ทริปเกาะสีชัง เกาะใกล้ๆ กรุงเทพฯ 2 วัน 1 คืน

ถ้าพูดถึงทะเลที่ใกล้กรุงเทพฯ ไปง่าย ใช้เวลาไม่นาน
เเละที่สำคัญสภาพท้องทะเลยังสวยสมบูรณ์อยู่...
หนึ่งในตัวเลือกที่คิดออกในทันทีก็คือ เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

วันที่ 1

เดินทางด้วยรถตู้

           สำหรับคนที่ไม่ได้ขับรถ เราสามารถเเบกเป้เที่ยวได้ไม่ยาก โดยสามารถใช้บริการรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยฯ ข้างห้างเซนจูรี่ เค้าจะมีตารางเวลารถออกเป็นระยะ หรือเเล้วเเต่คนเต็มก็ออก ราคาประมาณ 150 บาทต่อคน ใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงก็มาถึงตัวเมืองศรีราชา อย่าลืมบอกคนขับว่า "ขอลงตรงโรบินสัน ศรีราชา" จากนั้นเราต้องต่อรถสามล้อ เพื่อไปยัง "เกาะลอย" ท่าเรือที่จะพาเราไปเกาะสีชังนั่นเอง...

ท่าเรือ เกาะลอย ศรีราชา

นั่งเรือ

           เรือออกแล้ว... นั่งเรือไม่ถึงชั่วโมง เราก็มาถึง เกาะสีชังเเล้ว เย่.... จากมุมนี้ เราสามารถมองเห็นศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือมาก ซึ่งเราจะขึ้นไปสักการะในบ่ายวันนี้เเหละ

มองเห็นเกาะสีชังอยู่ตรงหน้า

          เกาะสีชังมีการตั้งชุมชนมานานกว่า 100 ปี โดยที่ท่องเที่ยวในปัจจุบันที่นิยมไปกัน นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเเล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากในอดีตมีพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์เสด็จมาประภาสพักผ่อน คือรัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างพระราชฐานบนเกาะขึ้นเป็นแห่งแรก เพื่อเป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อน และพระราชทานนามว่า “พระจุฑาธุชราชฐาน”  ปัจจุบันได้จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์เเละสถานที่ท่องเที่ยวให้แก่ประชาชนทั่วไป และนี่คือสถานที่เเรก ที่คุณลุงสกายเเลปจะพาเราไป

          ท่ามกลางวิวท้องฟ้าสีฟ้าเเละน้ำทะเลสีคราม เมื่อขึ้นไปบนจุดชมวิวบนเขาในบริเวณของพระราชฐานเเล้ว จะเห็นยอดตำหนักสีขาวดูโดดเด่นขึ้นมาจากหมู่ต้นลีลาวดี เเละมองเห็นเรือสินค้ามากมายบนพื้นทะเลลิบๆไกลๆ  จุดเด่นของที่นี่ คือต้นลีลาวดี ที่จะพร้อมออกดอกสีขาวให้เราได้เชยชม เเละแผ่กิ่งก้านร่มรื่นในกับทางเดินในพระราชฐานแห่งนี้

สะพานอัษฎางค์ 

         เเละเเล้วเราก็มาถึงจุดไฮไลท์ของเกาะสีชัง นั่นคือ สะพานอัษฎางค์ สะพานไม้ทรงไทยสีขาวที่ทอดตัวยาวลงไปในท้องทะเล ถือว่าเป็นหนึ่งในมุมมหาชนของช่างภาพหลายๆท่านเลยทีเดียว  ตัวสะพานสีขาว โดดเด่นในทะเลสีคราม

ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่

          จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปยัง ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นวัดจีน อยู่บนเขา ต้องปีนบันไดมังกรขึ้นไปหน่อยนะ เหนื่อยนิดๆพอให้กระชุ่มกระชวย  ฝั่งตรงข้ามศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่มีมูลนิธิสงเคราะห์คนชรา มีโคมจีนเเดงๆ เเอบถ่ายรูปมานิดนึง

          ด้านบนมีลักษณะเป็นถ้ำ มีองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่ประดิษฐานอยู่ เราเดินเข้าไปไหว้ขอพรจากท่าน ที่นี่ทั้งชาวจีนเเละชาวไทยนิยมมาไหว้สักการะบูชาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตรุษจีน วิวทะเล มองจากบนศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ มองเห็นท่าเรือของเกาะสีชังไกลๆ

มณฑปรอยพระพุทธบาท          

          เดินสูงขึ้นไปจากศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ มี "มณฑปรอยพระพุทธบาท" รัชกาลที่ 5 ทรงอัญเชิญมาประดิษฐานอยู่ ณ จุดนี้ ถือเป็นจุดชมวิวที่สูงเเละสวยที่สุดที่หนึ่งของเกาะสีชังนี้
 

 

ช่องอิศริยาภรณ์

         จากนั้น เราก็ไปดูพระอาทิตย์ตกเเถวๆ ช่องเขาขาด หรือ ช่องอิศริยาภรณ์ หนึ่งในจุดชมวิวยอดฮิต ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5 ตอนนี้มีการทำสะพานปูนสีขาว ทอดยาวไปตามหน้าผา ให้ได้เดินเล่นดื่มด่ำบรรยากาศพระอาทิตย์ตก

           ระหว่างรอชมพระอาทิตย์ตก ก็เก็บภาพคนตกหมึกไปพลางๆ เเถวนี้มีคนนิยมมาตกปลาหมึกกัน  พระอาทิตย์ตกเเล้ว ได้เวลากระหน่ำชัตเตอร์กันพอหอมปากหอมคอ เเละเมื่อพระอาทิตย์ลาลับ ก็กลับที่พักกัน

ปารีฮัท รีสอร์ท

         เรามาพักกันที่ ปารีฮัท รีสอร์ท รีสอร์ทกระท่อมสุดสวย ริมหน้าผา ที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทeภาพยนตร์เรื่อง ปืนใหญ่จอมสลัด ด้วย หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยได้จากภาพที่ออกทางสื่อ ถือว่าเป็นที่พักที่สวย สงบ เป็นธรรมชาติ น่าพักผ่อนมากเลย  ขอตัวพักผ่อนกันก่อนสำหรับคืนนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาดูหน้าตาของที่พักกันเเบบละเอียดกันนะ

 

           เช้ามา เราก็เห็นทะเลสีครามที่เบื้องหน้า เพราะประตูบ้านพักทุกหลังจะเปิดหันหน้าสู่ทะเล เเละมีสะพานไม่ใผ่เป็นทางเดินริมหน้าผาเชื่อมบ้านพักเเต่ละหลัง

          บรรยากาศภายในห้องพัก ไม่มีเเอร์ เเต่ก็รับลมทะเลเย็นสบายๆ ไม่ต้องกลัวยุงกัดเพราะที่นี่เค้านอนในมุ้งกัน ที่ระเบียงด้านนอกห้องพักมีเปลไม้เเขวนอยู่ ถ้าได้นอนอ่านหนังสือฟังเสียงคลื่นก็ถือว่าเพลิดเพลินมากๆเลยเเหละ

 

          อ้อ... ที่ปารีฮัทนี้ ไม่มีชายหาด เเต่ถ้านักท่องเที่ยวอยากจะมาเล่นน้ำละก็.... ต้องโดดค่ะ... ที่หน้าผาริมทะเลนี่เลย ความสูงราวๆ 2-3 เมตร น่าหวาดเสียวใช้ได้ ฮ่าๆ

          เช็คเอ้าท์ออกตอนเที่ยง ขากลับเรานั่งเรือข้ามฟากกลับไปยังเกาะลอย เเล้วติดต่อพี่รถตู้ขามาให้เเวะมารับเราที่หน้าโรบินสันศรีราชา กลับอนุสาวรีย์ชัยฯเหมือนเดิม  สิริรวมค่าใช้จ่ายทริปนี้ไปประมาณ 2000-3000 บาท ก็เป็นว่าได้เวลาอำลาทริปเกาะสีชังสองวันหนึ่งคืนเพียงเท่านี้ เราได้เที่ยวครบทั้งเกาะ และก็ได้นั่งนอนชิวๆอิ่มบรรยากาศกับรีสอร์ทสวยๆเเล้ว นับได้ว่ามาเที่ยวสีชังคราวนี้แบบมีความสุขครบรสจริงๆ :)


เรื่องโดย : ชิลไปไหน

Tags: เกาะสีชัง ที่เที่ยวชลบุรี แผนที่เกาะสีชีง เกาะสีชังไปยังไง

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้