งานแสดงไฟสุดยิ่งใหญ่! Nasatta Light Festival Winter Illumination 2025 ณ สัทธาอุทยานไทย ราชบุรี เริ่ม 21 พ.ย. 67 - 27 เม.ย. 68

เปลี่ยนชุดไทยสวย ๆ แล้วก็เข้าไปภายในงานกันเลย ซึ่งต้องขอบอกเลยค่ะว่าภายในงานมีโซนถ่ายรูปถึง 24 โซน และปีนี้มีการเปิดตัวโซนใหม่ 3 โซนด้วยกันค่ะ เลยทำให้มีโซนถ่ายรูปที่ได้รับการ Re-design มากถึง 10 โซน รวมเป็นทั้งหมด 24 โซนนั่นเองค่า และธีมงานในปีนี้คือ นางในวรรณคดีและดอกไม้ในวรรณกรรมไทย เรียกได้ว่าเป็นธีมงานให้เรากลายเป็นนางวรรณคดีได้อย่างสวยงามเลยน้า หรือเพื่อน ๆ คนไหนอยากจะเป็นแม่หยัวก็เตรียมท่าโพสต์มาให้พร้อมได้เลย อย่างโซนแรกที่เราเดินเข้ามาภายในงานก็จะเป็นโซน 1 Thai Glorious Era (ยุคทอง) ที่มีรูปปั้นของกษัตริย์ 3 องค์ อย่างสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5)

เมื่อเดินมาเรื่อยก็จะเจอโซน 2 Season Change ที่จะเป็นเหมือนทุ่งดอกไม้สวย ๆ ที่เปลี่ยนสีสลับกันไปมาอย่างสวยงาม พร้อมกับให้มุมให้เราได้ถ่ายรูปได้อย่างสวย ๆ เลยค่ะ และโซนเข้าก็มาในคอนเซ็ปต์ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับทุกชีวิต และทุกการเปลี่ยนแปลงมีความสวยงามซ่อนอยู่นั้นเองค่ะ

แนะนำเพื่อน ๆ อย่าลืมเช่าพร็อพสักอันสองอันถือสวย ๆ เป็นอะไรที่ดีงามมากกกกคุ้มสุด ๆ

ถัดจากโซนนี้ไปก็จะเจอกับโซนลานพระสามสมัย ที่จะเป็นโซน 4 Thai Spirit เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ท่ามกลางดอกไม้สวย ๆ

ต่อมาที่โซน 5 Sukhothai ด้านในจะเป็นเหมือนโบสถ์ที่สามารถเข้าไปกราบไหว้พระพุทธรูปได้ค่ะ หรือเพื่อน ๆ จะถ่ายรูปกับโซน 6 Siam Tulip สวนดอกไม้ด้านหน้าได้อย่างสวย ๆ

และโซน 7 Sacred Wave ตรงนี้ถือได้ว่าเป็นโซนไฮไลต์ของงานที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันมุมนี้เลยค่ะ พร้อมดรายไอซ์เหมือนหมอกฟุ้ง ๆ ให้เหมือนว่าเราหลุดออกมาอีกโลกหนึ่งเลย

ที่อยู่ใกล้ ๆ กันก็จะเป็นโซน 8 Mystical Entrance ที่ได้แรงบันดาลมาจากเรื่องเล่าเกี่ยวกับเมืองลับแลมักกล่าวถึงประตูวิเศษที่อยู่บนผนังของถ้ำหรือหน้าผาที่จะเปิดออกเมื่อคนในเมืองลับแลเดินทางเข้าออกเท่านั้นเองค่ะ และถ้ามองลงไปด้านหน้าก็จะเจอกับโซนที่ 9 ที่เป็นทุ่งดอกไม้

อย่างโซน 9 Bliss Blossom ที่เป็นทุ่งดอกไม้ดอกใหญ่ ๆ เปลี่ยนสีสลับไปมาอย่างสวย ๆ

ใกล้ ๆ กันก็จะเป็นโซนที่ 10 Magic Cave ที่จะได้ฟิลเหมือนเชื่อมกันโซนที่ 8 เดินเข้าถ้ำและโผล่ออกมาเลยค่ะ

จากนั้นเราจะพาทุกคนเดินไปยังโซนด้านในสุด ที่เรียกได้ว่าเป็นโซนที่ใหญ่มากกอย่างโซน 14 Joyful Light Field ทิวทัศน์ของเขาพระสุเมรุและป่าหิมพานต์ ที่เป็นเหมือนผืนหลังให้กับโซน 15 Whispering Rose (Interactive)

ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวรรณคดีมัทนะพาธา จากนางเอกของเรื่องที่เป็นนางฟ้าชื่อมัทนา นางฟ้าที่โชคร้ายโดนเทพบุตรที่มาหลงรักสาปให้กลายเป็นดอกกุหลาบดอกแรกของโลก ซึ่งตรงกลางจะเป็นทุ่งดอกกุหลาบที่เมื่อเราเดินเข้าไปดอกไม้เขาจะสลับสีไปมาอย่างสวย ๆ เลยค่ะ

พร้อมกับทางเดินที่เป็นเหมือนเนินเขาเล็ก ๆ ไล่เรียงสลับกันไปมา

โซน 17 Over the Horizon ที่อยู่ข้าง ๆ กันก็จะเป็นอุโมงค์ดอกไม้ที่เราเดินผ่านอุโมงค์ และเชื่อมมายังโซนข้าง ๆ ได้เลย

อย่างข้างอุโมงค์ดอกไม้ก็จะเป็นทุ่งดอกแดนดิไลออนน่ารัก ๆ คือโซน 16 Fluffy Light Dance

ต่อกันเลยก็คือโซน 17 Over the Horizon ซึ่งตรงนี้ทางงานเขาจะตั้งโปรเจ็กเตอร์พร้อมกับแสดงภาพผีเสื้อดอกไม้เรียงสลับกันไปมา พร้อมกับทุ่งดอกไม้ที่อยู่ด้านหน้า ตอนที่เราถ่ายรูปออกมาแล้วจะเหมือนว่าอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้แล้วมีผีเสื้อบินไปมาทั่วสวนดอกไม้เลยค่า

จากนั้นเราจะพาทุกคนเดินย้อนข้ามสะพานกลับมายังโซน 12 The Magic Pond

ที่แรงบันดาลใจมาจากการจำลองภาพสระบัวในเมืองบาดาลเป็นการจำลองภาพสระบัวในเมืองบาดาลเมื่อครั้งหนุมานลอบเข้าเมืองบาดาลเพื่อไปช่วยพระรามที่ถูกลักพาตัว ด้วยการลอดก้านบัวยักษ์ที่เชื่อมบึงบัวในโลกมนุษย์กับบึงบัวในเมืองบาดาล จนเป็นเหตุได้เจอกับมัจฉานุผู้เป็นลูกชายนั่นเอง และแบล็คกราวด้านหลังที่เป็นโซน 20 Floating Lantern เป็นโคมลอยจากประเพณียี่เป็ง

เดินเลยขึ้นไปนิดหน่อยก็จะเจอโซน 21 Glittering Song

เป็นโซนสวย ๆ ที่ลูกเล่นอย่างลูกคริสตัลบอลขยับขึ้นลงไปมา พร้อมกับด้านในที่เป็นกระจกเงาสะท้อนแสงไฟได้อย่างเลิศ ๆ เลย

ใกล้ ๆ กันอย่างโซน 18 Breath of Light Tunnel อุโมงค์ลมหายใจแห่งแสง เป็นอุโมงค์ไฟทางเดินยาวให้ถ่ายรูปได้อย่างอลัง ๆ

เมื่อเดินทะลุออกมาแล้วเราก็จะเจอกับโซน 23 Nymph Forest ภูติแห่งป่า ที่เป็นต้นไม้ใหญ่ที่ถูกประดับ และชิงช้าอย่างสวย ๆ พร้อมกับด้านหน้าที่เป็นเหมือนทุ่งดอกไม้ที่โอบล้อมตัวต้นไม้อยู่

บอกเลยค่ะว่าโซนนี้ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยปังอลังการมากกก

ใกล้ ๆ กันอย่างฝั่งตรงข้ามกับโซน 22 Crystal Walls กำแพงแก้วหรือเมืองแก้วถาวรวัตถุที่ถูกบันดาลขึ้นโดยเทพเทวดาเพื่อช่วยเหลือตัวละครเอกที่ทำความดีในวรรณคดีไทยให้มีที่อยู่อาศัยหรือเมืองให้ปกครองนั่นเองค่ะ

ปิดท้ายกับโซน 24 Bua Kome ตำนานประเพณีพื้นบ้านจากภาคเหนือของประเทศไทยเกี่ยวกับสาวงามที่เกิดจากดอกบัวนางมีความงามเป็นเลิศและกลิ่นกายหอมหวาน

ที่เขาจะทำดอกบัวให้ยื่นออกไปตรงบริเวณน้ำให้เหมือนว่าเราออกมาจากดอกบัวสวย ๆ พร้อมกับตัวทุ่งหญ้าที่ถูกประดับดวงน้อย ๆ ระยับเป็นแบล็คกราวให้ภาพออกมาสวยขึ้นมาก ๆ เลยล่ะค่ะ

เรียกได้ว่าเป็นงานแสดงไฟสุดอลังการในราชบุรีที่อยากให้ทุกคนได้มาลองเที่ยวสัมผัสกันค่ะ แถมยังเหมาะมากที่จะพาครอบครัว คนรัก กลุ่มเพื่อน หรือสัตว์เลี้ยงของเรามาถ่ายรูปชมบรรยากาศภายในงาน แต่งชุดไทยปัง ๆ แปลงกายเป็นนางในวรรณคดีได้อย่างสวย ๆ บอกเลยงานนี้พกตากล้องส่วนตัวมาให้พร้อมเลยค่า~

Nasatta Light Festival Winter Illumination 2025

ที่ตั้ง : ณ สัทธาอุทยานไทย (41 1 ถนน สมุทรสงคราม ตำบล วังเย็น อำเภอบางแพ ราชบุรี 70160)

โทรศัพท์ : 032 383 333

เวลาเปิด - ปิด : 18.00 - 22.00 น.

ระยะเวลาจัดงาน : 21 พ.ย. 67 - 27 เม.ย. 68

ราคาบัตร

• ผู้ใหญ่ (กลางคืน) : 300 บาท
• เด็ก (กลางคืน) : 200 บาท
• ผู้ใหญ่ (ทั้งวัน ) : 350 บาท
• เด็ก (ทั้งวัน ) : 250 บาท
• สำหรับชาวต่างชาติ : ราคาเท่าคนไทย

เว็บไซต์ : https://www.nasatta.com/th/

Facebook : https://www.facebook.com/nasatta.thai

GPS : https://maps.app.goo.gl/fGWw7cVVqgSVGWS1A

Tags: Nasatta Light Festival Winter Illumination 2025 Nasatta Light Festival Winter Illumination ณ สัทธาอุทยานไทย งานแสดงไฟ ราชบุรี

เขียนโดย

GIG Chillpainai

แชร์บทความนี้