมื้อแรกของพวกเราแบบจัดเต็ม ทั้งแกงหมูชะมวงอาหารขึ้นชื่อของเมืองจันท์ น้ำพริกไข่ปู ทอดมันกุ้ง แกงจืดรวมมิตรหม้อไฟ ปูผัดผงกระหรี่ นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์ทำส้มตำให้พวกเราตำกินกันเองได้ด้วย

อิ่มแล้วไปเก็บกระเป๋าที่ห้องพักกัน ห้องของพวกเรามีเปลตาข่ายที่ยื่นออกไปเหนือน้ำให้นอนเล่นริมระเบียงหน้าห้องได้แบบนี้ ชิลสุดๆ แถมวันนี้อากาศดี เมฆเยอะ ไม่มีแดดเลย แต่อย่าคิดว่าไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดดนะคะ บอกเลยว่าเมฆครึ้มๆ แบบนี้แหละ…ทำให้ดำได้โดยไม่รู้ตัว! เพื่อนสาวนางรีบคว้าครีมกันแดด Banana Boat ออกมาทาผิวกันรัวๆ งานนี้ไม่ต้องกลัวทั้งรังสี UVA/UVB สองหลอดนี้รับรองเอาอยู่!

ถ้าใครชอบสูตรเย็นใช้ง่ายๆ ก็เลือกแบบสเปรย์ แต่ถ้าชอบหลอดเล็ก พกง่ายใส่กระเป๋าเครื่องสำอางสะดวกก็เลือก Banana Boat Dry Balance สูตรโลชั่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทั้งกันน้ำกันเหงื่อ แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้ดีทั้งสองสูตรเลยค่ะ

พร้อมแล้ว ตอนประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง ทางที่พักก็จะพาพวกเราออกไปทำกิจกรรมล่องแพเปียกกัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางจะมีเจ้าเหยี่ยวแดงประจำถิ่นออกมาโฉบกินอาหารโชว์ตัวให้เราได้ถ่ายรูปกันด้วย

ก่อนลงเล่นน้ำ เราก็ทาครีมกันแดดซ้ำอีกรอบ เลือกสูตรที่กันน้ำกันเหงื่ออย่าง Banana Boat แบบนี้ จะกระโดดน้ำขึ้นลงแพอีกกี่ทีก็ไม่ต้องกลัวว่าครีมจะละลายเลยค่ะ สาวๆ คนไหนชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งควรทาก่อนออกแดดสัก 15 นาที และจะให้ดีควรทาซ้ำอีกครั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหลังจากเล่นน้ำเสร็จทุกครั้ง

ตอนเย็นเรากลับมาอาบน้ำ เตรียมตัวทานมื้อค่ำกันที่โฮมสเตย์ บรรยากาศตอนโพล้เพล้แบบนี้ดูสวยโรแมนติกไปอีกแบบ

ขึ้นชื่อว่าโฮมสเตย์จันทบุรี ไฮไลท์อยู่ที่ซีฟู้ดมื้อเย็นแบบไม่อั้น เสิร์ฟมาจนล้นโต๊ะกันเลยทีเดียว มีทั้งเมนูหอยนางรมสดตัวใหญ่ ที่เสิร์ฟมาเป็นถาด,กุ้งแช่น้ำปลา,ข้าวผัดทะเล,กุ้งเผา,ปลากะพงทอดน้ำปลา ต้มยำหม้อไฟ ฯลฯ และเมนูเด็ดอย่างปูนึ่ง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด

เรียกว่ามื้อนี้แฮปปี้เฟร่อออ…แค่เห็นขนาดปูก็ฟินแล้วล่ะ! แบบนี้ต้องถ่ายรูปไปอัพยั่วน้ำลายเพื่อนกันดีกว่า 555

ตอนเช้าเราตื่นมาพร้อมความสดชื่น อากาศวันนี้สดใส แม้จะไม่มีแดดอีกเช่นเคย…แต่ยังดีกว่าฝนตก เรารีบทานมื้อเช้าที่เป็นเมนูข้าวต้มทะเล ผัดไทยเส้นจันท์ ปาท่องโก๋และกาแฟ ก่อนจะออกไปเที่ยวกันต่อ

จากที่พัก เราขับรถประมาณ 15 นาที ไปยัง “จุดชมวิวซันชายน์-ผาสุขนิรันดร์” ที่ตั้งอยู่เกาะเปริด จุดท่องเที่ยวชมวิวแห่งใหม่ของจันทบุรี ที่หลายคนบอกว่าวิวสวยไม่แพ้บาหลี น่าเสียดายที่เมื่อคืนนี้มีฝนตก น้ำทะเลเลยไม่ใสเท่าที่ควร แต่ได้ชมวิวทะเลท่ามกลางลมเย็นๆ แบบนี้ก็สดชื่นไปอีกแบบ

ถึงวันนั้นลมจะเริ่มแรง แถมครึ้มฟ้าครึ้มฝนแต่เราก็ไม่ประมาท ทาครีมกันแดดกันไว้ก่อนดีกว่า สาวๆ หลายคนอาจไม่รู้ว่าแม้จะเมฆครึ้ม ไม่มีแดด แต่ก็มีรังสี UV ที่จะทำให้ผิวของเราหมองคล้ำได้ด้วยนะจ๊ะ อ่ะ…ทราบแล้วรีบเปลี่ยนพฤติกรรม เลิกขี้เกียจทาครีมกันแดดกันได้แล้วน้า ^^

ถัดจากจุดชมวิวซันชายน์มาไม่กี่ร้อยเมตร คือผาสุขนิรันดร์ ที่สามารถมองเห็นวิวหน้าผาได้อย่างชัดเจน มีบันไดทางเดินลงไปชมทะเลได้ (แต่ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างปรับปรุงยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ) เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินแลนด์มาร์คใหม่ที่ใครมาเที่ยวจันทบุรีต้องแวะมาถ่ายรูปสวยๆ ที่นี่

ตอนเที่ยง เราไปหาของอร่อยกินที่ชุมชนขนมแปลก ริมคลองหนองบัว ชุมชนเล็กๆ น่ารักๆ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ที่นี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องการทำขนมหวานแบบไทยๆ พื้นบ้านของจังหวัดจันทบุรีที่หาทานได้ยาก แถมยังมีบริการล่องเรือพาเที่ยวชมธรรมชาติเที่ยวป่าชายเลนในคลองหนองบัว และให้อาหารเหยี่ยวแดงในวันหยุดเสาร์อาทิตย์อีกด้วย

เราสองคนเดินเที่ยวชมตลาดเก่า ชิมขนมแปลกๆ ที่แค่ได้ยินชื่อก็สะดุดหูสุดๆ แล้ว เช่น ขนมควยลิง, ขนมติดคอ ฯลฯ ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีชาวบ้านมาเปิดร้านขายขนมกันคึกคักให้เลือกชิมเลือกซื้อกันจนตัวเอียงไปข้าง เราลองกินไอติมโบราณไม้ละ 15 บาท กับซื้อขนมตังก๊วยที่ทำจากจากข้าวพองและน้ำตาลอ้อยไปฝากคนที่บ้าน เพราะรู้มาว่าเป็นขนมโบราณหาทานยาก สมัยก่อนจะมีให้กินแค่ปีละครั้งเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีนเท่านั้น  พอมาเจอวางขายที่นี่เลยรีบคว้ามาหนึ่งถุงทันทีเลยค่ะ

เสน่ห์อีกอย่างของที่นี่ คือบ้านเรือนเก่าๆ ของชาวบ้านในชุมชนที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ อย่างห้องแถวที่มีประตูบานเฟี้ยมไม้และช่องลมที่ฉลุเป็นลวดลายสวยๆ เราเลยแวะนั่งพักเหนื่อยทานขนมระหว่างทาง เรียกว่าเป็นทริปกินไป ถ่ายรูปไปอย่างแท้ทรู

เดินเล่นกันจนเหงื่อเริ่มซึม ขอเติมความสดชื่นด้วย  Banana Boat UltraMist Sport CoolZone สเปรย์กันแดดสูตรเย็น  แค่สเปรย์ลงบนตัวก็เย็นสบายผิว พร้อมออกไปตะลุยเที่ยวกันต่อแล้ว

นอกจากขนมแปลกๆ หาทานได้ยากแล้ว ที่ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัวยังขึ้นชื่อเรื่องภาพวาดสตรีทอาร์ท ที่มีศิลปินทั้งชาวไทยและต่างชาติ มาสะบัดลวดลายบนผนัง ชุบชีวิตให้อาคารบ้านเรือนเก่าๆ ในชุมชนมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ละผนังมีสตอรี่ที่บอกเล่าวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว เช่น แผงรถเข็นขายหอยนางรมสดที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ให้อารมณ์คล้ายๆ กับสตรีทอาร์ทของเมืองปีนัง

บางภาพก็ออกแนวโมเดิร์นสีสันสดใส อย่างรูปนี้อยู่ติดกับด้านหน้าของร้านขายอาหารทะเล พอไปยืนโพสต์ท่าถ่ายรูปท่ามกลางแผงปลาสดๆ แบบนี้ก็ออกมาดิบๆ ชิคๆ แบบไม่ปรุงแต่ง ได้ฟีลสตรีทสไตล์ที่แท้ทรู

ถ่ายรูปกับฮิปๆ กันจนจุใจ เราขับรถไปเที่ยวกันต่อกันที่น้ำตกพลิ้ว อีกหนึ่งที่เที่ยวแลนด์มาร์คของจันทบุรี ที่ใครๆ ต้องแวะมาเล่นน้ำ ถ่ายรูปกันที่นี่ แม้จะเคยมาแล้ว…แต่คราวนี้เรามาเที่ยวน้ำตกพลิ้วในช่วงหน้าฝนเป็นครั้งแรก บอกเลยว่าอากาศสดชื่นสุดๆ เลยค่ะ

เสียดายที่วันนั้นน้ำค่อนข้างแรง เจ้าหน้าที่เลยไม่ให้ลงเล่นน้ำ แต่เราก็ได้เดินเล่น ถ่ายรูปชมความงามของน้ำตกพลิ้วกันจนจุใจ แถมยังไม่มีคนเยอะเหมือนช่วงหน้าร้อนที่มีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำกันคึกคัก ถ่ายรูปออกมาดูสวยลึกลับมีเสน่ห์ไปอีกแบบ

มาเที่ยวน้ำตกพลิ้วต้องไม่พลาดไปเล่นน้ำกับฝูงปลาพลวง ที่มักจะว่ายมาทักทายให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก จนนึกว่าเป็นสัตว์เลี้ยงประจำน้ำตกซะอีก เพราะปลาพลวงที่นี่เชื่องมากๆ ไม่กลัวคนกันเลยค่ะ

จากน้ำตกพลิ้ว เราขับรถมาที่โซนปากน้ำแหลมสิงห์ เพื่อทานมื้อเย็นปิดท้ายทริปที่ “ร้านครัวอลิสา” ร้านอาหารบรรยากาศสุดชิล ราคาเริ่มแค่หลักร้อยแต่วิวหลักล้าน!! ดีงามจนเป็นร้านอาหารขวัญใจคนเมืองจันท์ ไปจนกระทั่งเหล่าดาราเซเลบฯ ก็เคยมาเช็คอินที่นี่ ตัวร้านตั้งอยู่ท่ามกลางป่าชายเลนร่มรื่น มีโต๊ะทานอาหารง่ายๆ บนเบาะนั่งพื้น ได้กินไปชมธรรมชาติสวยๆ ไปแบบใกล้ชิด

สำหรับเมนูแนะนำที่นี่ มาแล้วต้องสั่ง!! อาทิ ปูม้าผัดมะนาว ปูม้าผัดผงกระหรี่ แต่ใส่มะนาวที่เป็นสูตรเด็ดของทางร้าน ทานแล้วไม่เลี่ยนแต่ยังได้รสชาติความกลมกล่อม ต่อด้วย “ฉ๋องหอยนางรม” ที่เหมือนต้มยำน้ำใส แต่ใส่พริกและใบกะเพรารสจัดจ้าน จัดเป็นเมนูหากินยาก ส่วนสาวๆ ที่รักสุขภาพรับรองว่าต้องถูกใจกับ “เมี่ยงอลิสา” เมี่ยงปลากะพงทอดเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่างขนมจีนและผักสดจานใหญ่ ต่อด้วยอาหารพื้นบ้านขึ้นชื่อของเมืองจันท์อย่างหมูชะมวง น้ำพริกปูไข่ ตบท้ายด้วยข้าวผัดทะเลรวมมิตรจานใหญ่ อิ่มกันจนพุงกางเลยค่ะ แต่ราคาเบาๆ ทั้งหมดนี้บอกเลยว่าแบงค์พันมีทอน! เชื่อแล้วว่าเป็นร้านอาหารหลักร้อยวิวหลักล้านจริงๆ

อิ่มแล้วเราไปนั่งเล่นถ่ายรูปชมวิวสวยๆ กันบนเปลตาข่ายที่ทางร้านจัดไว้สำหรับแขกได้มาถ่ายรูป ชมวิวกันชิลๆ สามารถมองเห็นสะพานปากน้ำแหลมสิงห์และป่าชายเลนที่อยู่รอบๆ ได้ และในวันที่ท้องฟ้าเป็นใจเรายังจะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ จากมุมนี้ได้อีกด้วย

ถึงจะชิลขนาดไหน…แต่สุดท้ายก็ได้เวลาบ๊ายบายจันทบุรี เดินทางกลับกรุงเทพฯ กันแล้ว ไม่อยากกลับเลยจริงๆ ค่ะ ถึงแม้ว่าจะถูกจัดให้เป็นเมืองรอง แต่บอกเลยว่าตอนนี้จันทบุรีกำลังมาแรงสุดๆ ไม่แพ้เมืองไหน เรียกว่าประทับใจทุกครั้งที่ได้มา เมืองไทยเรายังมีที่เที่ยวสวยๆ อีกเยอะที่บางคนมองข้าม ลองหาเวลาแพ็คกระเป๋าออกไปเที่ยวใกล้ๆ 2 วัน 1 คืนแบบนี้ รับรองว่าชิลจนไม่อยากกลับเหมือนเราแน่นอน

Tags: จันทบุรี เที่ยวจันทบุรี Kays Espresso Bar คาเฟ่จันทบุรี ร้านกาแฟจันทบุรี บรรเทิงโฮมสเตย์ ที่พักจันทบุรี โฮมสเตย์จันทบุรี กินปู ดูเหยี่ยว ล่องแพจันทบุรี ผาสุขนิรันด์ ที่เที่ยวใหม่จันทบุรี จุดชมวิวซันชายน์ เกาะเปริด ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว น้ำตกพลิ้ว ครัวอลิสา ร้านอร่อยจันทบุรี ร้านอาหารแหลมสิงห์ ร้านอาหารจันทบุรี ทริปเที่ยวจันทบุรี บานาน่าโบ๊ท Banana Boat ครีมกันแดด

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้